สวัสดีครับ เพื่อนๆ เคยไหมที่ อยู่ดีๆ แล้วรู้สึกเบื่อๆ เวลาเบื่อๆ หลายๆคนอาจจะหากิจกรรมต่างๆ ทำ แต่สำหรับเราแล้วการ ออกเดินทางท่องเที่ยวคือการแก้เบื่อที่ดีที่สุด แค่พูดคำว่าเที่ยวเราก็ตื่นเต้นทุกๆ ทีกับคำๆ นี้ หลังจากนั่งนึกอยู่นานว่าจะไปไหนดี โจทย์คือเที่ยวแบบชิลๆ ไม่รีบเร่ง ทริปนี้เลยจบด้วยการเที่ยวโดยการนั่งรถไฟไปสุดสายที่สถานี กันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของสายอันดามัน สถานีที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร สุดปลายทางรถไฟที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน จุดประสงค์ของการไป ทริปนี้มีอย่างเดียวคือ #อยากนั่งรถไฟเที่ยว 555 !! เเละดันเป็นทริปที่นึกปุ๊ปไปปั๊ปเลย อิอิ ทำไมต้องกันตัง ทำไมต้องสุดสายอันดามัน ลองขึ้นรถไฟตามเรามาได้เลยครับ ^^

#เราเริ่มต้นทริปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
โดยการเดินทางไปจังหวัดตรัง นั้นมีหลายทางเลือกไม่ว่าจะเป็น รถส่วนตัว รถทัวร์ เครื่องบิน เเละรถไฟ เเต่รอบนี้เราจะเเนะนำเดินทางโดยรถไฟกันครับ โดยรถไฟไปสายอันดามันจะมีวิ่งไป-กลับวันละ 4 ขบวน เป็นขาไป2เที่ยว ขากลับ 2เที่ยว โดยจะเเบ่งเป็น รถเร็ว,รถด่วน มีเวลาเดินทางจากกรุงเทพตามนี้เลย

**ออกจากกรุงเทพ 17.05น. ถึง ตรัง 08.05น.
*รถด่วนที่ 83 เป็นรถนั่งพัดลมชั้น3-รถนั่งพัดลมชั้น2 (เบาะปรับเอน) -นั่งเเละนอนชั้น2(แอร์) -รถนั่งปรับอากาศชั้น2- รถนอนชั้น1 เน้นจอดสถานีอำเภอใหญ่ๆเเละสถานีจังหวัดเท่านั้น (ใช้เวลา 15ชั่วโมง )
เหมาะสำหรับการเดินทางที่เน้นความสะดวกสบายรวดเร็วต้องขบวนนี้เลย
_________________________
**ออกจากกรุงเทพ 18.30น.ถึงกันตัง 10.30น.
*รถเร็ว ขบวนที่167 เป็นรถนั่งพัดลมชั้น3-นั่งพัดลมชั้น2 (เบาะปรับเอน)-นอนพัดลมชั้น2 -รถนอนชั้น2ปรับอากาศ เน้นจอดเฉพาะสถานีตำบลใหญ่ๆสถานีอำเภอ เเละสถานีจังหวัด (ใช้เวลา 16ชั่วโมง)
เหมาะสำหรับเน้นการเดินทางซึบซับบรรยากาศที่ไม่เร่งรีบเเละประหยัด


#หัวลำโพง ที่นี่อาจจะเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน เเต่ที่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆคนเช่นกัน เพจเราชอบเริ่มต้นเดินทางที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นส่วนใหญ่ เพราะหัวลำโพงมีห้องรับรองผู้โดยสารขนาดใหญ่ติดเเอร์เย็นฉ่ำชื่นใจ มีร้านหนังสือ มีศูนย์อาหารให้กินฆ่าเวลาระหว่างรอรถไฟเข้าเทียบชานชลา ใกล้ๆก็ยังมีเซเว่นอีกด้วยนะ เดินเล่นถ่ายรูปบรรยากาศที่สถานีหัวลำโพงกับหัวรถจักรที่จะพาเราเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง



รถไฟที่เราใช้เดินทางในทริปนี้คือ รถเร็ว กรุงเทพ- กันตังขบวนที่ 167 ออกต้นทางสถานีกรุงเทพในเวลา 18.30น. ซึ่งวันนี้รถไฟออกต้นทางจากกรุงเทพตามเวลาเป๊ะ

โดยเราเดินทางกันด้วยรถนอนชั้น2พัดลม (บนท) ทำไมไม่ไปรถแอร์ละ ?? ก็เพราะอยากดูวิวไงรถแอร์ไม่ได้บรรยากาศ ^^ ค่าโดยสารจากกรุงเทพ-กันตัง ราคาเตียงบน 560 บาท/คน เเละเตียงล่าง 630 บาท/คน เท่านั้นเอง


#บรรยากาศภายในรถไฟ รถนอนพัดลมชั้น2 (บนท) เราว่าการรถไฟได้ทำการปรับปรุง ทาสี ทำความสะอาดรถใหม่เเน่นอน เพราะคันที่ัเรานั่งค่อนข้างใหม่เเละสะอาดมาก ทำให้ลืมภาพรถไฟเเบบเดิมๆไปได้เลย
#ระหว่างทาง เป็นอะไรที่น่าสนุกเเละน่าจดจำ เพราเราจะได้เห็นวิถีชุมชนที่รถไฟวิ่งผ่าน เห็นวิวสองข้างทาง ทุ่งหญ้าสีเขียว สลับกับภูเขาลูกเตี้ยๆลูกนู้นทีลูกนี้ที เห็นผู้คนบนรถไฟทุกระดับชั้นมากมาย
#ไม่ต้องกลัวหิว เมื่อรถไฟถึงสถานีต่างๆก็จะมีพ่อค้าเเม่ขายนำของกิน น้ำ ขนม โดยของกินจะเป็นของกินประจำท้องถิ่นนั้นๆหิ้วขึ้นมาขายบนรถไฟ ทำให้เราเพลิดเพลินกับการกินเเละฟินได้ตลอดทาง ….หากไม่อิ่มบนรถไฟขบวนที่ 167 ก็ยังมีตู้เสบียงพ่วงมากับขบวนรถเราสามารถไปนั่งกินอาหารรับลมเย็นๆได้ ถือเป็นการกินอาหารเคลื่อนที่ที่สนุกเเละได้บรรยากาศไปอีกเเบบ


#ถึงสถานีหัวหิน ในเวลา 22.31น.ตามเวลาเป๊ะ ถึงจะดึกเเค่ไหนก็ต้องมาถ่ายรูปสถานีรถไฟหัวหินให้ได้ สถานีรถไฟหัวหินตอนกลางวันว่าสวยเเล้ว ยามค่ำคืนก็สวยไม่เเพ้กันโดยเราจะเห็นการประดับไฟที่ตัวอาคารสถานีเเละตัวพลับพลา ทำให้สถานีรถไฟหัวหินยามค่ำคืนเป็นสถานีรถไฟที่สวยเเละได้บรรยากาศที่น่าจดจำไปอีกเเบบ


#เช้านี้ที่สุราษฎ์ธานี 06.50 น.รถไฟวิ่งเข้าสู่สถานีสุราษฎ์ธานีช้ากว่ากำหนดเวลาเดิมไป 27นาที เเต่สำหรับเรา27นาทีไม่ถือว่าเสียเวลาเลยนะ เมื่อรถไฟถึงสถานีสุราษฎ์ธานีสิ่งเเรกที่เรามองหาคือ ข้าวต้มร้อนๆสำหรับมื้อเเรกเช้าเช้าวันใหม่ ^^


#ถึงสถานีทุ่งสงก่อนเวลา เช๊ดดดด รถไฟทำเวลาคืนได้จ้าาา !! รถไฟถึงสถานีชุมทางทุ่งสงในเวลา 08.35น.ถึงก่อนเวลา10 นาที เมื่อรถไฟถึงสถานีทุ่งสงจะทำการเติมน้ำที่ตู้โดยสาร เเละรอเวลาออกจากสถานีชุมทางทุ่งสงตามเวลา
#มากินไอติมถ้วยละ10บาท เห็นไอติมทุ่งสงทำให้นึกถึงสถานีชุมทางบ้านภาชีสถานีรถไฟสายเหนือที่มีไอติมถ้วยละ5บาทเป็นสัญลักษณ์ของสถานี (ปัจจุบันเลิกขายเรียบร้อย) ไอติมที่ทุ่งสงรสชาติอร่อยเพราะใส่ถั่วเยอะมาก 55


#จุดเริ่มต้นรถไฟสายอันดามัน 08.55น.รถไฟค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชลาสถานีพร้อมเปิดหวูดเป็นระยะๆ เมื่อรถไฟออกจากสถานีชุมทางทุ่งส่ง รถไฟจะวิ่งตรงเข้าสู่เส้นทางสายอันดามัน (รถไฟไป ปาดังเบซาร์ , นครศรีธรรมราช,หาดใหญ่,สุไหงโก-ลก จะวิ่งเเยกเเล้วโค้งไปทางด้านซ้ายมือ) เมื่อรถไฟวิ่งเข้าสู่สายอันดามันเต็มตัว รถไฟจะวิ่งผ่านสวนสาธารณะใกล้ๆสถานีชุมทางทุ่งสง ถ้ามองผ่านๆเหมือนรถไฟวิ่งอยู่บนพื้นหญ้าเลยละ (ต้องใช้จินตนาการกันนิดนึง อิอิ)


#ถึงปลายทางก่อนเวลา เเบบนี้ก็ดีเลยสิจะได้มีเวลาเที่ยวตัวอำเภอกันตังได้จุใจ รถไฟถึงสถานีกันตังในเวลา 11.00น. ถึงก่อนเวลาตั้ง20นาทีเเน๊ะเนื่องจากรถไฟออกจากสถานีตรังมาเเล้ว เส้นทางระหว่างตรัง-กันตัง จะไม่มีรถไฟวิ่งสวนมา เพราะมีขบวนเราขบวนเดียวที่วิ่งไป กลับ จึงถึงก่อนเวลาได้ เมื่อรถไฟถึงสถานีกันตังเเล้วก็จะทำการสับเปลี่ยนหัวจักรเพื่อทำขบวนรถกลับกรุงเทพเป็นขบวนรถเร็วที่ 168 ออกจากกันตังในเวลา 12.40น.


#ป้ายประเพณีสุดสายอันดามัน มาถึงสถานีกันตังทั้งทีจะไม่มาถ่ายรูปกับป้ายสถานีก็เหมือนมาไม่ถึงกันตัง โชคดีวันที่เรามาไม่มีฝน มีเเต่เเดด แอบร้อนนิดๆ 55


#สถานีรถไฟกันตัง เป็นสถานีรถไฟสุดทาง ของทางรถไฟสายใต้ ฝั่งทะเล อันดามัน สถานีรถไฟกันตัง เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ในอดีตใช้เป็นที่รับส่งสินค้ากับต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์มาเลเซียอินโดนีเซียมีรางรถไฟต่อไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ตัวสถานีรถไฟกันตัง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล อันเป็นคู่สีหลักที่คุ้นตาของอาคารรถไฟ
โดยยภาพรวมแล้วยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้ เป็นอย่างดี นับเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ จากสถานะที่มีความสำคัญต่อกิจการรถไฟดังที่กล่าวมา ทำให้ไม่แปลกใจ ว่าทำไมสถานีรถไฟปลายทางเล็ก ๆ แห่งนี้จึงถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเช่นนี้ ซึ่งเป็นผลทำให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของจังหวัดตรัง จากกรมศิลปากร ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 อิอิ แอบมีสาระนิดนึง

#กินกาเเฟที่สถานีรัก เป็นร้านกาเเฟที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟกันตัง เป็นร้านกาเเฟเล็กๆตกเเต่งเเนววินเทด นอกจากกาเเฟเเละเครื่องดื่มเเล้ว ภายในมีการตกเเต่งร้านด้วยภาพถ่ายตัวอำเภอกันตังสวยๆ เเละมีโปสการ์ดให้เลือกซื้อด้วยนะ

#ปั่นจักรยานตะลุยเมืองกันตัง เราได้เช่ารถจักรยานที่ร้านกาเเฟสถานีรัก เจ้าของร้านใจดีมากมาย คิดเราเเค่คันละ 20 บาทเท่านั้นเอง เพราะเราบอกว่าเรามาจากกรุงเทพ อยากมาเที่ยวกันตัง โดยมีเวลาอยู่ที่ กันตังเพียง เเค่1ชั่วโมง30นาทีเท่านั้น เพราะเราจะต้องกลับรถไฟรอบเวลา 12.40น. การเช่าจักรยานทำง่ายๆเพียงจ่ายเงิน20บาทเเละวางบัตรประชาชนหรือใบขับขี่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แค่นี้ก็ได้จักยานคันเก๋มาขี่ชมเมืองกันตังกันแล้ว ^^



#ท่าเรือกันตังต้องมาให้ได้สักครั้ง จุดเเรกที่เราปั่นจักรยานจากสถานีรถไฟกันตังมาคือ ท่าเรือกันตัง โดยห่างจากสถานีรถไฟเพียง1กิโลเท่านั่น


#เเพขนานยนต์ข้ามฟาก ที่ท่าเรือกันตังยังมีบริการเเพขนานยนต์ขนาดใหญ่ข้ามปากเเม่น้้ำตรังไปอีกฝั่งหนึ่ง รอบๆยังมีสวนสาธรณะให้วิ่งให้ออกกำลังกาย ยิ่งตอนเย็นๆจะมีผู้คนจะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจที่ท่าเรือกันตังกันเยอะพอสมควร โดยที่วิวรอบๆนั้นสวยมากกกก อยากให้คนอ่านมาเห็นด้วยตาตัวเองรับรองว่าสวยกว่าในรูปมากมาย


#ควนตำหนักจันทน์ มากันตังทั้งทีไม่ขึ้นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอำเภอกันตังคงจะไม่ดีเเน่นอน ไหนๆมาเเล้วก็ปั่นจักรยานขึ้นควนตำหนักจันทน์กันสักหน่อย จุ๊ๆอย่าบอกใครนะว่าสุดท้ายเราเข็นจักรยานขึ้นเพราะปั่นขึ้นไม่ไหว 5555
สวนสาธารณะควนตำหนักจันทน์ หรือควนตำหนักจันทน์ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณถนนป่าไม้ อันเป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติควนกันตัง สถานที่นี้ถือกำเนิดชื่อมาจากการเป็นตำหนักเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นบนเนินเขาเตี้ย ๆ (ควน) ในการรับเสด็จรัชการที่ 6 ครั้งเสด็จประพาสเมืองกันตังเมื่อ ปี 2452 เมื่อครั้งยังทรงพระอริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ต่อมาภายหลังใช้เป็นเรือนรับรองสโมสรข้าราชการ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ควนตำหนักจันทน์ได้ใช้เป็นที่ตั้งทัพของกองกำลังทหารญี่ปุ่น หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกอาคารต่าง ๆ ได้ถูกรื้อถอนจนไม่เหลือร่องรอย ต่อมาได้ใช้พื้นที่นี้ส่วนหนึ่ง สร้างโรงเรียนกันตังพิทยากร ส่วนเนินเขาถูกปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นที่ออกกำลังกายของชาวเมืองกันตัง มีไม้ดอกไม้นานาพันธ์หลายชนิด บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองกันตังและแม่น้ำตรังได้อย่างชัดเจน


#พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีมาทั้งทีก็ต้องเเวะให้ได้สักครั้ง พิกัดตั้งอยู่ถนนหน้าค่าย อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร เป็นที่ตั้ง ของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองตรัง “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรัง พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านอย่างครบถ้วน บรรยากาศด้านในบอกเลยว่า วังเวง !! ไม่ใช่ว่าน่ากลัวนะ เเต่ข้าวของเครื่องใช้ การตกเเต่งตัวบ้านนั้นราวกับว่ามีคนใช้ชีวิตประจำวันอยู่จริงๆ รอบๆตัวบ้านยังมีสวนหย่อมเล็กๆให้ถ่ายรูปเพื่อเก็บความทรงจำกันอีกด้วย


#จุดชมวิวที่มองเห็นตัวเมืองกันตังเเบบ120 องศา จุดชมวิวนี้อยู่บนสวนตำหนักจันทน์ หรือชาวบ้านเรียกติดปากว่าควนตำหนักจันทน์ รอบๆยังมีการตกเเต่งเป็นยุคของสงครามโลก โดยจะที่ถ้ำจำลอง มีทหารจำลอง มีการบอกเล่าเรื่องราวของตัวอำเภอกันตังในสมัยยุคสงครามโลกด้วย หลักจากสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ได้ไม่นานเราก็ต้องรีบปั่นจักรยานกลับมาที่สถานีรถไฟกันตังเพื่อคืนจักรยานเเละรอเวลารถไฟออกจากสถานีกันตัง เพื่อที่จะนั่งรถไฟไปลงที่สถานีตรัง !!


#สถานีรถไฟกันตังสถานีเล็กๆที่เงียบสงบเเต่กลับสวยงามอย่างบอกไม่ถูก เราเหลือเวลาเล็กน้อยก่อนรถไฟขบวนสุดท้ายของวันนี้จะเคลื่อนขบวนออกจากสถานีกันตัง เราใช้เวลาที่้เหลือ เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเพื่อเป็น1ในความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเยือนที่กันตังเเล้วนะ


ตาราเวลารถไฟของสถานีกันตัง เป็นสถานีสุดปลายทางปัจจุบันมีรถไฟวิ่งให้บริการไป กลับ วันละ 2 ขบวน ต้นทางกรุงเทพ-กันตัง-กรุงเทพ รถไฟที่เราใช้นั่งไปสถานีตรัง คือรถนั่งชั้น 3 ราคา 25 บาท / คน ครับ


#ได้เวลาร่ำลาเเล้วกันตัง งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา 12.40น.รถเร็วขบวนที่ 168 ต้นทางกันตังปลายทางกรุงเทพ วันนี้รถไฟได้เคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟกันตังตามเวลา


#ถึงเเล้วที่นี่สถานีตรัง รถไฟใช้เวลาวิ่งจากกันตังเข้าสู่สถานีตรังเพียง50นาที โดยถึงสถานีตรังในเวลา 13.30น. อ้าวววว ถึงซะแล้วกำลังนั่งเพลินๆเลย


#เที่ยวเมืองตรัง ทำไมเราถึงเลือกลงที่สถานีตรังเเทนที่จะนั่งยาวจากกันตังเข้ากรุงเทพเลยทีเดียว เพราะเราตั้งใจจะนั่งรถตุ๊กๆเที่ยวเมืองตรังเเละมากินข้าวขาหมูที่ขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง โดยเราจะกลับกรุงเทพโดยรถด่วนที่ 84 ตรัง-กรุงเทพ โดยรถไฟจะออกจากสถานีตรัังในเวลา 17.25 น.(เรามีเวลาเที่ยวที่ตรังเพียง เกือบๆ4ชั่วโมงเลยละ )


#กินบะกุ๊ดเต๋เมืองตรัง นอกจากติ๋มซำเเละข้าวขาหมูเมืองตรังอันขึ้นชื่อแล้วก็มี บะกุ๊ดเต๋นี่เเหละที่เราไม่เคยกินเเล้วตั้งใจมากินโดยเฉพาะ
#บะกุ๊ดเต๋ เป็นอาหารประจำชาติประเทศมาเลเซียครับ เป็นอาหารที่ชาวจีนคิดค้นขึ้น เพื่อใช้รับประทาน เป็นที่นิยมมากของ ชาวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และภูเก็ตทางภาคใต้บ้านเราครับ ซึ่ง บะกุ๊ดเต๋ จะแปลได้ว่า “กระดูกหมูและน้ำชา” ร้านที่เรากินอยู่ไกลมากครับ ติดสถานีรถไฟนี่เอง 555 ราคาไม่เเพงเเละอร่อยด้วยนะครับ นอกจากนี้เรายังเหมาตุ๊กๆเที่ยวตัวเมืองตรังในราคา 200 บาท โดยมีของฝากติดไม้ติดมือกลับมาคือ ขนมเค๊กเมืองตรังนั่นเอง


#สำรวจรถไฟ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับคนรักรถไฟคือการเดินถ่ายรูปขบวนรถไฟ เดินดูตู้รถไฟที่เราจะใช้เดินทางกันในวันนี้ เราชอบรถด่วนตรังนะ เพราะรถขบวนนี้พ่วงตู้คนพิการ Jr.west (เเต่ปัจจุบันเปิดให้ผู้โดยสารทั่วไปใช้บริการ) จุดเด่นคือเก้าอี้กว้างม๊ากกกก เเละมีปลักไฟด้วยนะ ที่สำคัญตู้นี้เเอร์เย็นมากมาย โดยตู้คนพิการ Jr.west พ่วงเพียง2ขบวนเท่านั่นคือ ขบวนรถด่วนตรัง ขบวนที่ 83-84 ,เเละรถด่วนครศรีธรรมราช ขบวนที่ 85-86


#ขากลับขอสบายหน่อย ขากลับเราเลือรถนอนปรับอากาศชั้น2 ถ้าใครขึ้นรถนอนชั้น2ปรับอากาศของรถด่วนตรังจะโชคดีมากเพราะรถขบวนนี่จะใช้(ตู้เเดวูเเบบใหม่) ซึ่งจะมีมิติเเละขนาดเตียงกว้างกว่ารถนอนชั้น2ประบอากาศเเบบเก่า(โตคิว) ภายในจะดูสะอาดเเละห้องน้ำจะดูดีมีระดับขึ้นมาอีกหน่อย แต่ที่แน่ๆแอร์เค้าเย็นมากมาย

#ลาเเล้วเมืองตรังเเล้วเราจะกลับมาใหม่17.25 น.รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีตรงตามเวลา รถด่วนตรังเป็นขบวนรถด่วนที่จอดน้อยมากๆจอดน้อยพอๆกับรถด่วนพิเศษเลยก็ว่าได้
**“ระหว่างทางมันเพลิน จนลืมว่าระยะทางมัน ไ ก ล เ เ ค่ ไ ห น ” การนั่งรถไฟบ้างครั้งไม่ได้เเย่จนเกินไปเหมือนที่หลายๆคนคิด เพราะปัจจุบันรถไฟตรงเวลามากขึ้น มีการปรับปรุงสภาพรถโดยสารให้ดีขึ้น ปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้นมากมายกว่าสมัยก่อนๆเยอะ #เชื่อเถอะเรารีวิวจากการเดินทางใช้บริการจริง
** ค่าโดยสารขากลับ รถนอนชั้น2ปรับอากาศ (บนท.ป.)เตียงบน 761บาท /คน ,เตียงล่าง 831บาท/คน

#ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ รถไฟเข้าเทียบชานชลาสถานีกรุงเทพในเวลา 08.35 น. ตรงเวลาเป๊ะ !! ถึงกรุงเทพเเล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องเเยกย้ายกับพี่ชายที่ร่วมเดินทางกันมาตลอดทริป #ขอบคุณที่รวมเดินทางมาด้วยกัน

สรุปค่าใช้จ่าย

– 630 บาท ค่ารถไฟขาไป รถเร็ว กรุงเทพ-กันตัง เตียงล่าง

– 20 บาท ค่าเช่ารถจักรยานที่ร้านกาเเฟสถานีรัก

– 25 บาท ค่ารถไฟชั้น 3 จากสถานีกันตัง – สถานีตรัง

– 100 บาท เหมาตุ๊กๆเที่ยวรอบเมืองตรัง (200 บาท หาร 2)

– 831 บาท ค่ารถไฟกลับกรุงเทพ รถด่วนตรัง – กรุงเทพ รถนอนชั้น 2ปรับอากาศเตียงล่าง

#ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่ารีวิวไก่เขี่ยจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับนักเดินทาง อาจจะไร้สาระไปบ้างก็ขออภัยเราเเค่อยากเเบ่งปันภาพสวยๆรีวิวการเดินทางก็เท่านั้น เเล้วพบกันใหม่ในทริปต่อๆครับ พบกับเราได้กับกลุ่มคนที่รวมตัวกันเที่ยวหารเฉลี่ยกันแบบพี่ๆน้องเเบบเข้าถึงในสโลเเกน “โตเเล้วเที่ยวไหนก็ได้”……ขอบคุณครับ

เพื่อนๆสามารถติดตามการเดินทางของ เราได้ที่ เพจ เดี๋ยวพาไป 

https://www.facebook.com/Taeremix.Backpacker/

Taeremix

 วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 02.22 น.

ความคิดเห็น