หลายคนคงคิดว่า หาดสวยๆ ทรายขาวๆ น้ำทะเลใสๆ จะพบเจอได้เฉพาะทะเลฝั่งอันดามันเท่านั้น แต่บอกเลย ที่กล่าวมาทั้งหมดในตอนต้น ฝั่งอ่าวไทยก็มีนะจ๊ะ ถ้าไม่เชื่อ ลองไปเที่ยวที่ "เกาะกูด" กันดู แล้วจะรู้ว่า เกาะกูดเป็นอัญมณีฝั่งอ่าวไทยจริงๆ

เกาะกูดอยู่ทางตอนล่างของเกาะช้างและเกาะหมาก นับเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกไทย มีเนื้อที่ประมาณ 65,625 ไร่ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต, เกาะสมุย, เกาะช้าง, เกาะตะรุเตา และเกาะพะงัน (ที่มาจาก http://km.dmcr.go.th/th/c_52/d_240) เกาะกูดมีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด เกาะกูดยังมีสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีภูเขาและที่ราบสันเขา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร มีแหล่งต้นกำเนิดน้ำจืดบนเกาะอย่างน้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองยายกี๋ และน้ำตกห้วงน้ำเขียว นอกจากนี้ยังมีอ่าวและชายหาดสวยๆ อีกหลายจุดเลยครับ ทีนี้เรามาดูกันว่าบนเกาะกูดจะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง ผมจะมาแนะนำ 12 จุดที่ไม่ควรพลาด หากมาเที่ยวเกาะกูดครับ


1. หาด 3 น้ำที่อ่าวคลองเจ้า

แนวหาดทรายขาวเนียนละเอียด สะอาด ทอดตัวยาวจากบนเกาะออกสู่ปากอ่าวคลองเจ้า หาดนี้พิเศษกว่าหาดอื่นๆ คือเป็นหาด 3 น้ำ คือที่หน้าหาดจะเป็นน้ำทะเล ที่ปลายสุดของหาด (ปากอ่าว) จะเป็นน้ำกร่อย และที่ด้านในถัดเข้ามาในพื้นที่เกาะจะเป็นน้ำจืดที่สวยใส เมื่อน้ำไหลลงมารวมกันกับน้ำทะเล มันทำให้น้ำใสราวกับกระจก นักท่องเที่ยวนิยมมาพายเรือคายัคกันเยอะเลยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : Away Resort

หากขี่มอเตอร์ไซด์ไปที่ต้นหาดก็เป็นอีกจุดที่สวยงาม และยังมีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายภาพคู่กับต้นมะพร้าวเอนสู่ทะเล ที่สำคัญไม่ใช่เอนแค่ต้นเดียว แต่ยังเป็นการเอนคู่กันของมะพร้าว 2 ต้น แถมยังมีชิงช้าให้โล้เล่นด้วย โดยสามารถขี่รถมอเตอร์ไซด์มาจอดไว้ที่ด้านข้างของ Tinker Bell Resort แล้วเดินไปตามชายหาดเรื่อยๆ จะเห็นต้นมะพร้าวคู่อยู่ช่วงกลางๆ ชายหาดครับ ส่วนช่วงเย็นๆ จะมีนักท่องเที่ยวมาจับจองที่นั่งบนชายหาดเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกกันเยอะเลยครับ แนะนำเลยว่าถ้ามาเกาะกูดแล้วไม่มากินลมชมวิวที่หาดคลองเจ้าถือว่าพลาดมากๆ

พิกัดถ่ายภาพ : Tinker Bell Resort


2. นอนเล่นรับลมที่อ่าวตุ่ม

A-Na-Lay Resort ตั้งอยู่ที่อ่าวตุ่ม อ่าวที่มีทั้งหาดหินและหาดทราย เป็นอ่าวที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก จากหาดหินจะมีทางเดินไม้ระแนงเรียบเลาะชายหาดไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังหาดทรายที่สะอาด มีทิวมะพร้าวยืนต้นล้อลมและมีชิงช้าให้แกว่งไกวพร้อมกับเอาเท้าสัมผัสคลื่นทะเล ที่อ่าวนี้มีเรือคายัคและบอร์ดยืนพายให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมด้วยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : A-Na-Lay Resort


3. สองบรรยากาศสุดแจ่มที่อ่าวบางเบ้า

เวิ้งอ่าวบางเบ้าเป็นที่ตั้งของ 4 รีสอร์ท (Koh Kood Rerort, The Beach Natural Resort, To The Sea Resort และ Siam Beach Resort) พื้นที่ของหาดทรายอาจจะไม่กว้างเท่าที่หาดคลองเจ้า แต่ความใสและความฟ้าครามของน้ำทะเลไม่ได้ด้อยไปกว่าหาดใดๆ เลย ที่อ่าวบางเบ้ามีสะพานที่ทอดยาวลงสู่ท้องทะเลถึง 4 จุด และที่อ่าวบางเบ้านี้เองมีหนึ่งจุดถ่ายภาพเก๋ๆ นั่นคือชิงช้าคู่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล บริเวณด้านหน้าหาดของ To The Sea Resort ครับ




อีกหนึ่งบรรยากาศที่ไม่อยากให้พลาดของอ่าวบางเบ้าคือช่วงพระอาทิตย์ตก การได้ไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกตรงชิงช้าคู่ มันสุดแสนจะโรแมนติกเสียจริงๆ

พิกัดถ่ายภาพ : To The Sea Resort


4. ไปนอนอาบแดดที่อ่าวตะเคียน

อ่าวตะเคียน อยู่ทางตอนใต้ของเกาะกูด เป็นอ่าวที่ค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชายหาดด้านหน้า Cham’s House มีก้อนหินน้อยใหญ่กระจายอยู่โดยรอบและยังมีชิงช้ารังนกหวายแกว่งไกวรับลมทะเลอยู่ใต้ต้นสนด้วยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : น้ำ หิน ทราย


5. อ่าวพร้าว



อ่าวพร้าว อยู่ทางใต้สุดของเกาะกูด นับเป็นชาดหาดสุดท้ายของเกาะกูดที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว ชายหาดทอดตัวเป็นแนวยาว เหมาะแก่การเล่นน้ำ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยทิวมะพร้าวริมชายหาด มีสะพานไม้ยื่นลงไปในทะเลด้วยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : อ่าวพร้าวซันชายน์


6. น้ำใส ทรายขาว ที่อ่าวตะเภา

อ่าวตะเภาอยู่ทางตอนกลางของเกาะกูด นับเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่สวยมากๆ ความยาวของชายหาดสีขาวสะอาดตัดกับสีฟ้าครามของน้ำทะเล ตลอดชายหาดร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว ช่วงเย็นสามารถมาชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวตะเภาได้เช่นกัน ทางด้านขวาสุดของหาดมองเห็นสะพานน้ำลึก สามารถมาถ่ายภาพช่วงพระอาทิตย์ตกโดยใช้สะพานน้ำลึกเป็นฉากหน้า ก็คงจะสวยไม่ใช่น้อยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : Sea Far Resort


7. อ่าวคลองยายกี๋




อ่าวคลองยายกี๋เป็นโค้งอ่าวที่มีชายหาดประมาณ 500 เมตร มีทิวมะพร้าวเป็นฉากหลัง มีลานหินซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเกาะแรดอยู่ริบๆ ครับ

พิกัดถ่ายภาพ :Koh Kood Beach Resort


8. ไปไหว้พระที่อ่าวสลัด






อ่าวสลัดเป็นอ่าวที่ไม่มีชายหาด จะเรียกเป็นประตูหน้าด่านก็คงไม่ผิดนัก เพราะนักท่องเที่ยวที่ข้ามฝั่งมาจากแหลมศอกส่วนใหญ่แล้วจะมาขึ้นเรือที่อ่าวสลัดนี้ ที่อ่าวสลัดเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์อ่าวสลัด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงบนหอระฆังของทางวัดได้ นอกจากนี้บริเวณท่าเรือยังมีร้านอาหารทะเลและร้านขายของฝากประเภทอาหารทะเลแห้งจำหน่ายด้วย

พิกัดถ่ายภาพ : สำนักงสงฆ์อ่าวสลัด


9. ไปตามรอยเสด็จที่น้ำตกคลองเจ้า

น้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ของชาวเกาะกูด เป็นน้ำตกขนาดกลาง สายน้ำจะตกจากผาสูงประมาณ 10 เมตรลงสู่แอ่งน้ำที่กว้างและลึก ในช่วงฤดูฝนที่นี่น่าจะน้ำเยอะเพราะเห็นมีป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพก่อนเล่นน้ำด้วย ร.5 และ ร.6 ท่านเคยเสด็จประพาสที่น้ำตกคลองเจ้าด้วย และ ร.6 ยังทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “วปร” และทรงได้พระราชทานนามน้ำตกแห่งนี้ว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ “องค์เชียงสือ” กษัตริย์ญวน ด้วยครับ การเดินทางมาเที่ยวก็ไม่ยาก จากจุดจอดรถเดินเท้ากันต่อสักประมาณ 400 เมตร เส้นทางเป็นทางราบ เดินสบายๆ แต่ช่วงใกล้ๆ ที่จะถึงตัวน้ำตกจะต้องเดินบนโขดหินกันเล็กน้อยครับ

พิกัดถ่ายภาพ : น้ำตกคลองเจ้า


10. ไปเล่นน้ำจืดที่น้ำตกคลองยายกี๋

น้ำตกคลองยายกี๋เป็นน้ำตกขนาดกลาง ช่วงที่ผมไป ถึงแม้จะเป็นฤดูแล้งแต่ก็ยังพอมีสายน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้คลายร้อนอยู่บ้าง เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่ลงเล่นน้ำคลายร้อนกัน จากจุดจอดรถต้องเดินเท้ากันเล็กน้อย สภาพเส้นทางบางช่วงเป็นทางลาดชัน แต่ไม่ถึงกับอันตรายอะไร

พิกัดถ่ายภาพ : น้ำตกคลองยายกี๋


11. ธรรมชาติรังสรรค์ที่เขาเรือรบ

บนเกาะกูดยังมีประติมากรรมทางธรรมชาติที่รังสรรค์ให้ภูเขาหินมีลักษณะคล้ายหัวเรือรบสองลำจอดเคียงคู่กัน จนชาวเกาะกูดให้สมญานามกับเขาลูกนี้ว่า “เขาเรือรบ” ด้านบนเขาบริเวณหัวเรือ มีพระบรมราชานุสาวรีย์เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ ให้นักท่องเที่ยวได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย การเดินทางก็ไม่ลำบาก จากจุดจอดรถเดินเท้าประมาณ 150 เมตรก็ถึงแล้วครับ

พิกัดถ่ายภาพ : เขาเรือรบ


12. ไปลุยผืนป่า ตามหาต้นไทรใหญ่และต้นมะค่ายักษ์ 500 ปี

เกาะกูด นอกจากจะมีชายหาดที่งดงามแล้ว บนเกาะยังคงความสมบูรณ์ของป่าไม้อยู่มาก สองข้างทางที่จะไปยังน้ำตกห้วงน้ำเขียวปกคลุมไปด้วยป่าใหญ่ที่ดูรกชัฏ จากที่ขี่มอเตอร์ไซด์ร้อนๆ มา พอเข้าพื้นที่ป่ารับรู้ได้ถึงความสดชื่น และในป่าดิบนี้เองมีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นที่น่าสนใจ นั่นคือต้นไทรใหญ่และต้นมะค่ายักษ์ 500 ปี ทั้งสองแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาอยู่คู่กับผืนป่าบนเกาะกูดมานานแสนนาน

เส้นทางที่จะมายังต้นไทรใหญ่และต้นมะค่ายักษ์ ใช้เส้นทางเดียวกัน ระยะทางไกลพอสมควร เมื่อขี่รถมอเตอร์ไซด์มาเรื่อยๆ จะเห็นป้ายเลี้ยวขวาเพื่อไปยังต้นไทรใหญ่ เลี้ยวรถเข้าไปไม่ไกลก็จะถึงจุดจอดรถ จากนั้นเดินต่ออีกนิดเดียว สามารถมองเห็นต้นไทรใหญ่จากจุดจอดรถได้เลย

ต้นไทรใหญ่ตั้งตระหง่านอวดยอดชูสูงเฉียดฟ้า จนต้องแหงนหน้ามองคอตั้งบ่ากันเลยทีเดียว ส่วนที่โคนต้นมี “พูพอน” แผ่ออกมาราวกับปีกที่กางออก พูพอนเหล่านี้เป็นส่วนค้ำยันลำต้นไม่ให้โค่นล้มง่ายยามเผชิญกับลมพายุ แถมยังช่วยดูดซึมอาหารแร่ธาตุต่างๆ ไว้หล่อเลี้ยงลำต้นอีกด้วย

จากต้นไทรใหญ่ ขี่มอเตอร์ไซด์ต่ออีกสักเล็กน้อยจนเห็นป้ายชี้บอกว่าถึงต้นมะค่ายักษ์ 500 ปีแล้ว ก็จอดรถไว้ข้างถนนได้เลย จากจุดจอดรถสามารถมองเห็นต้นมะค่ายักษ์ได้เลย ลำต้นของต้นมะค่ายักษ์ดูอวบอิ่มกว่าต้นไทรหลายเท่านัก เมื่อผมเข้าไปยืนใกล้ๆ แล้วดูตัวเล็กเพียงนิดเดียว

พิกัดถ่ายภาพ : ต้นไทรใหญ่ และ ต้นมะค่ายักษ์ 500 ปี


ไปนั่งพักให้หายเหนื่อย จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ Good View Café

ขี่มอเตอร์ไซด์กันจนรอบเกาะแล้ว ขอมาแวะเติมพลังกันที่ Good View Café ก่อนครับ Good View Café จะอยู่ตรงช่วงระหว่างTinker Bell Resort-ทางแยกเข้าเขาเรือรบ เส้นทางที่จะเข้าไปยัง Good View Café จะสูงชันเล็กน้อย

ต้องบอกเลยว่า Good View Café วิวดีสมชื่อครับ สามารถมองเห็นหาดคลองเจ้าได้ทั้งหาดเลย น้ำมะพร้าวปั่น น้ำส้มปั่น แก้วละ 80 บาท เค๊กมะพร้าวชิ้นละ 60 บาท กินแล้วเรียกความสดชื่นกลับมาได้เยอะเลย ถือว่าเป็น Afternoon Juice ที่คุ้มค่ามากๆ

จริงๆ มีอีกหนึ่งร้านที่อยากจะแนะนำ นั่นคือ View Point Café ร้านนี้ก็บรรยากาศดีไม่ใช่น้อย อยู่ใกล้ๆ กับ Away Resort เสียดายที่ผมไปตอนที่ทางร้านหยุดพักพอดี พอจะกลับไปใช้บริการอีกทีฝนก็ดันตกซะ เลยอดไปชมบรรยากาศในร้านเลยครับ


ไปดูที่พักกันบ้างครับ เนื่องจากผมไปเที่ยวช่วง long weekend ซ้ำร้ายยังตัดสินใจจองที่พักช้า ทำให้ตัวเลือกที่พักใน Agoda เหลือน้อยมาก ที่พักที่เหลือถ้าไม่แพงหลักหมื่นก็พอจะมีหลักร้อยปลายๆ แต่ดูสภาพที่พักหลักร้อยปลายๆ แล้ว คงไม่ไหวที่จะพัก แต่หนึ่งในนั้นก็ยังมี “บ้านกรกานต์รีสอร์ท” ที่ดูจะเหมาะกับเงินในกระเป๋าผมมากที่สุดแล้ว ตอนแรกดูจากภาพถ่ายแล้วก็ยังแอบคิดว่า สภาพห้องพักเป็นกระต๊อบไม้ไผ่ผมจะนอนได้ไหม จะร้อนจนตับแลบจนต้องออกมานอนนอกห้องไหม เวลาเดินในห้องพัก ห้องพักมันจะรับน้ำหนักผมไหวไหม สารพัดคำถามในใจมากมาย แต่ด้วยความอยากที่จะไปเกาะกูด ก็เลยกดจองห้องพักแบบจะเรียกว่าโดนมัดมือชกก็คงไม่ผิดนักครับ

วันก่อนที่จะเดินทางข้ามมาเกาะกูด ผมได้โทรสอบถามกับทางที่พักเรื่องท่าเรือที่จะขึ้นที่เกาะกูด น้องพนักงานผู้ชายบอกให้มาขึ้นเรือที่ท่าของสีฟ้ารีสอร์ท แล้วเขาจะเอารถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างไปรับ ผมฟังน้ำเสียงจับได้ถึงความกระตือรือร้นของน้องพนักงาน

ที่พักของบ้านกรกานต์รีสอร์ทค่อนข้างเรียบง่าย มีอยู่เพียง 5 หลัง บรรยากาศอยู่ในสวนป่า นี่ถ้าหากเป็นสวนผลไม้ผมว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ดีเลย Lobby เล็กๆ ที่เมื่อได้เข้ามานั่งพักกลับรู้สึกสบายๆ

ไปดูห้องพักของผมกัน ห้องพักเป็นแบบบ้านน็อคดาวน์ ทีแรกผมคิดว่าเวลาผมเดิน บ้านคงจะสั่นไปทั้งหลัง แต่เปล่าเลย สภาพความแข็งแรงจัดว่าดีทีเดียว ด้านหน้าสุดมีระเบียงให้นั่งเล่น พร้อมที่ตากเสื้อผ้า ด้านในอาจจะดูคับแคบไปสักนิด เวลากางกระเป๋าเดินทางแล้วแทบไม่มีที่เดิน ต้องผลัดกันกางกระเป๋าทีละใบ แต่ที่โอเคสุดๆ เห็นจะเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกถือว่าใหม่และครบครันเลยครับ ทั้งทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าชม จานชาม กาต้มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ ที่เปิดแป๊บเดียวเย็นฉ่ำไปทั้งห้อง จนผมไม่อยากจะออกไปไหนอีกเลย ต้องบอกเลยว่าถึงแม้ห้องพักจะเล็ก แต่ก็เล็กพริกขี้หนูจริงๆ


บรรยากาศของทุกห้องจะมีสวนหย่อมเล็กๆ อยู่รอบห้องพัก และยังมีศาลาให้ได้ออกมานั่งเล่นด้วย แต่บรรยากาศกลางป่าอาจไม่ค่อยเหมาะกับการมานั่งเล่นช่วงค่ำๆ สักเท่าไร เพราะยุงค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว



ช่วงเช้าทางรีสอร์ทมีบริการอาหารเช้าด้วย คุณภาพมาแบบจัดเต็ม อาหารจานหลักจะจัดเป็นจานมาให้ วันแรกเป็น ABF วันที่สองเป็นข้าวผัดแฮม ส่วนขนมปัง ชา กาแฟ ผลไม้สด และน้ำผลไม้ (แบบกล่อง) ทานได้แบบไม่อั้น เรียกได้ว่าคุณภาพเด็ดเกินคาดหวังเลยครับ

อีกเรื่องที่ขอชื่นชม คือการให้บริการของน้องพนักงาน ถึงแม้น้องจะเป็นชาวเขมร (พูดไทยชัดมาก) แต่น้องก็ให้การดูแลแขกทุกคนเป็นอย่างดี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้ เวลาที่ร้องขออะไร น้องสามารถจัดการได้ทั้งหมดครับ

ภายในรีสอร์ทมีรถมอเตอร์ไซด์ให้เช่าด้วยนะครับ สามารถติดต่อที่น้องพนักงานได้เลย ค่าเช่าวันละ 250 บาท/วันครับ

ถึงแม้ว่ารีสอร์ทจะไม่อยู่ติดชายหาด หนำซ้ำยังอยู่กลางป่า ไม่มีป้ายชื่อรีสอร์ท ถนนทางเข้ารีสอร์ทอาจจะลำบากเล็กน้อย แต่ในเรื่องทำเลที่ตั้งผมว่าเหมาะมากๆ เพราะอยู่ใจกลางเกาะ อยู่ใกล้ศูนย์ราชการอย่างโรงพยาบาล สถานีตำรวจ ที่ว่าการอำเภอเกาะกูด จะไปไหนมาไหนก็สะดวก และที่สำคัญอยู่ใกล้แหล่งของกินด้วย ผมได้มาฝากท้องที่ร้านอาหารด้านหน้าที่ว่าการอำเภอตลอด 3 มื้อที่อยู่ที่เกาะกูด ร้านนี้ราคาไม่แพง อาหารจานเดียวราคาพื้นฐานอยู่ที่ 50 บาท ถ้าจะสั่งอะไรพิสดารหน่อย ราคาก็ปรับขึ้นไม่มาก 10-20 บาท ปริมาณอาหารให้เยอะ และมีน้ำดื่มบริการให้ลูกค้าฟรีด้วยครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักริมชายหาดแต่สู้ราคาไม่ไหว เลยจะหาที่พักแค่อาศัยหลับนอน ผมขอแนะนำที่บ้านกรกานต์รีสอร์ทครับ ราคาไม่แพง แต่คุณภาพเกินที่อาศัยหลับนอน แขกส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งครับ ตอนที่ผมช่องช่วง Long Weekend ราคาที่นี่อยู่ที่ 1,186 บาทครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 12 จุดเที่ยวของเกาะกูด ดูภาพแล้ว ต้องมาลองมาสัมผัสเกาะกูดด้วยตาของคุณเอง แล้วคุณจะเชื่อว่า เกาะกูดเป็นอัญมณีฝั่งอ่าวไทยจริงๆ


"เกาะกูดงาม สามสิ่งเด่น เห็นแล้วทึ่ง
น้ำ ทราย หนึ่ง ตรึงตราหรู ดูขาวใส
สองน้ำตก "คลองเจ้า" ซี้ "ยายกี๋" ไง
สามป่าใหญ่ ให้โอโซน โดนใจจริง"

ลุงเสื้อเขียว

 วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 10.41 น.

ความคิดเห็น