l1nalq0u0kha

เมื่อพูดถึงจังหวัดพะเยา เชียงราย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมจะขึ้นไปเที่ยวตามดอยต่าง ๆ อย่าง ภูลังกา ดอยหลวง ดอยหนอก / ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ดอยตุง ดอยช้าง ผาฮี้ ผมเองก็เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นเหมือนกัน จนทำให้มองข้ามสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในจังหวัดพะเยา และเชียงรายไปอย่างน่าเสียดาย

แอ่วเหนือรอบนี้ผมตั้งใจจะท่องเที่ยวตามรอยสถานที่อันทรงคุณค่า ตามเส้นทางสายวัฒนธรรมครับ โดยเลือกบินกับแอร์เอเซียไฟล์ทเช้า ในเวลา 08.05 น. ไปถึงเชียงรายในเวลา 09.25 น. ครับ

vhvmxjayek2n
j1mkprlbvu22

เมื่อถึงสนามบินและติดต่อรับรถเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมมุ่งหน้าสู่จังหวัดพะเยา โดยเลือกปักหมุดที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืมเป็นที่แรก (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/eQ3aqxRBqSkGE88A6 ) ที่เลือกมาที่นี่เพราะ 1. ผมยังไม่เคยมาเที่ยวที่นี่เลย และ 2. ต้องการมาเก็บตราประทับอุทยานแห่งชาติด้วยครับ

ผมประทับใจกับเจ้าหน้าที่ที่นี่มาก ยกมือไหว้ต้อนรับตั้งแต่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม (ผมไปเที่ยวอุทยานมาก็หลายที่แล้ว ที่นี่เป็นที่แรกที่ยกมือไหว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว) แถมไม่ได้ไหว้ครั้งเดียวนะครับ ตอนที่เจ้าหน้าที่รับเงินค่าเข้าอุทยานจากผม ก็ยกมือไหว้อีกเป็นรอบที่สอง จากนั้นก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วว่า ระวังน้องนกยูงจะมาจิกด้วยนะคะ ผมได้ยินดังนั้นแอบตกใจ ว่าน้องดุมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ หลังจากจบการสนทนา เจ้าหน้าที่ก็ยกมือไหว้บอกลาเป็นครั้งที่สามครับ

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปืม ตั้งอยู่ในอ่างเก็บน้ำแม่ปืม ผมขับรถมาจอดที่ด้านหน้าที่ทำการอุทยาน วิวเบื้องหน้าคือผืนน้ำที่อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา มีสะพานทอดยาวลงไปในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ มองเห็นเงาสะท้อนของแผ่นฟ้าบนผืนน้ำอย่างสวยงาม

gdcwbmwripwv
ltjv2dpr4y0z
52qw8wd2bojm
xer3mm7c5ubk

ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศที่นี่ดีมาก ๆ ขนาดมาตอนแดดแรง ๆ ยังรู้สึกว่าสวยงาม เห็นสีเขียว ๆ แล้วพาลให้สดชื่น เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อน นอนกางเต็นท์เป็นอย่างมาก

ลายเซ็นของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืมคงหนีไม่พ้นนกยูงครับ มีนกยูงหลายรูปแบบเลย ทั้งนกยูงตัวเมีย นกยูงลำแพน นกยูงจิ๋ว นอกจากนี้ยังมีนกเป็ดแดงด้วย ผมได้มา 4 ลายเซ็น จาก 6 ลายเซ็น ครับ

ได้ตราประทับอุทยานและลายเซ็นเป็นที่สมใจแล้ว ผมมุ่งหน้าต่อสู่ตัวเมืองพะเยา โดยปักหมุดไว้ที่วัดอนาลโยทิพยาราม หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดอนาลโยครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/E58LLvCzhoHQsKko8 )

วัดอนาลโย ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม ซึ่งอยู่ด้านหลังของกว๊านพะเยา มีวัตถุประสงค์ในการสร้างวัดเพื่อเป็นอุทยานพระพุทธศาสนา มีศาสนสถานที่สวยงามเช่น พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยองค์ใหญ่ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ มากมาย เช่น ปางลีลาพุทธคยา

7zfe9salb256
02nhqb73cl9o
qmfgv8s1j7vl
yxf16x8j1o4f
6o9rzx6cmdwt

บริเวณพื้นที่ลานศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ รัตนเจดีย์ โดยรอบมีเจดีย์บริวารตั้งอยู่ที่มุมทั้ง 4 สร้างขึ้นในลักษณะเดียวกัน เพื่อสื่อถึงความสมมาตร ด้านหน้ารัตนเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป องค์รัตนเจดีย์สร้างตามศิลปะแบบอินเดียพุทธคยา โดยตั้งเคียงคู่อยู่กับพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่สร้างตามแบบศิลปะไทย

v63rcsj9gkf5

พื้นของรัตนเจดีย์ปูด้วยกระเบื้องที่มีลวดลายเป็นคลื่นน้ำ กุ้ง ปู ปลา เต่า สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ดูสวยงามเลยทีเดียวครับ

czxplvc3j1nq

ด้านหลังของรัตนเจดีย์เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่าม

mrr1tl92mivr

ทางด้านซ้ายของลานกลางวัดเป็นวิหารพระหมื่นปี บริเวณซุ้มประตูมีลวดลายสวยงาม ภายในประดิษฐานพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินฟอสซิลก้นหอย (3 องค์เล็กด้านหน้า) จากเหมืองแม่เมาะ อายุนับหมื่นปี สำหรับองค์ใหญ่ด้านหลังเป็นเนื้อสำริดปางขัดสมาธิเพชรครับ

04b1kezv1cqz
yzyi196db5jd

จากรัตนเจดีย์หากเดินตรงต่อไปจะพบพระอุโบสถไม้กึ่งปูน ด้านในประดิษฐานพระเนื้อหยกทรงเครื่องครับ

pr5g86s8ljtx
jsjerzbae1oz

ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศภายในวัดร่มรื่นมาก เงียบ สงบ เหมาะกับการมาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมากครับ

อีกหนึ่งจุดสำคัญของวัดอนาลโย นั่นคือพระเจดีย์พุทธคยาจำลอง ซึ่งตั้งอยู่บนเขาตรีเพชร เป็นสถานที่ระลึกถึงตรัสรู้ธรรมแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ (พระเจดีย์พุทธคยาจำลอง จะอยู่คนละจุดกับรัตนเจดีย์และวิหารพระหมื่นปี ที่ผมนำชมในตอนแรก)

lbez8ctu6ijk

ภายในองค์พระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธเมตตาครับ

xpjs0pcrvw5q

จากวัดอนาลโย ผมมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองพะเยา โดยปักหมุดไว้ที่วัดพระธาตุจอมทองครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bTQBWYQTiz7gmikg9 )

พระธาตุจอมทอง ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง ในตัวเมืองพะเยา ถือเป็นปูชนียสถานโบราณคู่เมืองพะเยา เพราะด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทอง ซึ่งภายในบรรจุพระเกศาธาตุและพระธาตุแขนขวาของพระพุทธเจ้าครับ

องค์พระธาตุเป็นเจดีย์สีทองอร่ามทรงล้านนา สูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซ้อนทับกันสามชั้น ยอดด้านบนสุดเป็นฉัตรสีทอง ฐานโดยรอบบุด้วยแผ่นโลหะ ดุนลายเป็นรูป 12 นักษัตรและลายไทยอย่างสวยงามครับ

hdsx72l5ghn9
e06nrh9o6f49

อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญนั่นคือพระเจ้าจอมทอง ซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหารครับ

การที่จะขึ้นมาสักการะพระธาตุจอมทองบนดอยจอมทองนั้นทำได้ 2 วิธีคือ การเดินเท้าขึ้นมาตามบันไดนาค หรือจะเลือกวิธีทุ่นแรงแบบผม ด้วยการขับรถขึ้นมาด้านบนยอดดอยก็ได้ครับ

tt5zhxote6pv

ด้วยเหตุที่พระธาตุจอมทองตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทอง ที่นี่จึงสามารถชมวิวมุมสูงของตัวเมืองพะเยาได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญที่นี่มีการสร้างจุดชมวิวมุมสูง โดยทำเป็นทางเดินลอยฟ้าหรือ Skywalk ที่หลบแนวต้นไม้ใหญ่ เกิดเป็นรูปทรงที่คดเคี้ยว ดูสวยงามแปลกตา ที่ปลายสุดของ Skywalk ทำเป็นหอระฆังขนาดใหญ่ด้วยครับ

cda533g4vjv4

ด้านหลังของหอระฆัง จะทำเป็นพื้นที่ทรงโค้งครึ่งวงกลม สำหรับชมวิวมุมสูงของเมืองพะเยา เมื่อมองออกไปเราจะเห็นกว๊านพะเยาที่อยู่ในอ้อมกอดของแนวทิวเขา และถ้าหากมาในช่วงเวลาเย็น ๆ ในวันที่ฟ้าเปิด จะสามารถชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าได้อย่างสวยงามครับ

vdm9pfl9sxaz

จากพระธาตุจอมทองไปต่อที่วัดศรีอุโมงค์คำ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/M8Cete2CjzFzVPLGA ) อีกหนึ่งวัดสำคัญในจังหวัดพะเยาครับ

ก่อนอื่นเรามารู้จักความหมายของชื่อวัดกันก่อนนะครับ คำว่า ศรีอุโมงค์คำ มาจากคำสามคำ คือ ‘ศรี’ หรือที่ล้านนาจะอ่านว่า “สะ-หรี” หมายถึงต้นโพธิ์หรือความเป็นมงคล เป็นสิ่งอันประเสริฐ ส่วนคำว่า ’อุโมงค์’ มีความหมายตรง ๆ ว่าอุโมงค์ หรือ ถ้ำ เชื่อกันว่าใต้ฐานโบสถ์ของวัดมีถ้ำหรืออุโมงค์อยู่ สามารถลอดไปโผล่ยังแม่น้ำอิงที่ไหลผ่านใจกลางกว๊านพะเยาได้ ส่วนคำว่า ‘คำ’ หมายถึง ทองคำ โดยมีความเชื่อว่ามีพระพุทธรูปทองคำฝังอยู่ใต้ฐานอุโมงค์ บ้างก็ว่าที่นี่มีอุโมงค์ลงรักปิดทอง สามารถนำพระบรมธาตุมาประดิษฐานไว้ บ้างก็ว่ามี ‘สะเปา’ (เรือ) ที่ลงรักปิดทองอยู่

fg4zaeg1q74r

พระอุโบสถของวัดศรีอุโมงค์คำ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ย ๆ ทำให้มองเห็นได้อย่างสะดุดตา ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์ นั่นคือพระเจ้าล้านตื้อ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ทำจากทองสำริด ตามหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกว่า พระเจ้าล้านตื้อสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเมืองสร้อยพะเยา ในราวปี พ.ศ.2058 แต่ไม่ทราบว่าดั้งเดิมมาจากที่ไหน เพราะถูกพบทิ้งอยู่ที่สนามเวียงแก้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมืองพะเยา ก่อนถูกอัญเชิญมาเป็นพระประธานภายในพระอุโบสถของวัดศรีโคมคำ ปัจจุบันได้มีการบูรณะองค์พระเจ้าล้านตื้นเป็นสีทองอร่ามดูเปล่งปลั่ง พระวรกายอวบอิ่มสมส่วน พระพักตร์ดูอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา

อีกหนึ่งพระพุทธรูปองค์สำคัญ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปบริวาร ประดิษฐานอยู่ด้านซ้ายมือของพระเจ้าล้านตื้อ (ด้านขวามือของโบสถ์) คือพระเจ้าแข้งคม พระพุทธรูปหินทรายงานศิลปะพื้นบ้าน มีเอกลักษณ์ด้วยมีหน้าแข้ง (พระชงฆะ) เป็นเหลี่ยมสันคมอย่างชัดเจน อันเป็นที่มาของพระพุทธรูปองค์นี้ นับเป็นอีกหนึ่งในงานพุทธศิลป์พื้นบ้านล้านนาที่หาชมได้ยากแล้ว

qcbut9sxwdh2
obbjtlf0y4v9

ด้านหลังของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี เป็นเจดีย์แบบล้านนาย่อไม้มุมสิบสอง ฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกันสามชั้น เรือนธาตุรูปแปดเหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มพระและพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่ประดิษฐานอยู่ในซุ้มทั้ง 4 ทิศ

hvrkuk27ffb3

อีกหนึ่งจุดสำคัญของวัดศรีอุโมงค์คำนั่นคือวิหารพระเจ้าทันใจ วิหารที่ภายนอกอาจจะดูธรรมดา แต่ภายในงดงามยิ่งนัก ภายในประดิษฐานพระเจ้าทันใจ พระพุทธรูปหินทรายที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปหินทรายที่ขุดค้นพบ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ไม่มีชื่อเรียก แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน คนที่มาสักการะขอพรมักจะสมหวังในไม่นาน ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า ‘พระเจ้าทันใจ’ ครับ

b4w5uylsdy77
kbctr53rgirp

จากวัดศรีอุโมงค์คำไปต่อที่วัดศรีโคมคำครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NApacgP4DPALMGbU7 )

วัดศรีโคมคำ หรือวัดพระเจ้าตนหลวง วัดสำคัญของจังหวัดพะเยา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2067 ในสมัยพญายอดเชียงราย กษัตริย์ลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์มังรายครับ

สิ่งที่เตะตาที่สุดเมื่อขับรถเข้ามาในวัด เราจะเห็นวิหารหลวงหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า วิหารหลังนี้สร้างขึ้นแทนวิหารหลังเดิม นอกจากนี้มีศาลาราย โบสถ์ วิหารพระพุทธบาทจำลอง เห็นว่าอาคารทั้งหมดสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี จากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน ภายใต้การนำของครูบาศรีวิชัยครับ

o1suokyk7hyo

บริเวณหน้าบันวิหารหลวงทำเป็นลายพันธุ์พฤกษาเต็มพื้นที่ มีการแทรกเทวดา ครุฑ และรูปสัตว์ลงไปด้วย ถือเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่สร้างโดยครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่นำลักษณะของสถาปัตยกรรมภาคกลางเข้าไปผสมผสานได้อย่างงดงามครับ

iwy9obni9qvx

ภายในวิหารหลวงประดิษฐานพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเห็นว่าสร้างขึ้นก่อน พ.ศ.2034 และแล้วเสร็จใน พ.ศ.2067 ต่อมาจึงได้ทำการสร้างวิหารหลังเดิมครอบไว้ ผ่านกาลเวลา เกิดชำรุดทรุดโทรม จึงมีการปฏิสังขรณ์ขึ้นตามลำดับ

หากสังเกตดี ๆ พระประธานแทบทุกวัดจะประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี แต่เนื่องจากพระเจ้าตนหลวงมีขนาดใหญ่ จึงไม่ได้ประทับบนฐานชุกชี แต่จะประทับอยู่บนพื้น

9tm2l5qbbhgb

ติดกับวิหารหลวงยังมีวิหารโถงเล็ก ๆ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทคู่เก่าแก่ โดยรอบพระพุทธบาทรอยหนึ่งมีลายมงคล 108 ประการ ส่วนอีกหนึ่งรอยไม่มีลาย

vca85hp8hikz

ทางด้านขวาของวิหารหลวง จะเป็นวิหารครูบาศรีวิชัย ภายในเป็นที่ตั้งของกู่บรรจุอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัยพร้อมรูปหล่อครูบาศรีวิชัยแบบดั้งเดิมฝีมือช่างท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีรอยสลัก รอยมือข้างซ้ายและรอยเท้าทั้งสองข้างของครูบาศรีวิชัยบนแผ่นหินทราย ซึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ประทับไว้เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ศิษยานุศิษย์และชาวจังหวัดพะเยาด้วยครับ

pe9rqfpoc306
xm6i5q0jzw8t
96mdlgzcvner

อีกหนึ่งจุดสำคัญคืออุโบสถกลางน้ำ ศิลปะแบบล้านนาประยุกต์ ตัวอุโบสถสร้างยื่นเข้าไปในกว๊านพะเยา โดยที่ด้านหน้าจะมีทางเดินเชื่อม เห็นว่าภายในมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังรูปต้นพระศรีมหาโพธิ์ ฝีมือของ อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติด้วย วิหารหลังนี้จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันพระและช่วงที่มีงานสำคัญของวัด และวันวิสาขบูชาของทุกปีครับ

ieueuytcj0es

ปิดท้ายวันกับการรอชมแสงสุดท้ายที่กว๊านพะเยา บริเวณประติมากรรมพญานาคสีขาว จุดแลนด์มาร์คชื่อดังของพะเยา เชื่อกันว่าหนองน้ำแห่งนี้เป็นที่อาศัยของพญานาคนามว่า ‘พญาธุมะสิกขี’ ผู้รักษาหนองน้ำแห่งนี้ จึงมีการสร้างประติมากรรมพญานาคสีขาว 2 ตน หันหน้าเข้าหากัน โดยมีองค์พระธาตุสีทองตั้งอยู่ตรงกลาง

eh10h6h8dfca
6cjrv9ps4cew

เสียดายที่วันนั้นฟ้าปิด ทำให้ไม่เห็นแสงสวย ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้มานั่งเล่นชมวิวริมกว๊านพะเยาแทนแล้วกัน ช่วงเย็น ๆ มีชาวพะเยาและนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนที่จุดนี้เป็นจำนวนมากครับ

สำหรับคืนนี้ ผมเข้าพักที่ M2 Hotel Waterside ซึ่งอยู่ติดกว๊านพะเยาเลยครับ โรงแรมค่อนข้างใหม่ สร้างขึ้นเมื่อปี 2021 ครับ ด้านหน้าโรงแรมจะมีลานจอดรถ รวมถึงชั้นที่ 1 ที่ทำเป็นที่จอดรถด้วยครับ

xixdje9o9mg7

จอดรถเสร็จเรียบร้อย เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อทำการ Check in ให้เรียบร้อย ลอบบี้แบบเรียบง่าย แต่ดูมีสไตล์ครับ ตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่จะให้ key card มา 1 ใบ หากต้องการเพิ่มอีก 1 ใบ มีค่ามัดจำ key card 100 บาทครับ แขกที่เข้าพักต้องใช้ key card ในการใช้งานลิฟต์เพื่อขึ้น-ลงไปห้องพัก รวมถึงห้องอาหารชั้นบนสุดครับ

j8ely16w1ve5

การออกแบบห้องพักของที่นี่ดูมินิมอล เรียบ ง่าย แต่ดูหรูหราครับ

8jzp2e26gpjy

ผมจองห้องพักแบบ Superior King Bed Room ไว้ พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุม ติดถนนเลยครับ เลยทำให้ได้ยินเสียงรถสัญจรไปมาอยู่บ้าง ขนาดเตียงเป็นเตียง 3.5 ฟุต 2 เตียงต่อกัน เตียงนุ่ม นอนสบาย มีโซฟาที่ปลายเตียงให้ด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานของโรงแรม ถึงแม้ห้องผมจะไม่ได้หันเข้ากว๊านพะเยาโดยตรง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นกว๊านพะเยาได้บางส่วนครับ

54sab6z0h00l
zflobfe99hgi
36zqwc1eva90

สำหรับสระว่ายน้ำของโรงแรม จะอยู่บริเวณชั้น 1 ด้านหนึ่งติดกับลานจอดรถ อีกด้านหนึ่งติดกับกว๊านพะเยาครับ

y6wltd16er39

บรรยากาศยามเช้าของกว๊านพะเยา ถ่ายจากสระว่ายน้ำครับ

rbyji4azxkjz

เดิมทีช่วงเช้าผมวางแผนจะนั่งเรือไปไหว้พระที่วัดติโลกอาราม วัดเก่าแก่กลางกว๊านพะเยา ที่มีอายุราว 500 กว่าปี ซึ่งจมอยู่ใต้กว๊านพะเยานานกว่า 68 ปี ปัจจุบันเองก็ยังคงจมอยู่ใต้กว๊าน จะมีเพียงยอดเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐดินเผาที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาครับ ทุก ๆ วันพระใหญ่ จะมีการเวียนเทียนทางน้ำ นับเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดพะเยาครับ

แต่เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GJmWg8xcvKvXqQNd8 ) ปรากฏว่าท่าเรือยังไม่เปิดครับ โดยมีป้ายติดไว้ว่าเปิดให้บริการเวลา 07.00 น. แต่สอบถามชาวบ้านแถวนั้นได้ความว่าเปิดเวลา 08.00 น. ครับ สำหรับเรือที่จะข้ามไปที่วัดติโลกอารามเป็นเรือพาย มีค่าบริการคนละ 50 บาท (ขั้นต่ำ 6 คน) ครับ

0myymbzdz7w4

เนื่องจากผมมีเวลาไม่เพียงพอ หากจะรอขึ้นเรือในเวลา 08.00 น. เลยขอมองวัดติโลกอารามจากท่าเรือแทนครับ

g3aiatlvb1ql

ผิดหวังจากการลงเรือ แต่ก็ยังได้เห็นวิถีชีวิตยามเช้าของชาวพะเยาแทนครับ ฝั่งตรงข้ามท่าเรือมีร้านขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ด้วย ทอดกันสดใหม่ แถมราคาดีทีเดียว ปาท่องโก๋ 10 บาทได้มาหลายตัวเลย แต่ที่ถูกใจผมที่สุดคือ ผมได้ลำไยสด ๆ เพิ่งเด็ดมาจากสวน ลูกใหญ่ ๆ ขายกิโลกรัมละ 10 บาท ติดมือมากินบนรถด้วยครับ

สำหรับมื้อเช้า ผมมาฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งรวมอยู่ในค่าห้องพักแล้ว ห้องอาหารจะอยู่ชั้นบนสุด ให้บริการแบบบุฟเฟต์ เน้นเป็นอาหารไทย ข้าวต้ม สลัด และผลไม้ครับ และยังมีเครื่องดื่มร้อนให้อีกคนละ 1 แก้ว หากใครต้องการเครื่องดื่มเย็น เพิ่มเงินอีก 17 บาท โดยเครื่องดื่มที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Starbucks ครับ

yawycte3vld9

เนื่องจากห้องอาหารอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม จึงสามารถออกมายืนชมวิวของกว๊านพะเยาได้แบบสุดสายตาเลยครับ

52qdda5oza9a
73i7n015ef0i

กว๊านพะเยา เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่รูปพระจันทร์เสี้ยว โอบล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน เดิมทีบริเวณกว๊านพะเยาเป็นชุมชนที่มีวัดวาอารามอยู่มากมาย จนเมื่อกรมประมงสร้างประตูกั้นน้ำในกว๊านพะเยาเพื่อกักเก็บน้ำ จึงทำให้บริเวณกว๊านพะเยาที่แต่เดิมเป็นชุมชนโบราณและวัดหลายแห่ง ต้องจมอยู่ในกว๊านพะเยา

คำว่า ‘กว๊าน’ เป็นภาษาพื้นเมือง หมายถึง หนองน้ำ หรือ บึงน้ำขนาดใหญ่ กว๊านพะเยาเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่รวบรวมลำห้วยต่าง ๆ ถึง 18 สาย กลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ เป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญของภาคเหนือตอนบน มีพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 48 ชนิดครับ

ถึงเวลาต้องอำลาจังหวัดพะเยาแล้ว ผมมุ่งหน้าต่อสู่จังหวัดเชียงราย โดยปักหมุดหมายแรกที่วัดร่องขุ่นครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rJ3FuUnMVHFYW22d8 )

วัดร่องขุ่น วัดที่ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่ตั้งใจจะสร้างสรรค์ให้วัดนี้งดงามดังสวรรค์ที่มีอยู่จริง อีกทั้งมนุษย์สามารถสัมผัสได้บนพื้นพิภพ ถือเป็นอีกแลนด์มาร์กสำคัญที่ใครมาเที่ยวเชียงรายต้องห้ามพลาด

สิ่งที่โดดเด่นภายในวัดเห็นจะเป็นพระอุโบสถสีขาวที่มีความงดงามด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะและสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ ล้อมรอบด้วยสระน้ำขนาดเล็ก มองแล้วเห็นเงาสะท้อนพระอุโบสถในน้ำ งดงามเป็นอย่างมากครับ

pgddrknxtvvt
tlex5kna4mk8

ทางเดินที่ทอดยาวเข้าสู่อุโบสถ หมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสาร มุ่งสู่พุทธภูมิ ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึงโลกมนุษย์ ส่วนวงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรก คือทุกข์

p7qsbcsjkjwk
kumws5maulwx

อุโบสถของวัดร่องขุ่น ได้นำหลักธรรมอันสำคัญยิ่ง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา มาแสดงออกในรูปของสัตว์ ในช่อฟ้าใบระกาอย่างวิจิตรอลังการ ตามด้วยลวดลายอ่อนช้อย เป็นเชิงลดหลั่นกันลงมา หน้าบันประดับด้วยพญานาคและติดกระจกระยิบระยับ เวลาต้องแสงจากดวงอาทิตย์จะส่องประกายอย่างงดงาม สมตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างที่ต้องการสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนา โดยสีขาวหมายถึง พระบริสุทธิคุณ ส่วนกระจกหมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ส่องแสงโชติช่วงชัชวาล

e5zp2bj638u2
3hq3vb1w7wv9
1dy6qpqpg971

ภายในอุโบสถมีภาพเขียนสีทองตามผนังทั้ง 4 ด้าน เพดานและพื้นเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตรธรรม ด้านในอุโบสถไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพครับ

wjy3y12d4zvs
6sklrr1uehdn
wzjznai6j6p3
74dtl9qnidfm
897uct6otq77

อีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคืออาคารสีทองหลังนี้ นั่นคือห้องน้ำครับ สวยงาม สะอาดสะอ้านมาก

qxtgm0qlcgaj

วัดร่องขุ่นเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. คนไทยเข้าชมฟรี ยกเว้นบริเวณถ้ำศิลป์ ที่จะมีค่าเข้าชมคนละ 50 บาทครับ

สำหรับใครที่เดินทางไปเชียงรายโดยเครื่องบิน หากนั่งแถว A ช่วงที่เครื่องบินกำลังลดระดับ ลองมองวิวทางหน้าต่างดูนะครับ จะมองเห็นวัดร่องขุ่นด้วยครับ

จากวัดร่องขุ่นไปต่อที่วัดมิ่งเมือง (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2fXEYwvYy8yosUzV8 ) ซึ่งเป็นวัดไทยใหญ่ วัดนี้โดดเด่นที่พระวิหารไม้ลายคำ ศิลปะผสมผสานระหว่างไทยใหญ่และล้านนาครับ

ตามประวัติบอกว่าผู้สร้างวัดคือ พระนางเทพคำข่าย พระมารดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช โดยพระนางเป็นเจ้าหญิงไทลื้อ มาจากเมืองสิบสองปันนา หรือเวียงเชียงรุ้ง ต่อมาพระนางอุสาปายโค หรือตะละแม่ศรี พระนางเป็นเจ้าหญิงมอญจากกรุงหงสาวดีและเป็นพระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราชเป็นผู้มาบูรณะวัดต่อ

g1n6invtpi7p
uztm398vpkt7
2as1958w3sj6
pr8w46fla9sk

ด้านในวิหารไม้ลายคำ กรุด้วยฝ้าเพดานแบบไตรภูมิและบาลีเป็นรูปหงส์ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง พระประธานของวัด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองทั้งองค์ ศิลปะแบบเชียงแสนสิงห์ 1 อายุกว่า 400 ปี ส่วนยอดพระเกตุโมฬีมีลักษณะเป็นรูปดอกบัวตูม แกะสลักจากหินแก้วจุยเจียหรือหินเขี้ยวหนุมาน

aeb5hj9n2lww
at3vs70xo4a9
cgky5jjxmdgg

ด้วยเหตุที่วัดนี้เป็นวัดที่ผู้หญิงสร้าง ส่งผลให้ลวดลายประติมากรรมต่าง ๆ ในวัดมีความละเอียดอ่อน บางลวดลายก็สูญหายไปจากแผ่นดินล้านนาแล้ว สอดคล้องกับลวดลายเสาพระอุโบสถโบราณที่พบว่าจมอยู่ในแม่น้ำโขง ซึ่งปรากฏในยามหน้าแล้งที่น้ำจะแห้ง เจ้าอาวาสได้ให้คนไปจำลองลวดลายแล้วนำมาปั้นในพระอุโบสถแห่งใหม่นี้ครับ

พระอุโบสถหลังใหม่ สร้างแทนพระอุโบสถหลังเดิม ชื่อพระอุโบสถพระพุทธเจ้า 50,000 องค์ เนื่องจากกระเบื้องมุงหลังคาทุกแผ่นจะเป็นลายพระพุทธรูปปางสมาธิสิงห์ 1 ทุกแผ่น โดยใช้กระเบื้องมุงห้าหมื่นแผ่น ก็ห้าหมื่นองค์ เสียดายวันที่ผมไป พระอุโบสถไม่เปิดให้เข้าชม แต่ผมได้เข้าไปหาข้อมูลจาก YouTube ช่อง เล่าเรื่อง เมืองเรา ซึ่งได้ถ่ายภาพบรรยากาศภายในพระอุโบสถหลังใหม่นี้ บอกเลยว่างดงามมาก ๆ ครับ ด้านในประดิษฐานพระประธานแกะสลักจากหินสีชมพู จากประเทศตุรกี แกะสลักทรงเครื่องศิลปะเชียงแสน พระนามว่า ‘พระชัยมิ่งเมือง’ เบื้องขวาประดิษฐานพระสิงห์ 1 เบื้องซ้ายประดิษฐานพระสิงห์ 3 ซึ่งแกะสลักจากหินแม่น้ำโขง องค์ด้านหน้าเป็นพระสิงห์ 1 แกะสลักจากหินประเทศอินเดียครับ ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังวาดโดยช่างที่มีความชำนาญในจิตรกรรมล้านนาโดยเฉพาะ ทั้งได้รับการฝึกฝนและวาดภาพที่ประเทศอินเดีย โทนสีของภาพจะเน้นสีแดง สีน้ำเงินคราม คล้ายกับภาพวัดของทิเบตหรือวัดจีน

z2faxx2e8j00
2k6lvbhhzi5z
61h0xuvsw5nw
c8n6hk8si7o8

ด้านหลังวัดมีเจดีย์ศิลปะแบบล้านนา เรียกว่า ‘พระธาตุมิ่งเมือง’ ประดับด้วยฉัตรสีทอง ตามศิลปะแบบพม่า พระธาตุนี้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกครับ

dmq56xg1r8g5

ด้านหน้าวัดมีรูปหล่อของพ่อขุนเม็งรายมหาราช และพระนางอุสาปายโค พระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ตั้งอยู่บนพลับพลาครับ

gdgw5p8rocsk

ติดกันมีบ่อน้ำโบราณ เรียกว่า ‘บ่อน้ำช้างมูบ’ มีโครงหลังคาเป็นรูปซุ้มโขงช้าง ประดับด้วยรูปปั้นของช้างทรงเครื่องหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บ่อน้ำนี้เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้คนในชุมชนมาตั้งแต่อดีต ทั้งตักดื่มและนำไปขาย

f95mksq08rsm
h7id49r1zonj

ด้านข้างของวิหารไม้ลายคำ เป็นที่ตั้งของพุทธสถานอาคารมิ่งจอมเมือง ชั้นล่างเป็นอาคารเอนกประสงค์ ในวันที่ผมไปมีการจัดงานอยู่ ผมเลยไม่ได้ขึ้นไปชมชั้นบน เห็นว่าชั้นบนจำลองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จากประเทศอินเดียครับ

tb8auz2sm0hb

มีเรื่องเล่ากันว่าพ่อขุนเม็งรายมหาราชจะเสด็จมาจุดผางประทีปไหว้พระที่วัดมิ่งเมืองปีละ 2 ครั้ง คือวันวิสาขบูชาและวันยี่เป็ง หรือวันลอยกระทงครับ

จากวัดมิ่งเมืองไปต่อที่วัดมุงเมือง (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fCEpEFfhp3ihgxHw9 ) ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางตลาดเทศบาลครับ

มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าวัดมุงเมืองเป็นวัดที่รอดพ้นจากการถูกทำลายด้วยระเบิด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากเหตุการณ์ที่มีการทิ้งระเบิดในจังหวัดเชียงรายบริเวณวัดแห่งนี้ถึง 8 ลูก แต่ลูกระเบิดทั้ง 8 ลูกไม่ทำงาน ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเพราะพระพุทธรูปสองสีที่ปกปักรักษาวัดแห่งนี้ไว้

วัดมุงเมืองเป็นวัดเก่าแก่ คาดว่าสร้างขึ้นก่อนที่จะตั้งเมืองเชียงราย เชื่อกันว่าวัดมุงเมืองเปรียบเสมือนหลังคาที่คลุมเมืองเชียงรายเอาไว้ เพราะคำว่า ‘มุงเมือง’ หมายถึง ‘คลุมเมือง’

0gt5nq9m8dra

พระอุโบสถของวัดมุงเมืองมีศิลปะล้านนาประยุกต์ เป็นอาคารสูงแบบที่นิยมสร้างในภาคกลาง แต่ประดับตกแต่งแบบล้านนาด้วยเครื่องไม้แกะสลัก ลงรักปิดทอง ภายในอุโบสถออกแบบลายเพดานเป็นลวดลายยันต์โบราณของล้านนาครับ

8z3a8sywmw9w
73l4r7nacfkd
hvr07yxewg81

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดมุงเมืองคือ ‘พระเจ้าสองสี’ พระพุทธรูปเนื้อทองสัมริดสองกษัตริย์ ศิลปะล้านนา อายุกว่า 600 ปี เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงรายเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถน่าจะเป็นพระเจ้าสองสีองค์จำลองนะครับ พยายามหาข้อมูลแล้วแต่ก็ไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน

0w7xi8yewzln

ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ ศิลปะแบบล้านนา ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีการย่อมุมซ้อนกันสี่ชั้น รองรับฐานปัทม์ย่อมุม ถัดขึ้นไปเป็นเรือนธาตุ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลกทั้งสี่ด้าน องค์เจดีย์ทรงระฆังกลมและมีเจดีย์เล็ก ๆ ประดับอยู่ที่มุมครับ

50nnl12v3ifl

ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของพระสังกัจจายน์ขนาดใหญ่ ผู้คนมักนิยมมากราบไหว้บูชาเพื่อขอโชคลาภและขอให้กิจการงานก้าวหน้าครับ

43gum1xzwjov

จากวัดมุงเมืองไปต่อที่วัดพระแก้ว (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/YVPb8MqbSXicdmYw5 ) เป็นสถานที่แรกที่ค้นพบพระแก้วมรกตครับ

ตามประวัติเล่าว่า ก่อนที่กษัตริย์เชียงรายจะสิ้นพระชนม์ พระองค์พอกปูนหุ้มองค์พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง ก่อนที่จะนำไปซ่อนไว้ภายในเจดีย์ของวัดป่าเยี๊ยะ หรือวัดพระแก้วในปัจจุบัน ต่อมาเมื่อเจดีย์พังลง มีผู้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทอง จึงได้นำไปประดิษฐานในวิหาร เมื่อผู้ทำความสะอาดวิหารได้พบปูนที่พอกไว้บริเวณพระกรรณ (ใบหู) ข้างหนึ่งได้กะเทาะออก จึงรู้ว่าเนื้อแท้ของพระพุทธรูปองค์นี้ภายในเป็นแก้วสีเขียวอันมีค่า หลังจากนั้นจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานหลายเมือง ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรี และวัดพระศรีรัตนมหาศาสดารามจนถึงปัจจุบันครับ

จุดสำคัญของวัดพระแก้วประกอบด้วยพระอุโบสถ ที่ภายในประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง พระประธานที่สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ มีอายุราว 700 ปี

6y66q8pihwqi
pwu8vlad4y5s

ด้านหลังพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ ซึ่งมีฐานเป็นรูปแปดเหลี่ยม ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองแดง เหนือฐานมีลักษณะเป็นบัวคว่ำ มีลูกแก้วคั่น 2 ชั้น เหนือขึ้นไปเป็นรูปทรงบัวหงาย บริเวณยอดองค์เจดีย์เป็นปล้องไฉนซ้อนขึ้นไปเก้าชั้น ยอดองค์ครอบด้วยโลหะฉัตร และลงรักปิดทองทั้งองค์

mhaadh5t0whx

วัดในล้านนา นอกเหนือจากจะมีพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์แล้ว คนล้านนาในสมัยก่อนยังนิยมสร้างหอพระพุทธรูปเพื่อที่จะเก็บพระพุทธรูปประจำวัด โดยหอพระของวัดพระแก้วจะอยู่ด้านหลังของเจดีย์ ตั้งเคียงคู่อยู่กับรูปหล่อของพ่อขุนเม็งรายมหาราชครับ

pg5c2aaevmub

หอพระของวัดพระแก้ว ประดิษฐานพระหยกเชียงราย ซึ่งทำด้วยหยกจากแคนาดา แต่นำไปแกะเป็นองค์พระที่เมืองจีน จากนั้นนำมาประกอบพิธีกรรมที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระแก้วแห่งนี้ ภายในหอพระมีจิตรกรรมฝาผนังแสดงถึงตำนานพระแก้วมรกต และภาพวาดการสร้างและพิธีอัญเชิญพระหยกเชียงรายสู่พระอารามในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2534 ครับ

1hgkvibg5n6o
qjfkwttmidmc

หอประวัติพระธรรมราชานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระแก้วครับ

9vw6pmxipchg
d71zq8xywfe0

อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่อยากให้พลาดชม นั่นคือพิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นทรงล้านนาประยุกต์ ภายในมี 2 ชั้น จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ รวมทั้งประวัติน่ารู้ของศิลปะไทยโบราณครับ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

nkx5fzeg8hy0
cuyh8mn7xchl
svo0ljzdnsii
8d72tvywgaum
ikgp4cl0d5fs
kyuewmi8ytxo
z5zif34f95s3

จากวัดพระแก้วไปต่อที่วัดพระสิงห์ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AeNcsHcD5cFnuFSt9 ) อีกหนึ่งวัดสำคัญที่มีความเก่าแก่ของเชียงรายครับ

ชื่อวัดพระสิงห์ ได้มาจาก ‘พระสิงห์’ อันเป็นชื่อของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ที่คนไทยนับถือกันแพร่หลาย ราว พ.ศ.1924 เจ้ามหาพรหม ผู้ครองเมืองเชียงรายได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์องค์จริงมาใช้เป็นแบบหล่อองค์จำลองขึ้น แล้วประดิษฐานไว้ที่วัดพระสิงห์แห่งนี้ แต่ปัจจุบันได้นำไปประดิษฐานอยู่ที่วิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ครับ

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ พระอุโบสถที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตกแต่งสไตล์ล้านนา บานประตูมีการแกะสลักเป็นเรื่องราวปริศนาธรรมแทนธาตุทั้ง 4 ปรากฏเป็นรูปสัตว์ 4 ชนิด คือ ช้างแทนธาตุดิน นากแทนธาตุน้ำ ครุฑแทนธาตุลม และสิงโตแทนธาตุไฟ ออกแบบโดยอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และแกะสลักโดยสล่าอำนวย บัวงาม

oi1tq073y9d1

ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระสิงห์หลวง ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ พร้อมด้วยพระสาวก 10 องค์ สันนิษฐานว่าทางวัดได้นำมาจากเมืองเชียงแสน ในปี พ.ศ.2436 พระประธานเป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านนา ปางมารวิชัย สำริดปิดทอง พุทธลักษณะแบบผสมผสานศิลปะล้านนากับศิลปะสุโขทัยครับ

o0scb25nzuzc

ทางทิศตะวันตกด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์ เป็นพุทธศิลป์แบบล้านนา สร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 และได้รับการบูรณะอีกหลายครั้งในสมัยต่อมา ปัจจุบันมีการทาสีทองอร่ามเลยครับ

apvjhp0strr3
g3yk11go3huy

พระวิหารแก้ว เป็นวิหารฐานปูน ตัววิหารเป็นไม้ตะเคียนทองทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์) จำลอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบล้านนา สมัยพุทธศตวรรษที่ 21 หน้าตักกว้าง 37 เซนติเมตร สูง 66 เซนติเมตร หล่อด้วยสัมฤทธิ์ปิดทองครับ

5e3hklnt2lbb
1gtjdiax42dx
6tadj30rkhoo

จิตรกรรมฝาผนังภายในพระวิหารแก้ว เป็นตำนานพระพุทธสิหิงค์ ที่มีความละเอียดอ่อนช้อย งดงามมากครับ

au1s70im8ts3
ng8w1xoajhok
70l7b00dgk31

ด้านหน้าพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งขอพิพิธภัณฑ์หอบูรพาจารย์ 80 ปี พระเทพสิทธินายก แต่วันที่ผมไปปิด เลยไม่ได้เข้าไปชมด้านในครับ

3t0vwkx2x1y6

จากวัดพระสิงห์ไปต่อที่วัดร่องเสือเต้น (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/RLP3rdCVJHGWMX4R6 ) หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่พลาดมาเที่ยวชมครับ

ในอดีต สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดร้าง ในสมัยนั้นยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนอาศัยอยู่มากนัก สัตว์ป่าจึงมีจำนวนมากโดยเฉพาะเสือ ชาวบ้านมักจะเห็นเสือกระโดดข้ามร่องน้ำไปมา จึงเรียกบริเวณนี้ว่า ‘ร่องเสือเต้น’ รวมทั้งได้เรียกหมู่บ้านใกล้เคียงบริเวณนี้ว่า ‘บ้านร่องเสือเต้น’ ด้วย ต่อมาได้มีการสร้างวัดขึ้นเนื่องจากชาวบ้านร่องเสือเต้นไม่มีที่ทำบุญในหมู่บ้าน จึงได้ร่วมกันบูรณะวัดร้างแห่งนี้เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านและเป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในวันสำคัญ จึงสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นและให้ชื่อว่า ‘วัดร่องเสือเต้น’ ครับ

2ujfi4a0p7ta

ความโดดเด่นของวัดร่องเสือเต้น คงจะหนีไม่พ้นวิหารของวัดที่สร้างและออกแบบโดย สล่านก ศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงราย ตัววิหารเน้นโทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับวิหาร โดยสีน้ำเงินฟ้าแสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก เปรียบเสมือนดังท้องฟ้าที่สดใส เป็นศิลปะแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์

สำหรับพญานาคที่อยู่หน้าวิหาร เน้นลักษณะโครงสร้างที่เข้มแข็ง เขี้ยวเล็บแหลมคมดูน่าเกรงขาม แต่มีความอ่อนช้อยในแบบล้านนา

2ztbp62th33s
24ow631tc329
laoofsmxhkp6

ทางด้านหลังของวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติสีขาวขนาดใหญ่

t9183ji4y8kg

ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ องค์พระมีสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนาม รัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่หมายความว่า ‘พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคลเจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก’ ครับ

trucbpcbr76i
605uy5iku6a5

จิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติที่มีความอ่อนช้อยสวยงามของลายเส้น

n9ies3rnx167

โดยรอบของพื้นที่วัดร่องเสือเต้น มีสถาปัตยกรรมที่มีความอ่อนช้อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระอุปคุต พระพุทธธรรมจักร องค์ที่ 74 ที่ไม่ทิ้งคอนเซปสีน้ำเงินฟ้าครับ

fbde1wwu9lct
vmb61qin91wf

เมื่อเที่ยวชมโดยรอบของวัดร่องเสือเต้นกันครบแล้ว ผมไม่อยากให้พลาดขมพิพิธภัณฑ์สุคันธรัต ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของวัด ตัวพิพิธภัณฑ์จะตั้งอยู่บนชั้น 2 บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เราสามารถชมวัดร่องเสือเต้นมุมสูงได้อย่างสวยงาม มองเห็น ‘พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์’ ที่มีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกครับ

94sgnj5pi7bk

ภายในพิพิธภัณฑ์สุคันธรัต จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัด รวมถึงจัดแสดงพระพุทธรูปโบราณ เครื่องเบญจรงค์ต่าง ๆ รวมถึงวัตถุโบราณ ที่เกี่ยวกับท้องถิ่นเชียงรายครับ

utxzxbv3hcfl
u70iith7kfvk
xe08azqvid2o
45omhlnz2o2i

ชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์สุคันธรัตเปิดเป็นจุดขายของที่ระลึกด้วยครับ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30–17:00 น. คนไทยชมฟรี ไม่เสียค่าเข้าชมครับ

ผมมาเที่ยวชมวัดร่องเสือเต้นครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกมาวันเสาร์ ปรากฏว่านักท่องเที่ยวล้นหลาม ถ่ายรูปออกมาติดแต่หัวคน มารอบนี้เลยเลือกมาวันธรรมดา นักท่องเที่ยวดูบางตาจากวันหยุดเป็นอย่างมากครับ

จากวัดร่องเสือเต้นไปต่อที่วัดฝั่งหมิ่นครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/uc38TurGbRti9uyS9 )

วัดฝั่งหมิ่นเป็นวัดเก่าแก่กว่า 200 ปี ในอดีตเคยมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ ต่อมาแม่น้ำกกเปลี่ยนทิศทาง ทำให้วัดถูกน้ำกัดเซาะ จึงถูกเรียกว่า ‘วัดฝั่งหมิ่น’ กระแสน้ำไม่ได้พัดเอาเศษอิฐและวัสดุภายในวัดไหลไปตามน้ำ พระภิกษุและชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างถาวรวัตถุเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2512 ครับ

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระวิหารแบบโบราณล้านนา (ลับแล) วิหารที่เห็นเป็นวิหารหลังใหม่ที่สร้างขึ้นแทนวิหารหลังเก่า ณ สถานที่เดิม เมื่อปี พ.ศ.2562 จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2563 ลักษณะพระวิหารเป็นทรงล้านนา เรียกว่าวิหารปิดหรือวิหารปราการ เครื่องบน ได้แก่ ช่อฟ้า ป้านลม ปราสาทเฟื้อง หางหงส์ ช่อฟ้ายองปลี เชิงชาย รวมถึงประตู หน้าต่าง เป็นเครื่องไม้ที่มีรูปแบบเชิงศิลปะแบบล้านนา มีการแกะสลักรูปเทวดา จากตัวอย่างงานพุทธศิลป์ของวัดเก่าแก่ต่าง ๆ อย่างวัดโพธาราม วัดลำปางหลวง ส่วนลายคำประดับเสาวิหารมาจากวัดลำปางหลวง วัดปงยางครก วัดไหล่หิน วัดพระธาตุเสด็จ จากจังหวัดลำปาง และจากวัดวิหาร วัดต้นแกว๋น อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ บานประตูแกะสลักตามคติโบราณที่ต้องมีเทวดาเฝ้าประตูทางขึ้น ลวดลายและองค์เทวดาได้รูปทรงมาจากรอบเจดีย์ของวัดโพธารามครับ

k6ztpgok3cm7
e77vvx386cel
3waer3l67v0k

ที่บันไดนาค ตัวนาคเป็นพญานาคโบราณเศียรเดียว คัดแบบมาจากพญานาค 5 เศียรของวัดเจดีย์หลวง วัดอุโมงค์เถระจัน และวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ตัวพญานาคของวัดฝั่งหมิ่นจะมีสีเทาเข้ม เพราะเป็นไปตามนิมิตของหลวงพ่อพระครูขันติพลาธร เจ้าอาวาส ซึ่งนิมิตว่าลึกลงไปใต้วัดเป็นวังบาดาล เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคมุจลินท์พร้อมกับบริวาร ซึ่งทุกตัวจะมีผิวเป็นสีเทาเข้ม และหากสังเกตดี ๆ จะได้เห็นรูปปั้นพญานาคที่มีปีกครุฑด้วยครับ

qnmdsu8tcehk

ภายในวิหารประดิษฐาน พระพุทธรูปทองขาว ซึ่งเป็นพระประธาน มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี แต่ได้รับการบูรณะปิดทองทั้งองค์เมื่อปี พ.ศ.2562 เป็นพระพุทธรูปแบบลักษณะสิงห์ 2 ครับ

mogwxt5rxjw1
zlnlv1neeobt
1sc8jetgfn6b

งานจิตกรรมฝาผนังเป็นภาพของพระพุทธเจ้าที่เกิดมาก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งจะมีกี่พระองค์นั้นไม่สามารถนับได้ รวมทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สามารถลำดับพระนามได้ มี 28 พระองค์ นอกจากนี้ยังมีภาพพระสาวกที่มีเอตทัคคะ เป็นเลิศในด้านอิทธิฤทธิ์ คู่ไปกับพระสารีบุตร รวมทั้งพระภิกษุ พระภิกษุณี ผู้เผยแพร่พระธรรม รวม 108 พระองค์ครับ

cgn0iavenap9

ติดกับพระวิหารเป็นหอพระหยกครับ

sk87qar6cu3h
hlyn5v27fomk

ภายในหอพระหยก ประดิษฐานพระพุทธหินหยก 3 สี ประกอบด้วยพระพุทธรูปหินหยกขาว จากเมียนมา นามว่า ‘พระพุทธศรีบุศยรัตน์ประพัฒน์ขันติพลาธรไพโรจน์’, พระพุทธรูปหินหยกดำ จากแอฟริกา นามว่า ‘พระพุทธนิลรัตน์สิริพัฒน์ขันติธรรมไพศาล’ และพระพุทธรูปหยกเขียว จากแคนาดา นามว่า’พระเชียงแสนสำเภาทรงเครื่องจักรพรรดิ’ ครับ

wi70ci3b2s41

ทางวัดได้มีการก่อสร้างกำแพงและซุ้มประตูเทพนิมิตทั้ง 4 ด้าน ล้อมรอบพื้นที่วัดประมาณ 6 ไร่ 1 งาน โดยประตูใหญ่ทิศเหนือชื่อ ‘นวขันติธรรมไชยศรี’ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงครูบาอภัย อดีตเจ้าอาวาส เชื่อกันว่าผู้ที่ผ่านเข้ามาทางประตูนี้แล้วอธิษฐานจิต จะอยู่รอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุข คิดหรือทำอะไรจะมีความสำเร็จ ปลอดภัยโดยตลอด

ulocmrd96hf4

ซุ้มประตูทิศใต้เป็นประตูนาคคาบสิงห์ ชื่อ ‘มหรรณพสีหราชนันทา’ ใครที่อยากได้หน้าที่การงานตำแหน่งอำนาจบารมี ให้เข้าประตูนี้แล้วอธิษฐานจิต

ifs4yx6gnf0d

ซุ้มประตูทางทิศตะวันตกเป็นซุ้มประตูนกยูง ชื่อ ‘โมรีภิรมย์ทิศา’ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงครูบาก๋ำ อดีตเจ้าอาวาส ใครอยากมีโชคลาภ ค้าขายดีก็ให้เข้าประตูนี้

bmgvk6r0wq4b

ซุ้มประตูทางทิศตะวันออก เป็นประตูช้างคู่ถือดอกบัว ชื่อ ‘ไอยราปิยบงกช’ ใครเข้าประตูนี้แล้วอธิษฐานจิตจะได้ดั่งที่คาดหวัง ร่ำรวยเงินทองครับ

6mlw93uula91

จากวัดฝั่งหมิ่นไปต่อที่วัดห้วยปลากั้ง (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TL1s6vxc2TzvXfGF6 ) อีกหนึ่งวัดสวยของเชียงรายครับ

เดิมวัดห้วยปลากั้ง เป็นเพียงซากวัดร้างบนเนินเขาเล็ก ๆ ต่อมาพระอาจารย์พบโชค ซึ่งเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดร่องธาร เชียงราย มีจิตศรัทธาต้องการบูรณะ จึงได้ย้ายไปพำนัก เมื่อ พ.ศ.2548 โดยมีชาวชุมชนห้วยปลากั้งร่วมบูรณะ เริ่มจากการตั้งเป็นสำนักสงฆ์ จนกลายเป็นวัดที่สวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบันครับ

จุดที่น่าสนใจภายในวัดมี 3 จุดใหญ่ ๆ ได้แก่ พบโชคเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงสามเหลี่ยมต่อกันเป็นชั้น ๆ จำนวน 9 ชั้น ผสมผสานระหว่างศิลปะจีนและล้านนา หลังคาสีแดง มีรูปมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได และมีเจดีย์เล็กอีก 12 องค์ล้อมรอบ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 999 วัน สร้างขึ้นตามนิมิตของพระอาจารย์พบโชคที่ฝันเห็นเจดีย์บนเนินเขาแห่งนี้ครับ

pi83xwj6oj72
nwf7jpimwodg

ภายในโชคธรรมเจดีย์ประดิษฐานพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ปางประทานพรและอภัยทาน สร้างด้วยไม้จันทร์หอมจาก 3 ประเทศ คือ จีน เมียนมา และอินเดีย ใช้เวลาแกะสลักนาน 108 วัน นอกจากนี้ในแต่ละชั้นก็ยังมีเจ้าแม่กวนอิมอีกหลายปาง เช่น เจ้าแม่กวนอิมปางเภสัช ปางปราบมารสามหน้า ปางประธานยศ-ตำแหน่ง ปางประทานทรัพย์ ครับ

bzbjcldgvy7a

ติดกับพบโชคเจดีย์ เป็นที่ตั้งของอุโบสถสีขาวที่งดงามด้วยลายปูนปั้นสุดอลังการทั้งด้านนอกและด้านใน ภายในประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์ใหญ่สีขาวครับ

ndyhdjn1hex0
jbnn03gh1ymt
ipqb1smrj0hf

ติดกันมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ที่มีขนาดความสูงถึง 69 เมตร เทียบได้กับตึก 25 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 22-23 ได้ ไม่ต้องกังวลนะครับว่าจะเดินขึ้นไม่ไหว เพราะด้านในองค์เจ้าแม่กวนอิมจะมีลิฟต์บริการ โดยมีค่าบำรุงคนละ 20 บาทครับ

68fh3gceej4i
gcmfkuz82t61
abf90nmvqve0
km8ee8k9yzqv

แต่ละชั้นในเจ้าแม่กวนอิมจะมีประติมากรรมปูนปั้นพระโพธิสัตว์ปางต่าง ๆ สีขาวบริสุทธิ์ ประหนึ่งอยู่บนสรวงสวรรค์เลยครับ

9fd0gjknf0rb
7b3dji1227hb
3a3d8on7uxes

วิวที่มองออกไปจากชั้น 22-23 ครับ

xxvlrn0rvu9w
srj9e5l2map2
1ajn49yov8yg

พื้นที่วัดค่อนข้างกว้างขวาง อาจจะลำบากกับผู้สูงวัย ทางวัดจึงมีรถกอล์ฟไว้บริการฟรีด้วยครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะมาชมวัดห้วยปลากั้งช่วงกลางวัน แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันแดดเช่น ร่มและหมวก มาด้วยนะครับ เพราะแดดแรงมาก แถมบริเวณวัดไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้บังแดดเลย ผมนี่ตากแดดจนแสบตัวไปหมดเลยครับ

จากวัดห้วยปลากั้ง ไปต่อที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำครับ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/k5XK51z3Nvm89NfZ8 )

อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวล้านนา เป็นผู้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากล้านช้าง ล้านนา และสุวรรณภูมิ ภายในมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบกาแลกว่า 40 หลัง รวมถึงบ้านสถูปรูปทรงแปลกตา ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของ อาจารย์ถวัลย์ โดยตกแต่งภายในเน้นจัดแสดงผลงานศิลปะอันล้ำค่า จำนวนเป็นหมื่น ๆ ชิ้น ทั้งงานฝีมือแบบสล่าเหนือ เช่น เครื่องไม้แกะสลัก เครื่องเขินโบราณ เครื่องเงินล้ำค่า สิ่งของจากจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ทิเบต และยุโรป จนถึงหนังสัตว์และเขาสัตว์ป่านานาชนิด เช่นหนังหมี หนังควาย หนังเสือ หนังจระเข้ เป็นจำนวนมาก

5q8376g9gno9
ngk7locydiz1
lrnn6k19rdde
yw52y8grd32m
kkqrhuv9rqdl

โดยบ้านแต่ละหลังก็จะมีคอนเซปท์และความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป สิ่งที่สะสมและจัดแสดงภายในบ้านก็จะมีคอนเซปท์ตามแนวคิดของบ้านหลังนั้น บ้านทุกหลังที่เห็นในนี้เป็นเหมือนบ้านส่วนตัวของศิลปิน อาจารย์อยากให้ทุกคนที่เข้ามาชม ‘รู้สึกมากกว่าเข้าใจ’ เพราะความเข้าใจแสวงหาได้จากหลายทาง แต่ความรู้สึกต้องมาสัมผัสเอง เห็นเอง

m6pr6daf7daw
bsmvh834neyf
rbq6qoeuogp3
d9ciqe49kie8
1e7vjra1zplc
d92bxpwzp1h1
hg3hek4j8av6

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-17.00 น. โดยมีค่าเข้าชมคนละ 80 บาทครับ

จากอำเภอเมืองเชียงราย ผมตีรถยาวไปยังอำเภอเชียงแสน เพื่อเข้าพักที่ Athita The Hidden Court Chiang Saen Boutique Hotel (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FbC7qDaCDxbENPVP8 ) โรงแรมเล็ก ๆ ลับ ๆ ในตัวเมืองเชียงแสนครับ

y49yydz1tfmm

ในส่วนของลอบบี้จะแยกออกมาจากส่วนของห้องพักเลยครับ

u11khgp93ad7
zqffcrylzjtp
o1llktr1snml
7p4od1diagpn
unbtpz537xti

ลอบบี้ออกแบบและตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูดี ด้วยอิฐดินเผาครับ ระหว่างเช็คอิน พนักงานจะให้แขกเลือกเซตอาหารเช้า รวมถึงเวลาที่จะทานมื้อเช้าครับ

มี Welcome Drink เป็นชาหอมหมื่นลี้แบบแช่เย็น มาพร้อมกับผ้าเย็น เรียกความสดชื่นได้ดีทีเดียวครับ

nhdvt2yfsi5t
a3bz15wfquxn

หลังจาก Check in เสร็จ พนักงานจะพาเราไปยังในส่วนของห้องพัก ซึ่งจะอยู่ด้านหลังอาคารลอบบี้ครับ

p92g2fb1uvni

ที่นี่มีบริการให้ยืมจักรยานปั่นเที่ยวชมเมืองเชียงแสนฟรีด้วยครับ โดยจักรยานจะอยู่บริเวณทางเข้าโซนที่พักครับ

lv70h1l7kild

ในส่วนของห้องพักนั้น เราจะต้องเดินผ่านห้องอาหารและคาเฟ่เข้าไป แขกที่มาใช้บริการห้องอาหารแต่ไม่ได้เข้าพัก จะไม่สามารถเข้ามาในส่วนของห้องพักได้นะครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่เป็นส่วนตัวครับ

rez0g2azek1v

เมื่อเดินทะลุห้องอาหารเข้ามาแล้ว จะพบโถงกว้าง โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ให้แขกได้มานั่งเล่น ชมบรรยากาศของสวนเขียว และบริเวณตรงประตูทางเข้า-ออก จะมีตะกร้าหวายเล็ก ๆ ให้แขกได้นำรองเท้าวางไว้ในตะกร้า กล่าวคือแขกจะไม่สามารถใส่รองเท้าเดินขึ้นไปบนห้องพักได้ จะต้องถอดรองเท้าไว้บริเวณนี้ครับ

4ei8qb3khfs9
hjpn8rd18l5p

ห้องพักจะมี 2 ชั้นนะครับ ชั้นล่างจะเป็นห้องพักแบบ Deluxe Private Garden และ Lotus Garden Suite ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องพักแบบ Superior Pagoda View ครับ

c9bp1tcvo5tk

ระหว่างที่เดินไปยังห้องพัก น้องพนักงานก็เล่าคอนเซปของโรงแรมให้ฟังว่า ที่นี่ตกแต่งในสไตล์ล้านนาประยุกต์ โดยใช้ไม้สักเป็นส่วนประกอบหลัก ตามรากเหง้าของคนเหนือ และเสริมด้วยอิฐมอญปั้นมือราว 400,000 ก้อน ตามแบบของวัดโบราณในเชียงแสน สันนิษฐานว่าบริเวณที่ตั้งของโรงแรมในสมัยก่อนเคยเป็นลานวัดเก่าของวัดอาทิต้นแก้ว สถานที่ที่ใช้ในการประนีประนอมของพระสงฆ์ 2 นิกาย คือ นิกายสวนดอก และนิกายป่าแดง ที่มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง และเกิดการบวชพระสงฆ์กว่า 1,000 องค์ ให้สามารถกระทำพิธีร่วมกันได้ครับ

ไปดูห้องพักของผมกันครับ ผมเลือกเข้าพักห้อง Superior Pagoda View ในห้องพักก็จะมีกลิ่นอายความเป็นเชียงแสนซ่อนไว้ในรายละเอียด พื้นห้องมีการเล่นระดับ หัวเตียงออกแบบให้มีโคมคล้ายกับโคมลอยยี่เป็ง ผนังห้องออกแบบเป็น ‘ฝาไหล’ ตามสไตล์บ้านแบบโบราณ สามารถเปิด-ปิดรับแสงจากภายนอกได้ เตียงนอนใหญ่ หมอนหนุนนุ่ม นอนสบายตามสไตล์เตียงดูดวิญญาณ ตู้เย็นจะอยู่ในโซนของห้องน้ำครับ

k51cmy8yrirx
hlqhd9q0k441
qu444vjaan7k
yayve5gj2b9l
6s4i18f4zxvw
dqf2dqr23fsq

สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม มีหลายอย่างเลย ทั้ง Spa ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ

ndu4zqtbpwkw

ไปดูบรรยากาศโดยรอบกันครับ

u95w2bnlgxk3
siaz7mbkqp4s
f6azfqym68no
tv6v5at2lzad
378kgx7ytlbg
kcpjyoausbwk

โรงแรมอยู่ติดกับวัดอาทิต้นแก้ว วัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 500 ปี ทางโรงแรมเลยใช้ชื่อของวัดมาเป็นส่วนหนึ่งของชื่อโรงแรมด้วยครับ

xv1fqlp3yg1l

สำหรับมื้อค่ำ ผมเลือกไปหาทานอาหารแบบง่าย ๆ บริเวณริมแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมครับ ช่วงเย็นจะมีร้านค้าแบบรถเข็นมาตั้งร้านอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง รสชาติอาหารไม่ได้ขี้เหร่ แถมราคาไม่แพงด้วยครับ ทานมื้อค่ำไปพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศริมโขงแบบชิล ๆ

เช้าวันใหม่ ผมปั่นจักรยานที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้แขกได้ปั่นเที่ยวรอบตัวเมืองเชียงแสนครับ โดยจุดหมายแรกผมมุ่งหน้าสู่ตลาดเทศบาล เพื่อซื้อของเตรียมใส่บาตรยามเช้าครับ

หลังใส่บาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมไม่พลาดที่จะปั่นจักรยานสำรวจเมืองเชียงแสน เมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา เป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาในยุคแรก ๆ หลายคนอาจจะคุ้น ๆ กับชื่อ ‘อาณาจักรโยนกนาคพันธุ์’ หรือ ‘เมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน’ เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดและซากโบราณสถานมากมาย ทั้งวัดร้างและไม่ร้างกว่า 76 วัด บอกเลยว่าในตัวเมืองเชียงแสนยังมีร่องรอยความเจริญในอดีตให้ได้ชมมากมาย

fry7k0me7ig2

โดยจุดแรก ผมแวะชมโบราณสถานวัดเชตะวันกาเผือกเมืองเชียงแสนครับ

วัดเชตะวันกาเผือกตั้งอยู่ในกำแพงเมือง เกือบกึ่งกลางเมือง โบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ประกอบด้วยเจดีย์ประธาน มีฐานรูปสี่เหลี่ยม แต่ส่วนยอดหักหายไป จึงไม่สามารถทราบรูปทรงที่แท้จริงได้

lx75883gvca3

นอกจากนี้ยังมีวิหารขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 32 เมตร ถือว่าเป็นวิหารขนาดใหญ่ ท้ายวิหารมีการก่อเป็นห้องคล้ายมณฑปท้ายวิหาร ใช้ศิลาแลงในการก่อสร้าง ซึ่งพบได้ไม่มากนักในเมืองเชียงแสนครับ

7wdpnbw9jspw

ไม่ไกลจากวัดเชตะวันกาเผือก เป็นที่ตั้งของวัดพระบวช ซึ่งตั้งอยู่ในกำแพงเมืองเช่นกัน โบราณสถานหันหน้าไปทางทิศตะวันออก วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา พ.ศ.1899-1929 และมีวิหารอยู่ทางทิศใต้ของเจดีย์ โบราณสถานที่หลงเหลืออยู่คือเจดีย์ประธาน มีความสูงประมาณ 10 เมตร เป็นเจดีย์ทรงระฆังที่รองรับด้วยชุดฐานที่ยืดสูง เมื่อกรมศิลปากรเข้าไปบูรณะเจดีย์ พบว่าเจดีย์องค์นี้ได้ก่อหุ้มเจดีย์อีกองค์ที่มียอดเป็นทรงระฆัง มีเรือนธาตุและซุ้มจระนำทั้งสี่ด้าน ภายในซุ้มมีพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีวิหารที่เหลืออยู่เพียงฐาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเจดีย์ประธานครับ

xo3h3qpj0nua

ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระบวช เป็นที่ตั้งของวัดมุงเมือง โบราณสถานหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ไม่ปรากฏความเป็นมาในเอกสารโบราณฉบับใด ๆ ทั้งสิ้น คนท้องถิ่นเรียกวัดนี้ว่า ‘วัดต้นตอง’ ซากโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ประกอบด้วยเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด ที่ได้รับอิทธิพลรูปแบบมาจากเจดีย์วัดป่าสัก แต่มีการดัดแปลงให้มีรูปทรงที่ยืดสูงขึ้น รวมทั้งมีการย่อเกล็ดถี่มากขึ้น ด้านหน้าของเจดีย์ทางด้านทิศตะวันออกคือวิหาร เหลือเพียงฐานอาคาร มีลักษณะแผนผังที่ต่างจากวัดแห่งอื่น คือมีการสร้างห้องด้านข้าง ต่อออกมาทางทิศใต้ 1 ห้อง และซุ้มโขงประตูที่ยังเหลืออยู่ทางทิศใต้ของโบราณสถาน มียอดเป็นดอกบัวตูมครับ

7oj61j47cc41

จากนั้นไปต่อที่วัดเจดีย์หลวง วัดเก่าแก่ของเมืองเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช โบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ประกอบด้วยพระวิหารซึ่งเก่าแก่มาก พังทลายเกือบหมดแล้ว แต่ก็ได้รับการบูรณะอย่างดีให้สมกับเป็นวัดที่สำคัญของเมืองหิรัญนครเงินยางภายในสมัยอาณาจักรล้านนาไทย

zmtveb9wwo7s
olska3u88ghh

ภายในวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อเชียงแสน สิงห์ 1 พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีทองเหลืองอร่ามเลยครับ

3a8p8wtmhc9z

นอกจากนี้ยังมีพระธาตุเจดีย์หลวง ได้ชื่อมาจากพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในวัด เป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมฐานสูงแปดเหลี่ยมแบบล้านนา สูงถึง 88 เมตร ฐานกว้าง 24 เมตร ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุกระดูกหน้าอก เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสนเลยครับ

k32hmmg6ed20

ไม่ไกลจากพระธาตุเจดีย์หลวง มีซากกำแพงเมืองโบราณ 2 ชั้นให้เห็นด้วย

ejf0ken6l7jt

ติดกับซากกำแพงเมืองโบราณ 2 ชั้น เป็นประตูทางเข้าหลักของเมืองเชียงแสน ชาวบ้านเรียกกันว่าประตูป่าสัก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อประตูป่าสัก อันเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณที่อารักษ์ รักษาเมืองเชียงแสน ในช่วงเดือน 9 แรม 9 ค่ำ (เดือนล้านนา) หรือช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี จะมีพิธีสักการบูชาเซ่นสังเวยเป็นประจำทุกปีครับ

a5qgxvgp4l1m
vz6bm0klheuo

บริเวณประตูป่าสักยังมีโบราณสถานที่สำคัญประจำเมืองเชียงแสนตั้งอยู่ นั่นคือ วัดป่าสัก ซึ่งก่อสร้างโดยพระเจ้าแสนภู ในปี พ.ศ.1838 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ‘โคปผกะธาตุ’ (พระธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาของพระพุทธเจ้า) และโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นสักจำนวน 300 ต้นทั่วบริเวณ จึงเป็นที่มาของชื่อวัดป่าสัก วัดป่าสักถือได้ว่าเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ที่งามที่สุดในล้านนา

haxz7ssjnbgv
0m9af15bekq9

มีนักวิชาการหลายคนสันนิษฐานว่า วัดป่าสักน่าจะเป็นวัดแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในยุคนั้น เห็นได้จากเจดีย์ทรงปราสาท 5 ยอดที่เรือนธาตุมีซุ้มจระนำ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับรูปแบบมาจากเจดีย์ศิลปะพม่าสมัยเมืองพุกาม หรือเจดีย์จากเมืองหริภุญไชย

เจดีย์ประธานของวัดป่าสักนับเป็นเจดีย์ในศิลปะล้านนาตอนต้นเพียงองค์เดียวที่มีงานปูนปั้นประดับคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความชำนาญของช่างล้านนา เพราะสามารถรวบรวมศิลปกรรมแต่ละรูปแบบไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ‘ฝักเพกา’ ที่ประดับกรอบซุ้ม ซึ่งเป็นที่นิยมมากในศิลปะพม่าสมัยพุกาม พระพุทธรูปนูนต่ำปางลีลาที่ทั้งล้านนาปรากฏให้เห็นแค่ที่แห่งนี้ รวมไปถึง ‘กาบล่าง’ ซึ่งทำเป็นตัวสัตว์และลายหน้ากาลนิยมในศิลปะพม่าสมัยพุกามเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ‘ปูนปั้นวัดป่าสัก’ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นปูนปั้นในศิลปะล้านนาตอนต้นที่งดงามที่สุดครับ

5febd2y2pv1q

จากวัดป่าสักผมปั่นจักรยานย้อนกลับมาตามเส้นทางเดิม แวะถ่ายภาพคู่กับป้ายสุดแดนไทยสักหน่อย

j9h2yv49jnz1

บรรยากาศริมแม่น้ำโขงครับ

m2oe8qga01k5
vrk657ujpk11
15bxdc7rw6zp

ก่อนเข้าโรงแรม ผมแวะชมวัดสังฆาแก้วดอนทัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับโรงแรมครับ

ลักษณะเด่นของวัดสังฆาแก้วดอนทันคือมีเจดีย์รายเป็นจำนวนมาก โบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ประกอบด้วยวิหาร ผังอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดโดยประมาณกว้าง 12 เมตร ยาว 30 เมตร ยกฐานสูง เสาวิหารมีทั้งยังคงตั้งอยู่และล้มลง จำนวน 10 ต้น เหตุที่มีการยกฐานสูงสันนิษฐานว่าเป็นการปรับรูปแบบให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศ ที่มักเกิดอุทกภัยเสมอ นอกจานี้ยังมีเจดีย์ประธาน ที่เหลือเฉพาะส่วนฐานในผังแปดเหลี่ยม ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นไปพังทลายลงไปหมดแล้ว

e7nyi9m53l7w
dh14q234p65c

ปั่นจักรยานกันจนท้องร้อง ผมเลยมาฝากท้องที่ห้องอาหารของโรงแรมครับ

1u8yga2605sb

เช้านี้ผมเลือกชุดอาหารพื้นเมือง ในสำรับประกอบด้วย น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว หมูทอด แคปหมู แกงปลา ข้าวเหนียว และผักสด รสชาติอาหารดีเลย จัดจ้านดี แต่ไส้อั่วแอบแข็งไปหน่อย คาดว่าน่าจะใช้เวลาเวฟนานไป แต่โดยรวมแล้วโอเคเลยครับ สำหรับเครื่องดื่ม ทางโรงแรมให้เลือกได้ 2 อย่าง ผมเลือกน้ำส้มและน้ำมะพร้าวสดครับ สำหรับเพื่อนผมเลือกอาหารแบบ ABF เชฟจัดอาหารมาได้อย่างน่าทานมาก ๆ ครับ

14qgyu9dcvsr
ahkyrln3ddyn

สำหรับการเข้าพักที่ Athita The Hidden Court Chiang Saen Boutique Hotel นั้น โดยรวมดีเลยครับ ที่พักเป็นส่วนตัว บรรยากาศโดยรอบไม่พลุกพล่าน อาหารอร่อย ขอติเรื่องความสว่างในห้อง หากจะอ่านหนังสือ แสงอาจจะสว่างน้อยไปหน่อยครับ

หลังอาหารเช้า ผมปักหมุดที่วัดพระธาตุจอมกิตติ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1GWCpFdygsQ2VDH16 ) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยน้อย ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1.5 กม. เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงแสนมาช้านานครับ

ae4nqx05hjfr

พระธาตุจอมกิตติ สร้างโดยพระเจ้าพังคราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรโยนกเชียงแสน เพื่อบรรจุพระบรมธาตุ เป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง ฐานล่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ย่อมุมเป็นเรือนธาตุ ซึ่งมีซุ้มทิศประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆังกลมครับ

wolb79xed7x8

ในบริเวณเดียวกันกับวัดพระธาตุจอมกิตติ ยังเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมแจ้ง ที่เกิดขึ้นในสมัยที่เจ้าสุวรรณคำล้าน มาบูรณะพระธาตุจอมกิตติแล้วก็ได้สร้างวัดพระธาตุจอมแจ้งขึ้นมาในปี พ.ศ.2030 ปัจจุบันเหลือเพียงพระอุโบสถและเจดีย์ที่บรรจุบรมอัฐิพ่อขุนผาเมือง ผู้ร่วมสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยครับ

78zzxpdo8n8d
e8vunktnj155

ด้านหน้าพระอุโบสถ สามารถมาชมวิวเมืองเชียงแสน รวมถึงแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาวได้ด้วยครับ

czxfi3mzpph6
op0lkmxm8mku

จากพระธาตุจอมกิตติ ไปต่อที่วัดพระธาตุผาเงา (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TiqWGR2KrxUPt1mo7 ) อีกหนึ่งวัดสำคัญของเมืองเชียงแสนครับ

วัดพระธาตุผาเงาได้ชื่อมาจากพระธาตุผาเงา ที่อยู่ในบริเวณวัด ซึ่งตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่า ‘ผาเงา’ ก็คือ เงาของก้อนผาหรือก้อนหินที่มีลักษณะเป็นรูปสูงใหญ่คล้ายรูปทรงพระเจดีย์และให้ร่มเงาที่ดีมาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า ‘พระธาตุผาเงา’ เชื่อกันว่าพระธาตุแห่งนี้สร้างระหว่างปี พ.ศ.494-512 โดยขุนผาพัง เจ้าผู้ครองนครโยนก องค์ที่ 23 ครับ

y9728rghb6b8
uswimi0damjx

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ วิหารหลวงพ่อผาเงา ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของพระธาตุผาเงา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา ซึ่งถูกขุดพบเมื่อมีการปรับแต่งพื้นที่ของวัด มีพุทธลักษณะงดงาม จึงตั้งชื่อว่า ‘หลวงพ่อผาเงา’ ครับ

cdp2s3zlpkn6
asqba0ux3kx9

หอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ ตั้งอยู่ด้านหน้าวิหารหลวงพ่อผาเงา ภายนอกอาคารตกแต่งด้วยงานแกะสลักลวดลายศิลปะล้านนา งดงาม เป็นอัตตลักษณ์ของชาวล้านนา

d403v4a4n6xd
4zmsf1o2ghxx
f7dk88i0h3lz
h130p816sdb8

ภายในมีอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชและพระฉายาลักษณ์ของราชวงศ์ รวมทั้งบุคคลสำคัญที่มาเยือนวัดพระธาตุผาเงา

tnh38srwpnkp

ไม่ไกลจากหอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ เป็นที่ตั้งของหอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ศิลปะแบบล้านนา พื้นและราวระเบียงตกแต่งด้วยหินทราย ภายในเก็บบันทึกพระไตรปิฎกจากนานาชาติ 9 ประเทศ 9 ภาษา ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา เมียนม่า จีน ญี่ปุ่น ลาว อังกฤษ กัมพูชา และประเทศไทยครับ

rgk03oz3s7w5
dywsdi1wln7z
l4l0ogq4kdax

อีกหนึ่งสิ่งนั่นคือพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สร้างครอบองค์พระธาตุเจ็ดยอดที่เหลือแต่ซากฐาน สูง 5 เมตร ภายในยังมีฐานของพระธาตุเจ็ดยอดองค์เดิมและมีภาพเขียนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพระราชประวัติพระนางจามเทวีครับ

adu5bxz7qacd
bcl3o060ooaq

ติดกับพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ทางวัดได้จัดทำเป็นสกายวอร์กผาเงา 3 แผ่นดิน สร้างห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 400 เมตร เป็นสะพานพื้นกระจกนิรภัยลามิเนตและโลหะรูปแปดเหลี่ยม สามารถชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทยและบ้านดอนสะหวัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาวครับ

m6iv4iznryy1
oh0x0neot0xx
eg2rw1ucpd5l
k76c74jfb1lm
hkblg4uedmg5

สำหรับการจะขึ้นมายังพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ และสกายวอร์คนั้น เราจะต้องขึ้นรถสองแถวที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ โดยจุดขึ้นรถสองแถวจะอยู่บริเวณด้านหน้าหอไตรกลางน้ำ มีค่าบริการ 30 บาท/คน (ไป-กลับ) ส่วนใครที่ต้องการจะเข้าไปชมวิวบนสกายวอร์คพื้นกระจก จะมีค่าเข้าชมอีกคนละ 40 บาทครับ

ได้เวลาอันสมควร คงต้องอำลาเมืองเชียงรายแล้ว ผมมุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยขากลับก็เลือกบินกับแอร์เอเซียเช่นเดิม ไฟล์ท 16.20 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในเวลา 17.35 น. ครับ

gpo6bkjlaj1n

ทริปนี้นับเป็นอีกหนึ่งทริปดี ๆ ที่ทำให้ผมได้รู้จักจังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงรายในอีกมุมมองหนึ่ง เพราะการมาเที่ยวพะเยาและเชียงรายของผมในทุก ๆ ครั้ง จะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ทริปนี้ได้เห็นความงดงามของเส้นทางสายวัฒนธรรม ได้เที่ยวไป ทำบุญไป ทำให้อิ่มอกอิ่มใจไปตลอดเส้นทางครับ

ความคิดเห็น