Can Tho : ไปมั้ยเธอ.. “เกิ่นเทอ” ล่องเรือตลาดน้ำ แทะ Lobster กินเฝอปู!



“เกิ่นเทอ” .. เมืองนี้มันอยู่ที่ไหน?



เมื่อได้ยินชื่อของ “เกิ่นเทอ” ครั้งแรก หลายคนก็คงสงสัยไม่ต่างจากเราว่า.. เมืองนี้มันอยู่ที่ไหน? จนได้ไปลองจิ้มใน Google Map นั่นแหละ จึงได้คำตอบว่า.. “เกิ่นเทอ” เป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ทางใต้ของ ประเทศเวียดนาม ซึ่งเมื่อได้หาข้อมูลท่องเที่ยวเกี่ยวกับเมืองนี้เพิ่มเติม ก็รู้สึกว่า.. มันดูน่าสนใจดีแฮะ ต้องลองไปเที่ยวดูกันสักครั้ง..

ด้วยความที่เราไปเที่ยว เวียดนาม กันค่อนข้างบ่อยมาก เพราะเป็นประเทศที่รู้สึกชอบ และมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เที่ยวอย่างมากมายและหลากหลาย จึงไม่ลังเลใจที่จะลองไปเที่ยวเมืองนี้ ยิ่งเดี๋ยวนี้ สายการบินแอร์เอเชีย มีเปิดบินตรงลง “เกิ่นเทอ” ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย และรวดเร็วมากขึ้น ..ลองตามมาเที่ยวกันนะครับ!



ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ของเราได้ที่..

>> https://www.facebook.com/chailaibackpacker/


ทำความรู้จักกับ.. “เกิ่นเทอ” (Can Tho) ประเทศเวียดนาม



“เกิ่นเทอ” (Can Tho) เป็นเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของ ประเทศเวียดนาม อยู่ห่างจากเมืองหลวงโฮจิมินห์ไปทางทิศใต้ราว 170 กิโลเมตร เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเวียดนาม และ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่นี่.. จะมีชื่อเสียงเรื่อง ตลาดน้ำ ที่มีการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรกันบนเรือ และ ความสวยงามของลำคลองต่างๆ ที่แตกสาขามาจากแม่น้ำ มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่

นักท่องเที่ยวบางส่วนที่ได้มาเที่ยว โฮจิมินห์ ก็มักที่จะนั่งรถลงมาทางใต้ มาเที่ยวกันต่อที่ “เกิ่นเทอ” (Can Tho) ระยะทางราว 170 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร

แต่.. สำหรับทริปนี้ เราไม่ได้แวะไปเที่ยวที่ โฮจิมินห์ เพราะ ได้มีโอกาสไปเที่ยวมาบ่อยแล้ว ก็เลยเลือกบินตรงมาลงที่ “เกิ่นเทอ” เลยครับ!


ไป.. “เกิ่นเทอ” ไปทำอะไรดี?


  • ไป.. “เกิ่นเทอ” ไปกับ แอร์เอเชีย


สายการบินแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินใหม่ บินตรงลง “เกิ่นเทอ” ซึ่งเป็นเส้นทางที่เพิ่งเปิดมาไม่นาน(2 พฤษภาคม 2562) โดยทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (อังคาร, พฤหัสบดี และ เสาร์) เดินทางได้อย่างประหยัด และ สะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที


  • FD436 DMK – VCA : 11.25 น. – 13.00 น.
  • FD437 VCA – DMK : 13.30 น. – 14.50 น.




  • ไป.. ล่องเรือชมตลาดน้ำ


ไฮไลท์ ของเมือง เกิ่นเทอ ที่ใครมาเที่ยวก็ต้องไม่พลาด ก็คือ การล่องเรือชม ตลาดน้ำไคราง (Cai Rang Floating Market) ในยามเช้า ซึ่งเป็นตลาดน้ำขนาดใหญ่ที่มีการซื้อขายกันบนเรือ สินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นผลิตผลทางการเกษตร พวกผัก และ ผลไม้ โดยตลาดจะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด(04.00 น.) และเริ่มวายในช่วงสาย(08.00 น.) การเดินทางไปเที่ยวชม ตลาดน้ำ แบบได้เข้าถึงอารมณ์ ก็ต้องใช้วิธี เหมาเรือ ไป ซึ่งก็มีหลายแบบ หลายราคา


  • เรือรวม(นั่งรวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น) : คนละ 50.000 VND
  • เรือเหมา(นั่งเรือแบบส่วนตัว) : 200.000 – 300.000 VND (ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และ จุดท่องเที่ยวที่แวะ)


สำหรับการเหมาเรือแบบส่วนตัว จะได้ไปเที่ยวมากกว่าการนั่งเรือรวม(ที่ไปเที่ยวแค่ ตลาดน้ำแค่จุดเดียว) เรือแบบเหมาส่วนตัว สามารถกำหนดระยะเวลาในการล่องเรือ ซึ่งมีทั้งแบบ 3 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง หรือ 6 ชั่วโมง(ราคาจะแตกต่างกันออกไป) รวมถึงสามารถเลือกแวะตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำได้ด้วย เช่น โรงงานทำเส้นก๋วยเตี๋ยว(Sáu Hoài Rice Noodle Factory) เป็นต้น


  • ไป.. ชมสถาปัตยกรรมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์


เกิ่นเทอ เป็นอีกเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยสามารถเข้าไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ได้ที่ พิพิธภัณฑ์เกิ่นเทอ(Can Tho Museum) ซึ่งได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของเมืองนี้ได้อย่างครบถ้วน และ นอกจากนี้ ก็มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ วัด อาคารเก่า สถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ได้ชมกัน เช่น Nam Nha Pagoda, Binh Thuy Temple Binh, Thuy Ancient House, Ong Temple เป็นต้น



  • ไป.. ชิมอาหารเวียดนามต้องห้ามพลาด



มาเที่ยว “เวียดนาม” ก็ต้องหาเมนูท้องถิ่นอร่อยๆ กิน ซึ่งมีเมนูให้เลือกชิมอย่างหลากหลายมากครับ โดย เมนูที่ขึ้นชือของที่นี่ ก็อย่างเช่น Crab Noodle หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “เฝอปู” ซึ่งนอกจากจะมีปูแล้ว.. เฝอ Lobster ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมราคาไม่แพงอีกด้วย..


  • ไป.. เดินเล่นชมบรรยากาศ Night Life

บรรยากาศริมแม่น้ำยามค่ำคืน เราไม่อยากให้พลาดเลย.. ต้องมาเดินเล่นกินลมชมบรรยากาศที่บริเวณ Ninh Kieu Wharf สถานที่พักผ่อนของคนที่นี่ ยามค่ำคืนมีการเปิดไฟแสงสีสวยงาม และใกล้ๆ กันก็เป็น ตลาดกลางคืน(Can Tho Night Market) แหล่งรวมร้านค้า คาเฟ่ และร้าน Street Foods ต่างๆ



  • ไป.. นอนโฮมสเตย์สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ



มาถึง “เกิ่นเทอ” ต้องลองมานอนโฮมสเตย์กันสักคืน! โดยเราเลือกมานอนกันที่ Tu Dung Homestay – Fruit Garden เป็นโฮมสเตย์ในสวนผลไม้ ที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ สไตล์บ้านๆ บรรยากาศเป็นธรรมชาติ.. ได้สัมผัสวิถีชิวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ และ เนื่องจากเป็นโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในสวนผลไม้ ทำได้ลองเก็บผลไม้สดๆ จากต้นมาชิมอีกด้วย




  • ไป.. ดูฟุตบอลวีลีกเวียดนาม(V-League)



อันนี้ถือเป็นของแถมครับ! เพราะ บังเอิญผ่านไปทางสนาม Can Tho Stadium ซึ่งเป็นรังเหย้าของสโมสรฟุตบอลประจำเมือง Can Tho (ทีมในลีก ดิวิชั่น 2 ของเวียดนาม) และ เขามีโปรแกรมเตะกันพอดี เลยมีโอกาสได้ไปแว๊บเข้าไปชมบรรยากาศกันสักหน่อยครับ



Video : Can Tho, Vietnam.



แผนการเดินทางเที่ยว.. “เกิ่นเทอ”



การเดินทางในครั้งนี้.. เราออกเดินทางกัน 2 คน มีเวลาท่องเที่ยวในเมือง “เกิ่นเทอ” 4 วัน 3 คืน โดยใน 2 คืนแรกนั้น เราเลือกพัก Number One Hotel ใกล้ท่าเรือริมแม่น้ำในตัวเมือง เพราะสะดวกในการไปเที่ยวสถานที่สำคัญในหลายๆ จุด และ คืนสุดท้าย จะเปลี่ยนบรรยากาศ ย้ายไปพักแบบโฮมสเตย์ ที่อยู่นอกเมืองไปหน่อย ที่ชื่อว่า Tu Dung Homestay



ก่อนการเดินทาง เราได้คำแนะนำในการวางแผนการเดินทางอย่างดีจาก น้อง Linh (ผู้หญิงใส่แว่นในภาพ) ผู้ดูแล Tu Dung Homestay เป็นอย่างดี และการได้ไปเข้าพักที่ Tu Dung Homestay ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน เพราะ น้อง Linh นางดูแลพวกเราอย่างดีเลย สนุกสนานเฮฮา มีโอกาสไปเที่ยวก็ลองไปพักที่นี่กันนะครับ..


วิธีการเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง.. “เกิ่นเทอ”



จาก กรุงเทพฯ ถึง เกิ่นเทอ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง


เมื่อเดินทางมาถึง สนามบินเกิ่นเทอ(Can Tho International Airport) ก็ต้องเดินทางเข้า ตัวเมืองเกิ่นเทอ กันต่อ ระยะทางจากสนามบิน เข้าตัวเมืองเกิ่นเทอ ประมาณ 10 กิโลเมตร


บรรยากาศภายใน สนามบินเกิ่นเทอ(Can Tho International Airport)

วิธีการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกที่สุด คือ การใช้บริการ TAXI หรือ Grab Car ซึ่งราคาพอๆ กันครับ โดยจุดบริการ Taxi จะอยู่นอกอาคารสนามบิน เท่าที่เห็นเหมือนจะมีอยู่ 2 บริษัท แต่.. เราเลือกลองใช้บริการของ Grab Car ครับ ลองกดราคาดูให้ไปส่งที่โรงแรม Number One Hotel ราคาอยู่ที่ 133.000 VND(ประมาณ 180 บาท ตกละ 90 บาท ก็โอเค..)


การเดินทางในเมือง.. “เกิ่นเทอ”



เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง เกิ่นเทอ แต่ละที่.. จะอยู่ไม่ห่างกันนัก เราจึงเลือกวิธีการ เช่ามอเตอร์ไซค์ แบบรายวันครับ ค่าเช่าวันละ 150.000 VND ถือว่าคุ้มค่าดี ไปเที่ยวได้ตามใจ หรือ ถ้าไม่อยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเอง ก็สามารถใช้บริการ Grab Bike หรือ Grab Car ก็สะดวกดีครับ



ปล. เกิ่นเทอ อากาศร้อน และ แดดแรงมาก.. ถ้าไม่ติดเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา แนะนำนั่ง Grab Car แอร์เย็นสบายๆ จะดีกว่าครับ เราไปลองแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์ กันมาแล้ว อยากบอกว่า.. มันไหม้มากกก 55+


พักกลางเมือง “เกิ่นเทอ” ที่ Number One Hotel



ทริปนี้.. เราเที่ยวอยู่ในเมืองกัน 2 คืน จึงเลือกพักที่ Number One Hotel เป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำ และท่าเรือ สามารถเดินไปหาของกินที่ ตลาดกลางคืน(Can Tho Night Market) ได้อย่างสบายๆ ราคาที่พัก ตกคืนละ 270.000 VND(ประมาณ 365 บาท)


พิกัด : https://goo.gl/maps/wYHnSQx9SG7ce4fEA



ห้องพัก เป็นแบบง่ายๆ สไตล์ที่พักราคาประหยัดของเวียดนาม



ภายในห้อง มี ทีวีจอแบน ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และของใช้ต่างๆ ซึ่ง ณ จุดนี้ แค่มีเครื่องปรับอากาศเย็นๆ ก็เป็นที่พอใจมากแล้ว เพราะ อากาศมันร้อนจริงๆ ได้เข้ามาในห้อง เปิดแอร์ เย็นๆ นี่แทบ ไม่อยากออกไปเที่ยวไหนเลยทีเดียวววว.. 55+



สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง.. “เกิ่นเทอ”



ได้เวลาออกเที่ยว.. เกิ่นเทอ! โดยเราได้ เช่ารถมอเตอร์ไซค์ แบบรายวัน(24 ชั่วโมง) วันละ 150.000 VND ในการไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆ ดังนี้



1. Ho Chi Minh Monument(อนุสาวรีย์โฮจิมินห์)



Ho Chi Minh Monument(อนุสาวรีย์โฮจิมินห์) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ ริมแม่น้ำ อยู่ใกล้กับ ท่าเรือ ที่จะไป ตลาดน้ำไคราง (Cai Rang Floating Market) บริเวณโดยรอบจะมีม้านั่งไว้สำหรับมานั่งเล่นพักผ่อนชมวิวริมน้ำ ในช่วงเย็น จึงเห็นผู้คนออกมานั่งเล่นพักผ่อนชมบรรยากาศยามเย็นกันอย่างมากมาย



พิกัด : https://goo.gl/maps/kbeUPWKG9cCZujCJ8



ในยามเย็น จะเห็นผู้คนออกมาเดินเล่น พักผ่อน กันที่บริเวณนี้





2. Cai Rang Floating Market(ตลาดน้ำไคราง)



Cai Rang Floating Market(ตลาดน้ำไคราง) ไฮไลท์ของการมาเยือน “เกิ่นเทอ” คือ การล่องเรือชมตลาดน้ำไคราง ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวชม ตลาดน้ำ แบบได้เข้าถึงอารมณ์ ก็ต้องใช้วิธี เหมาเรือ โดยสามารถหาเหมาเรือได้ที่บริเวณ ท่าเรือ Ninh Kieu ได้เลย แค่เดินผ่านบริเวณท่าเรือ ก็จะมีคนเดินเข้ามาสอบถามแล้วครับ สามารถตกลงราคาได้ตามความพอใจ.. สำหรับเราขอเลือก เหมาเรือส่วนตัวลำเล็ก ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ราคา 300.000 VND เริ่มออกเรือ เวลา 05.30 น.



ช่วงเวลาแนะนำ : 06.00 น. – 07.00 น.

พิกัด : https://goo.gl/maps/iPdYpYgFbV74MMcx9



การจะมาล่องเรือ ก็ต้องตื่นแต่เช้ามืดเลยครับ เพราะต้องไปให้ทันเที่ยวชม ตลาดน้ำ ก่อนที่ตลาดจะวายในช่วงสายๆ ซึ่งบรรยากาศยามเช้าล่องเรือกลางแม่น้ำ แล้ว ชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นวิวที่สวยงามดีเหมือนกันนะ..



เราจะนั่งเรือ ล่องลงไปทางทิศใต้ มุ่งหน้าไปที่ ตลาดน้ำไคราง(Cai Rang Floating Market) ใช้เวลาราว 40 นาที



บรรยากาศของการล่องเรือ ก็จะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำ ระหว่างทางก็จะเห็นบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึง ปั๊มน้ำมัน ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเลยทีเดียว



คนขับเรือ ของเรา เป็นเสมือนไกด์ที่จะคอยชี้ให้ ดูโน่น.. ดูนี่.. เล่าเรื่องราวของจุดต่างๆ ที่เรือแล่นผ่าน และ ไม่นานก็เข้ามาสู่บริเวณของ ตลาดน้ำไคราง(Cai Rang Floating Market)



เรามองเห็นกลุ่มเรือที่จอดลอยลำ ทั้งลำเล็ก ลำใหญ่ ซึ่งกำลังทำการซื้อขายสินค้ากัน โดยสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นผลิตผลทางการเกษตร พวกผัก และ ผลไม้ ต่างๆ



เอกลักษณ์ ของเรือที่นี่.. คือการทาสีเรือเป็นรูปหัวมังกร ซึ่งมีความเชื่อว่า .. “หัวมังกรจะช่วยข่มขวัญให้สิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในแม่น้ำทำอันตรายไม่ได้”



คนขับเรือ ได้บอกว่า.. ถ้าอยากรู้ว่า.. เรือลำไหน ขายสินค้า อะไร? ก็ให้สังเกตุ ไม้ยาวๆ ที่ตั้งอยู่กลางลำเรือ ซึ่งปลายไม้จะแขวน “สินค้าตัวอย่าง” เอาไว้ด้วย สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล อย่างเช่นภาพด้านล่าง เป็นเรือที่ขาย แตงโม(ซ้าย) และ ฟักทอง(ขวา)



มาเยือน ตลาดน้ำ ในยามเช้าแบบนี้ ก็ต้องหา มื้อเช้า ทานกันครับ! ซึ่งจะมีเรือขายอาหาร หรือ เครื่องดื่ม ต่างๆ ด้วย ที่พายมาวนเวียนขายให้กับ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวตลาดน้ำแห่งนี้ ก็จัดไปกันครับ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ(สไตล์เวียดนาม)” และ กาแฟรสเข้ม ถึงใจ.. ระหว่างที่นั่งกินไป เรือก็โยกเยกไป กลัวว่าที่กินไปแล้ว.. มันจะออกมาคืนสู่ธรรมชาติซะจริงๆ 55+



อิ่มจากก๋วยเตี๋ยวมื้อเช้า คนขับเรือก็พามาแวะเที่ยวที่ “โรงงานทำข้าวตอก” ซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แต่ขอเรียกว่า โรงงานทำข้าวตอกล่ะกันนะ 55+ เพราะที่นี่.. เขาจะสาธิตวิธีการนำข้าวมาคั่ว เมื่อโดนความร้อนเมล็ดข้าวก็จะแตกออก(คล้าย Popcorn) แล้ว..ก็จะนำไปคลุกกับน้ำตาลเชื่อมปรุงแต่งเป็นรสชาติต่างๆ



ล่องเรือมาที่ จุดสุดท้าย โดยมากันที่ โรงงานทำเส้นก๋วยเตี๋ยว(Sáu Hoài Rice Noodle Factory) เป็นโรงงานที่แปรรูปข้าว มาทำเป็น เส้นก๋วยเตี๋ยว โดยมีการสาธิตขั้นตอนวิธีการทำให้นักท่องเที่ยวได้ชม และ นักท่องเที่ยวก็สามารถลองลงมือทำได้อีกด้วย



พิกัด : https://goo.gl/maps/zxG8fBCM2ePrpsZs7



สรุป การล่องเรือในช่วงเช้านี้ ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง(05.30 น. – 08.30 น.) อยากบอกว่า.. เป็นเวลาที่โอเคสุดแล้วครับ เพราะตอนแรกเรากะจะเลือกล่องเรือแบบ 6 ชั่วโมง เพราะอยากล่องชมหลายๆ ที่ให้มันคุ้มหน่อย แต่.. สภาพอากาศที่ร้อน และแดดแรง คิดว่า 3 ชั่วโมง ก็เกินพอแล้วครับ 55+ แนะนำว่า.. ใครจะมาล่องเรือ ควรออกแต่เช้าๆ เลยครับ ยิ่งเช้ายิ่งดีครับ!


3. Can Tho Museum(พิพิธภัณฑ์เกิ่นเทอ)



Can Tho Museum(พิพิธภัณฑ์เกิ่นเทอ) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของ เมืองเกิ่นเทอ และ เวียดนาม เอาไว้ โดยจัดแสดงภาพถ่าย และ ข้าวของเครื่องใช้ในอดีต รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ในสมัยสงครามเวียดนาม



วันทำการ : ทุกวัน(ปิดวันจันทร์ และ วันศุกร์)

พิกัด : https://goo.gl/maps/RGEuaSU8ci8wi8Bk8



มาถึง “เกิ่นเทอ” ก็ต้องมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้กันสักหน่อย ซึ่งภายในก็จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่โตกว่าที่คิดมากครับ มี หลายส่วน หลายห้อง ให้เลือกเดินชม..





4. Nam Nha Pagoda



Nam Nha Pagoda เป็นเหมือนวัดที่มีลักษณะเหมือนบ้านเดี่ยวอยู่ริมน้ำ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตั้งอยู่จากใจกลางเมืองเกิ่นเทอ มาประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างที่จะออกมาไกลหน่อย แต่คุ้มค่าที่ได้มาครับ..



พิกัด : https://goo.gl/maps/3dNrFuRXU8xL9NUX7



แม้ว่า.. ภายในจะไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ แต่ก็สามารถเดินเล่นเก็บภาพภายนอกอาคารได้ ซึ่งก็มีความสวยงาม เป็นฉากในการถ่ายรูปเก๋ๆ ได้อยู่ครับ



5. Binh Thuy Temple

Binh Thuy Temple อีกวัดขึ้นชื่อของเมืองเกิ่นเทอ ที่มีความโดดเด่นของสถาปัตกรรมจีน วัดนี้ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับ Nam Nha Pagoda เพียงแค่ข้ามแม่น้ำไปก็เจอกับวัดนี้แล้วครับ

พิกัด : https://goo.gl/maps/dYxJdqcup244REUk7


บรรยากาศภายในวัดสงบเงียบมาก แทบจะไม่มีคนอยู่เลย เราเดินเล่นๆ อยู่ภายในวัด ก็มีพวกลุงๆ ป้าๆ เชิญให้เข้าไปพัก และชมบรรยากาศข้างใน (อาจจะเห็นว่าข้างนอกมาร้อนมากกก.. 55)



6. Binh Thuy Ancient House

Binh Thuy Ancient House เป็นบ้านโบราณที่มีสถาปัตยกรรมร่วมระหว่างศิลปะตะวันออก และตะวันตก เป็น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวเกิ่นเทอ บริเวณโดยรอบบ้านหลังนี้ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยสวนดอกไม้นานาชนิด และ ที่นี่.. ก็เคยที่ถ่ายทำภาพยนตร์สุดคลาสสิคอย่างเรื่อง The Lover อีกด้วย

ค่าเข้าชม : 15.000 VND

พิกัด : https://goo.gl/maps/wggGuAxCvZJvE8q39










7. Phat Hoc Pagoda



Phat Hoc Pagoda เป็นเจดีย์สไตล์จีนสูง 5 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณสี่แยก กลางเมืองเกิ่นเทอ ซึ่งภายใน จะมีเทพเจ้าที่ชาวเวียดนามนับถือ จึงเห็นชาวเวียดนามแวะเวียนเข้ามา สักการะ ขอพร กันอย่างไม่ขาดสาย..



พิกัด : https://goo.gl/maps/GsS9U8xXCnXypDYm9



8. Munirensay Temple

Munirensay Temple เป็นวัดเขมร ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับ Phat Hoc Pagoda ซึ่งขึ้นชื่อว่า วัดเขมร แล้ว.. จึงพบเห็นอาคารต่างๆ ที่อยู่ภายในวัด โดดเด่นด้วยศิลปะของเขมร

พิกัด : https://goo.gl/maps/KJxRPT2mHneExJAd6





9. Ninh Kieu Wharf

Ninh Kieu Wharf ย่านพักผ่อนริมแม่น้ำ เหมาะที่จะมาเที่ยวในช่วงยามเย็นลากยาวไปจนถึงช่วงดึกเลยครับ เมื่อได้เวลาแดดร่มลมตก ผู้คนก็จะเริ่มออกมาเดินเล่น ชมบรรยากาศริมแม่น้ำยามเย็น

พิกัด : https://goo.gl/maps/hLqzHt7eDa8XhZ598


และ เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็จะมีการเปิดไฟ ที่ประดับประดา เป็นสีสันต่างๆ บน สะพาน Cau Di Bo Ninh Kieu อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกิ่นเทออีกด้วย


10. Can Tho Night Market(ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ)


Can Tho Night Market(ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ) เป็นตลาดกลางคืนที่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะ ในช่วงเย็น ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป ร้านค้าต่างๆ จะเริ่มมาตั้งร้านและเปิดให้บริการ ซึ่งมีทั้ง.. ร้านขายเสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ รวมไปถึงร้านขายอาหารแบบ Street Foods ที่มีเมนูน่าลองในหลายๆ ร้านอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/7cjBAMe9n2bTmDZ86






และ บริเวณโดยรอบ ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ (Can Tho Night Market) ก็จะเป็นที่ตั้งของบรรดาคาเฟ่ต่างๆ ซึ่งมีหลายร้านมาก สามารถมาสั่งเครื่องดื่ม แล้วนั่งชมบรรยากาศของ ตลาดกลางคืน แห่งนี้ได้ครับ



แวะดู.. ฟุตบอลวีลีกเวียดนาม(V-League)



ทริปนี้.. บังเอิญไปเห็นป้ายประชาสัมพันธ์การแข่งขัน ฟุตบอลลีกของเวียดนาม พอดี ด้วยความที่เราชอบดูฟุตบอลอยู่แล้ว.. ก็ขอแวะเข้าไปชมบรรยากาศ ของ ลีกเวียดนาม กันสักหน่อย โดยเดินทางไปที่สนาม Can Tho Stadium ซึ่งเป็นรังเหย้าของทีมสโมสรประจำเมือง คือ XSKT Can Tho ทีมระดับ ดิวิชั่น 2 ของลีกเวียดนาม



วันนี้.. สโมสร XSKT Can Tho จะเปิดบ้านพบกับ สโมสร HVAGFC ก่อนเข้าสนามก็ต้องซื้อตั๋วก่อน ราคาตั๋วแค่ 15.000 VND หรือ ประมาณ 22 บาท เท่านั้น



เราเลือกซื้อตั๋วในระดับราคาที่ต่ำที่สุด เพื่อความประหยัด ก็เลยได้ที่นั่งฝั่งไม่มีหลังคา ทางเข้าก็เลยดูลึกลับสักหน่อยนะ..



เดินเข้ามาในสนาม เป็นสนามที่ดูใหม่ และทันสมัยดีเหมือนกันครับ แต่.. ผู้ชมน้อยมาก แม้จะใกล้เวลาแข่งขันแล้วก็ตาม บรรยากาศดูเป็นกันเองดีครับ มีร้านค้าเล็กๆ มาตั้งในสนามด้วย..



บรรยากาศภายในสนามฟุตบอล Can Tho Stadium



และ ก็ถึงเวลาการแข่งขัน แฟนบอลก็ทยอยเข้ามาในสนามเรื่อยๆ แต่..ก็ค่อนข้างน้อยมาก มีแต่กลุ่มแฟนบอล(ที่คิดว่า..) เป็นขาประจำที่คอยตีกลองร้องเพลงส่งเสียงเชียร์เป็นมาเป็นระยะ





แค่โดนนำ 2 ลูกแรก แฟนบอลทีมเจ้าบ้านก็ทยอยเดินกันออกจากสนามเลย แบบว่าโดนยิงปุ้บ.. ลุกกลับบ้านกันเลยทีเดียว..



ช่วงเย็นแบบนี้ อากาศก็เย็นสบายอยู่นะครับ ท้องฟ้าก็ดูสีสันสวยงามดี นั่งดูบอลไปเพลินๆ จนจบการแข่งขัน ครับ



ร้านอาหารต้องลองในเมือง.. “เกิ่นเทอ”



อยู่ที่เมือง “เกิ่นเทอ” ก็ต้องหาร้านอร่อยๆ กิน! ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้เจาะจงมาก่อนว่า ..จะวางแผนไปกินที่ร้านไหน? อาศัยแค่.. การจิ้ม Google Map เอาที่หน้างาน แล้วก็พุ่งไปที่ร้านนั้นเลย และก็มีบางร้านที่พอเดินผ่านแล้วดูน่ากิน ก็แวะเข้าไปบ้าง.. ซึ่งรวมๆ แล้ว ทุกร้านที่ไปก็ อร่อยถูกปากดีเหมือนกันนะครับ!



1. Quán Bánh Canh Ghẹ (เฝอปู และ เฝอ Lobster)



เคยได้ยินมาว่า.. มาเที่ยว “เกิ่นเทอ” ต้องมากิน “เฝอปู” ก็เลยมาที่ร้าน Quán Bánh Canh Ghẹ ที่มีเมนู เฝอปู (ใส่ปูลงไปทั้งตัว) เป็นหลัก และนอกจากนี้ก็ยังมี เฝอ Lobster แถมราคาไม่แพงอีกด้วย!



เวลาเปิด : 09.30 น. – 23.00 น.(ทุกวัน)

พิกัด : https://goo.gl/maps/UYSzcNVoFhCBfnuV6



ร้าน Quán Bánh Canh Ghẹ เป็นร้านขนาดเล็ก แต่มีคนแวะเข้ามาใช้บริการตลอดเวลาที่ร้านเปิด บรรยากาศในร้านก็จะดูคึกคักหน่อย แค่เห็นเมนูอาหารก็รู้สึกอยากกินแล้ว..



เราลองสั่ง เมนู เฝอปู(70.000 VND) และ เฝอ Lobster(100.000 VND) มาอย่างละชาม


เฝอปู แบบฉบับเกิ่นเทอ ต้องใส่ลงไปทั้งตัวแบบนี้ครับ รสชาติก็อร่อยดี.. แต่ติดตรงที่แกะเนื้อยากนิดนึง 55+


2. Banh Canh Ghe(เฝอปู)


Banh Canh Ghe ร้านเฝอปูอีกร้าน ที่ตั้งอยู่ใกล้ ตลาดกลางคืน ซึ่งร้านนี้.. มีความพิเศษหน่อยต้องที่เป็นเนื้อปูใส่มาล้วนๆ เลยไม่ต้องเหนื่อยแกะ อาจจะไม่ได้อารมณ์เหมือนใส่ปูลงไปทั้งตัว แต่.. มันก็สะดวกในการกินครับ 55+
พิกัด : ร้านตั้งอยู่บน ถนน Hai ba Tung (ถนนเลียบแม่น้ำ) อยู่ใกล้ ตลาดกลางคืน




เฝอปู เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อม ราคาชามละ 80.000 VND




3. Chanh Map Bún Gỏi Già (Bun Mam)



Chanh Map Bún Gỏi Già ร้านเมนูอาหารเวียดนามที่มีให้เลือกชิมอย่างหลากหลาย ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรม Number One Hotel ที่เราพักอยู่ ออกจากโรงแรมแล้วเดินไปทางซ้ายมือไม่กี่ก้าวก็เจอร้านนี้แล้วครับ



พิกัด : https://goo.gl/maps/fxzcNPjTw4wf4rZr9



Bun Mam คือ เมนูที่ต้องลองครับ เป็นเหมือนกับเฝอทั่วๆ ไป แต่น้ำซุปจะมีกลิ่นเหมือน ปลาร้า บ้านเรา เจือจางลงไปนิดนึง.. ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมเข้ากันดี ราคาชามละ 30.000 VND เท่านั้นเอง (ปล. Lau Mam ก็เป็นเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมา เกิ่นเทอ เช่นกันครับ เป็นหม้อไฟ ที่มีรส และกลิ่นคล้ายๆ กับ Bun Mam)



เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปหอมดีครับ(ปกติชอบกินปลาร้าอยู่แล้ว.. 55) Bun Mam ชามนี้ให้ 5 ดาวไปเลยยยย..



นอกจากนี้ ร้าน Chanh Map Bún Gỏi Già ก็มีเมนูอาหารเวียดนามอื่นๆ ให้ได้ลองครับ ราคาถูกมาก..





4. Le Dung 5 (ข้าวหน้าไก่)



Le Dung 5 เป็นร้านขายข้าวหน้าไก่(ข้าวมันไก่) ราคาประหยัด ร้านนี้เจอด้วยความบังเอิญ.. ตอนเดินผ่านแล้วเห็น ราคามันถูกดี! ก็เลยลองเข้าไปชิมครับ เมนูร้านนี้.. ก็มีแต่ไก่ครับ หลักๆ แบ่งเป็น ข้าวหน้าไก่ต้ม กับ ข้าวหน้าไก่ทอด ราคาเท่ากัน คือ 35.000 VND



พิกัด : จากหน้าโรงแรม Number One Hotel แล้วเดินไปทางซ้ายมือประมาณ 200 เมตร ร้านตั้งอยู่ตรงสี่แยก



มี เมนูทานเล่น เป็น ส่วนต่างๆ ของไก่ทอดอีกด้วย



ข้าวหน้าไก่ต้ม เสิร์ฟมาพร้อมกับ เครื่องเคียงและน้ำซุป



ข้าวหน้าไก่ทอด ชอบมากครับ เพราะเขาจะทอดก็ต่อเมื่อมีลูกค้ามาสั่งเท่านั้น ไม่ได้ทอดทิ้งไว้ ก็เลยได้กินไก่ที่ร้อนๆ กรอบๆ ครับ




5. Hong Phat Noodle Restaurant (Rice Noodle)



Hong Phat Noodle Restaurant ร้านเฝอ Rice Noodle อีกร้านที่น่าสนใจ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยก Phat Hoc Pagoda ถ้ามาเที่ยวแถวนี้ก็แวะมากินที่ร้านนี้ได้เลยครับ



เวลาเปิด : 05.30 น. – 22.00 น.(ทุกวัน)

พิกัด : https://goo.gl/maps/TqXHa5gXqPg5cNqh7



ร้านนี้ เป็นร้านใหญ่ และคนเยอะตลอดเวลา



เมนูแนะนำ ก็ต้องเป็น Rice Noodle ราคา 50.000 VND ซึ่ง จุดเด่น คือ กระดูกหมูชิ้นโตเต็มชาม แบบนี้!




6. Tách Kafé (คาเฟ่)



Tách Kafé คาเฟ่เก๋ๆ กลางเมือง เกิ่นเทอ ตั้งอยู่ใกล้กับ ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ (Can Tho Night Market) เป็นร้านสีเหลืองมองเห็นเด่นชัด ตัวร้านเปิดให้บริการ 2 ชั้น ชั้นล่าง เป็นแบบเปิดโล่ง ส่วน ชั้นบน เป็นแบบห้องแอร์นั่งเย็นสบาย และมีส่วนของระเบียง สำหรับคนที่อยากมานั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวมุมสูง



พิกัด : https://goo.gl/maps/XT1njPEeQn6irBmd7



บรรยากาศภายใน ร้าน Tách Kafé น่ามานั่งมากครับ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน อากาศร้อนๆ ก็หลบมาหาเครื่องดื่มเย็นๆ ดื่มคลายร้อนได้..



เมนูอาหาร และ เครื่องดื่ม ของร้าน Tách Kafé



เครื่องดื่ม ราคาไม่แพงครับ เริ่มต้นแค่ 15.000 VND สั่งแบบถูกสุด มานั่งหลบร้อน ตากแอร์เย็นๆ ได้สบายเลยยย.. 55+




7. ร้านอาหารริมทาง



ในทุกทริปที่เที่ยว “เวียดนาม” ของเรา ก็ต้องมีมานั่งร้านอาหารแบบริมทางสไตล์เวียดนามกันครับ ซึ่งก็เป็น โต๊ะกับเก้าอี้ตัวเล็กๆ เผื่อใครอยากมานั่งชิล นั่งได้ยาวๆ ราคาเบาๆ โดยร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กับ Tách Kafé



ร้านมีบริการเครื่องดื่มต่างๆ ถ้าอยากจิบเบียร์ Saigon Beer ก็ราคา 15.000 VND ส่วนอาหารก็เดินไปซื้อ ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ (Can Tho Night Market) ที่อยู่ใกล้ๆ มานั่งกินได้ บรรยากาศแบบนี้นั่งชิลมากเลยครับ..



เที่ยวเหนื่อยๆ เจอแดดร้อนๆ มาทั้งวัน มานั่งพักเหนื่อยหาอะไรดื่มเย็นๆ ราคาประหยัดถูกใจมาก แถมมีน้ำแข็งฟรีอีก เพลินจนร้านปิดแน่นอน.. 55!





Tu Dung Homestay Fruit Garden นอนโฮมสเตย์ ในสวนผลไม้



คืนสุดท้าย.. ที่ “เกิ่นเทอ” เราเปลี่ยนบรรยากาศไปนอนโฮมสเตย์นอกเมืองกัน..



Tu Dung Homestay เป็นโฮมสเตย์ในสวนผลไม้ สไตล์บ้านๆ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้สัมผัสวิถีชิวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ และ เนื่องจากเป็นโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในสวนผลไม้ ทำได้ลองเก็บผลไม้สดๆ จากต้นมาชิมอีกด้วย..



พิกัด : https://goo.gl/maps/gCRzCmQQE1s2HRAL9



การเดินทาง : Tu Dung Homestay อยู่ห่างจากใจกลางตัวเมืองเกิ่นเทอ ประมาณ 10 กิโลเมตร วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดของเรา ก็คือ การเรียก Grab Car ครับ โดยให้ไปส่งที่พิกัดนี้ ( https://goo.gl/maps/rMjAMjBGeV2Nq7u26 ) ราคาประมาณ 135.000 VND จากนั้น ให้ทางโฮมสเตย์เอารถมอเตอร์ไซค์ออกมารับครับ เพราะเส้นทางต่อจากนี้ไป เป็นทางขนาดเล็ก รถยนต์ ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้..



ก่อนการเดินทาง เราได้ติดต่อกับ น้อง Linh ผู้ดูแล Tu Dung Homestay เอาไว้ พอเดินทางมาถึงจุดนัดหมาย ลงจาก Grab Car ก็มีพนักงานของโฮมสเตย์เอารถมอเตอร์ไซค์มารับ ณ จุดนัดหมาย ครับ


พักผ่อน นอนโฮมสเตย์ ณ Tu Dung Homestay



เส้นทางไป.. โฮมสเตย์ เป็นอะไรที่เหนือความคาดคิดมาก ซึ่งตอนแรกดูจาก Google Map เข้าใจว่า.. มีถนนที่รถยนต์สามารถเดินทางไปถึงโฮมสเตย์ได้เลย แต่มันก็เป็นเพียงถนนเส้นเล็กๆ ที่ มอเตอร์ไซค์สามารถวิ่งได้เท่านั้น โดยจะเป็นเส้นทางวนเลียบขนานไปกับแม่น้ำ ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อยู่พอสมควร..



นั่งรถมอเตอร์ไซค์ ตามถนนเส้นเล็กเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็มาถึง Tu Dung Homestay



Tu Dung Homestay ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ด้านหน้ามีท่าเรือ สามารถเหมาเรือไปเที่ยวบริเวณใกล้เคียงอย่าง ตลาดน้ำไคราง (Cai Rang Floating Market) ได้



เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก น้อง Linh ผู้ดูแล Tu Dung Homestay แห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ได้ติดต่อและคุยกันเกี่ยวกับ การเดินทางในเมืองเกิ่นเทอ และ การเดินทางมายังโฮมสเตย์แห่งนี้



บริเวณริมน้ำ จะมีเปลให้นอนเล่นรับลม



ในส่วนของ ห้องพัก ต้องเดินเข้าไปทางสวนผลไม้ด้านหลัง เดี๋ยวจะพาไปชมห้องพักกันครับ..



ห้องพัก ของเราในคืนนี้ เป็นกระท่อมขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณของสวนผลไม้



ภายในห้องพัก ก็จะมี เตียงนอน มุ้ง พัดลม และอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ราคาห้องพัก คืนละ 300.000 VND หรือ ประมาณ 400 บาท (รวมอาหารเช้า)



บรรยากาศห้องพัก ก็ดูง่ายๆ ดีครับ เปลี่ยนบรรยากาศลองมากางมุ้งนอนกันสักคืน.. ก็ดีเหมือนกัน..



ด้านหลังห้องพัก เปิดออกไปก็จะเจอกับ สวนผลไม้



มี เปล เอาไว้นอนเล่นหลังห้องด้วย



ห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำ จะเป็นแบบใช้ร่วมกันครับ อยู่ติดกับห้องพักเลย



บริเวณไว้สำหรับ นั่งกินข้าว, นั่งพักผ่อน หรือ จะมา นอนเล่น ก็ได้




ที่พอจะออกดอกออกผลในช่วงนี้ ก็คงเป็น.. ชมพู่



น้อง Linh บอกว่า.. ลองเก็บชิมได้เลยตามสบาย ชมพู่ ต้นเตี้ยๆ เก็บได้ง่ายๆ ครับ



ชอบ สะพานไม้ สำหรับข้ามคลองเล็กๆ แบบนี้มากครับ ตอนเดินข้ามก็จะรู้สึกเสียวๆ กันสักหน่อย..



จักรยานฟรี! สำหรับคนที่มาพักโฮมสเตย์ก็มีจักรยานให้ใช้ฟรี สามารถปั่นเลียบแม่น้ำ ดูวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ได้ หรือ ถ้าอยากจะ เช่ามอเตอร์ไซค์ ก็ราคา 150.000 VND



Tu Dung Homestay มีส่วนของ ร้านอาหาร ถ้าอยากลองชิม เมนูท้องถิ่น ของ “เกิ่นเทอ” ที่นี่.. ก็มีบริการครับ



อาหารเช้า จะรวมไปกับค่าที่พักแล้ว.. ก็จะเป็นเมนูง่ายๆ ไข่ดาว ขนมปัง ชา กาแฟ ครับ และ เมื่อจัดการ อาหารมื้อเช้า เสร็จเรียบร้อย เราก็ให้พนักงานของโฮมสเตย์ออกมาส่ง และ เรียก Grab Car ต่อไปยังสนามบิน




การได้มาพัก Tu Dung Homestay ก็เหมือนเป็นการพักผ่อนในช่วงท้ายทริปครับ ส่วนใหญ่ ก็เน้น นั่งเล่น นอนเล่น อยู่โฮมสเตย์ไม่ได้ออกไปไหน และ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจ คือ การได้รับการดูแลจากน้อง Linh ผู้ดูแลโฮมสเตย์แห่งนี้เป็นอย่างดีเลยครับ นางเทคแคร์ดีมาก... ถ้าใครมีโอกาสไป “เกิ่นเทอ” ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปนอนโฮมสเตย์กันสักคืนนะครับ


Tạm biệt (ลาก่อน) "เกิ่นเทอ" ได้เวลา.. เดินทางกลับ!



เดินทางมาถึง สนามบินเกิ่นเทอ(Can Tho International Airport) จัดการเช็คอินที่เคาเตอร์ของ สายการบินแอร์เอเชีย ให้เรียบร้อย



นั่งรออยู่ไม่นาน ก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง เดินทางกลับ กันแล้วครับ



เดินทางกลับ จาก เกิ่นเทอ ไป กรุงเทพฯ ในช่วงเวลา อาหารมื้อเที่ยง พอดี ขอลองชิม ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ สไตล์ญี่ปุ่น สักหน่อย



ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็กลับมา ถึง สนามบินดอนเมือง แล้วครับ เป็นอันสิ้นสุดทริปนี้!



“เกิ่นเทอ” (Can Tho) ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งของ ประเทศเวียดนาม ที่มี ความน่าสนใจ และ เปิดประสบการณ์การเดินทางใหม่ๆ ให้กับเราได้เป็นอย่างดี มีความรู้สึกว่า.. ที่นี่ มี “อะไร” มากกว่าที่คิดมาก ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองไปเที่ยวกันนะครับ!



ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ของเราได้ที่..

>> https://www.facebook.com/chailaibackpacker/



การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9

E-mail : [email protected]

Website : www.chailaibackpacker.com

CHAILAIBACKPACKER

 วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.08 น.

ความคิดเห็น