สารพัดจัดเต็ม พาเที่ยว เมืองระนอง ไปชมไฮไลท์ คือ เกาะพยาม ตามด้วยแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพราะเมืองระนอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่รอบๆ มากมายหลายแห่ง และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เป็นเมืองที่อยู่และแวดล้อมไปด้วยภูเขา ทำให้มีฝนตกชุกชุม ตามคำกล่าวว่า เป็น "เมืองฝนแปดแดดสี่" ความตั้งใจจะไปเที่ยวในช่วง ซัมเมอร์ แต่ติดนั้นนี่ ทำให้ล่วงเลยมาถึงข่วงเดือนพฤษภาคม ที่ก้าวย่างเข้าสู่ฤดูฝนพอดี นับเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ของคนจะไปเที่ยวเกาะพยาม สำหรับ สารพัดจัดเต็ม อยากลองไปในช่วงนี้ เพราะคนจะไม่ได้เยอะนัก และเชื่อว่า เกาะพยาม ก็น่าจะสวยไปอีกแบบ

การเดินทางของ ทริปนี้ เดินทางไปด้วยเครื่องบิน และใช้บริการรถตู้ จากสนามบินให้ไปส่งที่ท่าเรือ ค่าบริการคนละ 150 บาท พอถึงท่าเรือเกาะพยาม ก็สามารถหาซื้อตั๋วเรือได้เลย โดยเรือบริการข้ามเกาะ มีแบบเรือธรรมดา ราคา 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง แต่ในช่วงโลว์ซีซั่น เรือธรรมดานั้นมีน้อยมาก เราจึงเลือกใช้บริการเรือสปีดโบ๊ท ราคา 350 บาท ใช้เวลาเดินทางมาเกาะ 45 นาที ซึ่งมีเรือให้บริการทุกๆ ชั่วโมง

มาถึงเกาะพยาม สิ่งแรกที่พบ ก็คือ ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เพราะการเดินทางบนเกาะ คนพื้นที่ นักท่องเที่ยว จะใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก ค่าเช่า 150 บาทต่อวัน ไม่รวมน้ำมัน สามารถหาเติมได้ทั่วเกาะ เพราะจะมีจุดขาย โดยบรรจุเป็นขวดๆ ขายกันขวดละ 35 บาท พอเช่ารถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย ตั้งใจขับหาที่พักบนเกาะพยาม แต่เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้ที่พักหาค่อนข้างยาก เพราะเปิดให้บริการไม่กี่แห่ง

รีสอร์ทที่อยู่ใกล้ ท่าขึ้นเรือที่สุด ก็คือ Blue Sky Resort ซึ่งเป็นที่พักดีที่สุดของเกาะพยาม ราคาสูงหน่อย แต่มาเที่ยวทั้งที ก็ถือว่าคุ้ม ได้ดูวิวน้ำทะเลใสๆ คล้ายๆ มัลดีฟ ขนาดย่อมๆ ยิ่งช่วงเช้า น้ำขึ้นจะสวยมาก สามารถพายเรือเล่นชมวิวทิวทัศน์รอบๆ ได้เพลินใจ พอเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ลองสอบถามคนในพื้นที่ว่า มีแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะพยามอะไรบ้าง ได้รับคำแนะนำมาปุ๊บ ก็เริ่่มเที่ยวกันเลย เพราะวันที่ไปถึงอากาศปลอดโปร่ง เหมาะกับการขับรถมอเตอร์ไซด์เที่ยวมากๆ

สำหรับเส้นทางบนเกาะพยาม จะมีเส้นทางเดียว คือขับไป และขับกลับ ไม่ต้องกลัวหลงทางแต่อย่างใด สถานที่แรกที่ไปก็คือ วัดเกาะพยาม ถือเป็นวัดประจำเกาะเลยก็ว่าได้ อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือมากนัก เพียงขับรถไปทางด้านขวาของเกาะไปเรื่อยๆก็ถึงแล้ว บรรยากาศในวัดดูเงียบสงบ พลอยทำให้จิตใจเรารมรื่น มีโบสถ์กลางน้ำ ให้เราเดินไปกราบไหว้พร้อม กับได้ชมบรรยากาศรอบๆไปด้วยจากนั้นก็ขับรถไป อ่าวเขาควาย

ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปที่ อ่าวเขาควาย ต้องสังเกตเสาส่งคลื่นโทรศัพท์ให้ดี เพราะต้องเลี้ยวขวาเข้าไปตรงแยกนั้น ประมาณ 2 กิโลเมต์ จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวอีกรอบ ถนนจะลาดชันสักหน่อย ต้องระมัดระวังให้ดี คนในพื้นที่ บอกว่า อ่าวเขาควาย เป็นอีกจุดไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาแวะ ตรงนี้มี "หินทะลุ" รูปร่างเป็นภูเขาหินที่โดนน้ำทะเลกัดเซาะจนเป็นรู มีรูปต่างๆ ที่เด่นสุดคือ รูปหัวใจ มองลอดออกไปเห็นน้ำทะเลใสๆ สวยมากๆ รอบๆหาดทรายบริเวณนี้ จะเต็มไปด้วยเปลือกหอยเล็กๆ กระจายเป็นจุดๆ พอดูไกลๆ จะมองเห็นหาดทรายเป็นสีชมพู สวยแปลกตาไปอีกแบบ

การท่องเที่ยวพักผ่อนบนเกาะพยาม ในช่วงโลว์ซีซั่น ได้พบกับความสงบและสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติ สารพัดจัดเต็ม นั่งชิลล์ๆ ชมวิวทะเล ได้ชาร์ตแบตเติมพลังชีวิตให้กลับคืนมาอีกครั้ง แม้ว่า ท้องทะเลและท้องฟ้าในฤดูนี้ สีจะไม่สดใสเท่ากับช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง เดือนมกราคม ที่เป็นไฮซีซั่น ก็ตาม ใครที่ ชอบความคึกคัก ชอบปาร์ตี้ ชอบทะเลสีสดๆ แนะนำให้มาช่วงไฮซีซั่น แต่ถ้าใครแสวงหาความสงบเงียบ ฟังเพลงเบาๆ จิบเบาๆ แล้วเข้านอน แนะนำให้มาช่วงโลว์ซีซั่น เหมาะที่สุดเลยจ้า

สารพัดจัดเต็ม รีบเช็คเอ้าท์ออกจาก “เกาะพยาม” เพื่อเข้ามาเที่ยวในส่วนของตัวเมือง จังหวัดระนอง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ให้นำกลับไปเต็มๆ เปิดอินเตอร์เน็ตดู พบว่า เมืองระนองมีถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อย่างเช่น พระราชวังรัตนรังสรรค์ พิพิธภัณฑ์บ้านเมืองแร่นอง สุสานเจ้าเมืองระนอง เป็นต้น และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ รวมไปถึงของกินพื้นถิ่นอร่อยอีกด้วย ในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน เที่ยวไม่ครบแน่ๆ ทริปนี้ สารพัดจัดเต็ม เลือกไปเที่ยวแนวธรรมชาติ นั้นก็คือ ภูเขาหญ้า น้ำตกบกกราย ก้องวัลเลย์ และแวะชิมซาลาเปาทับหลี ที่ขึ้นชื่อลือชากันว่าอร่อยมาก

ภูเขาหญ้า...สถานที่ท่องเที่ยวคู่เมืองระนอง เพราะเป็นหนึ่งที่ระบุอยู่ในคำขวัญของเมืองระนอง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เดินทางจากตัวเมืองมาทางถนน สายระนอง พังงา ประมาณ 12 กิโลเมตร จะมองเห็นภูเขาหญ้าเขียวขจี ไกลสุดตา มีลมพัดผ่านตลอดเวลา มาถ่ายภาพสวยๆ ลงโชเชี่ยล แล้วขับเลยต่อไปอีกประมาณ 50 กิโลเมตร ก็ไปเที่ยว น้ำตกบกกาย ก้องวัลเลย์ และ ชิมซาลาเปาทับหลี เก็บได้ครบเลย

แนะนำให้แวะไป “ทับหลี” ก่อน เพราะต้องไปให้ถึงก่อนเวลาเที่ยง ไม่เช่นนั้นอดกิน ซาลาเปาทับหลี ต้นตำรับเจ้าอร่อยที่สุด เพราะร้านนี้ขายดีมาก เมื่อไปถึงจะเห็นร้านซาลาเปาเต็มสองข้างทาง ให้ตรงดิ่งไปร้านที่ขายข้าวมันไก่ แต่ก่อนสั่งข้าวมันไก่กิน ให้สั่งซาลาเปาและขนมจีบไว้ก่อน เป็นการจอง แล้วค่อย กินข้าวมันไก่ เป็นอาหารเที่ยง อยากบอกว่าข้าวมันไก่ร้านนี้อร่อยเด็ด ข้าวไม่มันมาก ไก่ต้มกันสดใหม่ มีอาหารเสริมให้เลือกสั่ง อย่างเช่น เครื่องในผัดกระเพรา และ ต้มจืดผักกาดขาวหมูสับ ทำตามที่ สารพัดจัดเต็มแนะนำ รับรองได้กินของอร่อย จัดเต็มกับ ซาลาเปาทับหลี เนื้อเหนียวนุ่ม มีไส้ให้เลือกหลากหลาย ได้อย่างสาสมใจเลยทีเดียว

หลังจาก กินซาลาเปาทับหลี แล้วให้ไปเที่ยว น้ำตกบกกราย กันต่อ ตั้งอยู่ที่ อ.กระบุรี ที่นี่เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก ค่าเข้าอุทยานเพียงคนล่ะ 20 บาทเท่านั้น น้ำตกในวันนี้อาจจะไม่แรงมากนักแต่ก็ชวนให้น่าเล่น บางคนก็มาปิกนิคกันเป็นครอบครัว บางคนก็มาเล่นน้ำกับคู่รัก น้ำที่นี่เย็นกำลังดี เสียดายว่าวันนี้ต้องบินกลับไม่งั้นคงได้อยู่เล่นน้ำที่นี่แน่นอน

ต่อจากน้ำตกบกกรายลงมาเราก็จะเจอกับ “ก้องวัลเลย์” ที่นี่ มีทั้ง โฮมสเตย์ ร้านกาแฟขายเครื่องดื่ม และขายกาแฟแบบแปรรูป เสน่ห์ของที่นี่ อยู่ตรงเจ้าของไร่ คุณก้อง จะทำหน้าที่เป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกาแฟ การคั่วบดอย่างละเอียด

บรรยากาศรวมๆ ของ ก้องวัลเลย์ ดีมาก ตรงทางเข้าไร่ มีคอฟฟี่ช้อป เครื่องดื่มกาแฟรสเข้มข้นดี ขนมซิกเนเจอร์คือ หมั่นโถ้วทอดจิ้มน้ำ กินแล้วอร่อยน้ำตาไหล จัดเต็มไปหลายลูก บริเวณคอฟฟี่ ช้อปจะติดกับธารน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกบกกราย สามารถลงไปนั่งแกว่งชิงช้า เอาเท้าแช่น้ำที่ไหล ได้อย่างสบายอกสบายใจ เวลาผ่านไปเร็วจนต้องรีบกลับมาขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ แทบไม่ทัน สำหรับ ทริป เกาะพยาม ระนอง ครั้งนี้ นำความหรรษาสดชื่นมาให้ชีวิตมากมาย และ รู้สึกตกหลุมรักเมืองระนอง จะหาโอกาสกลับมาเยือนใหม่ เพื่อจัดเต็มความสุขอีกครั้งในเร็วๆ นี้