"ทะเลสีฟ้า ทุ่งนาสีเขียว 1 เดียวในปราน ที่ La a natu bed & bakery"


La a natu bed & bakery แรงบันดาลใจจากพื้นเมือง

หลายคนเข้าใจว่าที่พักถูกออกแบบมาเป็นสไตล์บาหลี แต่จริงๆพี่ๆพนักงานบอกว่า มันคือสไตล์อีสานประยุกต์ หรือ สไตล์ลาวโซ่งค่ะ

ลาวโซ่ง คือ สไตล์การสร้างบ้านเรือนที่เป็นแบบบ้านไม้ 2 ชั้น มีใต้ถุนสูง แสดงเอกลักษณ์การดำรงชีพด้วยการทำไร่ ทำนา ทำสวน เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ซึ่งข้าวของเครื่องใช้ที่ประดับอยู่รีสอร์ต ก็จะเป็นพวกศิลปะหัตถกรรมเครื่องจักสานเกือบทั้งหมด เช่น มีเหล้าไก่ตกแต่งสวน หรือใช้ไซ กับข้องใส่ปลาเอาไว้ทำโคมไฟ เป็นต้น และสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดคือ ทุ่งนา กับ พี่ควายค่ะ

(เอ ....... แต่เรามองแล้วทำไมรู้สึกเหมือนสไตล์บาหลีเลยเน๊อะ)

ห้องพักที่นี้มีทั้งหมด 10 หลังด้วยกัน ได้แก่

Vanilla Suite - มี Pool Villa - ติดทะเล

Loft Suite - 2 หลัง - ชินนาม่อน นัทแมก /ติดทะเล

Tropical Cottage - บ้านต้นหอม /ติดทะเล

Tropical Cottage - บ้านตะไคร้ /ติดทะเล

Tropical Cottage - ...................... /ติดทะเล

Tropical Village - 3 หลัง - ข้าวเหนียว ข้าวตอก ข้าวฟ่าง /ติดทุ่งนา

Tropical Village Family - 1 หลัง - ข้าวเม่า/ติดทุ่งนา



25 /05/19 เรามีโอกาสได้ไปพัก La a natu bed & bakery ซึ่งที่นี่ เราเคยทักไปถามห้องครั้งแรกตั้งแต่ปี 59 ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาจะ 3 ปีแล้ว เพิ่งจะได้ไปพักจริงๆซะที


2 วัน 1 คืน มาดูกันค่ะ ว่าเราจะทำอะไรที่นี่ได้บ้าง ?

เราเริ่มต้นการเดินทางจาก กทม.ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชม.ได้ ถ้าไม่แวะพักที่ไหนต่อ แต่สำหรับเรา เราแวะทานข้าวเช้าที่ร้านแดงอาหารทะเล ดอนหอยหลอดเจ้าเก่าค่ะ ........ อร่อยยยยยยยยมากเหมือนเดิม



หลังจากทานข้าวเช้าเรียบร้อย เราตรงไปยังที่พักเลยค่ะ เปิด GPS ไปเลย ถึงที่หมายประมาณ บ่ายโมงนิดๆ



ถึงหน้าทางเข้า พี่พนักงานก็เตรียมผ้าเย็นกลิ่นหอมตะไคร้เย็นๆมารอต้อนรับ .... พอเช็คอินเรียบร้อย พี่พนักงานก็พาเราไปส่งที่ห้องเลยค่ะ อ้อ สำหรับการจองในครั้งนี้เราจองห้องแบบ Tropical Cottage นะคะ บ้านเป็นหลังติดหน้าหาดเลย เข้าพักกันทั้งสิ้น 4 ท่านค่ะ ราคา 7,500 บาท รวมอาหารเช้า + afternoon Tea Set ดีงามมาก (ปล. ราคานี้ซื้อราคาโปรโมชั่นหน้าเฟสบุ๊คส์ค่ะ)

สำหรับห้องของเรานะคะ ชื่อว่าบ้านต้นหอม อยู่มุมขวาสุดของรีสอร์ต อยากบอกว่าเงียบ และเป็นส่วนตัวมากๆๆๆ มากๆ คือดีงามจริงๆ คือถ้าใครยังโง่ไม่พอ แล้วอยากจะมานั่งโง่ๆที่นี่อีก เราว่ามันได้อ่ะ

สำหรับการตกแต่งห้องพัก ........... เอาจริงคือชอบห้องรับแขกมากกว่าห้องนอกอีกอ่ะ เพราะเวลาคุณมองออกไปข้างนอก ด้านหน้าของคุณจะเป็นทะเลสีฟ้าเลย ... ยิ่งตอนเช้านะ คือนอนดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเตียงนอนได้เลยจ้าาา ฮรือออ มันน่าไปกับแฟนเป็นที่สุด บรรยากาศโคตรจะโรแมนติกมากๆๆๆๆๆๆ

(ปล.มุมนี้คือ จากห้องน้ำนะคะ ทำธุระไป ก็ชมวิวไป )


จุดที่ 2 เก็บของ ล้างตัวเสร็จ ก็มาเดินเล่น นั่งเล่นหน้าห้องกันค่ะ วิวหมื่นล้านกับชายหาดส่วนตัว ... แต่มีข้อเสียอย่างนึงคือ ดินหน้าหาดเป็นโคลนค่ะ เล่นน้ำไม่สนุก อาจจะเป็นเพราะช่วงหน้าฝนนะ หาดไม่ค่อยสวย


เก็บวิวหน้าห้องเสร็จแล้ว กิจกรรมต่อไปคือ มาชมโซน Tropical Village กันบ้างค่ะ อย่างที่บอก โซนนี้เป็นบ้านสไตล์ลาวโซ่ง คือทำ 2 ชั้น มีใต้ถุนสูง ด้านล่างมีอ่างน้ำ มีแคร่ ไว้พักผ่อนค่ะ ด้านบนก็จะมีห้องนอนกับห้องน้ำแยกกัน เดี๋ยวดูภาพขากลับนะคะ


สำหรับที่นี่ มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก หากใครที่มาแค่ทานอาหารหรือทานเบเกอรี่ ก็จะเยี่ยมชมได้เฉพาะห้องอาหารเท่านั้น ส่วนบริเวณอื่น ห้ามผ่านเลยค่ะ

จุดที่ 3 มาต่อที่ choccolate pool .... นี่งายยยยยยยยยยย มุมฮิตติดดาว มุมบาหลี มุมดีงาม สระเปิด 24 ชม.นะคะ ใครอยากคลายร้อนก็มาเล่นกันได้ หรืออัพมุมนี้ลงไอจี คือโคตรจะเก๋ไปเลยค่ะ


จุดที่ 4 ถ่ายต้นตะบองเพชร แนะนำให้ถ่ายช่วงเช้านะคะ เพราะจะไม่ย้อนแสง ... ตะบองเพชร หนามคมมาก ระวังหนามเล็กๆลอยทิ่มมือด้วยนะคะ ถ้าไม่จำเป็นรีบออกมาจากดงมันดีกว่า เดี๋ยวคัน


จุดที่ 5 ได้เวลาทาน Afternoon Tea กันแล้วค่ะ ช่วงเวลาในการเสิร์ฟคือ บ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็นนะคะ ถ้าเลยเวลานี้แล้ว จะไม่มีบริการจ้า อ่อ อยากให้เสิร์ฟที่ไหนก็สามารถแจ้งพี่เค้าได้นะคะ เช่น อยากทานที่สระ ที่ห้อง หรือที่ชายหาดงี้ พี่เค้าจัดให้หมดเลย


เค้กมะพร้าว อร่อยสมคำร่ำลือ ......... น้ำสับปะรดก็เช่นกัน


ก่อนไปทานข้าวเย็น เราแวะมาถ่ายรูปที่สระอีกรอบค่ะ ........ เอาให้คุ้ม 555+



ก่อนไปทานข้าวเย็น พี่พนักงานพาไปดูห้อง Loft Suite - นัทแมก ด้วยค่ะ โอ้ยยย นี่ก็น่าพักมากๆ สวยจริงๆค่ะ เป็นสไตล์ Loft มีอ่างจากุชี่กลางบ้านด้วย


มาถึงมื้อเย็น ........ กลุ่มเราประทับใจร้านนี้มากค่ะ ใครมาแถวสามร้อยยอด แนะนำร้านนี้เลยนะคะ ร้านปู ป้าเอื้อง-ป้าอิ้ง อาหารอร่อยทุกอย่างเลย โดยเฉพาะปูนึ่ง สดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โลละ 600 ฟินเว่อร์ค่ะซีส ส่วนข้าวผัดปูนี่ขอแก้นะคะ เพราะตัวจริงคือ ปูพัดข้าวค่ะ จานนี้ 100 โอ้ยย จะร้องไห้ อร่อย และวัตถุดิบดี เราแฮปปี้มาก ส่วนการเดินทาง ร้านอยู่ปากทางเข้ามารีสอร์ตเองค่ะขับออกไปอีกแค่ 15 นาทีก็ถึงแล้ว


ทานข้าวเสร็จ กลับเข้ามารีสอร์ต ประมาณ 3 ทุ่ม เรามาดูบรรยากาศรอบๆกัน



วันที่ 2

เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน รีสอร์ตนี้ แบบว่าใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ


สวัสดียามเช้าาาาาาาาาา คือ นอนรอพระอาทิตย์ตั้งแต่ 6 โมง แต่ฟ้าดันปิด เช็คสภาพอากาศแจ้งว่าวันนี้ฝนจะตก ........... แงงงงงงงงงงง T.T


ในเมื่ออากาศไม่เป็นใจ เราก็นอนแช่น้ำสิคะ ฟินเหมือนกัน จะแช่เช้า แช่เย็นก็ได้ ตามสบายเลย เนี่ยกิจกรรมเยอะ จนไม่น่าออกไปไหนจริงๆ


อาหารเช้าเริ่ม 8 - 10 โมงค่ะ อาหารก็แบบบุเฟ่ต์นะคะ แต่สั่งเป็นจานๆ โดยการกรอกลงแบบฟอร์มที่พนักงานให้มาค่ะ สั่งทานได้เรื่อยๆทุกอย่าง จนอิ่ม นี่สั่งน้ำสับปะรดมา 3 แก้วแล้ว อร่อยสดชื่นมากค่ะ


ทานข้าวเช้าเสร็จ ก็เดินกินลมชมวิวเก็บบรรยากาสอีกรอบ ฮรือออออออออ วิวสวยมากเลย


เราเช็คเอ้าท์เที่ยงค่ะ เพราะว่ามีแขกมาพักต่อ แต่ถ้าวันไหนไม่มีแขกเจ้าหน้าที่ก็จะเลทให้ได้ถึงบ่าย 2 เลยค่ะ ใจดีที่สุด


อ้อ ก่อนกลับ พี่พนักงานพาชมห้องพักแบบ Tropical Village ด้วยค่ะ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูง ด้านบนมีห้องนอน กับห้องอาบน้ำแยกกัน ส่วนใต้ถุนบ้านก็จะมีอ่างน้ำ กับแคร่ 1 หลังไว้นอนเล่นค่ะ


บ๊ายบาย ลา เอ เนตู วันหน้าเราจะกลับมาเยี่ยมใหม่น๊าาา



ก่อนกลับกทม. เราแวะทาน Afternoon Tea Set ที่ วิลล่ามาร๊อค กันต่อค่ะ เซทนี้ 800 บาทก่อน Vat ขนมอร่อยมากอ่ะ จริงๆ ที่จัดมา 3 ชั้นมีประมาณ 10 อย่างนะคะ อร่อยทุกอย่าง ยกเว้นตัวที่มีชีสอ่ะ รู้สึกว่าไม่เข้าพวก หรือเราทานไม่เป็นไม่รู้ 555555555+


*** 2 วัน 1 คืน จบทริปสั้นๆ แต่ประทับใจยาวๆจริงๆค่ะ ใครอยากหาเวลาออกมาต่างจังหวัดแต่มีเวลาน้อย ลองมาแบบเราดูก็ได้นะคะ ฟินเหมือนกัน อาหารคาวหวานมีครบเลย ***






ความคิดเห็น