สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ReadMe ทุกคนค้าา

วันนี้เรามีประสบการณ์ดี๊ดี อยากมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ กับการใช้งบ 2,000 บาท

จากกรุงเทพมหานคร สู่ สุราษฎร์ธานี ดินแดนตอนใต้ของไทย มุ่งสู่สถานที่ที่เขาขนานนามกันว่าาาาาา


....... กุ้ยหลิน เมืองไทย........

ทริปนี้เราไปกัน 6 คนค่ะ

พาหนะที่พาเราไปยังจังหวัด สุราษฎร์ธานีคือ รถไฟคะ ไม่ใช่รถไฟธรรมดาๆนะ เป็น "รถไฟฟรี"

จะไปแบบ Low Cost ทั้งที แบบนี้แหละเหมาะกับพวกเราที่สุด
รถไฟขบวนเร็วที่ 171 เรากำลังจะโดยสารไปนี้ ออกเวลาประมาณ 13.05 น. ถึง สุราษฎร์ประมาณ 00.30น. (เวลาของสถานี)
ส่วนเวลาจริงที่เราถึง จะเลท หรือ ไม่เลท ตามมาลุ้นกันคะ

...................................................................................................................................

ปล.รอบแต่ละวันจะไม่เหมือนกันนะคะ แนะนำว่าให้ตรวจสอบที่เว็บไซต์ของการรถไฟไทยเลยจะแน่นอนกว่า


พอได้รอบก็โทรสอบถามเจ้าหน้าที่เผื่อความแน่นอน

ในส่วนของรถไฟฟรี จะมีแค่ 1 รอบ / 1 วันเท่านั้น พลาดแล้วพลาดเลยนะ

ถ้าไม่อยากฟรี ก็แนะนำเป็นขบวนเร็วเหมือนกัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 257 บาท ก็ Low Cost ได้เหมือนกัน




:: PART 1 ::
การเดินทางในครั้งนี้เราเริ่มต้นกันที่ "หัวลำโพง" คะ

เรื่องอาหารการกินบนรถไฟ ทานให้อิ่มก่อนขึ้นรถไฟดีกว่านะคะ ถ้าหวังจะไปซื้อบนรถไฟ
ขอกระซิบบอกเลยว่า ค่าครองชีพบางสถานนี "สูงงงง"มากคะ
แต่มีสถานนีเดียวเท่านั้นที่ของขึ้นมาขาย ราคาย่อมเยา สมเหตุสมผล
คือ "สถานีราชบุรี" ข้าวกล่องอยู่ที่ราวๆประมาณ 20 บาท / กล่อง



และตอนนี้เราได้เดินทางมาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 02:05 am.
เลททททททททททททมา 1ชั่วโมง35นาที ชิวๆๆ T T

Part 1 : ค่าใช้จ่ายการเดินทางกทม.-สุราษฎร์ธานี
ค่ารถไปหัวลำโพง BTS+MRT 47+28
ค่าอาหารกลางวันเตรียมขึ้นรถไฟ 50
เจอของกินบนรถไฟอีก 20+20+20+20 = 80 บาท


คำถาม : ถึงสถานนีรถไฟตีสอง นอนไหนกัน...

คำตอบ : เราไปนอนบ้านเพื่อน คะ


ปล. สำหรับใครที่ไม่มีบ้านเพื่อนอยู่ในจังหวัดนั้น แนะนำนั่งรถไฟเร็วราคา 257 บาท
รอบเย็นๆ จะถึงสุราษฎร์ธานีตอนเช้าประมาณ 8 - 9 โมง คะ แล้วเดินทางต่อเข้าเขื่อนได้เลย




:: PART 2 ::
สถานีรถไฟจังหวัดสุราษธานี - เขื่อนรัชชประภา

จากสถานีรถไฟไปเขื่อนรัชชประภา มี 2 ทางคะ

1.รถทัวร์ที่เขียนว่าไปภูเก็ต สามารถขึ้นได้ที่หน้าสถานนีรถไฟเลยคะ โดยรถทัวร์จะจอดให้ลงหน้าเขื่อน หรือปากทางเข้า ซึ่งต้องหารถต่อไปยังท่าเรือเอง

2.ขึ้นรถ สองแถว หน้าสถานนีรถไฟ ราคาประมาณ 20 บาท/คน ไปลงตลาดเกษตร แล้วขึ้นรถตู้ที่เขียนว่า "เขื่อนเชี่ยวหลาน" ราคา 200 บาท/คน ถึงท่าเรือเลยคะ แต่ให้ชัวร์ ถามก่อนขึ้นนะคะ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้

พวกเรา LowCost เลือกอย่างที่ 2 คะ ทีเดียวจบ หน้าเสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เพราะเร่งรีบ กลัวหลงกันมากคะ

หลังจากที่เรามาถึงท่าเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พี่คนเรือเค้าจะมารอเราอยู่ตรงท่าเรือนี้คะ


สำหรับการติดต่อกับคนเรือนั้น ต่างคนต่างมีเบอร์ของกันและกันอยู่แล้ว

พี่เค้าก็จะโทรถามว่าเราจะมาถึงท่าเรือตอนกี่โมง แล้วเรือพี่เค้าจอดอยู่ตรงไหน ไม่มีไรต้องหน้ากังวลเลยคะ


Part 2 : ค่าใช้จ่ายจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี - เขื่อนรัชชประภา
รถสองแถว = 20 บาท / คน
รถตู้ = 200 บาท / คน
ค่าเรือ = 2,000 บาท / ลำ หาร 6 คน (คนละ 333 บาท)


:: PART 3 ::
แพนางไพร
ช่วงเวลาสำคัญ แห่งการเดินทางเข้าที่พัก

พี่คนเรือคนนี้เองที่จะพาพวกเราไปถึงยังจุดหมายปลายทาง "แพนางไพร"
แอบกระซิบอีกรอบว่า ที่พักของเรานั้น มองเห็น เขาสามเก้อ หรือที่ขนานนามกันว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ด้วยนะเอ่ออ
อย่ารอช้า ตามไปดูกันเล้ยยย


วิวสวยๆ ข้างทาง

มุมนี้ได้โปรไฟล์กันไปคนละรูป ช่วงไหนชอบใจวิวบอกพี่คนเรือให้หยุดเซลฟี่ได้เลยจร้าา


แพนางไพรเป็น 1 ใน 3 ที่พักของทางอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งอยู่ในการดูแลของอุทยานเอง

ราคาที่พักของแพนางไพรมีสองราคาคะ

ราคา 300 บาท/คน จะไม่รวมค่าอาหาร | ราคา 800 บาท/คน รวมค่าอาหาร 3 มื้อ

แนะนำว่าให้ไปถึงที่พักก่อนเที่ยงหรือช่วงเที่ยงๆ ก็ดีคะ เพราะอาหารมื้อแรกคือ ตอนเที่ยง ตั้งแต่เราไปถึงที่พักเลย

พวกเราจองห้องพักราคา 800/คน นั้นคือรวมอาหารทั้งหมด 3 มื้อ



และเวลาที่พวกเรารอคอยก็ได้มาถึง ซึ่งตอนนี้เราทุกคนเดินทางมาถึงแพที่พักกันอย่างปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

ขอตัวไปเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ว่าแต่ห้องพักเป็นยังไงกันนะ ลองตามมาชมพร้อมๆกันเลยคะ


วิวหน้าห้องพัก ที่โอบล้อมไปด้วย ขุนเขา สายน้ำ แสงแดด สดชื่อจางงงงงงงงงง ^^

หลังจากที่เราเก็บสัมภาระกันเรียบร้อยแล้ว


ถึงเวลาไปเติมพลัง กับอาหารมื้อแรกของพวกเรากันดีกว่า ลุยยยย!!

อาหารมื้อแรกของเรา หน้าตาเป็นแบบนี้คะ เป็นอาหารบุฟเฟต์ สามารถเติมได้ไม่อั้น (แค่บางอย่างเท่านั้นนะ)

เรื่องของรสชาติ อร่อยมากคะ รสไม่จัด ไม่เผ็ด มากจนเกินไป รสชาติกลางๆ ใช้ได้เลยทีเดียวคะ อร่อยยกนิ้ว

หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อย
ที่พักมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างคะ ไม่ว่าจะเป็นพายคายัก รวมถึงว่ายน้ำชิวๆ หน้าห้องพักแบบส่วนตัว
แหวกว่ายไปพร้อมกับเหล่าบรรดาฝูงปลาทั้งหลาย


ที่พักแพรนางไพรเป็นที่เดียวในเขื่อนรัชชประภาที่มีปลาเยอะที่สุด

เพราะบริเวณที่พักเป็น "วังปลา" หรือเรียกได้ว่า มีปลาเยอะที่สุดนั้นเองคะ มีให้อาหารน้องปลาด้วยนะเอ่อออ


สำหรับค่าบริการพายเรือคายักนั้น ไม่เสียค่าใช้บริการคะ ซึ่งห้องนึงจะมีเรือจอดอยู่ห้องละ 1 ลำ

แต่มีข้อแม้ว่า ต้องใช้เงินมัดจำค่าไม้พายราคา 500 บาท/1ไม้

ซึ่งสามารถรับคืนได้หลังใช้บริการเสร็จคะ

ที่ทางแพนางไพรต้องมีค่ามัดจำก็เพราะว่า นักท่องเที่ยวหลายท่าน ที่นำไม้พายไปแล้วไม่คืน

ไม่รักษา บ้างก็ทำตกน้ำ จนทางแพรับผิดชอบไม่ไหว

หลังจากที่เราพายเรือ ว่ายน้ำกันได้สักพัก ถึงเวลาที่เราจะไปชมเขาสามเก้อ ก้อนเขาเล็กๆ 3 ลูก ที่มีขนาดเท่าๆกัน

สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ สวยงามจนได้รับการขนานนามว่า "กุ้ยหลิน" อย่างประเทศจีนที่ธรรมชาติสวยงามติดอันดับต้นของโลกหลังจากนั้นเราจะต่อด้วยการไปชมพระอาทิตย์ตกดินด้านหลังที่พัก จะสวยงามขนาดไหนนั้น คงต้องไปเห็นด้วยตาของตัวเองแล้วละคะ

และที่จะเห็นต่อไปนี้ นั้นคือ "เขาสามเกลอ"

เขา 3 ลูก ที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกัน อยู่ข้างหน้านี้เอง


นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกเขื่อน
นั่งเรือออกมาไม่นานจากกุ้ยหลิน (เขาสามเกลอ) แสงสีครามก็เริ่มค่อยๆ ยอแสงเปลี่ยนสีกลายเป็น "แสงสีทอง" อร่ามทั่วท้องฟ้า สายน้ำและภูเขาก็พากันเปลี่ยนสีตามท้องนภา จะสวยงามแค่ไหนขอใช้ภาพบรรยายต่อนะจ๊ะ

มุมหัวเรือย้อนแสงเท่ๆ


มากับแฟนก็โรแมนติกไม่เบา (เอ๊ะ?)


หลังจากเสร็จกิจกรรมต่างๆ ก็ถึงเวลาเข้าแพไปพักผ่อน กินอาหารเย็น นั่งชิลกับอากาศเย็นๆ

พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ กันหน้าห้องพัก

สำหรับแพนางไพร ก็มีของกินขายกันหลากหลาย ทั้งมาม่า ขนมกรุบกรอบ น้ำอัดลม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าข้างนอกพอสมควร

สำหรับใครที่ซื้อกันไปเองจากข้างนอก ทางแพก็อนุญาติแต่ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดไม่ทิ้งขยะลงน้ำ

กินแล้วเก็บให้เรียบร้อย ไม่ทิ้งปัญหาให้กับธรรมชาติกันนะคะ

ปล. เนื่องจากเขื่อนปั่นไฟใช้ ไฟจะดับเวลา เที่ยงคืน ห้องพักจะไม่มีปลั๊กไฟ ชาจได้ที่ส่วนกลาง อย่าลืม "ปลั๊กสามตา"

และห้ามนำ " ไดร์เป่าผม" ไปเสียบใช้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น คุณจะได้ประสบการณ์แบบใหม่ ทำไฟดับทั้งแพ..

(พวกเราได้ทำมาแล้ว) บั๊ยยยย ก็เก๊าไม่รู้ ขอโทษน้าาาา



สำหรับใครที่สนใจจะไปพักที่แพนางไพร โทรสอบถามก่อนนะคะ

Tel. 081 3657423

ระวังเว็บไซต์ขายทัวร์ต่างๆด้วยน้า ราคานิแพงกว่าติดต่อกับทางแพโดยตรงไปอี๊กกกกกก



ตอนนี้ก็ขอไปนอนดูดาว หน้าห้องพัก กับบรรยากาศ Slow life ก่อนนะคะ

เฮ้อ !! สัญญาณก็ไม่มี ที่มีก็แค่ AIS แต่บางทีการที่ไม่มีสัญญาณมันก็ดีอีกแบบนะ

มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง ได้พักผ่อนจริงๆ


สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้ (2 วัน 1 คืน)


พวกเรา LowCost Thailand มีรายการมาฝากทุกคนกันด้วยนะจ๊ะ

ภาพบรรยากาศ ความสนุก อรรถรสอยู่ในคลิปนี้เลย ตามไปดูกัน

LowCost Thailand - กุ้ยหลินเมืองไทย (เขื่อนเชี่ยวหลาน)





Contact us :

Facebook : https://www.facebook.com/239miles.LOWCOST

YouTube : https://www.youtube.com/c/239MilesStudioTh



Bon Voyage

 วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.58 น.

ความคิดเห็น