สวัสดีทุกคน วันเสาร์วนมาถึงอีกแล้ว 555

แต่คราวนี้เราไม่ได้จะพาไปกางเต็นท์ที่ไหนนะ แต่เราจะพาไปเช็คอินแลนด์มาร์คสวยๆ ใกล้ๆ กรุงเทพ

ไปเดินเล่นชมวิวบนเขาที่นครนายก และก็พาไปดูหิ่งห้อยวิบวับที่ปราจีนบุรี


FOLLOW ME

Facebook page : Once-a-month
Instagram:
onceamonth.travel
YouTube : Once-a-month


รอบนี้มีเวลาแค่วันเสาร์ไปไหนไกลๆ ไม่ได้ พอดีเพื่อนในกลุ่มถ่ายรูปชวนกันไปเขาหล่นเลยตกลงทันที เพราะเคยเห็นผ่านๆ ว่าข้างบนวิวดีมาก ก็เลยเป็นที่มาของ One day trip ในครั้งนี้

เราอออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 8 โมง ว่าจะแวะไปกินบะหมี่โหน่งที่นครนายกก่อน ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือนะต้องไปกลับรถมาก่อน หน้าร้านจะมีชิงช้าสวรรค์ตั้งอยู่

เข้ามาในร้านก็จะมีพี่เค้ายื่นใบเมนูอาหารต่างๆ มาให้แล้วก็ให้เราไปหาโต๊ะนั่ง เขียนสั่งอาหาร เขียนเลขโต๊ะ เสร็จแล้วก็เอาใบไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ แปปเดียวอาหารก็มาเสิร์ฟตอนแรกคิดว่าจะนานเพราะคนเยอะมาก ที่ร้านไม่ได้มีแค่บะหมี่นะ ยังมีเมนูข้าวด้วย

อิ่มจากบะหมี่แล้วเราก็ไปต่อกันด้วยกาแฟ พอดีเพื่อนอีกคู่ยังมาไม่ถึง ไปนั่งรอชิวๆ ที่ร้านดีกว่า เป็นร้านที่พวกเราชอบไป บรรยากาศดี กาแฟ เค้กอร่อย เดี๋ยวนี้เค้ามีอาหารคาวด้วยนะ ร้านนี้ชื่อว่า ravin home cafe

เรานั่งอยู่ในร้านสักพักใหญ่ๆ เลย เพื่อรอเวลาไปที่จุดแลนด์มาร์คของเรา วันที่เราไปถือว่าอากาศดี เมฆเยอะ มีฝนปรอยๆ บ้าง แต่ก็ไม่มาก หลังจากออกจากร้านกาแฟเราก็เดินทางไปที่เขาหล่น

ถึงแล้วก็จอดรถไว้ด้านหน้าได้เลย ส่วนทางเดินขึ้นไปชมวิวจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นสะพานไม้ไผ่แต่ก็มีโครงเหล็กดูแข็งแรง แต่ก็เดินระวังด้วยล่ะ

เดินไปจนสุดสะพานไม้ไผ่ตรงจุดนี้ก็สามารถชมวิวได้ แต่เราเห็นว่ามีทางเดินขึ้นไปต่อ หยุดถ่ายรูปให้หายเหนื่อยแล้วค่อยเดินขึ้นไปด้านบนกันต่อเลย

แต่อย่างที่บอกว่าสุดสะพานตรงนี้ทางต่อไปก็เลยเป็นทางดิน หินที่เราต้องเดินต่อ เดินระวังกันด้วยนะ


เดินขึ้นมาแปปเดียวก็ถึงแล้ว จะบอกว่าวิวข้างบนสวยมาก ข้างบนมีศาลาไว้ให้นั่งพัก เดี๋ยวเราพาไปดูบรรยากาศข้างบนกันเต็มๆ เลยดีกว่า

มองจากตรงนี้ไกลๆ นั่นคือเขื่อนขุนด่านฯ ใกล้ๆด้านล่างตรงทุ่งนาเป็นร้านกาแฟทุ่งนามุ้ย

เราอยู่ถ่ายรูปกันพักใหญ่เลย ดีที่อากาศไม่ร้อนมากเลยอยู่ได้นาน อ้ออย่าลืมพกน้ำมาดื่มด้วยนะเพราะข้างบนไม่มีขายนะ

เราเอาโดรนบินไปเก็บภาพมุมสูงมาให้ดูด้วยนะ

และในระหว่างที่พวกเรากำลังจะเดินลงก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์กำลังขี่ขึ้นมา เลยรีบวิ่งไปเก็บภาพสักหน่อย ขี่ขึ้นมากัน 2 คัน พอเห็นใกล้ๆ เอ้ามีผู้หญิงด้วยเก่งมากอ่า

แล้วก็พูดคุยทักทายกัน หลังจากนั้นก็เดินลงไปที่รถ เวลาก็เกือบๆ จะ 5 โมงแล้ว ก่อนที่เราจะย้ายไปที่ต่อไปเราไปแวะหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า ที่ต่อไปเราจะไปดูหิ่งห้อยที่ค่ายพรหมโยธี ปราจีนบุรี อยู่ห่างจากเขาหล่นไม่มาก และร้านข้าวที่เราจะไปก็อยู่ระหว่างทางพอดี ชื่อร้าน ศรีสุนีย์ เราเคยมากินครั้งก่อนแล้วอาหารอร่อยเลยแนะนำให้เพื่อนๆ ได้กินกัน

ของคาวอิ่มแล้วก็ต่อกันด้วยของหวานเลย ที่นี่มีเมนูลอยแก้วหลากหลายมาก ที่เราสั่งมากินคือมะกรูดลอยแก้ว ครั้งแรกที่ได้ยินคือคิดในใจว่ามันจะกินได้หรอ อร่อยหรอ แต่พอได้ลองสั่งมากินก็อร่อยเลย และที่ร้านยังมีของฝากต่างๆ มากมาย สามารถเลือกซื้อไปฝากเพื่อนๆ ได้เลย

เราออกเดินทางกันต่อดีกว่าเริ่มจะมืดแล้ว ออกจากร้านเดินทางต่อไปอีกไม่ไกลมาก แต่ฝนเจ้ากรรมดันลงเม็ดมาซะอย่างนั้น ดีที่ยังแค่ปรอยๆ ไม่หนัก

พอถึงที่ค่ายทหารก็เลี้ยวเข้า แล้วเจ้าหน้าที่จะบอกทางเพื่อเข้าไปดูหิ่งห้อยด้านใน ขับรถเข้าไปไม่ไกลมากก็ถึงที่จอดรถ เราต้องจอดรถไว้แล้วเดินเข้าไปด้านใน ตรงนี้ใครหิวเค้าก็มีของกินเล่นไว้ซื้อรองท้องกันด้วยนะ พอเข้าไปข้างในก็เริ่มเห็นแสงหิ่งห้อย ยิ่งเข้าไปใกล้ๆ ก็ยิ่งสวย แสงวิบวับเยอะมาก ไม่รอช้าหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเลย ไปดูทั้งหมดเลยแล้วกัน


ยิ่งดึกหิ่งห้อยเริ่มน้อยลง เราอยู่กันจน 2 ทุ่มกว่า เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก็เป็นอันจบ one day trip ของพวกเราครั้งนี้ แล้วครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกรอติดตามกันได้เลย แอบบอกหน่อยว่าจะพาไปล่าทะเลหมอก จะเป็นที่ไหนลองเดากันไปก่อนนะ ราตรีสวัสดิ zzz


🔴 แต่ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่มาชมหิ่งห้อย

- ห้ามฉายไฟฉาย หรือเปิดแฟลชขณะถ่ายรูป

- ไม่ควรทายากันยุง หรือฉีดน้ำหอมต่างๆ เพราะอาจจะทำให้ปริมาณของหิ่งห้อยลดลง

- เดินชมในบริเวณที่เปิดให้ชมเท่านั้น

📞สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 037-570030 จะมีพี่ๆ ทหารคอยบริการข้อมูลอยู่

ความคิดเห็น