"คีรีวง" ชื่อของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่โอบล้อมไปด้วยอ้อมกอดของขุนเขาและสายน้ำ ตั้งอยู่ที่ ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีชื่อเดิมว่า "บ้านขุนน้ำ" เพราะว่าตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำของเขาหลววง เป็นหมู่บ้านที่มีวีถีชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมชาติที่เงียบสงบ อาชีพหลักของชาวบ้าน คือ ทำสวนผลไม้ ถ้าหากมาเที่ยวช่วงหน้าผลไม้ ประมาณช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน จะได้ชิมผลไม้หลากหลายสายพันธุ์ เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ เป็นต้น เสียดายที่มาก่อนฤดูผลไม้ เลยอดกิน อ้อ ! ลืมบอก ที่นี่เค้าขึ้นชื่อว่าเป็น "หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย" เชียวนะ จะจริงมั้ยลองไปพิสูจน์กันดู

การเดินทาง : ทริปนี้จองตั๋วเครื่องบินไว้นานมากแล้ว จำราคาไม่ได้จริงๆ ที่จำได้คือ มันไม่แพง จองช่วงตั๋วโปรพอดี พอถึงสนามบินนครศรีฯ ก็ไปติดต่อ รับรถเช่าที่จองไว้อีกที ปกติไปเที่ยวไหน ไม่เคยเช่ารถยนต์เลย นี่ครั้งแรก เจอโปรถูก แถมผ่อนได้อีกด้วย ราคารับได้ ไม่แพงมาก จากตัวเมืองฯ ไปอำเภอลานสกา ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงละ มันใกล้ๆ ไม่ไกลมาก ถนนหนทางก็ดี ไม่ลำบาก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถ จะมีรถสองแถว สายนครศรีฯ - คีรีวง ขึ้นที่ตัวเมืองนั่นแหละ ส่งถึงหมู่บ้านเลย

ก่อนถึงหมู่บ้านแวะกินขนมจีนเจ้าดัง ชื่อ ร้านขนมจีนป้าเขียว เซ็ตนึงมีน้ำยา 4 แบบ อะไรบ้างก็เรียกไม่ถูก รู้อย่างเดียวว่า ไตปลา ผักก็ให้มาแบบเย๊อะเยอะ กินเป็นแค่ไม่กี่อย่าง ขนมจีนอีกครึ่งโล นึกว่าจะกินไม่หมดซะแล้ว สุดท้ายหมดจนได้ รสชาติถือว่าอร่อยดี ราคาโอเค เซ็ตในรูป ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 130 บาทมั้ง มีสั่งทอดมันกุ้งมาด้วย 1 จาน แต่ทอดมันกุ้งที่นี่มันไม่เหมือนที่ กทม. บ้านเรา มันเหมือน กุ้งกับผักอะไรซักอย่างชุบแป้งทอด แต่ก็อร่อยดี

หลังจากอิ่มหนำสำราญกับขนมจีนป้าเขียวแล้ว ขับรถต่อมาอีกนิดก็ถึงจุดปลายทางของเราแล้ว

กิจกรรมหลักๆ ที่น่าสนใจ : ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ ก็จะมี พาครอบครัวมาพักผ่อน , พาเด็กๆ มาเล่นน้ำ , ปั่นจักรยานชมวิว , ถ่ายรูปเช็คอินอวดลงโซเชี่ยล , จิบกาแฟ กินข้าว ตามร้านริมน้ำ ซื้อของฝาก ตามร้านค้า OTOP ของชุมชน เป็นต้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ตั้งใจมาทำ คือ การได้มานอนโฮมสเตย์ พร้อมกับชิมอาหารพื้นบ้าน จึงได้ทำการหาที่พักที่ตรงกับความต้องการของเรา แล้วเราก็ค้นพบ "สวนเปี่ยมสุข" ที่พักแนวโฮมสเตย์ในสวน อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลขึ้นไปบนเขา ทางไปน้ำวังไม้ปัก โดยถ้าขับรถมา ให้โทรบอกเจ้าของ แล้วเค้าจะพาไปจอดที่บ้านของคุณลุงคุณป้า แล้วนั่งมอเตอร์ไซต์ขึ้นเขาไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงสวน ในส่วนของที่นอน เราเลือกแบบ เต็นท์โดมริมน้ำ ราคา 990 บาท พร้อมอาหารเช้า แนะนำให้จองมื้อเย็นอาหารพื้นบ้านไว้ด้วยเลย จ่ายเพิ่มหัวละ 100 บาท

หลังจากเก็บของเข้าเต็นท์ เล่นน้ำ นอนแช่น้ำ จนชื่นใจแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็น เป็นอาหารพื้นบ้านง่ายๆ ได้ว่า อร่อยเหาะเลยทีเดียว

ที่นี่ค่อยข้างเงียบสงบมาก เพระอยู่ในบนเขา เหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนจริงๆ นอนฟังเสียงธรรมชาติ เสียงน้ำไหล เสียงป่า เสียงแมลง ถึงจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอะไรเลย แต่รู้สึกว่าแค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว ใครติดหรูติดสบาย ข้ามไปได้เลย ไฟฟ้าที่นี่ปั่นใช้ ถ้าชั่วกลางคืน เสียบชาร์ทโทรศัพท์มันจะไปดึงกำลังไฟ ไฟตามทางเดินมันจะตก ใครไปก็เอาพาวแบงค์ไปเผื่อด้วยละกัน อุปกรณ์อาบน้ำก็เตรียมไปให้พร้อม

ตัดภาพมาตอนเช้าเลยละกัน มื้อเช้าเป็นไข่กระทะ กับกาแฟดริปเก๋ๆ ใครไม่กินกาแฟ ก็มีชา โอวัลติน ด้วย

ป้าพัชมาให้อาหารปลา เลยได้พูดคุยกัน เล่าว่า แกเป็นครู หลังจากเกษียณ ลูกอยากให้มาทำโฮมสเตย์ ก็เลยมาทำที่สวนแห่งนี้ ซึ่งเป็นสวนของครอบครัว แกบอกว่าอยู่ที่นี่ แกมีความสุขมาก

ถึงเวลาต้องกลับแล้ว ต้องขอบคุณลุงคุณป้าที่ดูแลดีมากๆ ใจดีน่ารักมาก ครั้งหน้าสัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอน สวนเปี่ยมสุข ความสุขที่อยู่ในสวน

เป็นไงมั่งกับทริปนี้ หวังว่าคงจะชอบ ทริปสั้นๆ เน้นพักผ่อน นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาคีรีวง และคงมีครั้งต่อไปอีกแน่นอน หลายคนเคยมา บ้างก็ชอบ บ้างก็บอกไม่ค่อยประทับใจ อาจเป็นเพราะผมมาวันธรรมดารึป่าว คนน้อย ไม่วุ่นวาย เงียบสงบ เลยทำให้การมาที่นี่ทั้ง 2 ครั้ง ผมก็ประทับใจทั้ง 2 ครั้ง

ก่อนจากกัน ขอฝากเพจท่องเที่ยวเล็กๆ ของผมหน่อยละกันครับ ไปติดตามกันด้วยล่ะ ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจนี้เลย get a way จิ้มเลยๆ ขอบคุณครับ