เขาหลวงสุโขทัย เขาที่ขึ้นชื่อเรื่องของ ความชัน ความโหด รออยู่ตรงหน้าให้เราได้ไปพิสูจน์ เขาที่มีความสูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ระยะทางขึ้นเขาที่วัดได้จริง 5.1 กิโลเมตร เป็นเขาที่มีความฮิตรองลงมาจากภูกระดึง และภูสอยดาว และเขาหลวงสุโขทัยยังขึ้นชื่อในเรื่องของทะเลหมอกที่มีแทบทุกวัน เรามาลุ้นกันว่าครั้งนี้เราจะไปล่าทะเลหมอกเขาหลวงได้สำเร็จหรือไม่

ข้อควรรู้เกี่ยวกับเขาหลวงสุโขทัย

- เขาหลวงสุโขทัย เปิดให้เที่ยวตลอดทั้งปี ไม่ต้องจอง

- ด้านบนมี อุปกรณ์ทุกอย่างให้เช่า ติดต่อสอบถามที่ศูนย์บริการ

- มีน้ำสะอาดตลอดเส้นทาง ด้านบนมีห้องน้ำบริการ สามารถอาบน้ำได้

- ลูกหาบ ราคากิโลละ 25 บาท (ถูกมาก) (ลูกหาบน้อยมากต้องรีบไปจอง)

การเดินทาง

รถยนต์ จาก กรุงเทพฯ - สุโขทัย 8 คน

ออกจาก กทมตอน 3 ทุ่มกว่าๆ ถึงอช.ตอน ตี 2.15 นาที

ที่นี่ลูกหาบมีจำกัดมากๆๆๆๆ ควรมาจองแต่เช้า แต่ในความพีคนั้นเรามาถึงตี 3 แล้วนอนที่อุทยาน ตื่น 6 โมงครึ่ง ลูกหาบหมด และนั่นเราต้องช่วยกันแบ่งของกองกลางบางส่วนกัน พระเจ้า!!!!!! และระบบการจัดการลูกหาบคือไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือเค้าจะให้เราเอาของมากองๆไว้ที่พื้นเลย แล้วลูกหาบจะมัดของๆเราไปกับกลุ่มอื่นๆ แล้วแบกขึ้นไปจากนั้นก็ไปชั่งน้ำหนักด้านบน เพื่อนควรทำสัญลักษณ์ของตัวเองไว้เพราะของๆเรา 1 กลุ่มจะกระจายไปกับลูกหาบหลายคน - -


มาถึงก็ทำการลงทะเบียน จ่ายค่าธรรมเนียมค้างแรม 30 บาท ต่อคน มีมัดจำขยะอีก 200 บาท ถ้านำขยะลงมาจะได้คืนเต็มจำนวน

เริ่มเดินตอน 8.30 น. ภาพแรกก็จะสดใสประมาณนี้แหละ ^ ^

ทางราบ 300 เมตร ที่เหลือ ขึ้นเนินรัวๆ ขาสั่นสะท้าน


บางช่วงเป็นเหมือนบันได มีราวช่วยจับเป็นระยะๆ

แวะทุกจุดพักเลยจ้าาาาาาาา

ตรงนี้เป็นจุดพักครึ่งทาง จะมีที่นั่งแบบสแตนเชยร์ อย่างเหมือนอ่ะ

ในความเหนื่อยล้านั้น ทำให้ต่างคนต่างหมดแรงจะคุยกัน....เราแวะทุกจุดพัก เติมน้ำทุกระยะ

ตรงนี้เป็นจุดกรอกน้ำสุดท้ายแล้วก่อนถึงยอด

ตอนนี้เลยมาครึ่งทางแล้ว....ยังไม่มีวี่แววจะมีทางราบๆเลย โอ้ยยยยย เขาหลวงชันจริงๆ

วังเวงชอบกล..ตรงนี้เป็นจุดไทรงาม เป็นต้นไม้ ไม่ผลัดใบ สูง 30 เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง แตกกิ่งก้านต่ำ โคนต้นเป็นพูนพอน มีรากอากาศทุกส่วนของลำต้นมีน้ำยางสีขาว เปลือกนอกเรียบ สีเทาดำ

รูปน้อยเพราะเหนื่อยจนไม่มีแรงอยากจะเอากล้องออกมาถ่ายอะไรเลย....อากาศก็ร้อนมากๆๆๆๆๆ

แฉะไปทั้งตัว...เสื้อผ้าที่ใส่มาควรเป็นเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อดีดีนะ บอกไว้เลย

ถึงแล้วจริงๆหรอเนี่ย 4 ชม. แห่งความทรมารใจที่ลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะถึง...

หาทำเลแล้วกางเต้นท์เลยจ้า อันนี้หมู่บ้านของเราเอง

เมนูอาหารเย็นของเรา

- กระเพาไข่เยี่ยวม้าหมูสับวุ้นเส้น -ต้มยำไก่ -ไข่เจียวหมูสับ - เฟรนฟรายทอด

ตอนเย็นก็ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ก็เดินไปจุดชมวิวเจดีย์ 320 เมตร อากาศวันนี้ค่อนค้างฟ้าปิด แต่ได้ปะทะหมอกหนาๆ ก็ฟินใช่ย่อยนะยู

ฟ้ามึดแล้ว กลับแคมป์กันเถอะ อากาศเย็นสบาย....ตั้งวงเม้ามอย หุงข้าวเย็นไว้ทำข้าวผัดสำหรับพรุ่งนี้

เช้าวันใหม่...ฝนตกตั้งแต่ตี4 ตี5 ทำให้เราไม่ตื่นไปดูพระอาทิตย์ นอนลากยาวไปยัน 7 โมงเช้า กินข้าวกันก่อน

เมนูเช้านี้ มี ไข่ดาวคนละฟอง ข้าวผัด ใส้กรอก หมูสามชั้นทอด(จากเต้นท์ข้างๆ)


พลังงานเยอะแล้วก็เดินไปจุดชมวิวผานาราย ไปช้าอ่ะทะเลหมอกปลิวไปแล้วถ้าใครไปวันนี้ช่วง 7 โมง ทะเลหมอกปังมาก



สิ้นสุดการเดินทางเขาหลวงสุโขทัยขาลงทำเวลาไป 1.40ชม.


เขานี้ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร เราว่าไม่เหมาะกับใครเลยเพราะนอนอยู่บ้านนั้นสบายกว่าเยอะจริงๆ

ถ้าถามว่ามือใหม่มาได้มั้ย? ..ตอบเลยว่าได้.. แต่แนะนำไปเขาอื่นก่อนดีกว่า ที่นี่ไม่ใช่เขาอนุบาลอย่างที่ใครๆพูด เพราะทางมันชันมากจริงๆ ใครเข่าไม่ดีไม่แนะนำเลย ขาลงเอาเรื่องอยู่นะ #หนีไป

สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้

ทั้งหมด 10 คน เจอปลายทาง 3 คน

1. ค่าน้ำมัน ไป-กลับ 3000/7คน (ไม่หารคนขับ) = 428 บาท

2. ค่าอาหาร 3 มื้อ *มื้อกลางวันบนเขา *มื้อเย็น * มื้อเช้าก่อนลงเขา 1,267/9 = 140 บาท

3. ค่าลูกหาบ 865/9 = 96 บาท

4. ค่าเข้าอุทยาน + ค่ากางเต้นท์ 680/10 = 68 บาท

5. ขนม +โค้ก + แก้สเพิ่ม (ซื้อบนอุทยาน) 330 /10 = 33 บาท

รวม 765 บาท ต่อคน


ขอขอบคุณภาพสวยจาก

ช่างภาพนิว = โทร 0887800196 / line nucle4r / Facebook : Chatchawarn Kairum

#โสด

เพจสวัสดีคนหนีเที่ยว

เพจเสพติดเขา

พี่วิท และน้องๆในทริปทุกคน









ความคิดเห็น