สะบายดี

ทริปนี้เที่ยว 3 วัน 2 คืน สโลว์ไลฟ์ที่หลวงพระบาง

หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก เเละติดอันดับเมืองเเห่งวิถีสโลว์ไลฟ์ ด้วยรูปเเบบของเมืองที่เล็กกระทัดรัด โอบล้อมด้วยธรรมชาติของหุบเขา กลิ่นอายของการอนุรักษ์วัฒนธรรมของคนพื้นถิ่น รวมถึงความเสน่ห์เมืองเก่า ที่มีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์โคโรเนียลตลอดทางเรียงรายให้เห็น จึงทำให้วันนี้เราเลือกที่นี่เป็นจุด check in


จุดหมายที่ไป

1.วัดเชียงทอง

2.สะพานไม้ไผ่ข้ามเเม่น้ำคาน

3.คาเฟ่ชิคๆ

4.น้ำตกตาดกวางสี

5.พระธาตุพูสี

6.ตลาดมืดหลวงพระบาง

7.พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง)


วันเดินทาง : 20 กันยายน - 22 กันยายน 2561

สายการบิน : Air Asia (ราคารวมไปกลับ 2,400 บาท)

ที่พัก : Cafe de lao (ราคาคืนละ 1,065 บาท)

Sim : ซื้อจากสนามบิน 120 บาท เล่นเน็ตได้ 7 วัน


ll DAY 1 ll

เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาติหลวงพระบาง ซึ่งเที่ยวบินของเราเป็นช่วงบ่าย

เขียนใบเข้าเมืองด้วย

เราหิวเเละสั่งล่วงหน้ามาเเล้ว ใน www.airasia.com


การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เรามองเห็นวิวทิวทัศน์ที่เขียวขจี ทำให้รู้เเล้วว่า เรากำลังจะถึงหลวงพระบาง

ถึงสนามบินเเล้วจ้า ต่อจากนี้ก็เช่ารถจากสนามบินไปส่งที่โรงเเรม โดยราคาคนละเกือบ 200 บาท

ถึงโรงเเรมเเล้ว Cafe de lao โรงเเรมสะอาด พนักงานบริการดี เงียบ มีความ Private


เราจัดเเจงเก็บของเเละพักซักหน่อย เเล้วค่อยออกไปเดินเล่น


จุดเเรกที่เราเดินไปคือ มินิโซ เรามองเห็นตั้งเเต่นั่งรถเข้าโรงเเรม เเปลกใจ เฮ้ย! มีมินิโซด้วย เราชอบตรงที่มีตัวเขียน มินิโซ เป็นฟอนต์ของลาว เห็นเเล้วมันน่ารัก เดินเข้าไปเช็คราคาของนิดนึงถูกหรือเเพงกว่าไทย อิอิ สรุปคือราคาพอกัน

หลังจากนั้นเดินชมนก ชมไม้

พอมืดค่ำก็เดินเข้าซอยเล็กๆ เเถวตลาดมืด เพื่อดินเนอร์ อาหารหลากหลายนะ มีข้าวเเกง ร้านส้มตำ ขนมปัง เกี๊ยวซ่า อะไรเเบบนี้

จัด อะโวคาโด ปั่น เข้มข้นจริงๆ

เเต่ที่เห็นเเล้วมันน้ำลายใหลก็นี่เเหละค่ะ ตำบังหุง บอกเลยคือดี รสชาตินัวถึงใจ มันเข้ากันบอกไม่ถูก เรากินส้มตำมาเยอะ ถึงกลับพ่ายเเพ้ให้กับที่นี่

ขอลองหน่อยยยยยยย

ค่าเสียหายมื้อนี้ 60,000 กีบ


ll DAY 2 ll

ตื่นตั้งเเต่ ตี 5 เพื่อไปรอใส่บาตรข้าวเหนียว

ใส่บาตรเสร็จ เเล้วเดินไปวัดเชียงทอง ซึ่งใกล้โรงเเรมมาก


1.วัดเชียงทอง

วัดนี้ไม่ควรพลาด ซึ่งเป็นวัดที่มีอุโบสถตามแบบสถาปัตยกรรมหลวงพระบางแท้ หลังคาของอุโบสถมีลักษณะแอ่นโค้งลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น ด้านบนประดับด้วยช่อฟ้ามากถึง 17 ยอด


ความสวยงามอีกอย่างที่เราเห็นคือ ลวดลายประดับตามฝาผนัง ที่เล่าเรื่องพุทธศาสนาและวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง เเละมุมภาพงานจิตรกรรม มีหน้าต่างที่ให้เรายืนโผล่ออกมา จะทำท่ายิ้ม หรือท่าทีเผลอ ก็ดูสวยกลมกลืนไปกับงานศิลปะ ใครมาหลวงพระบางไม่ถ่ายรูปตรงนี้ ถือว่า เอาท์มากๆ


2.สะพานไม้ไผ่ข้ามเเม่น้ำคาน

พอมาถึงเดินหาสะพาน อ้าวไม่มีสะพานคิดว่ามาผิดที่ เลยถามคนเเถวนั้น เค้าบอกว่า สะพานพัง รอสร้างใหม่ โธ่...เสียดาย เลยได้เเต่ยืนดูเเม่น้ำคานตาปริบๆ


หลังจากผิดหวังกับสะพานไม้ไผ่ เราไม่เสียเวลารีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เเล้วไปหาร้านคาเฟ่นั่งต่อ...

ระหว่างเดินหาคาเฟ่ เราก็เห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่

งานป้ายก็มา...

พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง) เราเเค่ถ่ายรูปข้างนอก ไม่ได้เข้าไปดู


3.คาเฟ่ชิคๆ (ร้าน JOMA BAKERY CAFE)

ร้านกาเเฟชื่อดังเเห่งหลวงพระบาง บรรยากาศหอมอบอวนไปด้วยกลิ่นกาเเฟ เเละเบเกอรี่ เเถมตัวร้านก็ตั้งอยู่ในอาคารเก่า จึงได้อารมณ์ของสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนสมัยเก่าอีกด้วย ร้านเปิดทุกวันนะ ตั้งเเต่เวลา 7.00 - 21.00 น.


สั่งหน่อยจ้า




นั่งชิลไปสักพักเเล้ว เราได้เวลาเดินทางไปน้ำตกตาดกวางสี

อ้าว!! เรื่องรถหน่อย ซึ่งรถที่จะขึ้นไปน้ำตกมีทั้งรถสามล้อเครื่อง เเละรถตู้ เลือกความสะดวกได้ตามสบาย โดยไม่ต้องเดินหาให้ยาก เพราะมีจอดเรียงรายตลอดทาง เดี๋ยวคนขับก็ถามเราเอง "น้ำตกบ่ๆ" ถ้าเราไปก็ ดีลราคาที่พึงพอใจให้เรียบร้อย เพราะกว่าจะขึ้นไปเราต้องใช้เวลา 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเลย เเละเเล้วเราก็เลือกนั่งสามล้อเครื่อง


4.น้ำตกตาดกวางสี

เราเดินขึ้นไปยังน้ำตก ได้ยินเสียงตั้งเเต่ทางขึ้น เเต่ยังมองไม่เห็นว่าน้ำตกจะอยู่ใกล้ๆ เลยเดิน ชมธรรมชาติสองข้างทางขึ้นไปเรื่อยๆ

น้ำตกใกล้เข้ามาทุกที อากาศเย็นสบาย

เเท่น เเทน!!!

น้ำตกตาดกวางสีถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุด เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่สูงถึง 70 เมตร สายน้ำของน้ำตกที่ตกกระทบไหลผ่านชั้นหินปูน สวยงามเกินบรรยาย (ของจริงสวยมาก) เเละถ้าอยากลงเล่นน้ำมีให้เล่นตรงปลายน้ำชั้น 1


5.พระธาตุพูสี

พระธาตุพูสีมีความสูงกว่า 150 เมตร เเละค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ (50 บาท) ทางเดินขึ้นไปเป็นบันได 328 ขั้น กว่าจะเดินขึ้นไปได้ โครตเหนื่อย เเต่คุ้มค่าสุดๆ เพราะเป็นจุดชมวิว 360 องศา คนส่วนมากจึงนิยมขึ้นมาเพื่อชมเมืองหลวงพระบาง เเละถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ตก

ฝั่งเเม่น้ำโขง

จุดชมวิวที่มองเห็นทั้งหลวงพระบาง


6.ตลาดมืดหลวงพระบาง


ll DAY 3 ll

เรามีเวลาเเค่ช่วงเช้าเท่านั้น ที่จะเก็บตกจุดที่เรายังไม่ได้ไป เพราะเราต้องกลับไฟท์บ่ายนี้เเล้ว ซึ่งจุดหมายของเรา คือ ร้านกาเเฟประชานิยม เค้ามีสโลเเกนด้วยนะ " ร้านกาเเฟคู่เเท้ของหลวงพระบาง"เป็นสไตล์สภากาเเฟ บรรยากาศ เเบบพื้นถิ่น คุณลุง คุณป้า มานั่งเสวนากัน ระหว่างทางก็เดินลัดเลาะเข้าไปยังตลาดเช้าหลวงพระบาง

หลังจากดื่มด่ำโอเลี้ยงเเละกาเเฟร้านประชานิยมเสร็จ เราเลยเดินกลับมาที่โรงเเรมกัน เพื่อเตรียมตัวไปสนามบิน เเต่...เราพอมีเวลาเหลือๆ เลยนั่งคาเฟ่อีกร้าน

ร้าน DEXTER


โบกมือ บ๊ายบาย หลวงพระบาง

หลวงพระบาง ชื่อนี้ไม่มีวันลืม เป็นทริป 3 วัน 2 คืน ที่ทำให้เราประทับใจ เมืองเล็กๆ เเต่มีมรดกทางวัฒนธรรมอย่างล้นเปี่ยม ไม่เเปลกที่จะทำให้เราหลงรักหลวงพระบางจนหมดหัวใจ หากใครมองหาที่เที่ยวใกล้บ้าน คงเป็นที่นี่เเหละที่อยากเเนะนำ อยากให้ลองมาสัมผัส อาจไม่มีความสะดวกสบายเหมือนเมืองใหญ่ เเต่หลวงพระบางก็ยังเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่ใครหลายคนคิดถึง เบรกความวุ่นวาย มาชิลที่นี่ รับรองไม่ผิดหวัง :D


Here Me Go อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว

 วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.59 น.

ความคิดเห็น