สัตหีบ พัทยา พลุนานาชาติ

และแล้ว เทศกาลที่พวกเรารอคอยก็กลับมาอีกครั้ง

นั่นก็คือ “เทศกาลพลุนานาชาติ พัทยา 2562”

หรือ Pattaya International Fireworks Festival 2019


งานพลุนานาชาตินี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ไม่ได้จัดช่วงเวลาเดิม

เราจึงต้องคอยเช็กข่าวอยู่เรื่อย ๆ

พอประกาศอย่างเป็นทางการว่า จัดงานวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2562

เราก็รีบชวนพลพรรคเพื่อนฝูงเลยจ้า เคลียร์งาน จองโรงแรม เตรียมพร้อมสุดฤทธิ์

เพราะหลายปีก่อนที่เคยไป จำได้ว่ามันช่าง

“สวย อลังการ ประทับใจอย่างแรง”

จนต้องมาอีกให้ได้


๐ มุ่งหน้าสู่ “ชลบุรี”

วันที่ 24 พ.ค. พวกเราก็โดดขึ้นรถ ออกเดินทางสู่จังหวัดชลบุรีกันแต่เช้าตรู่

ออกเช้า ๆ อย่างนี้ ดีตรงที่รถไม่ติดมาก

และจะได้ไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ก่อนปักหลักดูพลุตอนหัวค่ำด้วย

เราแวะกินมื้อเช้า เป็นข้าวแกงที่จุดพักรถบนมอเตอร์เวย์

แล้วจากนั้นก็ว่าจะหาขนมกับกาแฟกินตบท้ายสักหน่อย

เล็งเอาไว้ว่าจะเป็นคาเฟ่ อเมซอน

แต่... โนวค่ะ ไม่ใช่ อเมซอน ในปั๊ม ปตท. อะไรอย่างนั้น

แต่เป็น “อเมซอนที่สวยที่สุด” เท่าที่เคยไปมาเลยละ จะบอกให้

ตัวร้านเป็นเหมือนบ้านสีขาว กรุกระจกใสเกือบรอบด้าน มี 2 ชั้น

ข้างร้านเป็นสวนและสนามหญ้าเล็ก ๆ ข้างหลังติดทะเลชนิดเดินลงไปได้เลย

ยิ่งอยู่ในเขตฐานทัพเรืออย่างนี้ ยิ่งให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว

เหมือนมาเที่ยวบ้านพักตากอากาศยังไงยังงั้น

แอร์เย็น ๆ ภายในร้าน ช่วยดับร้อนจากอากาศข้างนอก

ให้เราได้นั่งชิล จิบกาแฟ กินขนม มองฟ้า มองทะเล จากในห้องกระจก

แค่คิดก็ฟินแล้วใช่ไหมคะ...


แต่ทว่า... ตอนเราไป มันหาได้เป็นอย่างนั้นไม่!

เพราะวันที่ไปเป็นวันศุกร์ ช่วงเทศกาลอีกต่างหาก ก็เลยมีลูกค้าแน่นร้านเลยค่ะ

พวกเราก็เลยต้องระเห็จออกมานั่งโซนเอาต์ดอร์ ซึ่งมีชุดโต๊ะ เก้าอี้ตัวใหญ่ ๆ

และเคาน์เตอร์ยาวกับเก้าอี้ทรงสูง หันหน้าออกสู่ทะเลแทน

ตอนแรกก็แอบกลัวร้อนค่ะ ที่ต้องนั่งข้างนอกบ้านอย่างนี้

แต่ปรากฏว่า ไม่เลย... มีลมเย็นโชยตลอด หอบกลิ่นน้ำทะเลอ่อน ๆ มาด้วย

กลับทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้มาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติจริง

หากมีโอกาสมาเที่ยวชลบุรี หรือสัตหีบ ก็อยากให้ลองแวะมานะคะ

อร่อยกับเครื่องดื่มเมนูโปรด และวิวทะเลสุดสายตาได้ที่นี่เลย นั่งเพลินได้ทั้งวัน

ที่ตั้ง: ริมถนนเลียบชายหาด ฐานทัพเรือสัตหีบ ต. สัตหีบ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี

เวลาเปิด -ปิด: ทุกวัน 6.00-20.00 น.


๐ บ้านเพื่อนทะเล เฮยกก๊วน

อิ่มของหวานกันแล้ว เราก็มาต่อกันที่ของคาว (เอ๊ะ ยังไง55)

ร้านอาหาร “บ้านเพื่อนทะเล” อันเป็นจุดหมายนั้น

ห่างจากคาเฟ่ อเมซอน ฐานทัพเรือสัตหีบแค่ราว 1.5 กิโลเมตรค่ะ

ขับรถสักไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้ว

ตัวร้านสร้างด้วยไม้ ทอดยาวเข้าไปในทะเล จึงได้เห็นวิวทะเลเต็มสายตา

มองเห็นสะพานปลา และกลุ่มเรือประมงที่จอดอยู่ด้วย

ตอนเดินเข้าไปในร้านก็เลยอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้

ได้นั่งโต๊ะหลังสุดเลย ทั้งวิวสวยและเป็นส่วนตัว ลมโกรกสบาย

เมนูที่สั่งกันวันนี้ก็มี น้ำพริกไข่ปูพร้อมชุดผัก แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว

กุ้งผัดกระเทียม รสชาติจัดจ้านใช้ได้เลยทีเดียว

เมื่อรวมกับบรรยากาศร้านแบบทะเลจัดเต็มชนิดยื่นเข้าไปในทะเลอย่างนี้แล้ว

เราว่าที่นี่เป็นอีกร้านที่น่ามาแวะพักกินอาหาร ไม่ว่าจะมื้อกลางวันหรือเย็น

ยิ่งเห็นป้ายหน้าร้านที่ว่า “ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มอื่นเข้ามา ยกเว้น เหล้า” ด้วยแล้ว

ก็ชวนให้คิดถึงเพื่อน ๆ เดอะแก๊ง (โดยเฉพาะขาดริ๊งค์ทั้งหลาย)

อยากให้มากินข้าว สังสรรค์ด้วยกันที่นี่เสียจริง

ที่ตั้ง: ถนนเลียบชายทะเล สัตหีบ ใกล้สำนักงานเทศบาลเมืองสัตหีบ

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00-22.00 น.

Facebook: pheuntalae



๐ หาดน้ำใส... แค่ชื่อ ก็อยากไปแล้ว!

หาดน้ำใสอยู่ในพื้นที่ของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการของกองทัพเรือ

เพิ่งเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี่เอง

อีกทั้งยังมีพี่ทหารคอยดูแลด้วย ที่หาดจึงยังสะอาด

และคงความเป็นธรรมชาติอยู่มากทีเดียว

---การเดินทาง---

ถ้ามาจากร้านบ้านเพื่อนทะเลที่เราแวะพักกินกลางวันกัน

ก็ขับเลียบทะเลมาได้เลยค่ะ

พอเริ่มเข้าเขตทหาร (กองเรือยุทธการ) google map จะไม่สามารถนำทางได้

(คงเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย... ก็เขตทหารนี่นะ)

แต่ไม่ต้องกลัวหลงทางค่ะ ขับเข้าไปไม่นานจะเจอป้อมตรวจตรารถเข้า-ออก

เราก็แจ้งพี่ทหารว่า “ไปหาดน้ำใสค่ะพี่”

พี่เขาก็จะบอกทางให้ และให้แลกบัตร โดยมีกติกาว่า

Option1: ถ้าเราจะขับกลับทางเดิม จะให้แลกบัตรไว้

Option2: แต่ถ้ากลับทางอื่น ก็ไม่ต้องแลก แค่ลงชื่อ ลงบันทึกไว้ค่ะ

พอแลกบัตรแล้ว ก็จะได้แผ่นการ์ดตราประจำหน่วยงานทหารใบใหญ่ ๆ มา

เราก็วางไว้หน้ารถเด่น ๆ เพื่อให้พี่ทหารป้อมอื่น ๆ สังเกตเห็นได้ง่ายค่ะ

พอขับผ่านเขตทหารออกมา จะเจอกับถนนสาย 3126

(ตรงนี้ใช้ google map ต่อได้แล้ว) ก็เลี้ยวขวามาตามถนน

คอยสังเกตทางเข้าหาดน้ำใสทางซ้ายมือดี ๆ นะคะ เป็นถนนเล็ก ๆ

พิกัดประมาณ ตรงข้ามกับ “สโมสรสระว่ายน้ำอู่ราชนาวี”

เจอแล้วก็ซ้ายเข้ามาเลยค่ะ ตรงมาตามทาง ก็จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไปหาดน้ำใสแล้ว

แต่ก่อนจะถึงหาด จะพบกับลานจอดรถ ซึ่งรถทุกคันต้องมาจอดพักไว้ตรงนี้

เพื่อให้นักท่องเที่ยวนั่งรถสองแถวต่อไปถึงหาด

ค่าตั๋ว หรือก็คือค่าบำรุงสถานที่ รวมไปกลับ 15 บาทต่อคน

ถึงตรงนี้ เราก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ เขาหอบหิ้วเสื่อ กระติกอาหารสด

และข้าวของต่าง ๆ มาขึ้นรถสองแถว เตรียมไปปิกนิกกันเต็มที่เลยเชียว

จนเมื่อรถสองแถวมาจอดที่หน้าหาดเท่านั้นละ เรานี่อยากจะร้องว้าวดัง ๆ เลย

เวิ้งหาดกว้างขวาง เงียบสงบส่วนตัว ทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า

และที่สำคัญคือ น้ำทะเลใส สวย สะอาด สมชื่อหาดน้ำใส

มองเห็นพื้นทรายยังกับกระจก เรานี่แทบอยากจะพุ่งลงทะเล ณ บัดเดี๋ยวนั้น

(เสียแต่ว่าไม่ได้เตรียมชุดมาเล่นน้ำ55)

ที่นี่มีบริการเช่าเสื่อ โต๊ะ เก้าอี้ ห่วงยางด้วยนะคะ

แล้วก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ ชนิดไม่ต้องกลัวอด

หรือจะสั่งส้มตำ กับข้าว มากินบนหาดก็ได้

มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสะดวกมาก ๆ

และยังมีบ้านพักรับรอง หน้าตาน่ารัก น่าพักด้วยนะคะ

ใครที่มีเวลาไม่มาก แต่อยากสัมผัสบรรยากาศทะเลสวย ๆ น้ำใส ๆ

ราวกับว้าบไปทะเลใต้ ขอแนะนำที่หาดน้ำใสนี้เลยค่ะ

นี่เรายังแอบติดใจ อยากมาอีก จะเล่นน้ำทะเลให้หนำใจเลย

ที่ตั้ง: หาดน้ำใส อ. สัตหีบจ. ชลบุรีทางเข้าอยู่ติดกับ ถนนสาย 3126

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 6.00-18.00 น.

ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี



๐ ชมพลุนานาชาติ อลังการเต็มฟ้า

ถ่ายรูป เล่นน้ำ ใช้เวลาที่หาดน้ำใสกันจนหาดปิด ไม่ปิดไม่เลิก55 (ปิด 6 โมงเย็น)

พวกเราก็บึ่งรถมาที่พัทยา เตรียมตัวแสตนบายดูพลุที่หาดพัทยากลาง

ที่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ ทั้งที่พลุรอบแรกจุดตั้งสองทุ่ม ก็เพราะว่า

ในเมืองพัทยารถจะติดมาก (มาก มาก ๆ)

อ้อ... อีกอย่างที่ทำให้ต้องรีบก็คือ...

ถนนเลียบชายหาดพัทยาจะปิดตั้งแต่ประมาณบ่าย 3 โมงนะคะ!

เพื่อเตรียมเคลียร์พื้นที่สำหรับจัดงาน ดังนั้น

ใครที่จะไปทำธุระแถวนั้น หรือจองโรงแรมติดหาดไว้

ก็ควรรีบเข้ามาจอดรถให้เรียบร้อยเสียก่อน

พลุจะจุดจากโป๊ะในทะเล เป็นชุด ๆ (และถ้าเงี่ยหูฟังดี ๆ จะพบว่ามีเสียงเพลงประกอบด้วย)

การแสดงพลุรอบหนึ่ง ๆ ก็นานอยู่ค่ะ ร่วม 10-20 นาทีได้ ดูเพลินเลย

ตำแหน่งที่เหมาะเหม็งที่สุดในการดูพลุ แนะนำว่า ให้ไปที่หาดพัทยากลาง

มองหาโป๊ะจุดพลุในทะเลที่ทอดตัวยาว ๆ ดำ ๆ นั้น

แล้วเล็งพื้นที่บนหาดที่ center ที่สุด

พอเจอแล้วก็... กางเสื่อเลยค่ะ 55

แต่เอาจริง ๆ นะ จุดที่ center ที่สุดนั้น ได้กันไว้สำหรับพื้นที่ดูพลุแบบ VIP

มีเวทีและเก้าอี้ไว้บริการ เสียค่าเข้าชมค่ะ

แต่เชื่อว่า เป็นจุดที่ดูพลุได้ถนัดตาที่สุด และได้ยินเสียงเพลงประกอบการแสดงชัดที่สุดด้วย

อยากลองดูแบบ VIP ก็ได้นะคะ งานดีหนึ่งปีมีหนเดียว ก็น่าลองอยู่

แต่ถ้าอยากดูแบบฟรี ๆ สบาย ๆ นั่งบนหาดทรายชิล ๆ ก็ปูเสื่อได้ตามสบายค่ะ

หรือใครสะดวกดูจากที่สูง ก็สวยไปอีกแบบ

มีโรงแรมหลายแห่งที่มีห้องแบบ Seaview คือมีระเบียงที่หันออกทะเล มองเห็นพลุได้ด้วย

หรือดูจากบนเขาพระตำหนักก็ได้เช่นกัน

ช่วงพักเบรกระหว่างพลุรอบแรก กับรอบสอง เราก็เดินเล่นไปตามถนนเลียบหาด

มีตั้งซุ้มขายอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องประดับมากมาย

ราคาก็สูงนิดหน่อย สไตล์ขายนักท่องเที่ยว

แต่ข้าวของก็น่ารัก น่ากินทั้งนั้นเลย

เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูพลุมาก และจะคอยตั้งหน้าตั้งตารอดูพลุในวันสำคัญ ๆ

อย่างวันปีใหม่ วันลอยกระทง หรือวันพ่อ วันแม่แห่งชาติ

แต่ปีหลัง ๆ มานี้ ทางการมักจะรณรงค์งดจุดพลุ เพื่อความปลอดภัย

หรือถ้ามีจุด ก็จะจุดแค่กรุบกริบ พอเป็นพิธีเท่านั้น

ทีนี้ก็อดเลยสิคะ แทบไม่มีโอกาสได้ดู

แต่งานพลุที่พัทยานี้ บอกได้เลยว่า จัดเต็ม จัดใหญ่ กระจายอวดสีสันเต็มฟ้า

เรายังนึกไม่ออกเลยว่า นอกจากงานพลุนานาชาติพัทยานี้แล้ว

จะไปหาดูพลุอลังการแบบนี้ได้อีกที่ไหน ในประเทศไทย

(ถ้าใครรู้ก็ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ ข้าน้อยขอคารวะล่วงหน้า 55)




๐ กาแฟหลักสิบ วิวหลักสิบล้าน

เช้าวันใหม่ พวกเรารีบไป “เขาพระตำหนัก” หรือเขาพระบาท

ซึ่งเป็นภูเขาเตี้ย ๆ ทางหาดพัทยาใต้ บริเวณป้าย Pattaya City

จริง ๆ ก็อยู่ห่างจากหาดพัทยาแค่ 2-3 กม. เท่านั้นเองแหละ

แต่ต้องรีบไป เพราะข้างบนนั้นมีร้านกาแฟ “Coffee Break”

ซึ่งว่ากันว่า มาที่นี่จะได้นั่งกินกาแฟชิล ๆ บนจุดชมวิวที่สวยที่สุดในพัทยา!

รีบมาตั้งแต่ตอนร้านเปิด จะได้จับจองที่นั่งแจ่ม ๆ ก่อนใคร

แต่ตอนไปถึงนั้น ร้านยังไม่เปิดค่ะ เปิด 9 โมง

พวกเราจึงไปกราบไหว้พระอนุสาวรีย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

หรือที่เราเรียกกันว่า “กรมหลวงชุมพร” เพื่อเป็นสิริมงคลกันก่อน

แล้วก็ชมวิวโค้งอ่าวพัทยาอันสวยงาม ราวกับภาพวาด

แต่แดดเช้าค่อนข้างแรงนะคะ คิดว่ามาช่วงบ่ายจนถึงค่ำ น่าจะเหมาะแก่การถ่ายรูปมากกว่า

ใกล้ ๆ กันในบริเวณนี้ มีวัดเขาพระบาท แวะไหว้พระกันได้ค่ะ

พอได้เวลา 9 โมง พวกเราก็ปรี่ไปที่ร้าน Coffee break ทันใด

ปรากฏว่า เหมือนว่าใคร ๆ ก็ใจเดียวกัน คิดเหมือนกันกับเราค่ะ

เพราะเผลอแป๊บเดียวที่นั่งเกือบเต็มร้านแล้ว 55

ยิ่งที่นั่งริมรั้วซึ่งใกล้วิวทะเลมากที่สุด มีคนนั่งเต็มหมดเลย

แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถึงนั่งกลางร้าน ก็ยังรู้สึกว่าร้านน่ารัก น่านั่ง

เป็นกันเอง และมองเห็นวิวสวย ๆ ได้อยู่ดี

ด้านหน้ามีรถตู้โฟล์ค เก๋ ๆ คลาสสิค ๆ ดัดแปลงเป็นร้าน

และที่ร้านก็มีเมนูหลากหลาย ทั้งกาแฟ สมูธตี้น้ำผลไม้ปั่น

ขนมปังปิ้งหน้าต่าง ๆ ชีสบอล ไปจนถึงพวกปังเย็น

น่ารัก น่ากินทั้งนั้น ราคาก็ไม่แพงเลย

สรุปว่า ขนมอร่อย ราคาไม่แพง ร้านก็น่ารัก

แถมยังได้ชมวิวสุดอลังการ ตระการตาอีกต่างหาก

ดีงามขนาดนี้ แวะมาเถอะค่ะทุกโค้นน

ที่ตั้ง: เขาพระตำหนัก ถ.พระตำหนัก เมืองพัทยา ชลบุรี

พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร, จุดชมวิวอ่าวพัทยา

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 7.00-22.00 น. มาช่วงบ่ายจะไม่ย้อนแสง

ร้าน Coffee Break

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 9.00-19.00 น.



๐ เรือเล็กที่ยังไม่ออกจากฝั่ง ที่บางเสร่

หากใครอยากหลบหนีความจอแจที่หาดพัทยา หรือหาดจอมเทียน

ลองแวะมาหาดบางเสร่ดูค่ะ

เรากับพรรคพวกไปกันแล้วพบว่า ที่นี่เงียบจริงค่ะ แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย

และที่สำคัญ ทะเลสีสวยม๊าก

เหมือนที่เขาเรียกสีเขียวอมฟ้าว่า “สีเขียวน้ำทะเล”

ตอนนี้คือ มาเห็นกับตาเลยว่า ทะเลที่มี “สีเขียวน้ำทะเล” เป็นยังไง

แต่ว่านะ... เราเหนียวตัวมากเลยอ่ะ 55 ไม่รู้ทำไม

และน้ำก็ไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่ ซึ่งก็ไม่มีคนเล่นจริง ๆ

(ไม่รู้เพราะหาดนี้เขาไม่เล่นกัน หรือเพราะมันคือตอนเที่ยง)

ถ้าตั้งใจมาเพื่อเล่นน้ำละก็ ขับต่อไปอีกนิดเถอะค่ะ ไปลุยหาดน้ำใสเถอะ 55

แต่ที่บางเสร่นี้ เราได้เห็นฝูงหมาน้อยเจ้าถิ่น เล่นน้ำทะเลกันสนุกเชียว

แล้วเจ้าหมาก็วิ่งโขยก ๆ ขึ้นจากทะเล มากวดไล่กันบนหาด

เรายังได้เข้าไปถ่ายรูปใกล้ ๆ เจ้าหมาเลย น่ารักมาก ๆ

ที่ริมหาดมีเรือประมงขนาดเล็กจอดลอยลำอยู่หลายลำ

ให้ความรู้สึกถึงวิถีชีวิตชาวประมง กับธรรมชาติจริง ๆ

ต่างจากทะเลบางแห่ง ที่เหมือนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัวไปเสียแล้ว

เอาเป็นว่า ถึงหาดบางเสร่จะทำเหนียวตัวสักหน่อย ทะเลไม่น่าลงสักนิด

แต่เราก็ได้สัมผัสวิถีชีวิต และความเป็นธรรมชาติในแบบของเขานะคะ

ที่ตั้ง: หาดบางเสร่ ต.บางเสร่อ.สัตหีบ จ. ชลบุรี

จากพัทยา ขับมาตามถนนสุขุมวิท (ถนนหลวงหมายเลข 3) แล้วเลี้ยวขวาเข้า ซอยนาจอมเทียน 56

ขับเข้ามาเรื่อย ๆ ถนนจะพาเราเลาะเลียบหาดบางเสร่เลยค่ะ



๐ หาดลับ (ถ้าไม่หลงทาง มาไม่ถึงนะเนี่ย!?)

ความตั้งใจแรกคือ จะขึ้นไปชมวิวบนเขา ณ จุดที่มีป้าย Pattaya City ใหญ่ยักษ์

ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับเขาพระตำหนักน่ะค่ะ

แต่! พอต้องหักเลี้ยวขวา ขึ้นจุดชมวิวนั้น ปรากฏว่า... เราเลี้ยวไม่ทัน 555

ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ขับตามทางซึ่งทอดลงเขามาเรื่อย ๆ กลับรถก็ไม่ได้

แต่สุดท้าย เราก็ได้มาพบ “หาดลับ” นี้แบบงง ๆ

ขอแอบเมาท์ว่า ความสวยแปลกตาของที่นี่

ทำเอาคุณเพื่อน และคุณพี่ผู้เป็นตากล้อง ประสานเสียงร้องเฮ้ย!

แล้วชี้มือรัว ๆ ให้แวะจอดทันใด

แม้จะเป็นหาดลับ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปกันหลายกลุ่ม

ก็เพราะหาดตรงนี้มีโขดหินใหญ่ ๆ ดูธรรมชาติแบบดิบ ๆ

แถมยังดูแปลกตาด้วย เพราะมีลักษณะเป็นเปลือกหอยนับแสนนับล้าน

อัดแน่นจนแข็งเป็นพื้นผิวของโขดหิน

น้ำทะเลอาจไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไร มีคลื่นอยู่บ้าง

แต่ด้วยความที่เป็น “หาดลับ” คนไม่ค่อยรู้จัก

เราก็สามารถถ่ายรูปกันได้เต็มที่ ไม่ต้องคอยหลบหลีกคนอื่น ๆ เลย

จะยืน จะนั่ง จะปีน หรือจะโดดเข้าไปโพสท่าบนโขดที่อยู่ลึกเข้าไปในทะเล

ก็เอาให้เต็มที่เลยค่ะ 55

ที่ตั้ง: ด้านล่างของจุดชมวิวเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา ชลบุรี

ขับมาตามทางที่จะขึ้นจุดชมวิว แต่ขับตามถนนมาเรื่อย ๆ

ทางจะเริ่มพาเราลาดลงต่ำสู่พื้น หาดอยู่ทางซ้ายมือ

มีช่องให้เข้าลานจอดรถเล็ก ๆ ค่ะ



๐ ตามรอยคาเฟ่ลับ “Rockfeller”

ได้ยินมาว่า แถวนาเกลือมีคาเฟ่เด็ด น่าไปโดน

และที่สำคัญ เขาว่าเป็น “ร้านลับ”

เพราะเพิ่งเปิดใหม่เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก

พวกเราก็เลยต้องถือโอกาสนี้ ตามไปส่อง ไปลองสักหน่อย

เข้า ซอยนาเกลือ 12 มาตามทางเรื่อย ๆ สังเกตป้าย “เชลล์ตังเก” ไว้นะคะ

เพราะเป็นร้านอาหารมีชื่อ ที่อยู่ติดกัน

เมื่อขับมาจนเริ่มเห็นทะเล ก็จะรู้เลยค่ะว่า เกือบถึงแล้ว!

เพราะ Rockfeller นี้ อยู่ตรงโคนสะพานปลานี้เอง

ตัวร้านไม่ใหญ่นัก ตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ปูนเปลือย

เข้ากับชุดโต๊ะ เก้าอี้ไม้ ดูโล่ง ๆ สบายตา

มีโคมไฟ และต้นไม้ ตกแต่งทั้งในและรอบ ๆ ตัวร้าน ดูร่มรื่น

และที่เป็นไฮไลต์ ทีเด็ดเลยก็คือ กระจกใสบานใหญ่ ๆ รอบด้าน

ซึ่งทำให้เรามองเห็นวิวทะเล ทะเล๊ ทะเลได้จากในร้านแบบเต็มสายตา

คิดดูสิคะว่า กินอาหารทะเลไป มองทะเลไป ในคาเฟ่ชิค ๆ ห้องแอร์เย็น ๆ

มันจะแฮปปี้ ฟินสุดขนาดไหน

ว่าแล้วก็คว้าเมนูค่ะ ที่ร้านมีทั้งอาหารคาว หวาน กาแฟ เครื่องดื่ม เค้ก

เราสั่ง “พาสต้าผัดฉ่าทะเล” ฟิวชั่นรสชาติจัดจ้าน หอม ๆ แต่ไม่ถึงกับเผ็ด

กับ “กุ้งแซ่บ” กุ้งสดตัวโต ๆ เสิร์ฟในช้อนเป็นคำ ๆ กับยำผักรสแซ่บ

และ “ส้มตำปูม้า” เนื้อปูสดหวาน ๆ นิ่ม ๆ เข้ากับส้มตำรสจัดนัว ๆ

มีเครื่องดื่มเป็น ลิ้นจี่โซดา กับเสารสโซดา หวานซ่าชื่นใจ

สั่งเค้กมะพร้าวมาตบท้าย ตัวแป้งนุ่ม ครีมสดก็หอม ค่อนข้างหวานหน่อย

แต่ชอบหน้ามะพร้าวขูดเส้น ๆ ข้างบนชุ่มซอส หอมมะพร้าวดี

เมนูของ Rockfeller อาจมีไม่มาก แต่อร่อยและหน้าตาสวยเก๋น่ากิน

จนคิดว่าถ้ามาอีกที ก็สั่งซ้ำได้ ไม่เบื่อ และยังอยากลองเมนูอื่นด้วย

หรือถ้าใครไม่จุใจ อยากกินอาหารทะเลอื่น ๆ แบบจัดเต็ม

ก็สั่งจากร้านเชลล์ตังเก ซึ่งอยู่ติดกัน เข้ามากินใน Rockfeller ได้

เพียงแต่ว่าจะไม่ได้จุดแอลกอฮอล์อุ่นอาหาร แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด 55

พวกเราก็สั่งอาหารเข้ามาค่ะ ซึ่งพี่ ๆ พนักงานของทั้งสองร้านก็น่ารักมาก

ทั้งเอาเมนูมาให้ดูถึงโต๊ะ รับออเดอร์ และเก็บเงินรวมกันเลยทีเดียว

ไม่ต้องไปสั่งแยก จ่ายแยก สะดวกมาก ๆ

และด้วยความที่ Rockfeller อยู่ตรงสะพานปลา

พออิ่มแล้ว เราก็ออกไปถ่ายรูปเล่นกันต่อสนุกสนาน

ท้องฟ้าสีสวย ทะเลกว้าง เรือประมงสีสด ๆ จอดเทียบสะพานกันเป็นแถว

ช่วงนั้นน้ำลงพอดี มีชาวประมงกลุ่มใหญ่ มาก้ม ๆ เงย ๆ เก็บหอยกันบนเลนด้วย

เป็นภาพวิถีชีวิตที่เราไม่ค่อยเห็นมาก่อนเลย

ที่ตั้ง: Rockfeller ซ. นาเกลือ 12เมืองพัทยาอ. บางละมุงจ. ชลบุรี

จาก ถนนพัทยา-นาเกลือเลี้ยวเข้า ซอยนาเกลือ 12 ขับตามป้ายเชลล์ตังเก

เวลาเปิด-ปิด: จ-พฤ11.00-21.00 น. / ศ-อา 11.00-22.00 น.

Facebook: Rockfeller


อาจจะยาวไปหน่อยนะคะ แต่ว่าพวกเราอยากใส่รายละเอียดเพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านสามารถเที่ยวตามได้ แบบไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่มอีก

ส่วนใครอยากเห็นบรรยากาศแบบเป็น VDO. ก็ข้างล่างนี่เลยค่ะ


ติดตามพวกเราได้ที่ Trip Aperture Channel

หรือจะตามไปคุยกันที่แฟนเพจ Trip Aperture


--- แล้วพบกันทริปหน้านะคะ ---

Trip Aperture

 วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.45 น.

ความคิดเห็น