สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผมมีรีวิวของรีสอร์ทแห่งหนึ่งมาฝากทุกท่านครับ ก่อนอื่นเลยผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่านี่เป็นการรีวิวที่พักครั้งแรกของผมเลย ดังนั้นหากผมพิมพ์อะไรขาดตกบกพร่องไป ผมต้องขออภัยทุกๆ ท่านด้วยนะครับ



สำหรับรีวิวนี้ผมจะพยายามเล่าให้ครบในทุกมุมที่ผมคิดว่าสำคัญและเป็นข้อมูลที่คนกำลังตัดสินใจจะหาที่พักซักแห่งอยากจะรู้นะครับ และในช่วงท้ายผมจะสรุปถึงข้อดี ข้อด้อยว่ารีสอร์ทแห่งนี้น่าจะเหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใครครับ



เอาล่ะครับ!! ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยครับ



วันที่พัก : วันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2559



Beyond Resort Khaolak เป็นรีสอร์ทในเครือกะตะ (Kata Group) ครับ และถือเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ พรีเมี่ยมที่สุดของเครือกะตะเลยครับ ดังนั้นคนที่เลือกไปพักที่นี่ก็สามารถสบายใจ ไว้วางใจในด้านการบริการได้เลยครับ สำหรับทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งนี้นั้นก็ตั้งอยู่ที่เขาหลัก จ.พังงา ตามชื่อเลยครับ ซึ่งเป็นทำเลที่พักที่ค่อนข้างสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวเกาะอย่างสิมิลัน, ตาชัย หรือหมู่เกาะสุรินทร์ เพราะการเดินทางจากเขาหลักไปยังท่าเรือทับละมุนั้นใกล้มากๆ เมื่อเทียบกับการเดินทางจากภูเก็ตครับ

หากคุณนอนพักที่เขาหลัก คุณสามารถที่จะออกจากโรงแรมในเวลา 7.00-7.30 น. ได้อย่างสบายๆ ผิดกับการนอนที่ภูเก็ต ที่คุณอาจจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่ออกจากโรงแรมตั้งแต่ 5.30-6.00 เลยทีเดียวครับ



ผมขอเปิดรีวิวนี้ด้วยภาพพระอาทิตย์ตกจากห้องพักของผมนะครับ เป็นภาพที่ผมประทับใจค่อนข้างมาก การที่ได้นั่งอยู่ในห้องตัวเอง เห็นวิวแบบนี้ต่อหน้าทุกวัน โดยที่ไม่ต้องก้าวเท้าเดินไปไหน มันทำให้ใจสงบ และอิ่มเอมจริงๆ ครับ



สำหรับการเดินทางมาที่ Beyond Khaolak นั้น ผมเลือกใช้การนั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินภูเก็ต จากนั้นก็ทำการเช่ารถจากสนามบินภูเก็ตขับมาที่เขาหลักครับ ซึ่งเส้นทางการขับรถก็ไม่ยาก สามารถเปิด gps และขับตามทางมาได้เลย ทางส่วนใหญ่เป็นเส้นตรงไปตามทางหลักตลอดครับ



หลังจากผ่านไป 88 กิโลเมตร กับเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ผมก็ขับรถมาถึงจุดหมายครับ โดยหน้าตาทางเข้ารีสอร์ทก็ตามนี้เลยครับ



เมื่อเราผ่านประตูทางเข้าและขับตามทางซักพักก็จะมองเห็น lobby ของโรงแรมครับ lobby ของที่นี่จะเป็นอาคารเปิดโล่ง หลังคาสูง ไม่มีการติดแอร์นะครับ



เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่บริเวณอาคาร พนักงานก็จะรีบเดินเข้ามาหาเราและเชิญให้นั่งที่โต๊ะรับแขกทันทีครับ ซึ่งโต๊ะเหล่านี้มีมากมายหลายตัวเลยครับ



จากนั้นพนักงานก็จะเข้ามาสอบถามรายละเอียดของเราและทำการเช็คอิน (Check in) ที่โต๊ะที่เรานั่งเลยครับ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องเดินไปที่หน้าเคาเตอร์เองเลยครับ ^^



ระหว่างที่เราทำการกรอกเอกสารเพื่อทำการเช็คอินนั้น ก็มีพนักงานนำ Welcome Drink มาให้ครับ โดย Welcome Drink ของที่นี่จะเป็นน้ำเปล่าครับ!!

.

.

.

.

.

อ๊ะๆๆๆ แต่ไม่ต้องตกใจไปครับ ถึงจะเป็นน้ำเปล่าแต่เค้าไม่ได้มาเดี่ยวๆ นะครับ เค้ามาเป็น Set แบบนี้ครับ เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยครับ



Beyond Resort Khaolak นั้น มีห้องทั้งหมด 177 ห้องครับ โดยห้องทุกห้องเป็นวิลล่าทั้งหมด แยกเป็นหลังใครหลังมัน ไม่มีส่วนใดของห้องที่ติดกันเลย นั่นแสดงว่าคุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนอย่างสุดๆ และพื้นที่ของห้องที่เล็กที่สุดนั้นมีขนาดกว้างถึง 64 ตร.ม. เลยครับ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังไม่รวมพื้นที่สวนรอบตัวบ้านนะครับ เรียกได้ว่ากว้างมากๆ เลยทีเดียวครับ



เรามาดูกันดีกว่าครับว่าที่รีสอร์ทแห่งนี้มีห้องทั้งหมดกี่แบบ และแต่ละแบบมีพื้นที่เท่าไหร่กันครับ

แบบที่ 1 : Palm Villa มีทั้งหมด 101 ห้อง (ขนาดห้อง 64 ตร.ม.)

แบบที่ 2 : Palm Villa Elite with Jacuzzi มีทั้งหมด 14 ห้อง (ขนาดห้อง 78 ตร.ม. พร้อมสวนส่วนตัว)

แบบที่ 3 : Palm Villa Elite with Private Pool มีทั้งหมด 10 ห้อง (ขนาดห้อง 78 ตร.ม. พร้อมสวนส่วนตัว)

แบบที่ 4 : Palm Villa Premier มีทั้งหมด 47 ห้อง (ขนาดห้อง 64 ตร.ม.)

แบบที่ 5 : 1 Bedroom Pool Villa มีทั้งหมด 3 ห้อง (ขนาดห้อง 114 ตร.ม.)

แบบที่ 6 : 2 Bedroom Pool Villa มีทั้งหมด 2 ห้อง (ขนาดห้อง 204 ตร.ม.)



สำหรับวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปชมห้องทั้งหมด 5 แบบนะครับ จะเป็นแบบไหนบ้างตามมาได้เลยครับ แต่ก่อนที่จะไปชมห้องนั้น ผมมีบรรยากาศที่ lobby ให้ดูอีกเล็กน้อยครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่รีสอร์ทแห่งนี้ได้รับรางวัลต่างๆ มามากมายเลยทีเดียวครับ



เอาล่ะครับ ห้องที่ผมจะพาทุกท่านไปชม 2 แบบแรกก็คือ Palm Villa Elite with Jacuzzi และ Palm Villa Elite with Private Pool ครับ



ห้องทั้งสองแบบนี้จะอยู่ด้วยกันในโซนที่เรียกว่า Elite Zone ซึ่งจะอยู่ไกลจากชายหาดที่สุดครับ เรียกได้ว่าถ้าตั้งต้นจาก lobby คุณต้องหันหลังให้ชายหาดแล้วเดินย้อนกลับไปทางถนนหลักครับ



เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในโซนแห่งนี้คุณจะรู้สึกถึงความสงบและเงียบมากๆ ครับ ส่วนหน้าตาของวิลล่าแต่ละหลังก็ประมาณนี้ครับ



โดยรวมๆ แล้วหน้าตาของ Palm Villa Elite with Jacuzzi และ Palm Villa Elite with Private Pool นั้นแทบจะเหมือนกันทุกประการเลยครับ แตกต่างกันที่แบบ Private Pool จะมีสวนส่วนตัวบริเวณหลังบ้านที่ใหญ่กว่าครับ เนื่องจากมีสระว่ายน้ำด้วย ส่วนแบบ Jacuzzi นั้นสวนหลังบ้านจะเล็กกว่าและมีอ่าง Jacuzzi แทนสระว่ายน้ำครับ



นี่เป็นหน้าตาตรงประตูทางเข้าของวิลล่าทั้ง 2 แบบครับ มีสวนเล็กๆ หน้าบ้าน มีเก้าอี้ไม้ และก็ยังมีที่เก็บร่มด้วยครับ ดูน่ารักดีครับ



เมื่อเข้ามาในบ้าน สิ่งที่คุณจะเห็นอันดับแรกก็คือห้องโถงที่กว้างมากครับ ประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้า อ่างล้างหน้า และห้องน้ำที่แยกเป็นห้องอาบน้ำและก็ห้องสุขาครับ



ตู้เสื้อผ้าแบบ 4 บาน ที่ให้มามันใหญ่มากครับ ภายในตู้จะมีพวกเสื้อคลุมอาบน้ำ ไดร์เป่าผม และบริเวณข้างๆ ตู้ก็จะมีราวตากผ้าและเครื่องชั่งน้ำหนักครับ อันหลังนี่ผมประทับใจมากเลย จะได้รู้ว่าก่อนพักกับหลังพักเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง....ฮา



สำหรับห้องอาบน้ำก็จะอยู่ฝั่งซ้ายมือของอ่างล้างหน้า ส่วนห้องสุขาก็อยู่ฝั่งขวามือครับ



ภายในห้องโถงนี้ยังมีตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ และโต๊ะที่พร้อมจะทำเป็นมินิบาร์เล็กๆ อยู่บริเวณข้างๆ ประตูทางเข้าด้วยนะครับ



สำหรับเรื่องอุปกรณ์สำหรับการอาบน้ำ บำรุงผิว ที่รีสอร์ทแห่งนี้ให้มาแบบครบๆ เลยครับ ที่สำคัญขวดใหญ่ด้วยครับ เรียกได้ว่าต้องอยู่กันซักอาทิตย์มั้งถึงจะสามารถใช้หมดครับ ฮา



เสร็จจากห้องโถงตรงกลางแล้วทีนี้เรามาดูในส่วนของห้องนอนกันดีกว่าครับ ขนาดของห้องค่อนข้างกว้าง เน้นตกแต่งด้วยไม้เป็นหลักอย่างเช่น เพดานและพัดลมครับ



นอกจากเตียงแล้วในห้องนี้ก็ยังมีโต๊ะเครื่องแป้ง โซฟาและ TV ครับ ส่วนประตูที่เชื่อมกับห้องโถงตรงกลางนั้นก็เป็นประตูไม้ซึ่งสามารถเลื่อนเปิดปิดได้ตามใจชอบครับ หากใครอยากได้ความรู้สึกโล่งๆ กว้างๆ ก็เปิดไว้ หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดได้ครับ



มาถึงตรงนี้ห้อง Palm Villa Elite with Jacuzzi และ Palm Villa Elite with Private Pool จะเหมือนกันหมดเลยนะครับ แต่หลังจากนี้เมื่อเราก้าวเท้าออกไปบริเวณสวนหลังบ้านจะเริ่มพบเห็นความแตกต่างแล้วครับ



ผมจะพาไปดูสวนหลังบ้านของห้อง Palm Villa Elite with Private Pool ซึ่งเป็นห้องที่ผมชอบมากๆ ก่อนนะครับ



เมื่อเดินออกไปจากห้องนอน สิ่งที่คุณจะเห็นคือสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวขนาดใหญ่แบบนี้ครับ ตัวสระต้องบอกว่าเป็นสระที่ค่อนข้างยาวเลยครับ สามารถว่ายเล่นไปมาได้เลยครับ



ส่วนสวนตัวนั้นขนาดใหญ่แค่ไหน ลองดูจาก 2 ภาพนี้ได้เลยครับ



นอกจากสระและสวนส่วนตัวแล้ว ภายในบ้านหรือวิลล่าหลังนี้ ยังมี Daybed เก้าอี้พักผ่อนขนาดใหญ่แล้วก็ที่อาบน้ำ outdoor เพื่อเอาไว้ล้างตัวสำหรับการลงว่ายน้ำอีกด้วยนะครับ



เอาล่ะครับ ทีนี้เรามาดูส่วนสวนหลังบ้านของ Palm Villa Elite with Jacuzzi กันดีกว่าครับ



สวนหลังบ้านของ Palm Villa Elite with Jacuzzi นั้นจะยังคงมี Daybed และเก้าอี้หลังบ้านเช่นเดียวกันครับแต่บริเวณพื้นหญ้าสีเขียวจะน้อยกว่า และจากสระว่ายน้ำก็จะกลายมาเป็นอ่าง Jacuzzi ขนาด 2 คนลงไปแช่ได้แทนครับ



โดยตัวอ่างนี้จะอยู่บริเวณติดกับตัวบ้านนะครับ บางจังหวะก็จะร่มสามารถแช่ในตอนกลางวันได้ แต่บางจังหวะเวลาก็อาจจะโดนแดดบ้างเล็กน้อยครับ



ก็จบลงไป 2 ห้องแล้วนะครับ สำหรับ 2 ห้องถัดไปที่ผมจะพาทุกท่านไปชมก็คือ Palm Villa และ Palm Villa Premier ครับ โดยห้อง 2 แบบนี้ก็คล้ายกันมากๆ อีกแล้ว แตกต่างกันเพียงแบบ Premier จะอยู่ใกล้ชายหาดกว่าเล็กน้อยและก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องเยอะกว่า เช่น เครื่องเล่น DVD, เครื่องชงกาแฟ และ Daybed หน้าห้องครับ



เรามาดูหน้าตาของห้อง 2 แบบนี้ดีกว่าครับ หน้าตาจะประมาณนี้ครับ



เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง เราจะพบกับบริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่นก่อนครับ โดยประตูที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ห้องแต่งตัวนั้น ก็เป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เราสามารถจะเลื่อนปิดได้ตามใจชอบเช่นเดียวกับ 2 ห้องที่ผ่านมาครับ



ในส่วนของห้องน้ำ ห้องแต่งตัวของห้องนี้ก็ยังมีขนาดใหญ่เหมือนเดิมครับ มีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ ด้านขวาเป็นห้องสุขา มีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ราวตากผ้ารวมอยู่ในส่วนนี้ทั้งหมดครับ



ครับ ตอนนี้ผมก็พาทุกท่านไปชมห้องแล้ว 4 แบบแล้วนะครับ เหลืออีก 2 แบบก็คือ 1 Bedroom Pool Villa และ 2 Bedroom Pool Villa ครับ แต่ห้อง 1 Bedroom Pool Villa นั้นมีแขกเข้าพักเต็มทุกห้องทำให้ผมไม่สามารถถ่ายภาพข้างในได้ครับ ก็เลยเอาภาพข้างนอกมาให้ดูเล็กน้อยครับ



ห้อง 1 Bedroom Pool Villa นั้นจะเป็นห้องขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมด 114 ตร.ม. และมีสระว่ายน้ำอยู่หน้าบ้าน รวมทั้งมีทำเลที่ใกล้กับชายหาดมากๆ ด้วยครับ หน้าตาบ้านเป็นแบบนี้ครับ จะมีเก้าอี้และกระโจมเก๋ๆ ไว้พักผ่อนข้างๆ สระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าบ้านเลยครับ



และตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงห้องพักแบบสุดท้ายกันแล้วครับ นั่นก็คือ 2 Bedroom Pool Villa ซึ่งมีขนาดกว้างถึง 204 ตร.ม. มีพื้นที่หน้าบ้านติดชายหาดและมีเพียง 2 หลังเท่านั้นครับ



หน้าตาหน้าบ้านจะเป็นแบบนี้ครับ เรียกได้ว่าก้าวเท้าออกจากบ้านก็เดินลงหาด ลงทะเลได้เลยครับ



แต่โดยปกติแล้วทางเข้าออกบ้านหลังนี้ที่เราใช้ประจำจะเป็นด้านหลังนะครับ ซึ่งหน้าตาทางเข้าหลังบ้านเป็นแบบนี้ครับ มีบันไดขึ้นไปและจะมีประตูไม้ 2 ชั้นครับ เรียกได้ว่าสวยงาม แข็งแรงและปลอดภัยเลยครับ



เมื่อเราก้าวเข้าไปในบ้านเราก็จะเจอห้องรับแขก หรือห้องส่วนกลางที่กว้างขวาง มีโต๊ะกินข้าว โซฟาตัวใหญ่ๆ หน้า TV แล้วก็ประตูเข้าห้องนอนทางด้านซ้ายและขวามือครับ โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะหน้าตาเหมือนกันทุกประการนะครับ



ภายในห้องโถงนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่างนะครับ ตั้งแต่ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ เครื่องชั่งน้ำหนัก และก็ตู้แช่ไวน์ครับ โดยของทั้งหมดในห้องนี้ ยกเว้นไวน์ในตู้แช่ เราสามารถทานได้ทั้งหมดแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยนะครับ ในตู้เย็นก็จะมีทั้งนม น้ำอัดลมหลากยี่ห้อ โซดา แล้วก็เบียร์ครับ ส่วนน้ำเปล่านี่ทางรีสอร์ทจัดมาให้เยอะมากจริงๆ ครับ นอกจากในห้องโถง 6 ขวดแล้ว ในส่วนห้องแต่งตัวของแต่ละห้องก็มีเตรียมไว้ให้อีกด้วยครับ รับรองว่าใครพักห้องนี้ไม่มีการขาดน้ำแน่นอนครับ ฮา



และที่ผมประทับใจมากๆ ก็คือ ปลั๊กสามตาที่มีรูให้เสียบได้ถึง 16 รูครับ!! เรียกได้ว่าหมดปัญหาเรื่องรูเสียบไม่พอแน่นอนครับ สำหรับปลั๊กสามตาตัวนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับ TV นะครับ



จากห้องโถง ถ้าเราเปิดประตูออกไปทางหน้าบ้าน นอกจากเราจะเจอสระว่ายน้ำส่วนตัวแล้ว เราก็จะเจอวิวสวยๆ แบบนี้ทันทีครับ



สระนี้ว่ายน้ำนี้มีจะมี Jacuzzi ด้วยนะครับ และก็ขนาดสระถือว่ากว้างและยาวพอสมควรครับ ชนิดที่คนลงไปเล่น 4 คน พร้อมๆ กันได้สบายมากๆ ครับ



สำหรับห้องนอนนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ มี TV อยู่ปลายเตียง ประตูบานเลื่อนฝั่งนึงจะเปิดออกไปที่หน้าบ้าน ส่วนประตูบานเลื่อนอีกฝั่งนึงจะเปิดไปยังห้องแต่งตัว และห้องอาบน้ำ ซึ่งห้องนอนแต่ละห้องจะแยกห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ ของใครของมันนะครับ



เหลือบไปเห็นบนเตียงนอนมีการ์ดเล็กๆ อยู่ ผมก็เลยจับมันมาถ่ายรูปซะหน่อยครับ



เมื่อเราเปิดประตูห้องนอนไปยังฝั่งหน้าบ้านที่เป็นชายหาด เราก็จะเจอ Daybed 2 ตัวและก็วิวแบบนี้ครับ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัวและใกล้กับทะเลมากๆ ครับ



และก็ตอนที่ผมเปิดประตูออกไปทีแรก ผมเจอเจ้าถาดนี้วางไว้บน Daybed ด้วยครับ บอกเลยว่าห้องนี้เค้าจัดเต็มจริงๆ ให้ครบทั้งน้ำ นม ขนม และผลไม้เลยครับ และก็ที่สำคัญทั้งผลไม้ และ minibar ต่างๆ นี่ มีการเติมให้ทุกวันเลยนะครับ ><



ในส่วนของห้องแต่งตัว และห้องน้ำนั้นก็จะยังคง pattern คล้ายๆ เดิม กับห้องที่ผ่านมา คือมีห้องอาบน้ำอยู่ซ้ายมือ และห้องสุขาอยู่ขวามือ แต่จะมีสิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ตรงสุดทางจะไม่ใช่อ่างล้างหน้า 2 อ่างแล้ว แต่จะเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบบ outdoor แทนครับ ส่วนอ่างล้างหน้าจะถูกย้ายไปอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวามืออย่างละอ่างครับ



สำหรับอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ outdoor นี้ ต้องบอกว่าเป็นอ่างใหญ่มากจริงๆ นะครับ สามารถที่จะลงไปแช่ 4 คนเลยก็ยังได้ ตัวอ่างน่าจะทำมาหิน พื้นผิวค่อนข้างแข็ง มีการตกแต่งรอบอ่างหลายอย่างตั้งแต่ผนังน้ำตกเทียม พื้นโรยหินแล้วก็ต้นไม้ครับ



ก็อกน้ำที่อ่างก็มีครบทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น และ shower ครับ ตัวผมเองได้มีโอกาสลงไปนอนแช่อยู่ 1 คืน นับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ เลยครับ น้ำอุ่นๆ พอประมาณ สายตาที่มองขึ้นไปไม่เจอเพดาน แต่เจอท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่มีดาวประปราย และก็บรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงอะไรรบกวนเลย ทำให้ผมสามารถที่จะนอนแช่ไปเรื่อยๆ ยาวๆ ได้คิดอะไรไปเรื่อยๆ เลยครับ เรียกได้ว่าสมองตอนนั้นปลอดโปร่งและแจ่มใสมากครับ



อ้อ ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมลืมบอกเรื่องที่สำคัญมากๆ ไป 2 เรื่องครับ


1. ตัวผมเองได้นอนพักที่ห้อง 2 Bedroom Pool villa นี้นะครับ ก็เลยมีภาพห้องนี้เยอะหน่อยครับ

2. ที่บอกว่ารีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ท 18+ นั้นหมายถึงอะไร? Concept ของรีสอร์ทแห่งนี้คือ Adults only resort concept ที่ต้องการให้คู่รักทุกคู่ได้เติมเต็มความสุขได้อย่างเต็มที่ครับ ดังนั้นการออกแบบห้อง หรือ facilities ต่างๆ ก็เลยจะเน้นไปที่ความสงบ ความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก และที่สำคัญยังมีการจำกัดอายุของแขกที่เข้าพักด้วยครับ นั่นคือต้องมีอายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าพักได้ ซึ่งเงื่อนไขนี้ไม่มีการยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ รวมถึงครอบครัวที่พาเด็กเล็กๆ แบเบาะๆ มา แม้จะมีพ่อแม่ พี่เลี้ยงดูแลอย่างดี ก็ไม่ได้รับการยกเว้นครับ ดังนั้นเมื่อคุณเข้ามาที่รีสอร์ทแห่งนี้ คุณจะได้รับความสงบและเป็นส่วนตัวจริงๆ ไม่มีเสียงเด็กๆ ร้องไห้ หรือวิ่งเล่นเสียงดังรบกวนอย่างแน่นอนครับ



ส่วน 2 ภาพนี้ เป็นภาพพระอาทิตย์ตกที่ผมถ่ายจากหน้าห้องครับ เรียกได้ว่าเปิดประตูห้องไปแล้วก็ถ่ายเลย เป็นวิวที่สวยงาม และเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ ครับ



เอาล่ะครับ ตอนนี้ผมก็พาทุกท่านไปชมห้องพักครบหมดแล้ว แต่ยังมีอีก 2-3 ส่วนที่คนที่เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งนี้จะต้องได้ไปเจอหรือสามารถไปใช้สิทธิ์ได้ครับ



อย่างแรกก็คือสระว่ายน้ำครับ สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระว่ายน้ำแบบน้ำเกลือนะครับ ตัวสระอยู่ติดกับชายหาดเลยครับ ผมค่อนข้างชอบดีไซน์การออกแบบสระน้ำแห่งนี้มากครับ เพราะมันไม่ใช่เป็นแค่สระสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ สระเดียว แต่เป็นสระทรงเหลี่ยมหลายสระมาต่อๆ กัน และมีระดับความสูงแตกต่างกัน ที่สำคัญนอกจากจะมี Pool Bar อยู่ตรงกลางสระแล้ว ยังมี Daybed ที่แช่อยู่ในสระอีกด้วย เพื่อให้คนที่มานอนอ่านหนังสือ หรือนอนอาบแดดเล่นได้สัมผัสความเย็นสบายจากสระว่ายน้ำแห่งนี้ครับ



หมายเหตุ : ภาพถ่าย Top view มุมสูงนั้น เป็นภาพที่ผม save มาจาก internet นะครับ และเป็นภาพเดียวในรีวิวนี้ที่ผมไม่ได้ถ่ายเองครับ ที่ผมเอาภาพนี้มาให้ดูเพื่อทุกคนจะได้เห็นภาพสระว่ายน้ำที่ชัดเจนครับ



สำหรับอย่างที่สอง ก็คือ Kanda Spa ครับ โดยตัว Spa นั้น ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม แต่ในตึกแห่งนี้มีห้อง Fitness ที่เปิดให้กับแขกที่มาพักใช้บริการฟรีอยู่ครับ ใครอยากออกกำลังกายแต่ไม่อยากตากแดดก็สามารถมาใช้บริการได้เลยครับ มีเครื่องออกกำลังกายหลายชิ้นมากๆ ครับ



และตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงส่วนสุดท้ายกันแล้วครับ นั่นก็คืออาหารเช้านั่นเองครับ!!



สำหรับห้องรับประทานอาหารเช้านั้นจะอยู่ที่ห้อง Beyond Café ครับ ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็น indoor และ outdoor โดยความจุของห้องน่าจะอยู่ที่ราวๆ 120 คนครับ



ไลน์อาหารเช้านั้นจะประกอบไปด้วยอาหารหลากหลายอย่างครับ ตั้งแต่ American Breakfast อย่าง ไข่ดาว, ออมเล็ท, ไข่ต้ม, ไข่ลวก, เบคอน, ไส้กรอก, มันอบ, มะเขือเทศอบ, แพนเค้ก, วาฟเฟิล, ขนมปังชุบไข่ และก็มีอาหารไทย 3-4 อย่าง ได้แก่ ข้าวผัด, ผัดผัก, ผัดซีอิ๊ว และก็ข้าวต้มครับ



ตัวผมเองไม่ได้ถ่ายภาพอาหารในไลน์มานะครับ เพราะไม่อยากรบกวนแขกท่านอื่นที่มาใช้บริการ ก็เลยมีภาพอาหารมาให้ดูไม่มาก มีเฉพาะที่ผมกับภรรยาตักมา โดยส่วนตัวที่ประทับใจในรสชาติมากๆ ก็ได้แก่เบคอน แล้วก็ข้าวต้มครับ อย่างหลังนี่อร่อยมากจริงๆ ครับ



อ้อ ผมลืมบอกไปครับ ไลน์อาหารเช้าของที่นี่จะเปิดบริการตั้งแต่ 7.00 น. จนถึง 10.30 น. นะครับ เรียกได้ว่าใครวางแผนดีๆ สามารถกินอิ่มควบมื้อเช้าเที่ยงแล้วไปกินอีกทีตอนเย็นได้เลยครับ ฮา



ส่วนของเครื่องดื่มนั้นมีหลายอย่างมากๆ เลยครับ ถ้าเรียงตามในรูปจากขวาไปซ้ายก็ได้แก่ นม, ตะไคร้, ฝรั่ง, ส้ม แล้วก็ขิงครับ นอกจากในภาพนี้แล้วก็ยังมีน้ำเต้าหู้แล้วก็กาแฟอีกด้วยนะครับ โดยกาแฟต้องสั่งกับพนักงานซึ่งมีให้เลือกหลายอย่างเลยทีเดียวครับ



นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอาหารประเภทอื่นๆ อีกได้แก่ ซีเรียล, โยเกิร์ต, เบเกอรี่ และก็ผลไม้ครับ



โดยเบเกอรี่นั้นมีส่วนที่เป็นทั้งของคาวและของหวานเลย ที่ผมสังเกตเห็นก็จะมีขนมปังฝรั่งเศส, ครัวซองต์, โดนัท, มัฟฟิน, ช็อคบอล แล้วก็ขนมที่เป็นพวก Gluten Free อันหลังสุดนี่เรียกได้ว่าใส่ใจแขกที่มาพักจริงๆ เพราะบางครั้งอาจจะมีแขกบางคนที่ไม่สามารถทานขนมที่มี Gluten มาพักก็ได้ครับ



ผลไม้วันที่ผมไปใช้บริการก็มีทั้งขนุน, สับปะรด, แตงโม แล้วก็มะละกอครับ



หมายเหตุ : จริงๆ แล้ว สำหรับแขกที่เข้าพักที่ห้อง 2 Bedroom Pool Villa นั้น จะสามารถรับประทานอาหารเช้าที่ห้อง Siam Restaurant ซึ่งอยู่ติดกันกับ Beyond Café ได้ครับ โดยจะมีอาหารที่พรีเมี่ยมกว่าปกติไว้คอยบริการ แต่สำหรับทริปนี้ผมกับภรรยาเลือกรับประทานที่ห้องอาหารปกติเพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังหลายๆ มุมครับ



เอาล่ะครับ ในที่สุดเราก็มาถึงตรงนี้จนได้ กับบทสรุปของรีสอร์ทแห่งนี้ครับ ผมต้องขอขอบคุณทุกๆ คนมากเลยครับที่ติดตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ครับ ผมเข้าใจว่ามันค่อนข้างยาว @_@ แต่ผมก็อยากจะใส่รายละเอียดให้ทุกคนที่ได้มาอ่านทราบกันแบบครบๆ ไม่คลางแคลงใจครับ ทั้งนี้โดยส่วนตัวจากการที่ผมได้ไปใช้บริการที่รีสอร์ทแห่งนี้มา ผมมีความคิดเห็นดังนี้ครับ



ข้อดี / จุดเด่น

- เป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีการจำกัดอายุคนที่เข้าพักว่าต้องมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไป และแขกส่วนใหญ่กว่า 90% ที่มาพักล้วนเป็นชาวต่างชาติ โดยวันที่ผมไปใช้บริการนั้นกลุ่มผมน่าจะคนไทยเพียงกลุ่มเดียวจากจำนวนคนเข้าพักทั้งหมด (แว่วๆ ว่าวันนั้นห้องทั้งหมด 177 ห้องนี่เต็มหมดเลยนะครับ)

- แขกต่างชาติที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปเป็นหลัก ดังนั้นใครที่ไปเที่ยวแล้วไม่ชอบเจอคนจีนสบายใจได้ครับ

- ห้องทุกห้องของรีสอร์ทแห่งนี้เป็นวิลล่าทั้งหมด แยกเป็นหลังๆ ไม่มีส่วนใดติดกัน ทำให้แต่ละห้องค่อนข้างเงียบ สงบและไม่มีเสียงรบกวนจากรอบข้าง นอกจากนี้การที่มีการจำกัดอายุคนเข้าพัก จึงเหมือนกำหนดแขกที่เข้าพักกลายๆ ว่าจะเป็นคู่รักเป็นหลัก ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการใช้เวลาที่มีค่ากับคนที่มาด้วยอยู่แล้วครับ

- ห้องแต่ละห้องมีขนาดใหญ่ และรูปแบบของห้องจะเน้นให้มีพื้นที่แต่งตัว พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างมาก ซึ่งสาวๆ หลายคนน่าจะชอบครับ

- การบริการของพนักงานดีเยี่ยมครับ

- ทำเลที่ตั้งใกล้กับท่าเรือทับละมุ ทำให้สะดวกกับการไปเที่ยวสิมิลัน, ตาชัย และหมู่เกาะสุรินทร์มาก ประหยัดเวลาในการเดินทางทั้งขาไปและขากลับมาก เมื่อเทียบกับการพักที่ภูเก็ตเราจะมีเวลาต่อวันมากขึ้นราวๆ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ

- สระว่ายน้ำสวย และมีขนาดใหญ่ รวมทั้งเป็นระบบน้ำเกลือ

- มีห้องออกกำลังกายให้ใช้บริการฟรี

- หาดค่อนข้างเป็นส่วนตัวสูง แม้จะไม่ได้กั้นหาดชัดเจน และสามารถมีคนนอกเดินผ่านจากหาดอื่นมาที่หาดเราได้ แต่ด้วยหาดที่ค่อนข้างยาวและทำเลที่ตั้งที่ไม่ใกล้โรงแรมอื่นมากนักดังนั้นจึงแทบไม่เจอแขกหรือคนนอกเข้ามารบกวนในพื้นที่เลย

- Wifi ฟรีและแรง สามารถใช้ได้ตลอดวัน โดย 1 คน จะมี 1 user และจากการทดลองของผมที่เดินไปมาทั่วรีสอร์ทตลอดทั้งวันก็สามารถที่จะต่อใช้ wifi ได้ตลอดเวลาเลยครับ



ข้อด้อย

- เขาหลักเป็นที่ๆ ไม่มีสนามบิน และไม่มีรถประจำทางผ่านมากนัก ดังนั้นการเดินทางมายังรีสอร์ทแห่งนี้อาจจะต้องใช้บริการการเช่ารถหรือไม่ก็บริการรถรับส่งจากโรงแรมครับ

- พนักงานหลายๆ ท่านเป็นชาวต่างชาติ อาจจะสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้นอาจจะมีอะไรขลุกขลักนิดหน่อยในการสื่อสาร แต่หากท่านพอสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้างก็ไม่ใช่ปัญหาครับ

- การจำกัดอายุคนเข้าพัก ทำให้ครอบครัวหลายๆ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ และอยากพาไปพักผ่อน หมดสิทธิ์เข้าพักครับ

- ไลน์อาหารไทยในมื้อเช้าค่อนข้างน้อยครับ คงเพราะแขกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นหากใครมีปัญหาในการทานอาหารฝรั่งหรือพวกขนมปังก็อาจจะมีอาหารให้เลือกทานไม่มากครับ

- ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งนี้ไม่ได้ใกล้ตลาดหรือร้านสะดวกซื้อมากนัก อาจจะหาซื้ออะไรทานเล่นลำบาก รวมทั้งหากใครที่ไม่มีรถและต้องการออกไปที่ถนนใหญ่ก็ต้องเดินออกไปไกลพอดูครับ



และนั่นก็เป็นข้อดี ข้อด้อยที่ผมพยายามสรุปมาครับ สำหรับผมแล้วผมมองว่ารีสอร์ทแห่งนี้เหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการมาพักผ่อน นอนชิวๆ ตัดขาดจากโลกภายนอกซักวันสองวัน ครอบครัวที่คุณลูกต้องการพาพ่อแม่มาสูดอากาศที่บริสุทธิ์ หรือไม่ก็คู่รักที่ต้องการมาเติมความหวานให้ชีวิต อยากมาอยู่ในที่เงียบๆ ที่ไม่มีเสียงรบกวนของเด็ก รวมไปถึงคนที่ต้องการที่พักที่ดีๆ ใกล้กับการเดินทางไปเที่ยวเกาะอย่างสิมิลัน, ตาชัย หรือหมู่เกาะสุรินทร์ครับ และจากช่วงเวลา 2 คืนที่ผมได้ใช้บริการเรียกได้ว่าที่นี่เป็นที่พักที่ผมค่อนข้างประทับใจที่นึงเลยทีเดียวครับ เพราะโดยปกติแล้วผมแทบจะไม่ค่อยได้ไปพักหรือสัมผัสกับที่พักแบบนี้ซักเท่าไหร่ วันๆ ก็เอาแต่ทำงานเลิกค่ำๆ และเวลาไปเที่ยวก็มักจะพักแต่โรงแรมธรรมดาๆ เพราะคิดว่าวันนึงๆ เราอยู่ในโรงแรมแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่พอได้มาเจอที่พักแบบนี้ผมก็เข้าใจเลยว่าการได้นอนพักผ่อน ทำตัวให้ผ่อนคลายสบายๆ ใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบนั้นมันดีแบบนี้นี่เอง และบางครั้งชีวิตของคนเราก็โหยหาการพักผ่อนแบบนี้ครับ มันคงจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขไม่น้อยเลย ถ้าเราได้มาใช้ชีวิตใช้เวลากับใครซักคนที่เรารักมากๆ ในที่แบบนี้ครับ



พูดก็พูดเถอะครับ หลังจากที่ผม Check out ออกมาแล้ว ผมถึงทราบว่า concept ของรีสอร์ทแห่งนี้ว่าคืออะไรและจากประสบการณ์ 2-3 วันที่ผมได้ใช้เวลากับภรรยาในที่แห่งนี้ มันทำให้ผมอิ่มเอมใจตรงกับ concept ที่ทางรีสอร์ทตั้งใจไว้จริงๆ ว่า “มันคือสถานที่ที่ให้คู่รักได้มาเติมเต็มความสุข" อย่างแท้จริงครับ



ปล. หากใครมากับแฟน ในทุกคืนวันศุกร์ที่ Beyond Khaolak แห่งนี้จะมีการจัด Dinner พิเศษที่เรียกว่า Candle light dinner ด้วยนะครับ จะเป็นการจัดโต๊ะพิเศษสำหรับทานอาหารที่ชายหาดริมทะเล โดยจะเสิร์ฟmenu set 4 อย่าง และที่โต๊ะจะมีเพียงแสงเทียนที่อยู่ในตะเกียง ใต้เท้าเราจะมีทราย และเบื้องหน้าจะมีทะเลกับดาวครับ ใครสนใจลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมดูนะครับ เพราะในแต่ละวันจะมีการจำกัดจำนวนโต๊ะด้วยครับ



สำหรับช่องทางการติดต่อของ Beyond Resort Khaolak ก็ตามนี้เลยครับ

www.katagroup.com/beyond-khaolak

https://www.facebook.com/BeyondResortKhaolak/

หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 076-592-300 ได้เลยครับ



ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้นะครับ หากขาดตกบกพร่องประการใดผมก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ และการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ และหากใครชอบการรีวิวของผม สามารถไปติดตามหรือแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ ผมขอทิ้งท้ายด้วยภาพจากหน้าห้องพักผมแล้วก็บรรยากาศในรีสอร์ทแห่งนี้อีกซักหน่อยนะครับ สวัสดีครับ



ภรรยาหา สามีใช้

 วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.53 น.

ความคิดเห็น