เมื่อสถานที่มีเรื่องราว และเรื่องราวเหล่านั้นมีความหมายที่ทำให้เราอยากจะใช้ชีวิตเพื่อค้นหามัน...
เปิดซิงครั้งแรกของการใช้ชีวิตกินอยู่แบบชาวประมง และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันกับการเดินทางมายังสตูล จังหวัดที่อาจจะไม่เด่นดังสู้จังหวัดอื่นๆในภาคใต้ แต่หลังจากที่มาเหยียบที่นี่แล้ว กลับทำให้ค้นพบว่านี่แหละ The hidden Gems Thailand แค่ 6 วัน 5 คืนมันไม่พอกับการที่เราจะศึกษาเพชรเม็ดนี้ด้วยซ้ำ
Day 1 : The story of Satun's food
กรุงเทพ - สนามบินหาดใหญ่ - ร้านคนเหล็ก - ทุ่งหว้าโฮมสเตย์โกดอน
เราบินมาจากกรุงเทพถึงสนามบินหาดใหญ่ด้วย Thaismile airway
สายการบินที่ทำให้เรายิ้มได้ตลอดทางจนเครื่องลงเลย :-)
![](/f/26002/5d3b39c62738cb3ea2a23923.jpg)
พุ่งมาเปิดมื้อแรกกันที่ ร้านคนเหล็ก อยู่ระหว่างทางผ่านจากสนามบินหาดใหญ่ไปจังหวัดสตูล ร้านนี้เคยเปิดเป็นร้านกาแฟมาก่อน ต่อมาขยับขยายไปขายอาหารคาว มีทั้งกับข้าว และอาหารตามสั่งให้เลือก อร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะน้ำบูดู ! ที่สำคัญน้ำพริกที่นี่ให้ฟรีนะจ้ะ ซึ่งหมดนี้กินกันแค่สองคน แต่บอกเลยว่าเกลี้ยง
![](/f/26002/5d3b3d2e0ac79e20c66fd915.jpg)
ช่วงนี้เป็นหน้าฝน จากแพลนตอนแรกที่จะไปวัดชมภูนิมิตร เลยต้องล้มเปลี่ยนไปเข้าที่พักกันก่อนเลยที่ ทุ่งหว้าโฮมสเตย์โกดอน ซึ่งได้รับมาตราฐานโฮมสเตย์ไทยสามปีซ้อน พอเราไปถึงที่พักกันแล้ว หมดคำถามเลยว่าทำไม
![](/f/26002/5d3b37b10ac79e20c66fd8e8.jpg)
ห้องนอนมีทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ เราได้พักกันที่ห้องใหญ่ มีทั้งหมด 4 เตียง นอนได้ถึง 8 คน พร้อมห้องน้ำอีกสองห้อง สะดวกสบายมาก กว้างขวาง สะอาดสุดๆ
![](/f/26002/5d3b38c40ac79e20c66fd8ee.jpg)
ที่โฮมสเตย์นี้ มีคุณลุงกับคุณป้าเป็นเจ้าของ และคนดูแล ทั้งสองท่านแทนตัวเองว่าพ่อกับแม่ ให้ความเป็นกันเอง และดูแลเราเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ ซึ่งแม่ หรือ พี่แป้น เป็นแม่ครัวของที่นี่ คอยทำอาหารให้เราได้กินกันเกือบทุกมื้อ ซึ่งมื้อแรก เราก็มาช่วยแม่ทำอาหารด้วย หน้าตาแม่ดูเป็นกังวลเล็กน้อย แต่เราก็มั่นใจในฝีมือเราอยู่นะ เลยทำออกมาเมนูเดียว คือ ผัดคะน้าน้ำมันหอย (ขำ)
![](/f/26002/5d3b3fea2738cb3ea2a23949.jpg)
แม่ทำอาหารให้เยอะมากทุกมื้อ อาหารทุกอย่างจะเป็นรสชาติใต้แท้ๆ อร่อย เข้มข้น เผ็ดถึงใจทุกจาน โดยเฉพาะแกงส้มใต้ ต่างจากที่เคยที่กรุงเทพเยอะมาก มันเผ็ดกว่า แต่หอมกว่า และปลาสดมากกก หมดวันแรกไปแบบฟินๆกันเลยทีเดียว
Day 2 : The story of Finding heart
ตลาดเช้า - วัดชมภูนิมิตร - Geopark - ถ้ำเล สเตโกดอน
เริ่มจากที่แรก ตลาดเช้า ซึ่งเป็นตลาดกลางชุมชน มีทั้งผัก อาหารสด และผลไม้ขาย โดยในอดีตชาวจีน และชาวปีนังได้อพยพมาที่นี่ พร้อมกับเอาของมาขาย เช่น พริกไทย ทำให้การตกแต่งของตึกแถวนี้จะมีลักษณะเหมือนปีนังจนได้ชื่อว่า "ปีนังน้อย"
ที่ตลาดแห่งนี้ทุกคนจะมาหาซื้อข้าวเช้าก
![](/f/26002/5d3b45b30ac79e20c66fd94c.jpg)
เราย่อยอาหารด้วยการเดินจากตลาดชุมชนไปวัดชมภูนิมิตร ซึ่งห่างกันแค่ 5 นาทีเท่านั้น วัดที่นี่เป็นวัดประจำชุมชน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์มาก โดยมีหลวงพ่อแก่นจันทร์ซึ่งเป็นหลวงพ่อที่ทุกคนในชุมชนจะมากราบไว้ขอพรกัน เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ และต่างๆ ภายในวัดตกแต่งลวดลายสวยงาม ถ่ายรูปได้ทุกมุมเลยทีเดียว
![](/f/26002/5d3b4c642738cb3ea2a239ef.jpg)
![](/f/26002/5d3b4b440ac79e20c66fd952.jpg)
![](/f/26002/5d3b4c732738cb3ea2a239f0.jpg)
หลังจากไหว้พระเสร็จเรามาต่
![](/f/26002/5d3b508b0ac79e20c66fd9a4.jpg)
![](/f/26002/5d3b50a30ac79e20c66fd9a6.jpg)
หลังจากเสร็จที่พิพิทธภันฑ์นี้ ก็ทำให้เข้าใจว่า ชุมชนทุ่งหว้า ในอีกชื่อก็คือ Geopark ซึ่งแปลว่าอุทยานธรณี มันไม่ใช่เฉพาะแค่ซากฟอสซิลเท่านั้น แต่มันคือทุกอย่างในโลก ไม่ว่าจะเป็นหิน ดิน ทราย วัฒนธรรม อาหาร ที่มีความโดดเด่น จนได้รับการรับรองจากยูเนสโกด้วย
แต่ แต่ แต่ !! ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือ
ต้นปาล์มข้างมิวเซียมนั่นเอง ขอบอกเลยว่าถ่ายรูปสวยสุดๆ ห้ามพลาดกันนะ
![](/f/26002/5d3b51d62738cb3ea2a239fb.jpg)
หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ เราก็กลับมาฝากท้องกันที่โฮมสเตย์ของเรานั่นเอง ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เราก็พบเผ่ามานิก หรือ เงาะป่า ซึ่งเป็นชาติพันธ์เก่าแก่ของที่จังหวัดสตูล เราเลยขอแชะภาพกับเด็กๆสักหน่อย
![](/f/26002/5d3b54f60ac79e20c66fd9b2.jpg)
กลับมาที่โฮมสเตย์ มื้อกลางวันนี้ แม่ให้พวกเราโชว์ฝีมือตำน้ำพริกกะปิครั้งแรกในชีวิต !!
![](/f/26002/5d3b52ed0ac79e20c66fd9ac.jpg)
หลังจากที่ลองทำเสร็จ ขอบอกเลยว่าช็อกมาก น้ำพริกกะปิทำง่ายกว่าที่คิด แถมออกมาอร่อยสุดๆ หรือเป็นเพราะกะปิของสตูลเค้าเด็ดกันนะ ต้องจัดกลับไปฝากคนที่บ้านซะละ
กินข้าวกลางวันกันเสร็จ เราก็ผจญภัยกันที่ ถ้ำเล สเตโกดอน ก่อนเราไปเข้าถ้ำ ก็แวะกรีดยางกับถ่ายรูปเก๋ๆหน้าทางเข้ากันสักหน่อย มีแต่อะไรที่เพิ่งเคยทำครั้งแรกในชีวิตทั้งนั้นเลย
![](/f/26002/5d3b55460ac79e20c66fd9b3.jpg)
![](/f/26002/5d3b56060ac79e20c66fd9b5.jpg)
ต่อมา เราก็มาพบกับครั้งแรก(อีกแล้ว)ของการพายเรือเข้าถ้ำเลที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย !! ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงงงง แต่ไม่ต้องกลัว ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่พายเรือให้เรานั่งไป ขอบอกว่าอากาศข้างในดีสุดๆ มีหลากหลายอารมณ์ ทั้งได้แอดเวนเจอร์ไปจนถึงได้นั่งสมาธิ เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่อยากให้ทุกคนมาลองจริงๆ
![](/f/26002/5d3b56580ac79e20c66fd9b7.jpg)
![](/f/26002/5d3b57202738cb3ea2a23a0c.jpg)
โดยลักษณะของการล่องเรือเข้าไปในถ้ำคือ จะเป็นเหมือนการที่เราเข้าไปในตัวช้างสเตโกดอน เริ่มจากหัวช้าง > ปากช้าง > ผ่านตัวช้างไปสู่หัวใจ และปอดช้าง โดยไฮไลท์อยู่ที่เราจะต้องตามหาหัวใจที่ปลายอุโมงค์ให้เจอเราถึงจะออกไปได้
![](/f/26002/5d3b573f0ac79e20c66fd9b9.jpg)
ในที่สุดเราก็เจอหัวใจดวงนั้น <3 Finally, I found the heart.
พอออกมาจากทำเราก็จะมาเจอกลับป่าโกงกาง ซึ่งเราก็จะสามารถพายเรือคายัคชมวิวต่อไปได้เรื่อยๆ เพื่อไปขึ้นเรือหางยาว เพื่อจะไปขึ้นฝั่งอีกที
![](/f/26002/5d3b57f40ac79e20c66fd9ba.jpg)
![](/f/26002/5d3b58150ac79e20c66fd9bb.jpg)
กว่าจะลอดถ้ำออกมาได้ ก็เย็นพอดี เราเลยรีบกลับไปอาบน้ำ แล้วออกไปหาอะไรกันที่ร้านสุดที่รัก ร้านนี้อาหารอร่อยทุกจาน ให้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นใบเหลียงผัดไข่ ต้มยำกุ้งสูตรเด็ด คะน้าผัดปลาเค็ม และปลาทูสไตล์สตูล !
![](/f/26002/5d3ba673872e2a6ae93d8319.jpg)
![](/f/26002/5d3ba6c0872e2a6ae93d831b.jpg)
กินคาวต้องกินหวาน เราเลยมาต่อกันที่ ร้านชาสุไหงอุเป ร้านชาชื่อดังของชุมชนนี้ ร้านนี้มีโรตีให้เลือกหลายสิบแบบ ให้ลองกันได้ไม่รู้จบ แถมตกจานละ 15-20 บาทเท่านั้น แถมคุณพี่เจ้าของร้านยังใจดีเปิดโอกาสให้เราได้ลองทำโรตีอีกด้วย ฝันหวานกันไปเลยคืนนี้
![](/f/26002/5d3bb08457c31164ed7db121.jpg)
![](/f/26002/5d3c774fe533823a840595b5.jpg)
Day3 : The story of dragon
เกาะสี่หอ - สันหลังมังกร - เปิปแกงเป็ด - ทำขนมบุหงาบุดะ ขนมผูกรัก - ทำผ้ามัดย้อม - ถักสร้อยข้อมือ
วันที่สามของการใช้ชีวิตกับชุมชน วันนี้เราจะเน้นกิจกรรมทางน้ำกันกับการพิชิตสันหลังมังกร เริ่มจากเราตื่นแต่เช้ารีบไปขึ้นเรือหางยาวที่ท่าเรือท่าอ้อย เพื่อที่จะไปตะลุยเกาะกัน
![](/f/26002/5d3c7a7a76da2251d5c09394.jpg)
![](/f/26002/5d3c7cd2c9f0683c623d3057.jpg)
![](/f/26002/5d3c7ce7c9f0683c623d3059.jpg)
หลังจากนั่งเรือมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาหยุดพักกันที่เกาะสี่หอ ซึ่งเป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งป่าชายเลน หอยหวาน และปูก้ามดาบ ซึ่งตัวหาดจะทอดยาวให้เดินไปได้รอบจนถึงป่าชายเลนเลย
![](/f/26002/5d3c8180c9f0683c623d3077.jpg)
![](/f/26002/5d3c82ca76da2251d5c093a8.jpg)
![](/f/26002/5d3c82f676da2251d5c093a9.jpg)
มากไปกว่านั้น ขอบอกเลยว่าเกาะนี้ถ่ายรูปเพลินมาก !
ไฮไลท์ของที่นี่คือต้องถ่ายรูปสะท้อนกับน้ำ
![](/f/26002/5d3c85d3c9f0683c623d3129.jpg)
หลังจากถ่ายรูปกันหน่ำใจเรานั่งเรือต่อกันมาเพื่อพิชิต หาดสันหลังมังกร ซึ่งตัวหาดทรายจะทอดยาวมีลวดลายคล้ายกับหลังของมังกร แต่เราต้องมาให้ตรงเวลาเท่านั้น ไม่งั้นน้ำจะขึ้น แล้วเราจะอดพิชิตมัน ที่นี่จะมีให้พายเรือคายัคเที่ยวชมรอบๆ เพราะรอบๆสันหลังมังกรจะมีเกาะเล็กๆให้เราไปเที่ยวชม เล่นทราย นอนอาบแดดได้สบายๆเลย เพราะที่นี่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากๆ
![](/f/26002/5d3c8bbbc9f0683c623d3133.jpg)
![](/f/26002/5d3c8cb976da2251d5c093cf.jpg)
เย้ ถึงแล้ว !!
![](/f/26002/5d3c8c86c9f0683c623d3136.jpg)
![](/f/26002/5d3c8cd776da2251d5c093d1.jpg)
หลังจากถ่ายรูป กินโรตีพร้อมขนมนมเนยที่ไกด์ และคนเรือพกมาให้จนสบายใจบนเกาะเสร็จ เราก็นั่งเรือหางยาวกลับฝั่งไปทานอาหารกลางวันกัน ซึ่งไฮไลท์เด็ดอีก 1 อย่าง ย้ำว่าห้ามพลาดเด็ดขาดคือ นั่งแพ เป็นแพที่ผูกกับตัวเรือหางยาวที่เรานั่งมาอีกที ขอบอกเลยว่าฟิน เย็นฉ่ำไปถึงใจกันเลย
![](/f/26002/5d3c8d6876da2251d5c093d4.jpg)
อาหารกลางวันของเราบนฝั่งวันนี้คือ ข้าวเหนียวหมก แกงเป็ด ขอบอกเลยว่าอร่อยมากๆ แปดสิบล้านตัว !! ที่สำคัญเมนูนี้เขาใช้มือเปิปนะจ้ะ
![](/f/26002/5d3c8df2c9f0683c623d313c.jpg)
หลังจากอิ่มข้าวเหนียวหมกกันเสร็จ เราก็มาต่อกันที่กิจกรรมแม่บ้านเก๋ๆ คือการทำขนมบุหงาบุดะ และขนมผูกรัก ซึ่งขนมบุหงาบุดะ คือ การร่อนแป้งลงบนกะทะที่ร้อนๆก่อน จากนั้นค่อยใส่ไส้มะพร้าวสีสันต่างๆลงไป สิ่งที่ยากที่สุดคือการพับแป้งแข่งกับเวลา
![](/f/26002/5d3c8f2776da2251d5c093dd.jpg)
![](/f/26002/5d3c8f3cc9f0683c623d3143.jpg)
ส่วนขนมผูกรักนั้น คือการนำไส้ต่างๆเช่น กุ้ง ปลา มะพร้าว มาใส่ลงบนแป้งปอเปี๊ย แล้วผูกเป็นโบว์จากนั้นก็นำไปทอด ขอบอกเลยว่าทางเราถนัดขนมผูกรักมากกว่าเยอะ
![](/f/26002/5d3c8fc8c9f0683c623d3144.jpg)
กิจกรรมโปรดที่เฝ้ารอมานานอันต่อมาก็คือ การทำผ้ามัดย้อม กิจกรรมเปิดซิงอีกแล้ว สีที่ใช้ทำผ้ามัดย้อมนี้ได้มาจากต้นตะบูน พันธุ์ไม้ป่าชายเลน เรามาทำกันที่บ้านชาวบ้านที่ทำเสื้อ และผ้ามัดย้อมขายกับมาอย่างยาวนาน เขาสอนทุกขั้นตอน และกระบวนการอย่างละเอียดเลย
![](/f/26002/5d3c90aec9f0683c623d314a.jpg)
![](/f/26002/5d3c90dd76da2251d5c093e0.jpg)
ผลจากต้นตะบูนพันธุ์ไม้ป่าชายเลนของที่นี่ นิยมนำมาทำผ้ามัดย้อม
![](/f/26002/5d3c910bc9f0683c623d314e.jpg)
![](/f/26002/5d3c9178c9f0683c623d3150.jpg)
เมื่อทำเสร็จก็สามารถมารับได้ในอีก 2วัน ดังนั้นแนะนำให้ไปทำผ้ามัดย้อมกันตั้งแต่วันแรกๆเลยนะจ้ะ
เหนื่อยกันมาทั้งวัน ก็มาปิดท้ายมื้ออร่อยๆที่โฮมสเตย์กันอีกเช่นเคย
![](/f/26002/5d3d85372a67173796cc5df3.jpg)
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ก็ได้เวลาถักสร้อยข้อมือเองครั้งแรก ! ซึ่งเป็นสร้อยข้อมือเชือกเทียน ตอนเริ่มทำคิดว่าต้องยากแน่ๆ แต่พอทำแล้วไม่ยากเลย สนุกมาก แม่แป้นสอนอย่างใจเย็นสุดๆ เลยทำมาได้ทั้งหมด 5 เส้น สร้อยข้อมือ สร้อยข้อเท้า และสร้อยคอ !
![](/f/26002/5d3db809d563105392846f3e.jpg)
สร้อยข้อมือจากเชือกเทียนสามสี
Day4 : The story of being fisherman
ขนมจีนน้ำยา - Little penung - บ้านสวนพริกไทย - ท่าเรือสุไหงอุเป - เกาะสะบัน
เช้าวันที่ 4 นี้ ตื่นมาด้วยความฟินกับเมนูขนมจีนน้ำยา ด้วยน้ำยาสารพัด มีให้เลือกถึงสามแบบ ตั้งแต่แบบเผ็ด แบบกะทิกลมกล่อม และแบบหวาน ยืนเลือกตั้งนานไม่ได้สักที แม่แป้นเลยแนะนำให้เราราดทั้ง 3 แบบ ไปเลย
![](/f/26002/5d3d8b8a3d34d74156aa2a06.jpg)
ท้องอิ่มแล้ว ก็เดินออกไปเติมพลังสมองกันบ้าง ที่ตลาดชุมชนที่เดิม
ที่นี่เราพบกับโกมุด ซึ่งเป็นปลัดชุมชนคอยให้ความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของชุมชนทุ่งหว้าที่ได้รับอิทธิพลการสร้างมาตั้งแต่สมัยปีนัง สมัยที่ชาวปีนังมาค้าขายที่นี่ เขาก็มาขนพวกปูน กระเบื้องมาด้วย ทำให้ที่บ้านแถวตลาดชุมชนแห่งนี้ถูกขนานนามว่า ปีนังน้อย หรือ Little penung นั่นเอง บ้านที่นี่จะหน้าแคบ แต่ตัวบ้านจะยาว เพื่อเป็นการเลี่ยงภาษีนั่นเอง เดินชมเมืองไปถ่ายรูปไป ได้รูปเก๋ๆเพียบ!
![](/f/26002/5d3d8d160cda9f43d761d66e.jpg)
![](/f/26002/5d3d8fc13d34d74156aa2a30.jpg)
![](/f/26002/5d3d91780cda9f43d761d66f.jpg)
เราไปพักร้อนเติมหวานกันด้วยชาเย็นหวานน้อย
![](/f/26002/5d3d92830cda9f43d761d671.jpg)
และต่อด้วยบ้านพริกไทย เพื่อเปิดซิงการทำคุกกี้พริกไทยครั้งแรกในชีวิต
เริ่มด้วยการไปตะลุยสวนพริกไทยของชุมชนกันก่อนเลย
![](/f/26002/5d3d9471c429964673f1b61e.jpg)
เริ่มต้นการทำขนมคุกกี้พริกไทยด้วยการเจียวหอมต่างๆ แล้วเอาแป้งไปผสมกับน้ำตาลทราย เนยเทียม ถึงเอาไปปั่นรวมกัน หลังจากนั้นก็เอาไส้ที่ทำจากพริกไทยดำมาม้วนเข้ากับแป้งให้ได้ที แล้วแช่เย็นจนมันแข็ง ก็เอาออกมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก เตรียมอบได้เลย
![](/f/26002/5d3d971b0cda9f43d761d679.jpg)
![](/f/26002/5d3d96b30cda9f43d761d678.jpg)
![](/f/26002/5d3d978ec429964673f1b620.jpg)
หน้าตาของคุกกี้พริกไทย รสชาติเผ็ดพริกไทยนิดๆ กรอบ มีกลิ่นหอมเจียว กินเพลินมาก
ต่อกันที่อาหารกลางวันของวันนี้ เด็ดสุดๆด้วย น้ำพริกมันปู จิ้มกับผักต้นเผือก บอกเลยกินกันมันมาก ข้าวหมดจานโดยไม่รู้ตัว
![](/f/26002/5d3d9831c429964673f1b622.jpg)
![](/f/26002/5d3dc094d5631053928470ed.jpg)
ต่อมาเราออกมาสร้างเรื่องราวไฮไลท์กันอีกเรื่อง คือ เรื่องประมง ด้วยความที่วันนี้เราปลอมตัวกันเป็นชาวบ้านทุ่งหว้าแล้ว เราเลยขอมาสวมรอยเป็นชาวประมงออกไปหาปลาด้วยซะเลย โดยเรามาขึ้นเรือหางยาวกันที่ บ้านท่าเรือ สุไหงอุเป เพื่อออกเรือไปที่เกาะสะบัน หาหอย หาปลา สำหรับอาหารเย็นนี้กัน
![](/f/26002/5d3dbcf7d5631053928470d2.jpg)
![](/f/26002/5d3dbd2ed5631053928470d3.jpg)
![](/f/26002/5d3dbe39d5631053928470da.jpg)
![](/f/26002/5d3dbecbd5631053928470de.jpg)
เราแพลนกันแวะไปที่ เกาะสะบัน เพื่อไปขุดหิน หาหอยตีเตบกันก่อน ขอบอกเลยว่าหอยหาง่ายมากๆ หลับตาขุดก็ยังเจอเลย แถมเราได้ชิมหอยกันสดๆอีกด้วย พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด !
![](/f/26002/5d3dc11d0cda9f43d761d959.jpg)
![](/f/26002/5d3dc4340cda9f43d761d96b.jpg)
เราขับเรือออกมาจากเกาะ เพื่อไปดักจับปลากัน ซึ่งชาวประมงจะต้องทอดแหกลางทะเลประมาณ 300 - 500 เมตร ก่อน แล้วทิ้งไว้ประมาณชั่วโมงกว่า เพื่อให้ปลาติดแห
![](/f/26002/5d3dc4e0d56310539284711d.jpg)
![](/f/26002/5d3dc50b0cda9f43d761d96e.jpg)
ระหว่างรอปลา พี่ๆไกด์ก็ชวนเรามาร้องเพลง เล่นระบำกันอย่างสนุกสนาน
![](/f/26002/5d3dc53ed563105392847120.jpg)
มองไปรอบๆเรือ วิวสวยมาก เพิ่งเคยมาดูพระอาทิตย์ตก บนเรือครั้งแรก :)
![](/f/26002/5d3dc72d0cda9f43d761d974.jpg)
![](/f/26002/5d3dc73cd56310539284712f.jpg)
![](/f/26002/5d3dc7500cda9f43d761d976.jpg)
ระหว่างนั้นพี่ประมงก็พาเราไปดูค้าคาวแม่ไก่กัน เราเจอค้างคาวแม่ไก่อาศัยอยู่ที่เกาะสะบัน เต็มไปหมด มันออกหากินตอนกลางคืน มันกินพวกผลไม้ ค้างคาวพวกนี้รสชาติคล้ายกว
![](/f/26002/5d3dc7d2d563105392847131.jpg)
ตอนแรกที่เราตัดสินใจพกอาหารมากินกันบนเรือ พร้อมดูพระอาทิตย์ตกดินไปด้วย ก็เกิดเปลี่ยนใจกันขึ้นมา เพราะเรือโคลงมาก เพราะคลื่นลมแรง แต่ขอบอกว่า ต้องลองดูสักครั้งในชีวิตนะ น่าจะฟินมากๆๆ
ระหว่างเราเดินทางกลับ เราแวะมาดึงแหขึ้นก่อน วันนี้เราได้ปลาทูมาทั้งหมด 4 กิโลกว่าจ้าาา แต่ประมงบอกว่า ปกติได้มาเป็น ร้อยๆโลกันเลยนะ
![](/f/26002/5d3dc8a90cda9f43d761d97a.jpg)
![](/f/26002/5d3dce570cda9f43d761d99b.jpg)
นอนชมดาวบนเรือระหว่างทางนั่งเรือกลับฝั่ง
เราเอาข้าวที่เตรียมไปบนเรือกลับมากินกันที่บ้านชาวประมง จัดเต็ม จัดแน่น ซีฟู้ดล้นจานกันเลย ส่วนปลาทูเราเอามาทำต้มส้มกัน ปลาทูสดมากๆ แถมน้ำซุปต้มส้มก็อร่อยจนซดหมดถ้วย นอนหลับฝันดีพุงกางกันเลยคืนนี้ :)
![](/f/26002/5d3dc9f7d56310539284725c.jpg)
![](/f/26002/5d3eb3480ee01b5376e9d3a3.jpg)
Day5 l The story of cooling
ตักบาตร - โกปี๊ - ฉิม - หม้อข้าวหม้อแกงลิง - กล้วยไม้รองเท้านารี - น้ำตกธารปลิว
ตอนเช้าเราตื่นกันตั้งแต่ 6 โมง นุ่งผ้าถุงมาตักบาตรกันก่อนที่ตลาดชุมชน รวมถึงร่วมถวายพระพรให้กับ ร.10 อีกด้วย ซึ่งเราก็ได้การต้อนรับจากท่านนายอำเภอทุ่งหว้าเป็นอย่างดี
![](/f/26002/5d3e5aa37b5cab1e5d77330b.jpg)
ระหว่างทางไปร้าน เราเลยแอบแวะดูชาวบ้านสาธิตการตากปลาแดดเดียวกันสักหน่อย
![](/f/26002/5d3ea76a9f9b0f45b47b9db2.jpg)
หลังจากนั้นเราก็ตรงไปทานข้าวเช้ากันที่ร้านโกปี๊ ร้านเก่าแก่ของชุมชนทุ่งหว้าที่ท่าเรือสุไหงอุเป
![](/f/26002/5d3ea3719f9b0f45b47b9da7.jpg)
![](/f/26002/5d3ea9af0ee01b5376e9d355.jpg)
และนี่คือข้าวคลุกกะปิ ที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาในชีวิต มันหอมทั้งกะปิ ทั้งรสชาติที่เข้มข้น ที่นี่ก็มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนมปังปิ้ง ข้าวยำ และพวกชานมโกโก้ต่างๆ
![](/f/26002/5d3ea3d19f9b0f45b47b9da8.jpg)
อิ่มหนำกันแล้ว เราก็มาต่อกันที่ร้าน ฉิม ร้านเมลอนสายพันธุ์คิโมจิ ที่เขาการันตีความหวานไว้ที่ระดับ 15 ซึ่งจะหวานกว่าเมลอนทั่วไป โดยร้านนี้เมนูเด็ด คือเมลอนกาแฟ นอกจากเมลอนกาแฟ ก็ยังมีแยมเมลอน และไวน์เมลอนอีกด้วย !! ซึ่งไฮไลท์เด็ดของร้านนี้คือ เราสามารถเพนท์รูปลงบนเมลอนได้ โดยใช้เหล็กขูดลงไปที่เมลอน ตอนที่ผลมีอายุ 10-15 วัน หลังจากผสมพันธุ์เสร็จ
![](/f/26002/5d3ea6bf4562235009a33c43.jpg)
นอกจากนี้เรายังได้ลองตัดเมลอนสดๆจากสวน พร้อมทั้งผ่าชิมกันตรงนั้นเลย ขอบอกว่า หอม หวานมาก
![](/f/26002/5d3eae3a0ee01b5376e9d365.jpg)
![](/f/26002/5d3eb0700ee01b5376e9d37a.jpg)
กิจกรรมต่อมาของเราก็คือ การทำขนมหม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งขนมนี้ทำง่ายมาก เราเอากระเปาะของมันมาทำเป็นขนม โดยยัดไส้ข้าวเหนียวผสมกับน้ำตาล เกลือนิดหน่อย และน้ำดอกอัญชัญลงไป จากน้ำเอาไปนึ่งประมาณ 10 นาที เราก็จะได้ขนมหม้อข้าวหม้อแกงลิงมา
![](/f/26002/5d3eb2cb0ee01b5376e9d39b.jpg)
เรามาปิดท้ายกิจกรรมตอนบ่ายกันด้วย การทำกล้วยไม้รองเท้านารี ซึ่งวิธีการทำนั่นไม่ยากเลย ขอแค่มือเบาๆก็พอ เราเริ่มจากการนวดแป้งโดว์ก่อน แล้วหลังจากนั้นก็เอาแป้งเข้าเครื่องรีด พอออกมาใช้ตัวปั้มกดให้เป็นทรงกลีบดอกไม้ 4 ดอก คอยดัดๆให้มันเป็นทรง หลังจากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันจุดเป็นสีๆลงบนกลีบดอกไม้
![](/f/26002/5d3eb6560ee01b5376e9d3be.jpg)
ซึ่งมื้อกลางวัน เราขอจัดอาหารกลางวันกันที่นี่
![](/f/26002/5d3ee8bff02e4e7983fb9e5f.jpg)
ตอนบ่ายเรามาเติมความเย็นกันที่น้ำตกธารปลิว น้ำตกที่นี่สะอาดมาก แถมหินก็ปีนง่ายมากๆ สนุกสนาน น้ำเย็น จากที่ง่วงๆ ยามบ่าย ก็สะดุ้งตื่นเลยทีเดียว
![](/f/26002/5d3ee74af02e4e7983fb9e42.jpg)
![](/f/26002/5d3ee808f02e4e7983fb9e53.jpg)
มื้อเย็นเรามีงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายกันที่โฮมสเตย์ ชาวบ้านจัดงานเลี้ยงให้พวกเราอลังการมาก แถมยังได้ดูโชว์มโนราห์ กับเต้นแอโรบิคสไตล์ชาวสตูลด้วย ! ปิดท้ายด้วยการกล่าวขอบคุณ พร้อมความในใจที่ต่อชาวทุ่งหว้า
![](/f/26002/5d3eeccff02e4e7983fb9e9a.jpg)
![](/f/26002/5d3eed10f02e4e7983fb9e9d.jpg)
![](/f/26002/5d3eed5461e96e71fdbf3eb3.jpg)
Day6 : The story of saying goodbye
กุหลาบใบเตย - ถ้ำอุไรทอง - เดินทางกลับกรุงเทพ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่ชุมชนทุ่งหว้าแล้ว แอบใจหายเหมือนกันนะ หลังจากกินข้าวเหนียวไก่เสร็จ เราก็มาทำกุหลาบจากใบเตยกัน หลังจากพยายามไปหลายดอก ในที่สุดก็ได้ดอกนี้ออกมา
![](/f/26002/5d3eeea8f02e4e7983fb9eac.jpg)
ได้เวลาร่ำลาพ่อสัมฤทธิ์ และแม่แป้นที่ทุ่งหว้าโฮมสเตย์โกดอน ไว้หนูจะกลับมาเยี่ยมอีกนะคะ
![](/f/26002/5d3eefa261e96e71fdbf3ee4.jpg)
เรานั่งรถกันมาที่ถ้ำอุไรทองเป็นที่สุดท้ายของทริปก่อนไปสนามบิน ที่นี่เป็นอีกหนึ่งท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล ข้างในมีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่สวยงาม ลึกลับ และน่าค้นหาสุดๆ
![](/f/26002/5d3ef1f661e96e71fdbf3f05.jpg)
![](/f/26002/5d3ef2a2f02e4e7983fba170.jpg)
![](/f/26002/5d3ef21df02e4e7983fba16a.jpg)
สุดท้ายนี้ถือโอกาสนี้ขอร่ำลาทุกคนด้วยเลยนะคะ เหล่าไกด์ของเรา ชาวบ้าน และทุกๆคนที่ชุมชนทุ่งหว้า
ทุกคนเป็นกันมาก คอยสอน และดูแลพวกเราเป็นอย่างดีมากๆตลอด 6 วัน 5 คืน
ดีใจมากที่ได้มาที่นี่ ครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาสัมผัสความเป็นชาวประมง
ได้ลองใช้ชีวิตเป็นชาวทุ่งหว้า ได้ทำอะไรหลายๆอย่างครั้งแรกในชีวิตที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ
ทำให้รู้ว่าความสุขมันหาได้ง่ายๆจากเรื่องราวรอบๆตัวนี้เอง
และนี่คือ "The story that unforgettable" จริงๆ :)
![](/f/26002/5d3eefc5f02e4e7983fba13c.jpg)
![](/f/26002/5d3ef149f02e4e7983fba15a.jpg)
![](/f/26002/5d3ef17161e96e71fdbf3f02.jpg)
ลาก่อนชุมชนทุ่งหว้า สัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอน :)
Let's go around
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 02.45 น.