เนื่องจากเราและเพื่อนชาวสิงคโปร์ได้มาพักที่โฮมสเตย์ชุมชนบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการดำนากับพ่อเพ็งและแม่น้อย เชฟประจำชุมชนแห่งนี้ เป็นเวลาครึ่งวัน

ตอนเช้า หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็ขึ้นรถบรรทุกสีแดงคันเล็กอกเดินทางจากชุมชนไปยังนาของพ่อเพ็ง

ขอเก็บรูปชิคๆ กับรถนิดนึง 55

กับเปลของกระท่อมใกล้ๆนา

นั่งรอพ่อพร้อมพาลงไปดำนา

แต่ก่อนจะไปดำนา พ่อพาไปถอนต้นกล้า สำหรับไปดำนา

พ่อบอกว่า ถ้าปีไหนอุดมสมบูรณ์ จะดำนา หรือการนำต้นกล้าข้าวไปปัก ต้นข้าวจะงอกขึ้นมาสวยกว่า รวงข้าวจะใหญ่และสวยกว่า

แต่ถ้าปีไหนไม่อุดมสมบูรณ์ จะทำนาหว่าน หรือการโยนเมล็ดข้าวลงไปในนาเลย

เมื่อใช้มือถอนต้นกล้าแล้ว จะใช้ตอก(เชือกไม้ไผ่)มัดเป็นมัดๆเพื่อที่จะได้ขนย้ายง่ายๆ การถอนต้นกล้าจะทำวันต่อวัน มัดแล้วจะเหมือนในรูป

จากนั้นจะเอาต้นขกล้าข้าวมาปักลงดิน เป็นกอห่างๆกัน กอละ3-4ต้น

สนุกมากกกก ปักตรงบ้างเบี้ยวบ้าง ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้มาก่อนเลย

ทาาดาาาา!! ผลงานของเรา เพื่อน พ่อเพ็ง และแม่เดือน ก็จะหลอมแหลมหน่อยๆ55

ดำนาเสร็จต้องเติมพลังสักนิด

พ่อและชาวชุมชนบ้านโคกเมืองพาเราสองคนมาลองบรรยากาศกินข้าวกลางทุ่ง (ริมทุ่ง)

ขนอุปกรณ์มาทำอาหารกันข้างนานี่แหละ เจ๋งมากกก

พ่อบอกว่าปกติจะฤดูดำนาก็จะอยู่ช่วงประมาณเดือนกรกฏาคม ส่วนฤดูเกี่ยวข้าวจะอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถ้ามาเที่ยวช่วงนี้ มีกิจกรรมให้ทำแน่นอน

มาอาหารหลายอย่างเลย ทั้งส้มตำที่เพื่อนทำ ปลานิลสดๆเผา และอาหารที่นำมาจากชุมชน

นั่งกินไป ดูวิวไป ฟินมากกกกก

เดินเล่นดูผลงานตัวเอง555

ก่อนกลับมีกิจกรรมร้องเพลงกันนิดหน่อย ประทับใจมากเลยยย

อยู่กรุงเทพไม่เคยได้มีโอกาสทำอะไรแบบนี้เลยนะ ดำนาเสร็จรู้สึกเลยว่าชาวนาเก่งมากจริงๆ ต้องทำงานกลางแดดทุกวัน

ต่อไปนี้จะตั้งใจทานข้าวให้หมดทุกเม็ดเลยค่า

**ขอขอบคุณพ่อเพ็ง แม่เดือน พี่พัชร์ และพ่อๆแม่ๆบ้านโคกเมืองทุกท่านค่า