มีภาพจาก " ดอยอ่างขาง " จ.เชียงใหม่ มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ

ภาพชุดนี้ตามเก็บมาประมาณห้าปีค่ะ เรียกได้ว่าไปทุกฤดูและทุกสภาพอากาศ

ดอยอ่างขางมีมนต์เสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหลไปแล้วก็อยากจะกลับไปอีก

และที่สำคัญ ที่ดอยอ่างขางมีสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งเป็นโครงการหลวงแห่งแรกค่ะ


ประวัติความเป็นมาของ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง"

ขอบคุณข้อมูลจากเวบ http://www.angkhangstation.com



เนื่องจากมีภาพจำนวนมากที่อยากจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันค่ะ อาจจะนำมาโพสในนี้ได้ไม่หมด

เพื่อน ๆ คนไหนสนใจอยากชมภาพท่องเที่ยวดอยอ่างขาง และข้อมูลของดอยอ่างขาง

สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจ " ดอยอ่างขาง360องศา " กันได้นะคะ

https://www.facebook.com/doiangkhang.story



ดอยอ่างขางเมื่อเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เราสามารถเลือกขึ้นได้สองทาง

ทางแรกที่นิยมใช้กันก็คือขึ้นตรงเส้นทางไชยปราการ - ฝาง ทางนี้แม้ระยะทางจะสั้น แต่ค่อนข้างชันมาก ถ้ารถไม่แรงพอแนะนำให้จอดไว้ตรงปากทางแล้วนั่งรถสองแถวขึ้นไป น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทางที่สอง มาทางเชียงดาวแล้วขึ้นไปทางหมู่บ้านอรุโณทัย ทางนี้ไม่ชันมากแต่อาจจะแคบหน่อย ส่วนตัวชอบไปทางเส้นนี้ค่ะ เพราะวิวสวยดี รถไม่ค่อยเยอะ ชมวิวข้างทางไปเพลิน ๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย


เมื่อขึ้นไปถึงดอยอ่างขางจุดแรกที่เราจะได้เจอก็คือ " ฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง " ที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดจุดหนึ่งในอ่างขางเลยค่ะ เราสามารถพบเจอกับทะเลหมอกได้ทั้งช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่ช่วงที่ไปแล้วเจอแน่ ๆ จะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน ค่ะ ชุดนี้จะเป็นภาพที่ถ่ายจากฐานปฏิบัติการดอยอ่างขางและบริเวณใกล้เคียงค่ะ


บนดอยอ่างขางจะมีหมู่บ้านชาวปะหล่องอยู่ค่ะ คือหมู่บ้านนอแล ที่นี่วิวตอนเช้าจะสวยมาก และหากช่วงไหนมีฝนตก เราจะได้พบเจอกับทะเลหมอกออกมาหยอกเย้ากับขุนเขา ตรงจุดนี้จะเป็นรอยเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศค่ะ คือไทยกับพม่า ตรงบริเวณชายแดนจะมีทหารเฝ้าและมีรั้วกั้น ที่นี่สามารถถ่ายได้ทั้งแสงเช้าและเย็น แต่จะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินนะคะ จะเห็นแค่แสงแดดที่เฉียงมาค่ะ


หลายต่อหลายคนรอคอยการมาเยือนของฤดูหนาวอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่นะ ลมหนาวจะพัดผ่านมาสักที

จะได้ออกไปชมธรรมชาติ สัมผัสกับอากาศหนาว ในที่บรรยากาศดี ๆ ที่ดอยอ่างขางแห่งนี้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี แต่ช่วงหน้าหนาวนี่จะหนาวสุด ๆ บางวันอุณหภูมิติดลบ หนาวสะใจไปเลย แต่สิ่งที่คิดว่าต้องไม่พลาดและจะพลาดไม่ได้คือ "ปฏิบัติการล่าเสือ" นั่นเอง เสือในที่นี้ไม่ได้หมายถึง เสือ จริง ๆ แต่เป็นดอกไม้แสนสวยสีชมพูหวานที่มาอวดโฉมให้เราได้เห็นเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น เจ้าเสือหวานของเราก็คือ "ดอกนางพญาเสือโคร่ง" นั่นเอง


ดอยอ่างขางเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่โรแมนติกที่สุดในฤดูหนาว ในยามที่ดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบาน แทบทั้งดอยจะเต็มไปด้วยดอกสีชมพู ด้านในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จะเต็มไปด้วยดอกซากุระแท้ ที่ได้เพาะพันธุ์มาจากต่างประเทศ


เอาล่ะมาดูกันดีกว่าว่า เจ้าเสือโคร่งที่นี่จะหวานสักแค่ไหนเชียว สมคำร่ำลือที่เค้าพูดถึงกันรึเปล่าค่ะ


อีกหนึ่งมุมมหาชนที่ใครมาเที่ยวดอยอ่างขางต่างก็อยากมาเก็บบันทึกภาพไว้ นั่นก็คือสวนบ๊วยนั่นเอง

สวนบ๊วยแห่งนี้อยู่ด้านในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ช่วงฤดูหนาวบ๊วยจะออกดอกค่ะ ดอกเป็นสีขาวสวยมากเลยค่ะ และที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายละคร และภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะคุ้นตากันบ้างนะคะ



สถานีเกษตรหลวงอ่างขางยามค่ำคืน ด้านในสถานีเกษตรจะมีสโมสรอ่างขางที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ผลผลิตจากโครงการหลวงเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร อีกทั้งยังมีมุมน่ารัก ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ และด้านในสถานีเกษตรก็ยังมีบ้านพักรับรองไว้บริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักอีกด้วยค่ะ


ดอยอ่างขางยังเป็นแหล่งดูนก ที่นักดูนกทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างชอบมากัน นกที่นี่มีหลายสายพันธุ์มาก ๆ ค่ะ มีทั้งนกท้องถิ่นและนกอพยพ ส่วนตัวไม่ค่อยถนัดถ่ายนกเท่าไหร่ แต่ก็มีภาพมาฝากกันเล็กน้อยค่ะ



ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล เป็นไร่สตรอเบอรี่แนวขั้นบันได จะเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่ช่วงเดือน พฤศจิกายน - มีนาคม

ผลผลิตจะออกเยอะสุดช่วงเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ ค่ะ โดยผลิตทั้งหมดจะนำส่งให้โครงการหลวงเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ ถ้าใครมาเที่ยวแนะนำค่ะว่าอย่าเด็ดผลผลิตของเกษตรกรทานนะคะ เพราะเค้าต้องนำส่งให้โครงการหลวง หากอยากอุดหนุนหรือซื้อไปรับประทาน แนะนำว่าให้ไปซื้อด้านในโครงการหลวงนะคะ



ไร่ชาแปลง 2000 เป็นอีกหนึ่งสถานที่...ที่ต้องไปเยือนให้ได้นะคะ แม้จะเป็นไร่ชาที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็สวยมากค่ะ

ช่วงหน้าฝนเรามีโอกาสที่จะได้เจอทะเลหมอกได้ที่นี่เช่นกัน เราจะเห็นหมอกลอยเอื่อยๆ อยู่ในหุบเขา และช่วงหน้าหนาววันไหนอากาศเย็นจัด ๆ เราจะได้พบกับทะเลหมอกที่สวยมากเช่นกัน เพราะเมื่อแสงแดดส่อง เหล่าน้ำค้างที่เกาะอยู่บนยอดหญ้าและใบชา ก็จะระเหยกลายเป็นไอ มองดูแล้วมันช่างมหัศจรรย์มาก ๆ ค่ะ ...


อยากให้คนที่ได้มาเยือนที่นี่ไม่ใช่แค่มาเที่ยวแล้วก็จากไป โดยที่ไม่ได้อะไรกลับไปเลย

อยากให้มาด้วยใจที่แบบว่ามาตามหาอะไรสักอย่าง

ความประทับใจ สิ่งดี ๆ ที่พ่อหลวงของเราได้ทำไว้ให้กับประชาชนของท่าน

อยากให้กลับไปด้วยใจที่สำนึกรักบ้านเกิด การดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียง

กลับไปด้วยความสุขใจที่เราได้มาเยือนดอยอ่างขางแห่งนี้ค่ะ


สำหรับภาพที่โพสมาทั้งหมดก็หวังว่าได้ชมกันแล้วคงจะมีความสุขกันนะคะ

แม้ภาพจะไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่อยากจะนำมาแบ่งปันให้ได้ชมกัน


ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น และขอบคุณที่เข้ามาชมภาพกันค่ะ



Jiratraveler

 วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.35 น.

ความคิดเห็น