เชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใครต่อใครคงอยากไปเที่ยวสักครั้งหนึ่ง
เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากไปเที่ยวสักครั้ง ไปครั้งแรกเมื่อเดือนมีนามาแล้วยังไม่หนำใจ
เลยไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมาอีกรอบ กลับมาก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ฟินพออยากจะกลับซ้ำไปอีก

เห็นช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินก็แข่งกันลดราคาจัง ออกโปรมายั่วกันตลอด

ถือเป็นเรื่องดีสำหรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าแบนแฟนไม่มีแบบเราที่ไม่ค่อยเน้นกิน เน้นชอปปิ้งเท่าไหร่

ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่ปีหน้าจะไปอีกสักรอบสองรอบ จะไปให้หายอยากกันไปเลย

ปีนี้บิน airasia ไปกับพี่ณเดชณ์ทั้งสองรอบเลย จองโปรไว้นานเกิ๊นจนเกือบลืม

รอบแรกไปเมื่อเดือนมีนาเรานั่งที่นั่งโซนธรรมดา แบบว่าคนแน่นมาก เต็มแทบทุกที่นั่ง

ตอนนั้นไปลงที่สนามบินนาริตะ เลือกบินไฟลท์ดึกกะว่าไปถึงเช้าจะได้เที่ยวต่อเลย

ปรากฎว่าไม่ได้นอนเลยจ้า เสียงจอแจพูดคุยกันตลอดตั้งแต่เครื่องขึ้นยันเครื่องลง ไหนจะรถเข็นขายอาหารของว่างเข็นไปมาอีก โอ้วแม่เจ้า.... เช้ามาเที่ยวต่อในสภาพเหมือนหมีแพนด้าเลยทีเดียว

เข็ดแล้วขามา ขากลับเราเลยลองจองที่นั่งแบบ Quiet Zone เพิ่มตังค์อีกนิดหน่อยชีวิตดีขึ้นมาเยอะจริงๆ

เราสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าจองผ่านเวบมา ประหยัดกว่ามาซื้อบนเครื่อง กินอิ่มนอนหลับยาวๆไปเลย สบ๊ายยยยย

ส่วนรอบที่สองเราไปล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกา ลงที่สนามบินคันไซ คืนนั้นเรากะนอนที่สนามบินแอบงกประหยัดค่าโรงแรม เอาเข้าจริงไม่ได้นอนหรอก หาอะไรกินแถวนั้น นั่งปั่นงานส่งจนเกือบสว่าง

เช็คเมลล์อีกรอบพอดีมีเมลล์จากที่พักแจ้งว่า เข้ามาเช็คอินก่อนเวลาได้เลย

เช้านั้นเลยได้แอบไปงีบที่ห้องแป๊บนึงก่อนออกไปเที่ยว

แนะนำสำหรับคนที่วางแผนจะนอนสนามบินแบบไม่ต้องเสียกะตัง มาถึงแล้วให้ข้ามไปอีกฝั่ง

ฝั่งที่เป็นตึก Aeroplaza ที่นั่นจะมีจุดพักผ่อนอยู่ มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ มีปลั๊กให้เสียบชาร์ตแบต เรียกว่าสะดวกสบายสุดๆ

ได้ข่าวว่าตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม airasia เค้าจะบินมาถึงเร็วขึ้นชั่วโมงนึง

ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องรถอีกต่อไปแล้วมั้ง เข้าไปนอนในเมืองเลยดีกว่าสบายกว่าแยะ

เริ่มต้นด้วยการท่องเที่ยวช่วงเดือนมีนาคมของเราก่อนดีกว่า
ใครไปช่วงปลายมีนาต้นเมษาแบบเราก็คงต้องไปชื่นชมความสวยงามของซากุระอยู่แล้ว
ในโตเกียวที่ไหนเค้าว่าสวย เราก็ไปเกือบทุกที่ เสียดายช่วงที่เราไปซากุระยังบานไม่เยอะ
แอบผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็มีบานบ้างให้พอชื่นใจ

Ueno Park สถานที่ชมซากุระยอดฮิต นี่ขนาดว่าดอกยังบานไม่เยอะแต่คนเพียบเลย
โดยเฉพาะคนจีน คนไทยนี่เยอะมาก คนญี่ปุ่นก็มากัน นักข่าวก็มาทำข่าวกันเพียบ เดินเล่นๆก็เพลินดี

Chidorigafuchi ที่นี่ถ้าซากุระบานคงเป็นอีกที่นึงที่คงจะสวยมากๆ
เคยเห็นในรูปคนอื่นแบบว่าดอกซากุระสองฟากฝั่งแม่น้ำบานสะพรั่ง มีคนพายเรือชมดอกไม้ สวยสุดๆ
แอบเสียใจที่มาถึงแล้วเจอดอกนิดเดียวไม่ได้เจอแบบที่หวังไว้ อากาศก็ไม่ค่อยดีอีกต่างหาก
แทบต้องเปลี่ยนทริปชมซากุระเป็นทริปไปหาของกินแทนทันที

Koishikawa Korakuen Garden ที่นี่ค่อยทำให้เราใจชื้นขึ้นมาหน่อย ซากุระบานเยอะมาก

โชคดีที่เพื่อนที่ไปด้วย เซิทหาข้อมูลว่าที่ไหนมีดอกบานแล้วบ้าง หวยก็มาออกที่นี่

เดินทางไม่ยาก เซิทถามอากู๋ google map เลยจ้า เดินทางด้วยรถไฟฟ้า เดินแป๊บๆเดี๋ยวก็ถึง ค่าเข้าคนละ 300 เยน

มาถึงแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง ดอกบานสะพรั่งแบ่งบานเต็มสวน ชอบจริงๆซากุระแบบย้อยๆเนี่ย

ย้อยแทบจะถึงพื้นทุกกิ่งก้านเต็มไปด้วยดอกไม้ ของจริงมันสวยกว่าในรูปเยอะเลยนะ

มาถึงญี่ปุ่นแล้วก็อยากจะเห็นฟูจิซังสักครั้ง เพราะถ้ามาแล้วไม่เจอก็เหมือนมาไม่ถึง ตัดสินใจเสี่ยงดวงไป Kawaguchigo ดีกว่า โชคดีมากที่ฟ้าใสสุดๆ เห็นฟูจิซังใส่หมวกมาแต่ไกล เห็นตั้งแต่นั่งรถไฟมาละ รู้สึกตื่นเต้นบอกไม่ถูก
เพราะก่อนมาเพื่อนมันแช่งว่า ขอให้มาแล้วไม่เห็น มาถึงแล้วรีบส่งรูปไปเยาะเย้ยทันทีว่า เฮ้ย... ชั้นมาครั้งแรกก็ได้เจอฟูจิซังแล้วเฟ้ย !!! แม้ว่าดอกซากุระที่นี่จะยังบานไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ว่าแค่ได้มาเจอภูเขาไฟฟูจิ แค่นี้ก็ฟินสุดๆแล้ว
แล้วเพื่อนเราก็ตามมาหลังเรามาไม่กี่วันปรากฎว่ามีหิมะตกจ้า โหย...อิจฉานางสุดๆ เจอทั้งซากุระ ทั้งฟูจิ แถมด้วยหิมะอีกต่างหาก

บ๊าย...บาย โตเกียว ไปโอซาก้ากันดีกว่า เราซื้อ JR PASS แบบเหมาๆมาเลย 7 วัน กะว่ามารอบนี้ต้องใช้ให้คุ้ม
นั่ง ชินคันเซ็นยาวๆ กันไปเลย เราพักแถวๆสถานี Shin Osaka แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งกิน ดื่ม ชอป แต่เราว่าเดินทางสะดวกดี มี JR PASS อยู่แล้ว ไปไหนก็สะดวก

มาโอซาก้า ก็ต้องไป ปราสาทโอซาก้า ดอกซากุระกำลังบานสวยเลยล่ะ แต่ว่ามีฝนตกจ้า ฝนตกๆหยุดๆ
วันที่ไปถึงโอซาก้าวันแรกตอนเย็นเราก็ไปเที่ยวที่ปราสาทก่อนเลย เช้าอีกวันก็มาอีกรอบ สวยดีค่ะชอบๆๆๆ

ระหว่างทางก่อนถึงปราสาทโอซาก้า ตรงสถานี Sakuranomiya จะมีสวนสาธารณะอยู่

เห็นดอกซากุระบานสวยมากเลย รีบกระโดดลงจากรถทันที

วันนี้เราเที่ยวเองคนเดียว เพราะสหายที่รักที่ตามมาเที่ยวด้วยกันนอนหลับไม่ยอมตื่น นางบอกว่าจะไปไหนก็ไปเลย

วันนี้เราเลยขาดกันหนึ่งวันต่างคนต่างไป !!! ดังนั้นเราอยากแวะไหนก็จะแวะ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะต้องรอ

เพราะเวลาเราถ่ายรูปทีเราจะถ่ายนานมาก เกรงใจคนรอน่ะ

เราพบว่าซากุระส่วนมากจะปลูกไว้ริมแม่น้ำ แล้วก็ในสวน แข่งกันออกดอกบานสะพรั่งเลย

พอโดนฝนก็เริ่มจะร่วง ตอนกลีบดอกไม้กำลังปลิวนี่โรแมนติกสุดๆอ่ะ

ชื่นชมความสวยงามเพลินจนลืมเวลาไปเลย อากาศหนาวๆ ชื้นๆ แสงแดดอ่อนๆ หลังฝนซานี่สดชื่นชะมัด

สูดหายใจเข้าจนเต็มปอด ได้แต่บอกตัวเองเบาๆว่ามีความสุขจัง

ไปเกียวโตกันต่อ Fujimi inari ศาลเจ้าจิ้งจอก ที่นี่มีเสาแดงโทริอิ ที่ใครต่อใครต่างก็ต้องมา มาแล้วก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย ตรงเสาแดงนี่ต้องใช้เวลาถ่ายนานนิดนึง เพราะกว่าจะถ่ายแบบไม่ให้มีคนได้นี่รอจนเมื่อยเลย

ถนนสายนักปราชญ์ ใกล้ ๆ กับทางเข้าวัดเงิน หรือ วัด Ginkakuji

ดอกกำลังบานสวยเลย เรามาถึงตอนบ่ายแล้วคนเยอะมาก ถ้าอยากได้แบบคนน้อยๆคงต้องรีบมาแต่เช้า

อยู่แป๊บเดียวก็ไปวัด Kiyomizu กันต่อ ไปถึงทางเข้าวัดแล้วปรากฎว่าแถวยาวมากกกกก ยืนต่อแถวเกือบชั่วโมงกว่าจะได้เข้าไป

รีบวิ่งขึ้นไปด้านบนวัด กะว่าจะไปถ่ายแสงเย็น แต่ไม่ทันพระอาทิตย์ตก เหลือแต่แสงทไวไลท์

ความคิดที่ว่าจะถ่าย light up สวยๆนี่หมดหวังเลย คือคนเยอะมากแทบไม่มีที่เดิน

เรียกว่าคนไหลซะยังดีกว่า ยืนอยู่กับที่แทบไม่ได้ ถ่ายรูปมาได้แค่สองสามใบก็โดนเบียดออกแล้ว ตัดสินใจเดินลงดีกว่า

หลงทางกับเพื่อนอีกต่างหาก โดนเบียดแยกกันไปคนละทิศละทาง ดีนะที่นัดกันว่าถ้าพลัดหลงกันให้ไปเจอกันที่ทางเข้าวัดเลย คนเยอะจริงๆ

ค่ำแล้ว กะว่าจะนั่งบัสกลับไปสถานีเกียวโตเพราะซื้อตั๋วบัสแบบเหมาทั้งวันมา

เห็นคนต่อแถวแล้วแบบว่า ยาวเกิ๊นไม่ต่งไม่ต่อมันละแถว เรียกแทกซี่เลยแล้วกัน

ถึงจะแพงหน่อยแต่ไปกันสามคนหารเอาก็ไม่เท่าไหร่ บอกคนขับรถว่าไปร้านอาหารอร่อยๆใกล้ๆสถานีเกียวโต

แล้วเค้าก็พามายังถนนเส้นหนึ่ง คือแบบสวยมากกกก ซากุระบานเพียบเลย แล้วเค้าก็จอดรถบอกว่ามีร้านอาหารอร่อยๆอยู่แถวนี้ ไปเลือกเอาเอง

แต่กว่าจะได้กินก็นาน เพราะร้านอาหารอร่อยๆต้องต่อแถว เอาน่ะไม่เป็นไร ระหว่างรอก็ชื่นชมความสวยงามริมถนนให้อิ่มเอมใจไปก่อน

ที่พีคสุดของการตามล่าหาซากุระในทริปนี้ของเราคงเป็นที่ Nagoya จากสถานี iwakura เดินมาเรื่อยๆ
มีป้ายชี้ไปตามทาง จริงๆหาไม่ยากเดินตามทางที่มีคนเดินไปเยอะๆไม่หลงแน่นอน
เพราะช่วงนี้ทุกคนแทบจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือไปชมดอกซากุระ
มีคนส่งพิกัดมาให้เพื่อนเรา เค้าบอกว่าที่นี่ฟลูบลูมสุดๆ พอมาถึงแล้วแทบร้องกรี๊ดดดด คือสวยเวอร์วังมาก ที่สำคัญคนน้อยมาก เราไม่เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย คนไทยแทบไม่เห็น คนจีนแทบไม่เจอ มีแต่คนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวกัน แต่ไม่เยอะมากเหมือนที่อื่นที่เราไปมา เดินถ่ายรูปเพลินมากๆ อยู่ที่นี่ซะครึ่งวัน ตอนแรกกะว่าจะรอถ่ายไฟตอนกลางคืนด้วยแต่เปลี่ยนใจ รีบกลับไปโอซาก้า ถ้ามีโอกาสมาอีกรอบหน้าจะอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนแน่นอน

งานเลี้ยงไม่มีวันเลิกรา จบทริปเมื่อเดือนมีนาแล้วก็แพลนมาช่วงใบไม้แดงต่อเลย
เนื่องจากมีเวลาเที่ยวแค่ไม่กี่วัน เราเลยเน้นที่เกียวโตเป็นหลัก แวบไปนาราวันนึง มีแดดบ้าง ฝนตกบ้าง สภาพอากาศแปรปรวนสุดๆ และสถานที่ชมใบไม้แดงแต่ละที่ ผู้คนหนาแน่นไปหมด อย่างว่าแหละเนอะ ปีนึงมีครั้งเดียว ใครๆเค้าก็อยากมาเที่ยวกัน รอบนี้เราไม่ได้ซื้อพาสอะไรเลย เพราะไม่ได้วางแผนว่าจะไปที่ไหนก่อน เลยซื้อบัตร icoca เติมเงินเอาสะดวกดี
นอกจากใช้ขึ้นรถได้ทั้ง JR Subway และ bus แล้ว ยังใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ด้วย คือดีอ่ะ สะดวกสบายสุดๆ

Tofukuji temple หนึ่งในสถานที่ชมใบไม้แดงที่สวยงามที่สุดในเกียวโต ค่าเข้าชมสวนคนละ 400 เยน
วันที่ไปนั้นมีฝนตกปรอยๆ ฟ้าไม่ค่อยใสนัก แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงล้นหลามเช่นเคย
เวลามองลงไปจาก Tsuten-bashi หรือระเบียงไม้ที่อยู่เหนือสวน จะเห็นทะเลใบไม้แดงอยู่ตรงหน้ามุมนี้สวยมากๆ
แต่กว่าจะเบียดคนเข้าไปได้แทบแย่ ใบไม้แดงที่นี่แทบทั้งหมดเป็นต้นเมเปิ้ล ตอนที่ไปบางต้นก็ยังไม่แดง บางต้นก็ร่วงไปเกือบหมดแล้ว

Eikando Temple วัดนี้ใบไม้แดงสวยมากกกก ไปถึงเกือบเย็นแล้วก็รีบเข้าไปชมสวน
ไม่ได้ขึ้นไปถ่ายบนวัดเลยเพราะมัวแต่ถ่ายตามแสงกลัวแสงจะหายหมดไปซะก่อน ค่าเข้าชมช่วงเช้าถึงเย็นคนละ 1000 เยน
แต่ถ้าจะชม light up ในยามค่ำคืนต้องออกมาแล้วเข้าไปใหม่ ค่าเข้าชมรอบค่ำคนละ 600 เยน
ตอนออกมาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว จะไปต่อแถวเห็นแถวแล้วต้องร้องโห...แถวยาวมาก
ยืนต่อแถวอีกชั่วโมงกว่าจะได้เข้าอดได้ฟ้าสีน้ำเงินเลย
ทุกวัดที่เราเข้าไปชมไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ ภาพกลางคืนต้องใช้ iso เป็นตัวช่วย
วัดนี้สวยมากจริงๆทั้งกลางวันและกลางคืนเลย แม้ค่าเข้าชมจะแพงไปนิด แต่ถือว่าคุ้มมากๆเลยล่ะ

Kinkaku-ji Temple , Kyoto หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ วัดทอง วัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต
วัดนี้ไงที่เค้าบอกว่าเป็นที่พำนักของท่านโชกุนในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง มาเกียวโตแล้วไม่มาวัดนี้เหมือนมาไม่ถึง
วัดนี้สวยตั้งแต่ทางเข้าเลยล่ะ ใบไม้กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงไปทั้งสวนเลย แต่ตอนที่เราไปฝนตกตลอดๆ
ต้องกางร่มไปถ่ายรูปไปน้ำตาแทบไหลไปกับสายฝน แบบว่ามาเกียวโตยังไม่เจอฟ้าใสๆแดดดีๆกับเค้าเลย อากาศแย่มาก
แต่ถ้าไม่คิดมาก วันนี้ขอเป็นนักท่องเที่ยวแล้วกัน กดรูปไปไม่กี่สิบใบไม่ถ่ายมันละ
เดินชมสวนดีกว่า ชอบนะสวนแบบนี้ สวนแบบเซน ช่างดูเรียบง่าย สงบดี

Chishaku-In Temple สวนแห่งความลับ ที่จะไม่ลับอีกต่อไป ในเกียวโตมีวัดสวยๆหลายวัดเลยค่ะ
แต่ละวัดก็จะปลูกต้นเมเปิ้ล ต้นกิงโกะไว้ พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้เหล่านี้ก็จะพากันเปลี่ยนสีแล้วก็ร่วงโรยรา
สวนในวัดแห่งนี้แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเลย เพราะส่วนใหญ่จะไปวัดดังๆกันทั้งนั้น
คนที่มาที่นี่ส่วนมากแค่เดินผ่านไปมาเท่านั้น น้อยคนนักที่ตั้งใจมาเที่ยว
แล้วเราล่ะมาได้ยังไง พอดีเพื่อนเปิดเวบของเกียวโตดูว่าที่ไหนมีใบไม้แดงบ้าง
แล้วหวยก็มาออกที่วัดแห่งนี้ มาถึงแล้วต้องบอกว่าใบไม้แดงสวยมาก และที่สำคัญไม่มีคนด้วย เดินชมสวนถ่ายรูปกันเพลินไปเลยล่ะ

ถ้าเราไปเที่ยว วัดโทไดจิ เมืองนารา เราจะเจอกวางเดินป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง สวนสาธารณะ
กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า
กวางเหล่านี้หน้าตาน่ารัก ดูเป็นมิตร แต่จริงๆแล้วที่มันเข้ามาใกล้เราเพราะมันมาขอของกินซะมากกว่า
ที่นี่จะมีข้าวเกรียบขายให้กวาง แพคละ 150 เยน นอกจากกวางจะชอบกินข้าวเกรียบแล้ว มันยังชอบกินผลไม้ ขนมที่นักท่องเที่ยวหยิบยื่นให้ และนิสัยเสียของมันคือชอบเอาหัวมาดันหลัง ชอบค้นกระเป๋า เราเห็นมันเอาสมุดมาฉีกเคี้ยวๆกิน
ที่เด็ดกว่านั้นคือมันคุ้ยกระเป๋าเราตอนวางทิ้งไว้ขโมยกล้วยหอมไปกิน ตอนเอาขนมปังให้ เอาให้ช้า มีงับก้นด้วย
แหม๊....มันแสบจริงๆ ไอ้กวางพวกนี้ ฮ่า ๆๆๆ

Arashiyama เป็นอีกสถานที่นึงที่ต้องห้ามพลาดในการมาเยือนช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี
กิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ก็คือการล่องเรือในแม่น้ำ Hozu ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ
เสียดายที่ปีนี้ริมแม่น้ำใบไม้แดงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ในวัด Tenryuji ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
แม้จะยังไม่สีแดงสดทั้งต้น แต่ก็ถือว่าสวยสะกดใจได้ไม่น้อยเลย
และที่เที่ยวยอดฮิตของที่นี่อีกแห่งก็คือป่าไผ่ ผู้คนล้นหลามมากเลยแทบไม่มีที่เดิน
เราเลยหลบคนไปดูป่าไผ่อีกที่นึงใกล้ๆกัน คนน้อยหน่อยพอหาจังหวะหลบคนได้ภาพแบบโล่งๆมาบ้าง

ปีนี้เราเจอสภาพอากาศไม่ค่อยดีทั้งช่วงซากุระบาน และใบไม้เปลี่ยนสีเลย ญี่ปุ่นเที่ยวครั้งเดียวไม่พอจริงๆ ผู้คนที่นี่น่ารัก เดินทางก็สะดวกสบาย อาหารการกินอร่อย อากาศก็ดี เรียกว่าเราเจอแต่เรื่องดีๆเลยรู้สึกว่ายังไม่อยากเปลี่ยนใจไปที่อื่นเท่าไหร่ คงจะได้กลับไปญี่ปุ่นเร็วๆนี้อีกแน่นอน ;)