สานต่อทริปเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน 2019 ด้วยตัวเอง (ตอน 1) วันที่ 2 ของทริปสิงคโปร์ตื่นเช้าไปขอพร และออกดูปลากันเถอะ

เอกอิเอ๊กเอิ๊กกก !! (เสียงไก่มันประหลาด ๆ แฮะ) เริ่มแล้ววันที่ 2 ในของทริปเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน 2019 ด้วยตัวเอง แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อย ว่าจะเดินทางเที่ยวหลายพิกัด อัดแน่นหลายโปรแกรมเหมือนกัน

ลงสถานี Chinatown

เริ่มจากขอพรในวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)

หย่อนเหรียญทำบุญวัดพระเขี้ยวแก้วขอพรให้ชีวิตครึ่งปีหลังเป๊ะปังกว่าเดิม

และวัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Tample) วัดแขกศาสนสถานฮินดูอันเก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ เราเดินเตร็ดเตร่ถ่ายภาพและชมบรรยากาศสิงคโปร์ยามเช้า

วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Tample)
ภายในวัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Tample) ถ้าจะถ่ายต้องจ่ายเงินเพิ่ม

ไหว้ขอพรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสร็จ เราเดินเล่นถ่ายภาพสนุก ๆ ตลอดทั้งทาง

โรงงิ้วบนผนังตึก
ขอดูด้วยคนนะ
เดินผ่านสวย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการแย่งทุเรียนโคนัน
จุ๊บ ๆ โคนันที่กำลังกินทุเรียน
สวมบทช่วยเหลือคนงานบนผนังบ้านที่กำลังดึงรถยกของอยู่ !

และออกเดินเที่ยวไชน่าทาวน์ กินอาหารเช้าแบบชาวสิงคโปร์ เราสั่งไม่เยอะค่ะ Kaya Toast เป็นเมนูขนมปังหอมกรอบสอดไส้ชีสกินคู่ไข่ลวกที่ร้าน Nanyang Old Coffee รสชาติไม่แย่ค่ะ

สำหรับคนไม่กินขนมปังก็กินได้ ส่วนผู้เขียนเลือกสั่งขนมจีบลูกเดียว (ฮ่า ๆ ) ตามสไตล์คนกินน้อย
กินง่าย ๆ สบาย ๆ

พิกัด : ร้าน Nanyang Old Coffee ในไชน่าทาวน์


พกกล้องออกดูปลา S.E.A. Aquarium

หลังจากนั้นเราไม่รอช้า ออกเที่ยวดูปลาโลกใต้ทะเล S.E.A. Aquarium อยู่บนเกาะเซนโตซ่า ระยะทางค่อนข้างกว้างใหญ่บรรจุน้ำกว่า 49 ล้านลิตร 10 โซนจัดแสดงสัตว์ทะเลกว่า 800 สายพันธุ์ เราตื่นเต้นตั้งแต่เห็นฉลามขาวด้านหน้า พร้อมกับฝูงปลาทูน่า แมงกระพรุน หมึกยักษ์ และสัตว์ใต้ทะเลอื่น ๆ

นอกจากการดูสัตว์ทะเลที่ S.E.A. Aquarium ยังมีเวลาจัดแสดงโชว์ด้วยนะ เพราะเราได้ชมการให้อาหารปลาโดยนักประดาน้ำ ตั้งอยู่ใกล้โซน Straty of Malacca & Andaman Sea เป็นตู้กระจกรูปทรงกระบอก จดจ่อรอดูกันสักพัก เพลิดเพลิน เหมือนกันกับฝูงปลาแหวกว่าย รับประทานอาหารช่วงบ่าย อิอิ

และต้องบอกว่าS.E.A. Aquariumเป็นสถานที่เที่ยวสำหรับน้อง ๆ หนู ๆ ส่วนพี่ ๆ อย่างเราก็เดินไปพักไปตามอัธยาศัยนั้นเอง ฮ่า ๆ และแวะถ่ายรูปตามทางเพียงเท่านั้น”

แวะ HeadRock VR Resorts World Sentosa ก่อนกลับ

ตามสไตล์คนบ้าเกมและเคยรีวิวถึงร้านเกม VRX สยาม รีวิว Arizona Sunshine เกมซอมบี้ Only ! เราซื้อตั๋วเกม HeadRock VR ในพื้นที่ Resorts World Sentosa เตรียมไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทย

  • เครื่องเล่น HeadRock VR ราคาเต็ม 560 บาท/คน
  • เราซื้อพร้อมโค้ดลดเหลือประมาณ 475.5 บาท/คน ประหยัดกว่าซื้อที่โน้นเยอะ
ตัว X โต ๆ นี่แหละร้านเกม
ป้ายด้านหน้า HeadRock VR Resorts World Sentosa
เราได้รับบัตรเล่น 3 ใบ ได้แก่ สีเขียว (Green), สีส้ม (Orange), สีฟ้า (Blue)เราสามารถเล่นเกมตามจำนวนคูปอง (15 นาที/เกม)
สวมหน้ากากพร้อมเล่นเกม

เราใช้เวลาอยู่ใน HeadRock VR เล่นประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะรอต่อแถว การเล่นต้องคำนวนเวลาให้ดี ว่าจะเลือกโซนไหนก่อนหลังตามความชอบ ส่วนเครื่องเล่น VR ก็มีพร้อบพร้อม เช่น เล่นเกมยิงปืนก็มีปืน ล่องแก่งก็มีเรือ จะนั่งรถไฟก็มีรถไฟ นั่งล้อลากเลื่อนก็มีอุปกรณ์ให้นั่งดูซึ่งแตกต่างจากเมืองไทยนิดหน่อย

เล่น VR เลื่อยซอมบี้ อันนี้เบา ๆ ไม่หนักเท่าไหร่
เกมดาบเลเซอร์พร้อมกับเสียงเพลง เกม VR โปรดคุณแฟน
ยิงให้หมดอย่าให้เหลือ

การมาเที่ยว HeadRock VR เหมาะกับคนเพิ่งเล่นเกม VR ใหม่ ๆ เพราะไม่น่ากลัว ไม่อันตราย คนใส่แว่นก็เล่นได้ เพราะมีมาส์กใส่ก่อนสวมเครื่อง VR เพื่อความปลอดภัยของดวงตาด้วย

หากใครเคยเล่นแนว VRX เคลื่อนไหวแบบเต็มสตรีมมาก่อน ไม่แนะนำเท่าไหร่ คงบอกเล่าตามสิ่งที่พบเห็นว่า HeadRock VR เครื่องเล่นไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ไม่ค่อยมันส์เท่าไหร่ แนะนำเล่นเมืองไทยดีกว่า แหะ ๆ

พร้อมกับเดินเท้าท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Reddot Design Museum เราได้รับบัตรเข้าฟรี เพราะซื้อตั๋ว Gardens by the Bay จาก Klook ถือว่าคุ้มเหมือนกัน เพราะได้ชมนวัตกรรมใหม่ๆ

การ์ดพิพิธภัณฑ์ Reddot Design Museum พร้อมลุยในเวลาอันสั้น
จัดแสดงจักรยานไฟฟ้าเพียบ
นั่งดูนิทรรศการ VR Wonderful You VR: เป็นการแสดงภาพเด็กให้เราได้เห็นชัดผ่านแว่นตา oculus

ชมสิงคโปร์แบบค่ำคืนนี้ยังมีดวงดาวเจิดจ้า

แค่มาก็ยังหลง เราเดินวนไปไหนกันไม่รู้ บุกเข้าป่า ฝ่าเข้าดง ตามแผนที่ Google Map สานฝันทริปค่ำ ๆ ตะวันตกดินด้วยการออกเที่ยว Gardens by the Bay ลุยทั้ง 3 โซนให้เมื่อย

ตั๋วพร้อม คนพร้อม ลุย

ด้วยความที่เป็นวันอาทิตย์การต่อแถวเข้าโซน Cloud Forest ทำให้เสียเวลาการเดินทางท่องเที่ยวนิดหน่อย เราต้องต่อแถวขึ้นลิฟท์ขึ้นถึงด้านบนก็ต้องเดินกลับลงมาที่เดิมประมาณนั้น เหมือนเราเป็นหนุมานเดินขึ้นลงภูเขาไกรลาศตามวรรณคดีรามเกียรติ์ทีเดียว

ไฮไลท์ Cloud Forest คงต้องยกให้ การถ่ายภาพภูเขาจำลองและน้ำตกยักษ์สูง 35 เมตร เท่ากับตึก 5 ชั้นได้

แนะนำว่า โซน Cloud Forest ควรค่ากับการเที่ยวช่วงเช้า ๆ หรือบ่าย ๆ ตอนมีแสงน่าจะสวยงามกว่า (Cloud Forest & Flower Dome เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น. ให้เข้าชมรอบสุดท้าย 21.30 น.) หรือมาวันอื่นที่ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์น่าจะดื่มด่ำธรรมชาติได้ดีกว่านี้เยอะ

ภาพไม่ชัดเท่าไหร่ เน้นถ่ายเก็บความทรงจำจ้า

ตามด้วย Flower Dome ตั๋วดูดอกไม้ของเราถูกฉีกอย่างรวดเร็ว ตอนเราไปมีแต่กุหลาบเต็มไปหมด เดินจ้ำอ้าว ๆ ดูแปป ๆ จบ เพราะใจจดจ่ออยู่ที่ Supertree Grove แล้ว

หวังจะเดินชมเมืองสิงคโปร์จากด้านบน Supertree Grove แต่ไม่ได้ดู

การเดินทางที่หลงแล้วหลงอีก หลังจากดูธรรมชาติสีเขียวที่ถูกเนรมิตขึ้นโดยมนุษย์แล้ว เราเดินเท้าประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 6-10 นาที ออกชมธรรมชาติที่ตื่นตาตื่นใจกับต้นไม้ Supertree Grove เต้นระบำกับแสงไฟกับโชว์ Garden Rhapsoday กันบ้าง

จัดแสดง 2 เวลา คือ 19.45 น. และ 20.45 น. ให้ชมฟรี ส่วนโซนเดินด้านบนต้องจ่ายเงินค่าขึ้นชมเพิ่มนะจ้ะ

เรามา Supertree Grove เวลาประมาณ 20.00 น. คิดว่า “มีตั๋ว OCBC Skyway ในมือ รอต่อแถวก็เพียงพอ” บอกเลยว่า คิดผิด ! เราไม่สามารถขึ้นเดินชมทิวทัศน์ด้านบนได้ เนื่องจากเราไม่ได้รับ Ticket Time !!! บัตรที่ใช้ร่วมกับ ตั๋ว OCBC Skyway อื้อออออ น้ำตาไหลเป็นทาง อาบนองสองแก้มเลย

สรุปว่า ไม่ได้ขึ้น และนั่งดูต้นไม้ระบำข้างล่างอย่างสงบ (55+) บรรยากาศครื้นเครงดี ควรมีผ้าปู หรือเสื่อมาปูนอนดูโชว์ Garden Rhapsoday จะดีมาก การแสดงประมาณ 15 นาทีเท่านั้น !


จบวันที่ 2 ของทริป “ไม่ง้อทัวร์ ไม่กลัวหลง” รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน 2019 ด้วยตัวเอง กลับโรงแรมเพื่อนอนหลับพักผ่อน พร้อมลุยในวันที่ 3 !!

สนใจติดตามบทความของ Butter Cutter ได้หลายช่องทาง ได้แก่

  • เว็บไซต์ th.readme.me/id/buttercutter รวมรีวิวท่องเที่ยว-กิน เดินทาง อ่านง่าย ๆ สบาย ๆ

หากชอบบทความให้กำลังใจผู้เขียนด้วยการกดไลค์เพจที่ไหนอะไรดีก็ได้นะจะได้มีกำลังใจหาเรื่อง เอ้ย!! กำลังใจหาสิ่งสนุก ๆ มาบอกเล่ากันอีก หรืออยากให้เราเล่าเรื่องไหน ปรับปรุงอะไร คอมเมนต์ได้เสมอจ้า

ความคิดเห็น