หน้าฝนแบบนี้ ไปล่าหมอกที่ภูทับเบิกกัน!!!

หมอกสวยที่สุดก็ต้องหน้าฝน แต่จะไปถึงเชียงใหม่ คนออฟฟิศอย่างเราก็คงจะยากหน่อย งั้นขับรถไปภูทับเบิกแทนแล้วกัน ฟินเหมือนกัน

เตรียมชุดเก๋ๆ แล้วไปกันเลย ขับรถจาก กทม เพียง 5 ชม. ก็มาถึงแล้ว

ที่ชิว : เขาตะเคียนโง๊ะ

ทริป 3 วัน 2 คืนกำลังดี แอดไปกางเต็นท์นอนเขาตะเคียนโง๊ะ ก่อน 1 คืน อากาศดีมากๆเลย ตื่นเช้ามา หมอกจางๆ อยู่ข้างหน้า กับอากาศ 20 หน่อยๆ ดี๊ดี

ที่เขาตะเคียนโง๊ะ คนที่นำเต็นท์ไปเองจะเก็บค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท หรือใครไม่มีเต็นท์จะไปเช่าก็ได้ เต็นท์ละ 450 บาท ที่นี่สะดวกมากเลยน้ำไฟพร้อม ห้องน้ำก็สะอาด

ที่ชิว : ทุ่งกังหันลม

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ เป็นอีก 1 แลนด์มาคที่ทุกคนต้องมาเช็คอิน ด้วยวิวภูเขาที่กว้างใหญ่ มีกังหันลมหลายเสาตั้งตะหง่านอยู่ จึงทำให้ที่นี่เป็นอีก 1 ที่ที่ไม่พลาด หรือใครจะมาโล้ชิงช้าแม้วก็ไม่ว่ากัน เหวี่ยงตัวให้สุดแล้วตะโกนออกมาดังๆ ก็ทำให้สบายใจดีนะ ฮ่าๆๆๆ

ภูแก้วพีค
นอกจากกังหันแล้ว ก็ไปต่อกันที่ ภูแก้วพีค ซึ่งมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ พร้อมชมวิวภูเขาด้านล่างกันแบบพาโนราม่า

การขึ้นมาตรงนี้นั้นต้องติดต่อตรงรีสอร์ทด้านล่าง เพื่อให้รถของรีสอร์ทพาขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากทางขึ้นค่อนข้างชัน (ค่าขึ้นฟรี)

ด้านบนมีมุมถ่ายรูปเยอะเลย หรือใครอยากนั่งชิวดื่มด่ำกับพาโนราม่าวิว ก็มีร้านกาแฟให้ดูวิวกันแบบเต็มอิ่ม นั่งทอดอารมณ์สบายๆ ใครที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ได้มานั่งดูวิวแบบนี้ รับรองหายเหนื่อย

ร้านกาแฟตั๊กม้อคาเฟ่
เป็นอีก 1 ที่ แอดชอบมาก ด้วยบรรยากาศ การตกแต่งสไตล์จีน ๆ เน้นสีแดง ที่นี่นอกจากจะมีขายกาแฟ เค้ก แล้วยังมีขายอาหารอีกด้วย

วัดผาซ่อนแก้ว
ลงมาจากร้านตั๊กม้อ ก็มาไหว้พระกันต่อเลยที่วัดผาซ่อนแก้ว เพิ่มความเป็นสิริมงคลกันก่อนจะไปภูทับเบิก

ภูทับเบิก
ตอนแรกเราตั้งใจจะมากางเต็นท์นอนกัน แต่พายุเข้าเลยต้องไปนอนรีสอร์ทแทน
เราไปถึงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น เจอหมอกแบบท่วมมากกกก มาตลอดเวลา อากาศก็ดีมากๆ เย็นสบาย เช็คอินปุ๊บ สั่งหมูกระทะก่อนเลย ฮ่าๆ กินไป ดูหมอกไป ฟินนนนนน
อากาศตอนกลางคืนเพียง 17 องศาเท่านั้น
เช้ามาเราเจอฝนตกเป็นระยะๆ แต่น้องหมอก ก็ออกมาให้เห็นไม่หยุด เราสามารถดูหมอกได้จากห้องที่เราพักเลย ฟินระดับ 10

ที่นี่นอกจากจะมีวิวหมอกแล้ว ยังมีวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ปลูกกะหล่ำปลีเป็นอาชีพ และเราสามารถไปถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ได้อีกด้วย

เรามีเวลาเหลืออีก 1 คืน ตั้งใจจะไปนอนกางเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ทางที่เราไป จะมีสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือและภาคอีสาน ชื่อสะพานห้วยตอง เป็นอีก 1 จุดที่แวะถ่ายรูปกันได้ระหว่างทาง ห่างมาประมาณ 30 กิโลก็จะถึงอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

ค่าเข้าคนละ 40 บาท นำรถยนต์เข้ามาก็จะเสีย 30 บาท แล้วเราก็จะต้องไปติดต่อด้านในอุทยานเพื่อติดต่อขอกางเต็นท์ พอไปถึง เจ้าหน้าที่พูดว่า “มีเราเต็นท์เดียวนะทั้งอุทยาน!” ตอนได้ยินแบบนั้นก็ยังคิด เออ ไม่เป็นไรหรอก แต่พอขับเข้าไปลานกางเต็นท์ ร้องเชี้ยดังมากกก ทั้งลานโล่ง และมีแต่ป่า จะไหวเหรอ คำนี้เข้ามาในหัว นั่งทำใจอยู่ในรถสักพัก เอาไงดีๆ อยู่ๆ ฝนก็ตกเทลงมา นั่นไง ท่านคงไม่อยากให้เราอยู่ งั้นเราไปก็ได้ ฮ่าๆ

ใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน หรือลังเลจะไปภูทับเบิกดีมั้ย แอดแนะนำว่าไปเถอะ มันดีย์จริงๆ ไปชาร์จแบต ไปเอาพลังกลับมาให้ชีวิตมีพลังในการทำงานต่อ ♥️

“It’s time for a new adventure” - Annonymous.

#รีวิวที่เที่ยว #เที่ยวใต้เมฆ #underclouds #journeyunderclouds #เขาค้อ #ภูทับเบิก

จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติน้ำหวาน ถ้ากลางก็คือหนึ่งเดียวในป่าใหญ่ เผ่นโลดดด ฮ่าๆ