หาดชมดาว หรือ แก่งชมดาว อยู่ในบริเวณหมู่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล อุบลราชธานี ห่างจากสามพันโบกประมาณ 20 ก.ม.

การเดินทางโดยรถยนต์ มี 2 เส้นทาง ดังนี้

1. จากตัวเมือง จ.อุบลราชธานี เดินทางโดนรถยนต์ขึ้นเหนือตามทางหลวงหมายเลข 2050 ผ่าน อ.ตระการพืชผล ไปทาง อ.เขมราฐ แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2337 ผ่าน อ.นาตาล เลี้ยวซ้ายเมื่อถึงทางแยกที่ตัดกับทางหลวงหมายเลข 2112 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ก่อนถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองชายแดนไทย-ลาว จะมีทางแยกขวามือเข้าสู่หาดชมดาว เป็นถนนลูกรังประมาณ 2 กม.ก็จะพบกับหาดชมดาวและแก่งหินงาม

2. หรือถ้ามาจาก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ระยะทางจะใกล้กว่าเล็กน้อย ตามทางหลวงหมายเลข 202 (อำนาจเจริญ-เขมราฐ) ผ่าน ตัว อ.เขมราฐ แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางหลวงหมายเลข 2112(เขมราฐ-โขงเจียม) ประมาณ 25 กม. ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองชายแดนไทย-ลาวไปเล็กน้อย แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามแยกจะมีป้ายบอกทางเข้าสู่หาดชมดาวและแก่งหินงาม

เมื่อเดินทางถึงจะพบป้ายชัดเจน ตั้งตระหง่านรอนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายภาพ

วันที่เราเดินทางเป็นช่วงเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่อากาศร้อนพีคสุด ๆ แม่น้ำโขงสามารถเดินลัดเลาะไปประเทศเพื่อนบ้านได้สบาย มีบริการรับรถจ้างราคา 300 บาท พาเราลงไปดูเกาะแก่งกลางลำน้ำโขงเลยทีเดียว

ใครใคร่เดิน เดิน ใครใคร่เหมารถ เหมาเลย แล้วจะรู้นรกมีจริง ขาลงไม่เท่าไหร่ ขาขึ้นอยากบอก หอบมากกกกกก 555 สำหรับทริปของเราไม่มีปัญหา เหมาอย่างเดียว มีมัคคุเทศก์น้อย คอยเล่าเรื่องราว พาเดิน พาหาจุดถ่ายภาพชิว ๆ

ระหว่างทาง ผ่านโขดหิน มีทะเลทรายเล็ก ๆ บรรยากาศแรลลี่ระดับโลกกันเลยทีเดียว

พอได้ที่จอดรถเหมาะ ๆ มัคคุเทศก์น้อยก็นำทางเราไปดูแก่งหินรูปร่างแปลกตาต่าง ๆ ช่วงที่เราไปประมาณสี่โมงเย็นเศษๆ หินสะท้อนแสงแดด ภาพออกมาสีทอง สวยงามไปอีกแบบ

หาดชมดาวมีลักษณะคล้ายกับสามพันโบกแต่ มีพื้นที่ กว้างกว่า รวมถึงมีริ้วลายหินและรูปทรงแปลกๆ ให้เห็นชมเยอะกว่า บางพื้นที่เป็นรูเว้าแหว่ง บางพื้นที่ก็ซ้อนกันเป็นชั้น บางพื้นที่เป็นดิน แห้งระแหง มีแอ่งน้ำน้อยใหญ่ บางแอ่งใหญ่ บางแอ่งเล็ก มีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไป

เหมือนแกรนด์แคนยอนมั้ยล่ะ

แล้วมัคคุเทศก์น้อยแนะนำจุดถ่ายภาพด้วย555

แกรนด์แคนยอนอีกแห่งของเมืองไทย

แอ็คชั่นซะหน่อย 555

หาดชมดาวมีจุดไฮไลต์ที่ สวยที่สุด ซึ่งเป็นลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบมีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำ ให้ลงไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ซึ่งได้มุมสวยเก๋ไม่เหมือนใคร ช่วงเวลาที่เหมาะสมมี 2 ช่วง คือ เช้าและบ่ายไม่แนะนำให้มาเที่ยงเพราะจะร้อนมาก หากอยากชม พระอาทิตย์ขึ้นก็มาในช่วงเช้าก่อน 8 โมง เพราะหลังจากเวลานั้นไปแดดจ้ามาก เพราะอุบลเป็นจังหวัดที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วมาก ตีห้าครึ่ง พระอาทิตย์เริ่มมาแล้ว และอีกหนึ่งช่วงคือ ช่วงบ่ายตั้งแต่ประมาณ 4 โมง เย็น ทั้งนี้ต้องเผื่อเวลาเดินอีกประมาณครึ่งชั่วโมงด้วยค่ะ ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวนั่นก็คือ ตั้งแต่ พ.ย. –พ.ค.

และแล้วได้เวลาจาก ขอบคุณมัคคุเทศก์ตัวน้อย ที่พาเดินชม พร้อมเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีไม่มีเคอะเขิน ทิ้งท้ายด้วยบรรยากาศขากลับขึ้นฝั่งครับ


Khundet

 วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.24 น.

ความคิดเห็น