"So where you gonna go next?"

สตีฟเพื่อนชาวอังกฤษผู้ร่วมทางกับเรามาตั้งแต่โบรโม่จนถึงตอนนี้ก็หนึ่งอาทิตย์กว่าได้แล้วถามขึ้น

"Well, I'm not sure but I wanna go to the pink beach and see komodo. But it could be quite expensive"

"Hey, I just booked 4 days tour and it's only 2,300k"

"What? Really? Show me please!"


นี่แหละสาเหตุที่ทำให้เรากระโดดขึ้นเข้าซื้อทัวร์4วัน3คืนจากลอมบอกไปยังลาบวนบาโจ

โดยไม่รู้เลยว่ามันจะกลายมาเป็นหนึ่งในทริปที่พีคที่สุดในชีวิต



ทริปนี้เริ่มจาก Lombok ค่ะ


โดยทัวร์จะให้ตั๋วเรือเราข้ามฝั่งจากกิลิไปยังลอมบอก

และมีคนคอยรอรับอยู่ที่ท่าเรือลอมบอก เพื่อพาไปขึ้นรถตู้ไปขึ้นเรือยังอีกท่าเรือนึง

เส้นทางการเดินเรือในทริป 4 วัน 3 คืนนี้จะเป็นแบบนี้ค่ะ

'Lombok Kayagan – Kenawa Island - Moyo Island - Gili Laba – MANTA POINT – KOMODO ISLAND – PINK BEACH -PADAR ISLAND – RINCA ISLAND – Kelor Island – Labuhan Bajo'



ซึ่งทั้งสี่วันสามคืนนั้น

เราจะต้องกินนอนกันบนเรือตลอดเวลาเลยทีเดียว

และราคาสองล้านสามแสน(รูเปีย)นี้นั้นรวมทุกอย่างให้คุณแล้ว

ยกเว้นแค่เบียร์หรือน้ำอัดลมที่ถ้าจะเอา ต้องสั่งกันก่อนลงเรือค่ะ



ความพีคที่ตอกย้ำว่ากิลิและทริปแบบนี้นั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวเอเชียจริงๆก็คือ

"เราเป็นคนเอเชียคนเดียวในหมู่นักเดินทางกว่า 30 ชีวิตที่'ลงเรือลำเดียวกัน'"ค่าาาา

ให้ตายเถอะอีแย้ม!

ค่ะ มันคือความบ้ามาตั้งแต่แรกที่เราตัดสินใจมา มาเจอแบบนี้ยิ่งทำให้รู้ว่าโคตรบ้าเลย

แต่สิ่งที่บ้าที่สุดคือประสบการณ์จากทริปนี้ที่มีแต่ความ 'พีคแบบคาดไม่ถึง'



พีคยังไง?

- ครั้งแรกกับการใช้ชีวิตบนเรือ

- ครั้งแรกกับการอยู่กับ 'คนแปลกหน้า' 24 ชั่วโมง4วันเต็มๆ โดยเป็นคนเอเชียคนเดียวทั้งๆที่อยู่เอเชีย

- ครั้งแรกที่ได้เห็นKomodoแบบใกล้ชิด

- ครั้งแรกที่ได้เห็นน้องหลาม โลมา ฝูงกระเบนและกระเบนลายจุดในธรรมชาติ

- ครั้งแรกกับการกระโดดลงไปว่ายน้ำกับ Manta Rays

- ครั้งแรกกับการส่องสัตว์ตอนกลางคืนจากบนเรือ

- ครั้งแรกที่ได้เห็นเกาะที่เรียกได้ว่า "สวรรค์" สี่วันเต็มๆ

- ครั้งแรกที่ได้เห็นแพลงตอนเรืองแสงเยอะจนเป็นทะเลดาว

- ครั้งแรกที่ได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้า และธรรมชาติที่สมบูรณ์ขนาดนี้

- ครั้งแรกที่ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ปลดล็อคตัวเอง ถึงกับต้องถามตัวเองว่า 'นี่ทำได้ด้วยหรอวะ?'



จนทำให้ต้องพูดอีกแล้วว่า

"ขอบคุณความบ้าที่พาให้เราได้มามี 'ครั้งนึงในชีวิต' ที่โคตรดีขนาดนี้"



จะพีคแค่ไหนมาดูกันเลยค่ะ



z9ifuezb2p84
yk4y4wykl3rx

และนี่คือสภาพการใช้ชีวิตบนเรือของเรา

เมื่อถึงเวลาทานข้าวพนักงานจะยกมาเสิร์ฟที่พื้น

และใต้พื้นทานข้าวนั้นคือช่องน้อยสู่อุโมงค์มหาสมบัติ กระเป๋าทุกใบจะถูกเก็บอยู่ใต้ท้องเรือ บนเรือจะอนุญาตให้คุณนำกระเป๋าใบเล็กๆขึ้นไปได้เท่านั้น

แล้วเวลาจะเอาของในกระเป๋าล่ะ? ก็มุดท้องเรือกันแบบนี้ไง


การชาร์แบต?

บนเรือมีปลั๊กไฟสามารถเสียบชาร์จได้ค่ะ แต่อยู่เรือไฟมีจำกัด ชาร์จได้เรื่อยๆก็จริง ก็คุณอาจจะไม่ได้แบตเต็มทุกรอบนะคะ

ส่วนการอาบน้ำล่ะ? "ถ้าใจสะอาดเราจะอาบทำไมคะ?" 55555

น้ำที่อาบจะมีจำนวนจำกัดมากกค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าได้หวังว่าคุณจะได้อาบน้ำอย่างจริงจังในแต่ล่ะวัน

ไม่เลย มีแค่พอให้ทำความสะอาดตัวหลังจากว่ายน้ำทะเลแต่ละรอบเท่านั้นค่ะ


ห้องน้ำ?เคยเข้าห้องน้ำรถไฟมั้ย? นั่นแหละ

จริงๆแล้วจะมีคลาสเคบินซึ่งเป็นห้องส่วนตัวด้วยนะ

แต่จากการถามความรู้สึกของคนอยู่เคบินแล้ว เค้าบอกมาว่า 'ขออยู่ข้างบนด้วยได้มั้ย?'

fyy0rd2gafed

นอนมองวิวที่ค่อยๆเลื่อยผ่านไปจากบนเรือ

olo7yzth9f7w

และหลังจากที่ล่องเรือกันมาเป็นชั่วโมงๆ เราก็มาถึงจุดหมายแรกกัน

"kenawa Island"

เกาะที่เรียกได้เลยว่า in the middle of nowhere ไม่มีคนอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

ความสวยงามและความสงบคือแค่สองสิ่งที่เห็นได้จากเกาะนี้

yjayh61g4zp3

เราจะทำการtrekking ขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกในวันแรกของทริปกัน

เกาะโล่งกว้างที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากทุ่งหญ้าเป็นพุ่มๆดูแปลกตา

และทางเดินธรรมชาติแคบๆที่ทำให้เราต้องต่อแถวเดินกันอย่างเป็นระเบียบ

นี่สินะ the beginning of adventure

เราจะเห็นคนใส่แต่บิกินี่กันได้ตลอดทั้งทริปเลย

เพราะระหว่างทาง จะมีจุดจอดให้เรากระโดดน้ำเล่นกันได้เรื่อยๆ

นี่ไงความ wild แบบชิวๆที่แท้จริง

8fugakmtfahm
iyk1i8gfd5h2

เมื่อเวลาพระอาทิตย์ตกดินมาถึง...

ยอดเขาที่เราเห็นนี้คือภูเขาไฟรินจานี

2qy743bnikqf
17j6g05fqmy9

กลางคืนก็ปีนดาดฟ้าเรือขึ้นไปนอนดูดาวท่ามกลางทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา

วิวเกาะที่เห็นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้เฝ้ามองสัวต์ป่าที่ออกมาหากินตอนกลางคืนได้

แพลงตอนเรืองแสงสีฟ้าระยิบระยับลอยอยู่บนท้องทะเลที่เปลี่ยนทะเลให้เป็นทะเลดาว

สายลมเบาๆที่พีดผ่านทำให้อากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้แม้แต่พัดลม

ค่ำคืนที่แสนจะเงียบสงบ

ไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงร้องเพลงพร้อมเสียงกีต้าร์จากกลุ่มคนที่นั่งล้อมกันอยู่ตรงระเบียงเรือ

พูดได้เต็มปากเลยว่านี่แหละ คืนที่ดีที่สุดในชีวิตจริงๆ

คืนไหนเรือจอดไม่ไกลจากเกาะ จะมีคนขับเรือมาขายเบียร์ให้ถึงที่ด้วยนะ

sfb3clrqamnp
0lyk3vwd1oc3

น้ำตกในป่าที่ซ่อนตัวอยู่ที่ "Moyo Island"

ถ้าใครยัง adventure ไม่พอ ไกด์ของเราจะนำทีมปีนขึ้นไปสู่ยอดน้ำตกกันด้วยล่ะคะ

ขึ้นไปยังไง? แน่นอนค่ะ ปีนไปทางแนวหินนั่นแหละ

บอกแล้วไง ทริปนี้adventure กันปรอทแตกเลยล่ะ

5086wfcm315m
sew6zvifxamn
a9tu63ds71v8

และแล้วก็มาถึงอุทยานโคโมโดกันสักที

ที่นี่เราจะมาตามหาน้องมังกรโคโมโดกันค่ะ

ซึ่งไกด์บอกว่าถ้าคุณโชคดี คุณก็จะได้เจอ

แต่สิ่งที่เห็นนั้น เอ่อ บางทีน้องคงอยากมาชิม Bintang แแถวคาเฟ่บ้างล่ะมั้ง?

i2hb1t9prsn0

นี่คือสิ่งที่เห็นได้จากจุดดำน้ำในทุกจุดค่ะ

ประการังสีสันสวยงามอุดมสมบูรณ์ เหล่าปลาน้อยใหญ่ที่พากันแหวกว่ายใต้ท้องทะเล

ไม่มีคำบรรยายกับสิ่งที่เห็นเลยล่ะ บอกได้แค่ว่า 'ดีใจมากนะที่ได้เห็นว่าโลกเรายังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบนี้อยู่'

5z2i82g4jw5m
t9v7zkg129gq
pdl715fbjb5v

ฝูงน้องกระเบนนน้อยพากันมาโชว์ตัวให้ได้เห็น

8d6endpj6vq9
09jwcoka7wy6

ถึงแล้วค่ะ Pink Beach

"RINCA ISLAND"

ที่ชายหาดแห่งนี้เป็นสีชมพูเป็นเพราะเศษประการังสีชมพูพากันลอยเกลื่อนมาตามกระแสน้ำ

เห็นแล้วใช่มั้ยว่าธรรมชาติที่นี่สมบูรณ์ขนาดไหนเศษประการังถึงเปลี่ยนให้หาดแห่งนี้กลายเป็นสีชมพูได้

aw99zjyizs5f
tvhg1cbuyw2o
qwfqu0v2bywn
78t8r2y8mfkp
acb95v4do8jm

อยู่บนเรือทำไรกัน?

ก็นี่แหละค่ะ จับกลุ่มนั่งคุย นั่งชิว นั่งดื่มกันตรงระเบียงเรือ

เปิดเพลงคลอไปกับบรรยากาศ

คือมันดีอ่ะ

p1x9s8v3fr31

น้องManta Ray!

ไฮไลท์อีกอย่างของทริปนี้เลยล่ะค่ะ

คือเค้าจะพาเราไปที่ Manta Point จุดดำน้ำซึ่งขึ้นชื่อได้ว่ามีสิทธิ์สามารถเห็นน้องแมนต้าได้สูงมากกก

แล้วเค้าก็จะค่อยๆล่องเรือไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาน้อง

เมื่อเจอน้องแล้วทำไง?

ก็โดดลงน้ำไปว่ายน้ำกับน้องสิคะ

sh13w629cqmn


wz6ftwqmrriq

อีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ "PADAR ISLAND"

เราต้องยกให้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของหมู่เกาะโคโมโดเลยล่ะค่ะ

ด้วยทิวเขาที่ดูแปลกตา

พร้อมทั้งวิวชายหาดสามสี Pink Beach, Black Beach และ White Beach

เป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่คุ้มค่ากับการมาเห็นครั้งนึงในชีวิตจริงๆนะ

h5ccxvbb6jaj
5dtl8lb4v9jx
as0bsugfchnf
p3w0u4tma09c
dehsnc4dgarf
4io6oe2501zs

อีกหนึ่งเกาะที่เราชอบมากกก

"Kelor Island"

เกาะนี้เป็นเกาะเล็กๆที่เงียบสงบ ชายหาดขาวนวล และน้ำทะเลใสมากกกกกก

ที่เกาะนี้น้ำทะเลมีความลึกไม่มากนัก เลยทำให้คุณสามารถไปนั่งกลางทะเลเหมือนเป็นจากุชซี่ส่วนตัวได้เลยทีเดียว

แต่ที่ความลึกไม่มากแบบนี้อย่าดูถูกเชียวนะ

เพราะธรรมชาติที่นี่มีความสมบูรณ์มากกก

จนด้วยความลึกแค่นี้คุณก็สามารถว่ายน้ำดูประการังได้แล้ว

มากกว่าไปกว่านั้นยังมีเหล่าฝูงปลา น้อยใหญ่ที่ว่ายน้ำวนรอบๆเกาะโชว์ตัวรอบๆกด้วย

แต่อย่าได้ประมาทเชียวล่ะ

เพราะเพื่อนร่วมทริปของเรานั้นเจอปลาเสือไล่ตอดตรงจุดนี้มาแล้ว

8wi2hv4i81e3
5pzu9f6l38ju
3z7w3mbzwbo4
5c11sr1ktz71
waa15ls9a7t5

ถึงแล้ว จุดหมายปลายทางของเรา เมือง "Labum Bajo" หรือ "Flores" นั่นเอง



ข้อควรรู้

- ถ้าว่ายน้ำไม่เป็น แจ้งพนักงานไว้ก่อนก็ดีค่ะ

เพราะอย่างที่บอกว่า 90% เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปซึ่งฝรั่งนั้นว่ายน้ำกันเก่งอยู่แล้ว เลยอาจจะทำให้บนเรือไม่ค่อยมีเสื้อชูชีพสักเท่าไหร่

- ทริปนี้เหนื่อยมาก แต่คุ้มมากกกกก

- จริงๆทริปล่องเรือที่เริ่มจากลาบวนบาโจก็มีค่ะ มีตัวเลือกเยอะกว่าสำหรับคนมีเวลาน้อยกว่าด้วย แต่ถ้าน้อยกว่านี้อ่ะ

อาจจะไม่ได้ล่องเรือข้ามประเทศกันแบบนี้แต่จะแค่วนแถวนั้นแล้วกลับ

เพราะฉะนั้นมาทั้งที เราแนะนำล่องจากลอมบอกเหมือนเรา เอาให้พีคสุดๆกันไปเลยค่ะ

- ชีวิตบนเรือไม่สะดวกสะบายเท่าไหร่หรอกค่ะ ถ้าคุณรักสบาย รักความสะอาด อย่ามานะ

แต่ถ้าคุณอยากเปิดประสบการณ์ให้ชีวิต อยากรู้ว่า "Paradise Island" และความพีคเป็นยังไง มาค่ะ!


ใครมีคำแนะนำอะไรตามไปกันได้ที่ https://www.facebook.com/InTheCornerOfThisWorld/ นะคะ


ความคิดเห็น