• ตีพิมพ์แล้วใน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561
  • ได้รับอนุญาตในการนำลงเว็บไซต์นี้แล้ว โดย text ทั้งหมดในบันทึกนี้เป็นต้นฉบับก่อนการ Edit โดยบรรณาธิการ
  • ผู้เขียน - วนิดา แก่นจันทร์

ในยุคสมัยที่เราสามารถถ่ายรูปพร้อมอัพเดทขึ้นโซเชียลมีเดียได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภาพถ่ายหลายพันหลายหมื่นภาพต่างก็ทำหน้าที่ของมันดังเช่นทุกครั้ง ฉันเปิดอัลบั้มในเฟซบุ๊ก ไล่หาภาพถ่ายเมื่อครั้งไปประเทศกัมพูชา เมื่อเปิดอัลบั้มเข้าไป เห็นภาพถ่ายมากมายที่ถ่ายเล่นบ้าง จริงจังบ้างในเวลานั้น ภาพเหตุการณ์เก่า ๆ ก็พลันฉายชัดขึ้นในความทรงจำ...


เสียบเรียบเมืองแห่งปราสาทหิน

จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือเมืองเสียมราฐ หรือเรียกชื่ออย่างคนไทยว่าเมืองเสียมเรียบ จากเมืองไทยมาเมืองเสียมราฐ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งสายการบินบางกอกแอร์เวยส์บินตรงมาลงที่ Siem Reap International Airport ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส แสงแดดเจิดจ้าแต่ไม่รู้สึกร้อนแม้แต่น้อย...

เรารู้จักกัมพูชาแค่เพียงผิวเผิน รู้แค่ปราสาทนครวัดตั้งอยู่ที่ประเทศนี้ แต่นอกจากปราสาทนครวัด-นครธมแล้ว ที่เมืองเสียมราฐยังมีกลุ่มปราสาทหินอีกหลายแห่ง ซึ่งถูกดูแลรักษาไปพร้อมด้วยธรรมชาติป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนเข้าชมกลุ่มปราสาทหินต่าง ๆ นักท่องเที่ยวจะต้องทำบัตรเข้าชม Angkor World Heritage กันเสียก่อน เลือกแบบ 3 วันเพราะเพียงวันเดียวเราคงชมความงดงามและยิ่งใหญ่ของปราสาทหินต่าง ๆ ไม่เสร็จแน่นอน


บัตรเข้าชม Angkor World Heritage


ปราสาทนครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมาชมความงดงามของสถาปัตยกรรมขอมโบราณ อีกทั้งยังมีภาพแกะสลักเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เมื่อได้ฟังมัคคุเทศก์ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่สามารถพูดได้หลายสิบภาษา มาอธิบายความหมายควบคู่ไปด้วย เราก็ยิ่งอึ่ง ทึ่ง ในความสามารถด้านการก่อสร้างและวิธีคิด หลักการต่างๆ ของคนในยุคขอมโบราณมากยิ่งขึ้น



นอกจากมาเยือนปราสาทนครวัด เราปักหมุดหมายไปต่อที่เมืองพระนครธม ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายของอาณาจักรขอมโบราณ ที่ใจกลางนครธมแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของปราสาทซึ่งมีมนต์สะกดนักท่องเที่ยวมากที่สุด ด้วยยอดปรางน้อยใหญ่กว่า 54 ยอดและภาพแกะสลักพระพักตร์ยอดปรางรายรอบปราสาท พระพักตร์บนยอดปรางนี้ตั้งตระหง่านส่งรอยยิ้มแห่งความกรุณาแก่ผู้พบเห็นมาอย่างยาวนาน ณ ปราสาทบายนแห่งนี้

อีกหนึ่งปราสาทที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือ ปราสาทบันทายสรี ปราสาทซึ่งงดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา เพราะสร้างด้วยหินทรายสีชมพู แม้จะสร้างมาแล้วกว่า 1,000 ปีแต่ลวดลายของสถาปัตยกรรมยังคงเห็นเด่นชัดไม่เลือนราง...

ปราสาทบันทายสรี ปราสาทที่เราชอบมากที่สุด สวย สง่า องค์ไม่ใหญ่โต แต่มีพลังส่งผ่านมามากจนทำให้ละสายตาออกจากปราสาทไม่ได้เลย

กัมพูชา อาณาจักรแห่งปราสาทหิน


เฝ้ามองวิถีชีวิตคนได้ที่...ตลาด

กดลูกศรเลื่อนดูภาพถ่ายในอัลบั้มไปเรื่อย ๆ จนถึงภาพภาพหนึ่ง ทำให้เราฉุกคิดสังเกตตัวเองได้ เวลาไปต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะทำบ่อยๆ คือการไปตลาด จะตลาดเช้า หรือไปตลาดเย็นก็ได้ไม่ว่ากัน การไปตลาดถือเป็นกำไร เพราะเราจะเห็นวิถีชีวิตของผู้คน และอาหารการกินต่าง ๆ ได้พร้อมกันในสถานที่เดียว มาเยือนเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชาทั้งที มีหรือจะพลาด... ซึ่งเราโชคดีที่ได้ไปทั้งตลาดเช้า และ Night Market ได้เห็นความต่างอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

ตลาดเช้าของที่นี่ให้บรรยากาศตลาดสดในต่างจังหวัดของเมืองไทย เริ่มตั้งแต่ทางเข้าตลาด มองเห็นมีร้านขายของทอด มองแล้วเหมือนขนมปาท่องโก๋ ซาลาเปาที่เมืองไทย ก็ไปลองซื้อมาชิมบำบัดความหิวสักหน่อย เดินเข้าไปด้านในตลาดร้านรวงทั้งหลาย ต่างทยอยตั้งสินค้าหน้าร้าน ซึ่งก็มีทั้งสินค้าจากเมืองไทย และสินค้าท้องถิ่นของคนที่นี่ด้วย มองไปอีกด้านเห็นแผงผักหลายชนิดวางเรียงรายในตะกร้าสีสันสดสวย สีตัดกันอย่างโดดเด่น พอหันไปอีกทางก็เห็นพ่อค้ากำลังใช้มีดอีโต้หั่นต้นตะไคร้อย่างขมักเขม้น... ชีวิตผู้คนในตลาดแห่งนี้ล้วนเคลื่อนไหว และมีจุดมุ่งหมายอยู่ตลอดเวลา จะเรียกว่าการได้มาเห็นผู้คนที่นี่ เป็นสีสันแห่งการดำเนินชีวิตก็ไม่แปลกเลยล่ะ

ลมหายใจของผู้คน ณ ตลาดเช้าที่ได้ไปเยือน


ตลาดเช้าก็ไปแล้ว ลองไปเดินเล่น Night Market บ้างจะเป็นไร... หากการไปตลาดเช้า ทำให้เราได้เห็นภาพวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่นของเมืองเสียมเรียบ จากนั้นตอนกลางวันเดินเท้าชมปราสาทหิน เห็นความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมขอม การไป Night Market ตอนกลางคืน ก็คือการได้เห็นความเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ร้านรวงต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายเฉพาะเครื่องดื่ม ร้านขายสินค้าที่ระลึก ล้วนต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ความกระตือรือร้นของทุก ๆ ชีวิตที่เดินไหล่ชนกันภายในตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้ ทำให้ใจของเราตืนตัวอยู่ตลอดเวลา... ก็แปลกไปอีกแบบ


กัมพูชากับภาพจำที่เปลี่ยนไป

ภาพเกือนสุดท้ายของอัลบั้มกัมพูชา เป็นภาพถนนหนทางของเมืองเสียมเรียบ ที่เราได้ถ่ายเก็บมาไว้บ้าง มานั่งนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ทำให้เราเข้าใจแล้วว่า ภายในบริเวณกลุ่มปราสาทหินซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ชาวเมืองที่นี่จะอนุรักษ์ป่าไม้ในบริเวณนั้นด้วย เมื่อเทียบกับพื้นที่ชุมชนด้านนอก ต้นไม้ยังมีน้อยกว่า การจราจรของที่นี่ก็มากไปด้วยรถราไม่แพ้เมืองไทยเหมือนกัน...

วันสุดท้ายของการอยู่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ก็ให้รู้สึกใจหายอยู่ลึก ๆ เพราะรู้สึกคิดถึงการเดินเท้าเข้าไปชมปราสาทหินต่าง ๆ ซึ่งยังไม่จุใจเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อมาเปิดดูภาพในอัลบั้ม เห็นภาพบรรยากาศผู้คนท้องถิ่นทั้งที่ตลาดเช้า และ Night Market ตอนกลางคืน ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเราได้ทุกครั้ง ที่เปิดอัลบั้มนี้

พระองค์เจก พระองค์จอม พระพุทธรูปพี่น้องคู่บ้านคู่เมืองชาวเสียมเรียบ


เรียกได้ว่า ภาพจำของกัมพูชาที่เราเคยมี ถูกเปลี่ยนไปแล้ว ประเทศนี้ไม่ได้มีแต่ปราสาทนครวัด หรือผู้คนที่น่ากลัว แต่ที่นี่ยังมีปราสาทหินอื่น ๆ ที่สวยงาม ยิ่งใหญ่ไม่แพ้นครวัด ยังมีรอยยิ้ม และมิตรไมตรีจากคนท้องถิ่น ยังมีดนตรีบรรเลงและเสียงร้องที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรอให้เราได้กลับไปเยือนยังประเทศกัมพูชาอีกครั้ง ในเร็ววันนี้...

Nida Mailo

 วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.05 น.

ความคิดเห็น