จิบกาแฟเบื่อแล้ว .... ไปจีบเขาดีกว่า :)

ทริปของคนหลงเขา ที่โดนเทตลอดดดดดดดดดดด ถ!

ฉันมันทะเล เลยถูกทิ้งถูกเทตลอด .... น่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างฮ่าๆ

ทริป 3 วัน 2 คืน ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว วิ่งทางหลวง หมายเลข 32 อยุธยา > อ่างทอง,สิงห์บุรี >122 ตัดเข้า 117นครสวรรค์เลี่ยงเมืองพิจิตรตัดเข้าพิษณุโลก >126 เลี่ยงเมือง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก 1296 ตัดเข้า 1143 > 1237เข้า 1268 วิ่งตรงอย่างเดียว เปิด GPS ประกอบ ถนนดีตลอดทาง ค่ะ จาก กทม ถึงอุทยาน ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม.ค่ะ

เราเดินทางเช้า วันที่ 16 กย 62 : นอนพักเอาแรงที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวหนึ่งคืน

link: จองที่พักกับทางอุทยาน จองได้ทุกอุทยาน ข้าราชการมีส่วนลด

http://nps.dnp.go.th/reservation.php

สามารถ เช็ค วันเวลาเปิด-ปิด อุทยานทั่วไทยได้ด้วยถ้าใครชอบเดินป่าไม่ควรพลาดค่ะในเว็ปเราสามารถจองเต็นท์รวมที่พักได้เลยนะคะ ทางเว็ปจะส่งใบเสร็จมาให้เรานำไปยืนยันกับทางอุทยานตามที่อยู่ที่เราระบุ หรือเราสามารถนำรหัสหมายเลขการจองไปยื่นได้เช่นกันค่ะ

วันที่ 17 กย 62 : เดินเท้าขึ้นภู

วันที่ 18 กย 62 : เดินทางกลับ กทม.

ที่พัก : บ้านหนึ่งหลัง 420 บาท / 4 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส

ค่าเสียหาย : ค่าเต็นท์ 225 บาท

ค่าลูกหาบ กิโลล่ะ 30 บาท

ค่าถุงนอน,หมอน,แผ่นรองนอน 30,10,20 บาท/อัน

ค่าประกันภัย 10 บาท/คน

พร้อมแล้วก็ลงทะเบียนสมาชิกในทีมกรอกเอกสารเรียบร้อย พร้อมจ่ายตังค่าเสียหาย .... ขึ้นรถอิแต๊นที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ไปยังจุดเริ่มเดินเท้า

เค้าว่า ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร และเค้าก็ยังว่า อีกว่า สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น .... ไม่ลองจะไปรู้ได้ยังไง พี่เจ้าหน้าที่กล่าวเราไม่ได้กล่าวฮ่าๆ เราจะต้องเดินผ่าน 5 เนินต่อไปนี้ เนินส่งญาติ>เนินปราบเซียน>เนินป่าก่อ>เนินเสือโคร่ง>เนินมรณะ ซึ่ง ระดับความชันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ มีทางราบให้เดินไม่กี่ช่วง!

เราจะเดินผ่านน้ำตก ไปเรื่อยๆก่อนจะถึงเนินส่งญาติ

มีชั้นน้ำตกทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี

เนินส่งญาติ หลังจากนี้ไป คือ ส่งญาติจริงๆ เพราะ เขามาส่งแค่นี้ ทางข้างหน้าเลือกได้ก็ไม่ไปส่งอ่ะถูกแล้วฮ่าๆ

ถึงตรงนี้ คือ เนินปราบเซียน นั่งพักพอหายเหนื่อยแล้วไปต่อ เราจะเริ่มเห็นป้ายห้ามทิ้งขยะตลอดทาง

ปราบเซียนจริงๆ ความชันเพิ่มขึ้นมาอีกจ่ะแม่ HR ของคุณจะเข้าสู่โซนแดง !

เนินป่าก่อ ครึ่งทางแล้ว ความเหนื่อย ทวีคูณ! แต่ต้องเดินต่อ ทุกๆก้าวคือ ฝึกสมาธิได้เลย จะก้าวสั้นก้าวยาวเราก็ต้องก้าว พบปะผู้คนที่กำลังเดินลงเขา บอกเราว่า ดอกหงอนนาคจะหุบหลัง 16.00น. ยิ่งทำให้เรานั้นต้องเร่งฝีเท้า เพราะเราเดาสภาพอากาศบนภูไม่ได้ ว่าคืนนี้ ฝนจะตกฟ้าปิด หรือฟ้าเปิด และกว่าดอกหงอนนาคจะปาน ก็ต้องรอพระอาทิตย์ขึ้น ในตอนเช้าของอีกวัน

เห็นยอดภูเขา ด้านหลังนั่นไหม ลูกนั้นแระ ที่เราต้องข้ามไป .... ทางเดินระหว่างเนินป่าก่อ มาเนินเสือโคร่งพอจะมีทางราบบ้างเล็กน้อย

ผ่านเนินนี้ไป ก็เนินสุดท้ายแล้ว เอาว่ะ สู้

ระหว่างทางก็แวะชมวิว ถ่ายรูป ไปเรื่อยๆ ธรรมชาติจะต้อนรับเราด้วยวิวร้อยล้านเสมอ

เนินมรณะ ป้ายหลักกิโล อันแสนจะหลอกดาวววววววววววว แก! ข้ามเขาทั้งลูก ! ผ่านลูกนี้ไปเดินเท้าอีก 1.5 กิโลเมตร อ่ะ ใช่อยู่จ่ะ

ตรงนี้คือ landmark เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องถ่ายรูป เอาความตื่นเต้นทั้งหมดที่มี เอาชนะความเหนื่อยไปเลย!

เพราะรางวัล คือ ความเขียว ความอบอุ่นของ (ภู) เขา

เห็นป้ายนี้คือแบบ เฮ้! ถึงแล้ว เดินอีก 500 เมตร ถึงลานกางเต็นท์

ดอกหงอนนาค ยังบานรอเราอยู่ ไม่ผิดหวังจริงๆ ใช้เวลาเดินทั้งหมด 5 ชม. 15 นาที

อาหาร : บนภู มีหม้อ กระทะ เตาแก๊สให้เช่า ใครมีเพลนจะทำอาหารก็เตรียม แก๊สกระป๋อง ถ่าน ขึ้นไปอาหารต้องเตรียม ทั้งหมด 3 มื้อ คือ มื้อ เที่ยงของ วันที่เดินขึ้น มื้อเย็น และมื้อเช้า ส่วนมื้อเที่ยง วันที่เดินลงเขา ไม่ต้องเตรียม เพราะขาลงเร็วกว่าขาขึ้นเสมอ 3 ชม.ถึง!

น้ำ : ขาขึ้น 1 ขวดใหญ่ หรือ 2 ขวดเล็ก และควรพกเกลือแร่ เครื่องดื่มเพื่อการเสียเหงื่อ เราซื้อ 100 พลัสจาก 7-11 ขึ้นไป 2 ขวด ขาลงใช้น้ำดื่มไม่มาก พกขวดเล็กขวดเดียวพอ!

อากาศ :บอก ไม่ได้ว่า ใครจะเจออะไร ฮ่าๆ แต่ทางเราทำบุญมาเยอะ ฟ้าเปิด ฝนไม่ตก อากาศเย็นเล็กน้อย สบายๆควรมีเสื้อกันหนาว 1 ตัว

ห้องน้ำ : บนภูมีห้องน้ำ แต่ไม่มีน้ำ เราต้องไปตักน้ำจากลำธารมาใช้ ใช้อาบได้ ล้างจาน น้ำเย็นมากจ่ะ

ดาว : สวยมากๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทางเรา ไม่มีรูปมาฝาก เพราะถ่ายมาแล้วแต่รูปดูไม่งามเลยไม่ได้เอามาลงฮ่าๆ

ดอกหงอนนาค : มาเป็นทุ่งจ่ะแม่ สมกับที่มาช่วง กันยายน ของทุกปี

จบทริป แบบไม่เจอฝน เจอกันใหม่เขาหน้า เพราะ chareediebergetrip ทริปของคนหลงเขา

ติดตาม รีวิว ได้ที่ เพจ : https://www.facebook.com/Deibergen/