กัมพูชาสามวันไม่มีแผน นครวัดสุดอลัง ปักหมุด

หากคุณกำลังมองข้ามกัมพูชา

ลองเปิดใจแล้วแบกเป้ไปสักครั้ง มิตรภาพข้ามชายแดน ร้านกาแฟและไอเดียดีๆ

หากยังคิดว่าเขมรน่ากลัวนั้นแสดงว่ายังไม่ได้ไป แบกเป้ไปคนเดียวก็รอด

งบน้อยค่อยๆเดินค่อยๆต่อ ไม่ต้องเดานะจ้ะเราพัก Hostel ประทับใจในราคาย่อมเยาว์ Opps Hostel

โดมหญิงล้วนซิจ้ะปลอดภัยและอุ่นใจ พนักงานน่ารักแถมโลเคชั่นใกล้ของกิน ถนนสายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่คือ Pub street กลางคืนไม่มีอะไรทำก็ไปเดินหาอะไรกิน ใครสายตี้ดี้ด้ายามดึกเพลงเขาก็มันนะแต่เราชอบเดินชมเมืองมากกว่า ต่างชาติเยอะแต่ไม่พลุกพล่าน มันก็ดีนะเธอคือไม่วุ่นวาย เพลงก็ดังคนก็เดินไปถนนหลัง 4 ทุ่มคนประปรายมันก็เอ้อว่ะ นอนกันแล้วหรอ?

จากกรุงเทพบิน 1 ชม.นิดๆ ถึงสนามบินเห็นช่องขายตั๋วควักไป 10$ ที่จริงจะหาถูกกว่านี้ก็มีถ้าเดินออกไปแต่เราถึงดึกแล้วมาคนเดียวก็จ่ายๆไปแพงนิดเพื่อความสะดวก ถนนหนทางมีเสาไฟห่างๆ สามล้อพาเรารับลมดึก ประมาณ 10 นาทีพี่คนขับก็ไล่เราลง นี่นั่งลุ้นตลอดเวลาจะพาเลี้ยวเข้ามุมอับไหนก่อนถึงที่หมายมั้ยหว่า

เอ้ย เริ่มกลัว มันมืดและลมก็เย็น พี่คนขับก็ขับเอื่อยเหลือเกิน

ตอนไปขึ้นสามล้อ คนขับจะพยายามถามว่าเรามีแผลนไปไหน สนใจเช่าเหมาวันสามล้อเขาไหม บลาๆ ราคาตามตกลงกัน เราตัดบทบอกไปว่าจองแล้วจากเน็ต ความจริงคือไปหาเอาข้างหน้าซึ่งติดต่อในที่พักหรือเดินหาเอาในเมืองก็ทันมั้ง ไร้แผนอีกแล้วเร่ร่อนไปเรื่อยๆ สไตล์เราๆ เอาจริงๆเมืองนี้เหมาะมากจะมาเดินเล่น หาไรลองกินไปเรื่อย

DAY 1 เดินวนเมือง แวะคาเฟ่

ไวไฟไม่มีไปซื้อซิม 5 ดอลล่าในร้านสะดวกซื้อสเอือกกอใช้ไม่ได้ อิหยังวะ! มันเป็นเพราะโทรศัพท์เราไม่ใช่ความผิดเขาใดๆ คนที่นี่พูดไทยได้น้าอย่าไปเม้าใครซุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวหน้าจะเป็นรอยเท้า เราเจอคนที่เดินซื้อของอยู่ เขาก็มองๆ เราก็ยิ้มนางก็ถามมาจากไหน ไทยแลนด์ดินแดนสยาม สวัสดีครับทันทีนี่ก็ได้โอกาสให้เขาแนะนำ พี่แกก็ยินดีแบ่งปันข้อมูล

Sister Srey cafe ร้านนี้ดังนะพอมานั่งแล้วเชื่อมไวไฟดู eco-friendly ไปอีกวัตถุดิบปลูกเอง แด่แซนวิชไก่ที่สั่งที่ฉันเดินมาพบแกโดยบังเอิญ

Centre Market

ตลาดสด+ตลาดผ้า+ร้านของฝาก เหมือนตลาดบ้านเราแต่พิเศษที่ซอยนี้ ร้านเสริมสวยที่อยู่กลางตลาดพร้อมการบริการที่ทันใจ เข้าไปลองสระผมแห้งกลางตลาด รอเวลาฝนแล้ง

จิบชายามบ่าย ณ ร้านกาแฟหัวมุมตลาด ฝั่งตรงข้ามเป็นจุดบริการข้อมูล แวะเข้าไปสักหน่อยสามารถจองทัวร์กิจกรรมต่างๆจากที่นี่ได้ ซึ่งคิดว่าราคาดีทีเดียวตั้งแต่เดินมาก็เจออยู่ที่เดียวไม่ต้องกังวลเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งที่ไทยที่มีเคาร์เตอร์ทัวร์มากมายแข่งกันตัดราคา

Day 2

ไปนครวัด เหมาสามล้อ $18 (500-600 บาท)

จะเลือกไปชมอาทิตย์ขึ้นหรืออาทิตย์ตก นัดเวลากับคนขับได้เลย ให้ที่อยู่ที่พักเขาจะมารับเราพาไปซื้อตั๋ว $38 เนื่องจากตอนเช้าคนเยอะและต้องออกก่อนตี 5 เราเลยเลือกจะไม่ไปแย่งพื้นที่ใคร ก็นัดกับคนขับ 8 โมง

วันนี้ทั้งวันขึ้นลงตุ๊กๆเดินสายเก็บภาพ ชมประวัติศาสตร์ ดูความอลังการ จบที่นครวัดชมอาทิตย์ตก ปล.นครวัดออกห่างจาดตัวเมืองประมาณ 20 นาทีไม่ค่อยมีร้านอาหาร มื้อเที่ยงพี่คนขับทุกคนจะพาไปเทรวมที่ซุ้มให้สั่งกินกันที่นั่น อาทิตย์ตกที่นี่ตกตรงประตูนครวัดตอนเดินออกมาความรู้สึกคือ พระอาทิตย์รอฉันอยู่หากฉันเดินทะลุไป ประทับใจทุกอย่างเลยแม้จะร้อนไปหน่อยก็ไหวนะ เพลินดีใครที่มาแล้วก็ควรจะสำรวจให้สุดลืมความล้าไปสักวัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

Day 3

ตระเวนกินอาหารพื้นเมือง

-ขนมรังผึ้งมะพร้าว

-ผัดเผ็ดกบสมุนไพร red resturant ตอนแรกสั่งผัดเผ็ดงูจะลองชิมแต่วันนั้นดันหมดอาจจะโชคดีของเรา

-เบียร์กัมพูชาในราคาแก้วละไม่ถึง 10 บาท

-ไอติมผัดฝีมือสลับสายฟ้าฟาด

และอื่นๆอีกมากมายเจออะไรก็แวะเอางี้เถอะ สนุกดี

-Tacos เนื้อรถเข็นใน pub street ก็อร่อยอยู่ใกล้กับร้านขนมเกาหลี

ที่สำคัญสายเขียวควรลิ้มลอง Happy pizza ที่นี่อนุญาติให้ใส่กัญชาในอาหารได้เป็นที่เลื่องลือเพื่อนฝรั่งชวนเราไปลอง ซึ่งร้านที่ไปเดินไกลมากแต่พิซซ่าไม่เลี่ยนเลย ตัดกันดีทีเดียวชิมในปริมาณพอเหมาะนะจ้ะ

ยิ้มน้อยๆ ขำนิดๆ

DAY 4 ดูโชว์ circus ครั้งที่ 3 ในชีวิตว้าวมั้ยไม่ขนาดนั้นแต่เราชอบไอเดียเบื้องหลังของโชว์ที่เขานำค่าบัตรที่เราซื้อไปเป็นทุนศึกษาให้เด็กเกือบ 100% และก่อนเข้าไปดูโชว์ต้องเดินผ่านห้องที่วางขายงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น แต่ละชิ้นโดดเด่นจนอยากซื้อกลับแต่ติดตรงงบจำกัด 5555 อีกจุดประทับใจตั้งแต่ก่อนก้าวเข้าไปคือสถานีเติมน้ำฟรี ที่เขียนว่า "เราถมแผ่นดินด้วยขยะสักวันขยะจะถมเรา" คนที่มาที่นี่ส่วนมากอาจไม่ได้มีจุดประสงค์แค่ดูโชว์แต่อยากให้รายได้พวกนี้ได้เข้าถึงคนท้องถิ่น สถานที่ออกห่างศูนย์กลางแต่คืนนี้คนก็คุกคัก ขาที่ล้าจากเมื่อวานแวะไปร้านนวดคลายความเมื่อย ราคาดีอีกแล้ว ประทับใจในบริการ