ตามมาดูบรรยากาศขับขึ้นไปหมู่บ้านได้ในวีดีโอด้านล่างนี้เลยจ้าาานาย
เวลาตี 4 เสียงโทรศัพท์ดังปลุกเราให้ตื่น เสียงคุยกับปลายสายกึ่งหลับกึ่งตื่น
05:30 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ขับไปไม่กี่กิโลระหว่างทางท้องฟ้าสีชมพู มองกระจกหลังพระอาทิตย์สีส้มกำลังโผล่มาทักทาย
สวัสดี เพื่อนร่วมทาง
เส้นทางไทรโยค-ทองผาภูมิ ขับไม่ยาก เดินทางผ่านอุทยานและเมื่อเห็นป้ายหมู่บ้านปิล็อก เริ่มตื่นเต้นแล้วสำหรับคนขับรถขึ้นเนินไม่ชำนาญ ศึกษาเส้นทางจากพี่ๆ ยูทูปเบอร์เส้นทางขึ้นหมู่บ้านดีขึ้นมากแล้ว
โค้ง 399 โค้งหดเป็นลำไส้เล็ก โชึดีที่เนินชันไม่มากไม่งั้นเราอาจไม่ไปต่อ ขับเรื่อยๆ ชิลๆ
วันนี้เป็นวันธรรมดารถขับสวนไม่เยอะ เราถึงหมู่บ้านอีต่องกันเที่ยงกว่า ของีบกันที่หัตถกีรติ 800 บาทต่อคืน (ที่พักอยู่ฝั่งเหมืองติดกับลานจอดรถ)
16:30 น. แสงและบรรยากาศที่นี่ดีมากยิ่งตรงสะพานแขวนป้าย ถ่ายรูปออกมาญึ่ปุ้นญี่ปุ่น ครั้งนี้ป้ายแขวนถูกเปลี่ยนฝั่ง จากแต่ก่อนจะถ่ายติดแม่น้ำ นักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่นกันเยอะมากแต่ไม่ได้รู้สึกวุ่นวาย อาจเพราะบรรยากาศรอบๆ ผ่อนคลายมาก ทุกคนรอแชะภาพไฟส้มสะท้อนน้ำ
ตี 5:00 น. ตื่นมาพร้อมกับความหวังไปดูแสงดช้าแรกของวัน หลังกะบะ ลมหนาวตีหน้า
ค่าบริการรถขึ้นไป 50 บาทต่อคน
กลับจากเนินช้างศึกดูพระอาทิตย์ขึ้นเช้านี้ นอกจากทองโย๊ะที่คนชอบทานงาไม่ควรพลาด ระหว่างทางเดินผ่านตลาดไปทานมื้อเช้าร้านเจ๊ณี คือช้างแก่คลาสสิคโฮม
คุณป้าเจ้าของร้านเสื้อเขียวในภาพทำผัดหมี่ช้างแก่อร่อยมากจนเราต้องสั่งเพิ่ม 3 กล่องกลับลงมากินในปั้มแห่งหนึ่งในทองผาภูมิ อร่อยจริงๆ แบบโคตรความหมี่ผัด
ประทับใจไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพี่คนขับพาแวะอุโมงค์ วิวมุมสูงของหมู่บ้าน
คู่รักคุณลุงคุณป้าที่แนะนำเส้นทางไปน้ำตกจกกระดิ่ง โค้งชันยาว ตอนขับลงไปก็แอบเสียวเหมือนกันคิดว่าจะเปรี้ยวสุดท้ายก็ต้องขอความช่วยเหลือ และนี่แหละคือทริปคิดปุ๊บไปปั๊บ
แอบกระซิบใครจะไปช่วงปลายปีแนะนำให้จองไปเดินเขาช้างเผือกด้วย เราแอบเสียดายที่มาถึงนี่ทั้งทีแล้วต้องรีบกลับ
เป็นกำลังใจ เป็นเพื่อนร่วมทางหรืออ่านบัยทึกเพิ่มเติมได้ที่ IG : Losttostay
seeyouinnorthpole
วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.38 น.