เชี่ยวหลานครั้งที่ 5 บ้าไปแล้ว จะว่าบ้า ก็บ้าจริง ๆ แหละ ใครหนอจะไปที่เดิม ๆ ซ้ำ ๆ ได้บ่อย ๆ แต่ในความที่บ้า มันก็ต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่ ๆ ใช่ป่ะ ไม่งั้นจะมาทำไมอีก ♥
เพราะที่เขื่อนมีแพของอุทยานฯ และเอกชน ไว้บริการมากมาย เลือกสรรได้ตามใจชอบ ทุกแพจะสวยเหมือนกันหมด อาจแตกต่างกันที่ความสะดวกสบายในแพ อาหารการกิน และการบริการที่แข่งขันกันสูงขึ้น
ทริปนี้ เรามากับครอบครัว แน่นอนถ้ามากับเรา ต้องใจเย็น ๆ เน้นที่พักดี ๆ ตั๋วเครื่องบินถูก ๆ เทคนิคก็ไม่ยาก คอยติดตามเพจแพ ที่เราจะไปพัก ดูว่าเค้ามีโปรโมชั่น ช่วงงานท่องเที่ยวไทย หรือช่วงระดมทุน ถ้าโปรแกรมโดนใจกับความต้องการเรา ก็จองเลย ยาวไป ยาวไป ดีเสียอีก จองที่พักยาว ๆ จองตั๋วเครื่องบินยาว ๆ จะได้ราคาไม่แพง สบายกระเป๋ามาก ๆ
.... แต่ข้อเสียของการจองที่พัก+ตั๋วยาว ๆ ก็คือ ถึงวันไปบางคนอาจไปไม่ได้ เสียเงินจองฟรี อย่างทริปนี้ก็มีผู้ไม่ได้ไปต่อ 2 ท่าน โอ้วววว ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ (การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง T_T)
ถึงวันเดินทางแล้ว ใครจะไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา ให้เลือกไฟล์ท เช้า ๆ เพราะจะได้มีเวลาอยู่ที่แพเยอะ ๆ ไง หึ หึ
พาหนะประจำกาย อยากเปลี่ยนเจ้าอื่นนั่งบ้างนะ แต่ยังหาช่วงเวลาที่ถูกกว่าไม่ได้เลย 55
ลงเครื่อง 8.30 น. รถตู้จะมาคอยรับ เพื่อไปเช็คอิน ที่บริษัทฯ ก่อน (นั่งรถไปประมาณ 1 ชม. นั่งไปก็หิวไป)
ที่ออฟฟิศ จะมีอาหารเช้า ของว่างรองท้องไว้บริการ ซึ่งดีขึ้นมาก ๆ จากเมื่อ 2 ปีทีแล้ว เยอะเลย ชอบ ๆ
ขอชมว่าข้าวต้มหมู อร่อยมาก ๆ ถ้าใครมาห้ามพลาดเชียว
ท้องอิ่ม ก็นั่งรถไปอีกนิด ไปที่ถ่ายรูปที่สันเขื่อน และรอขึ้นเรือที่ท่าเรือ
สำหรับใครที่มาเองไม่มีเรือที่พักมารับ-ส่ง ก็สามารถไปแพได้ สามารถดูจากรีวิวเก่า ของเราได้นะ จะมีเรือไว้บริการ มีป้ายราคาบอกไว้ชัดเจนค่ะ มาง่าย เชื่อสิ https://th.readme.me/p/5568
ได้เวลาก็เดินไปลงเรือกัน ลุย
จากท่าเรือ ถึงแพของเรา ประมาณ 1.30 ชม. (แวะชมเขาสามเกลอ) ยาวไป ๆ ถ้าใครไม่ชอบนั่งเรือนาน ๆ ก็ลองหาดู แพใกล้ ๆ เดินทางไม่นาน ก็มีหลายแพนะ สามารถเลือกได้ตามที่เราต้องการค่ะ
เขาสามเกลอ (อันนี้ภาพเก่า จากที่เคยเหมาเรือไปเอง สบาย ๆ มุมถ่ายรูปเยอะดี)
ระยะทางนาน ๆ หลับยาว ๆ ไป เฮ้ย ชมน้ำเขียว ๆ ใส ๆ วิวสวย ๆ พราง ๆ ไป 55
ทริค เล็ก ๆ จากประสบการ์ณ 5 ครั้ง
1.ให้เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย แม้ฝนจะไม่ตก แต่ระหว่างที่เรือขับไป จะปะทะกับลม ทำให้น้ำกระเด็นเปียกเต็มตัว หรือถ้าใครชอบเย็น ๆ ก็ไม่เป็นไรจ้า (แต่ขากลับไม่ต้องบอก ใส่พร้อมลงเรือกันเลย 55)
2.ไปกะทัวร์ จะจอยที่นั่งกันไปในลำหลายคน จะไม่ได้ถ่ายรูป เดี่ยว ๆ ตรงเขาสามเกลอ แต่ถ้าไปเอง เหมาเรือส่วนตัวไป จะสบายมาก ๆ เรือเป็นของเรา จะถ่ายมุม ไหน ตรงไหน สะดวกสุดค่ะ จะได้ภาพสวย ๆ มากกว่า
ถึงที่พัก 13.00 น. ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี เป็นบุฟเฟ่ต์ ตักเต็มที่ อาหารเยอะมาก และก็อร่อยมากด้วยเช่นกัน 55 อร่อยอีกแล้ว
อุ๊ย ๆ มุมนี้ ยัง ไม่ถึงเวลา 17.00 น. เจอกันจ๊ะ
มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ
ในโปรแกรม เวลา 14.30 น. จะมีกิจกรรมให้เลือก เช่น ทาร์ซานวิวพ้อยส์/เที่ยวถ้ำปะการัง / เที่ยวน้ำตกแปดเซียน / cooking class /ล่องเรือชมวิถีชาวประมง ฟรี ๆๆๆ เลือกไปได้เลย พวกเราเลือกเที่ยวถ้ำปะการัง เพราะเราเคยไปแล้ว สวยมาก ๆ ตอนล่องแพไม้ไผ่ (ตอนแรกทุกคนลงว่าจะไป) แต่พอมาถึงแพ กลับเปลี่ยนใจ ไม่ไปกันสักคน 555 ขอเล่นน้ำ พายเรือคายัค และ กิน ๆ อาหาร อร่อย ๆ ช่วงเวลาพิเศษ 15.00 - 18.00 น และเครื่องดื่ม 17.00 - 20.00 น.ดีกว่า 55
เข้าห้องพักกัน เราได้ห้อง Family Villa เป็นห้องเชื่อมติดกัน 2 ชั้น พักได้สูงสุด 10 ท่าน มีแอร์ เปิดในเวลา 12.00 - 06.00 น. ส่วนไฟฟ้า เปิดได้ 24 ชม.
ห้องน้ำ แยกเปียก-แห้ง อุปกรณ์ในห้องน้ำให้ครบครัน
ชั้นบน ต้องปีนบันไดขึ้นไป ชัน ๆ ใครนอนชั้นบน ต้องตัวผอม ๆ ระวัง ตกกันด้วยนะ
ห้องพักจะเป็นกระจกใส สามารถมองวิวจากเตียงได้เลย
หน้า hi ของที่นี่ก็จะเป็นเดือน พ.ย. - ก.พ. นักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่สำหรับเรา หน้าฝน สวยที่สุด ที่พักไม่แพง เวลานั่งมองฝนตก เล่นน้ำท่ามกลางสายฝน เป็นอะไรที่สุดที่สุดแล้ว
จากนั้นก็เปลี่ยนชุด ไปพายเรือ กระโดดน้ำ ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ๆ
สัก 16.00 น. ก็ขึ้นจากน้ำมาทำไมนะหรือ 55 ก็เราจองโปรแกรม All Inclusive พนักงานก็ย้ำนัก ย้ำหนาว่าอย่าลืมมาใช้บริการนะคะ จัดสิ รออัลไล
อาหารยามบ่าย อร่อยมาก ๆ สั่งได้ไม่อั้น มีความสุขที่สุดอีกแล้ว ♥
หวาน ๆ ก็มีนะ
นั่งไป นั่งมา หลานตัวแสบหายไป จากโต๊ะ หนีไปพายเรืออีกแล้ว 55
คืนนี้ หลับอย่างมีความสุข ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ไม่มีเน็ตให้ก้มหน้า ไม่มีทีวีให้เปิดดู ได้คุย ได้เงยหน้า คุ้มค่ามาก ๆ ที่ไ่ด้มานอน ZZzzz
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันใหม่
เช้านี้มีไปล่องเรือส่องสัตว์ แต่เราไม่ไป ขอนั่งชมวิว พายเรือ เก็บเกี่ยวความประทับใจให้นานที่สุด (รู้งี้จองแบบนอนแพ 2 คืนดีกว่า ยังเล่นน้ำไม่ชุ่มปอดเลย)
และเช็คเอ้าท์ เวลา 10.00 น. นั่งเรือกลับท่าเรือ ไปที่พักใหม่
ขากลับใช้เวลา 1 ชม. ถึงท่าเรือ วันนี้เราจะไปพักกันที่ 500 ไร่ ฟาร์มเฮ้าส์ หรือ 500 Rai Valley Retreat เราได้ Upgrade เป็นที่นี่ เพราะโปรแกรมที่ซื้อมาเป็นนอนโฮสเทล (แต่ยังสร้างไม่เสร็จ) เลยเสร็จเรา 55 โชคดีอีกแระ
จากท่าเรือ ถึงที่พัก ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.
เที่ยงพอดี อีกแล้ว ใครหนอ ช่างกำหนดเวลาเอาไว้ได้เหมาะเจาะลงตัวที่สุด ทำให้ทริปนี้ ทานอะไรก็อร่อยไปหมด 55
ที่พักจะอยู่บนเนินเขา ส่วนตัวสุด ๆ เงียบสงบ เป็นเรือนไม้ทรงไทย รายล้อมด้วยธรรมชาติ หมอกมีตลอดวัน เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ
ไปดูห้องพักกัน ห้องนี้จะอยู่ชั้นบน Executive Suite หรือห้อง Honeymoon ซึ่งเป็นห้องที่ดีที่สุดของรีสอร์ท (แน่นอน เลือกไม่ทันมัวแต่ไปถ่ายรูปสระว่ายน้ำ กลับมาโดนพี่สาวเลือกไปแล้ว T_T)
เปิดประตูมา มีกรี๊ดดด
เป็นไม้เรือนไทย แต่ผสมผสาน การใช้งานแบบฝรั่ง มีห้องมากมาย แยกห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ห้องนั่งเล่น โล่ง ๆ โปร่งสบาย มองเห็นวิว 360 องศา
ของตกแต่ง ก็เน้นของเก่า เตียงไม้เก่า สวยงามสุด ๆ
ที่ระเบียง ตอนเช้า ๆ สวยมาก ๆ อ่ะ
มาดู ห้องเรากันบ้าง อยู่ชั้นล่าง ห้อง Valley Suite
มาไม่ทันแระ ห้องกระจุย 55
มาสำรวจด้านนอกกันบ้าง
มีจักรยานให้ปั่นเล่น (หลานกะน้องสาวบอก ขาลงสบาย ๆ แต่ขากลับมีหอบ และจูงรถเดิน 55)
ไปดูสระว่ายน้ำมั่ง
ยาวมาก ยาวถึง 50 เมตร ยิ่งตอนเช้า ๆ สวยไม่มีคำบรรยาย ♥
บอกเลยว่าสวยมาก ไปให้ธรรมชาติกอด
บ่าย 4 โมงเย็น รถมารับไปล่องเรือแคนู ที่คลองสก นั่งสบาย ๆ มีคนพายให้ ชมวิว ดูงู ไปเพลิน ๆ
มารอบนี้น้ำใส เลยไม่ค่อยน่ากลัว เหมือนครั้งก่อน
นั่งมาได้สักพัก ก็แวะ
ต้มน้ำในกระบอกไม้ไผ่ ชงกาแฟ/ชา/โอวัลติน ในป่า
เสร็จแล้ว จะได้กาแฟ หอม ๆ อร่อยสุด ๆ
แล้วก็ไปกันต่อ ล่องมาอีกสักพัก ... เห็นหมีไหม
ก็ถึง กลับที่พัก อุ๊ย มุมมันได้อ่ะ สักภาพก่อนทานอาหารเย็น
อรุณสวัสดิ์ เช้าสุดท้ายของทริปนี้ ตื่นแต่เช้า 7.30 น.ไปดูหมอก ทะเลหมอกไม่มี มีแต่หมอกเยอะแยะไปหมด ดีจัง ภาคใต้ก็มีหมอกด้วย ไม่ต้องไปเที่ยวเหนือเลยก็ได้นะ
แวะ อุทยานแห่งชาติเขาสก (ใกล้ ๆ ที่พัก)
เราไม่ได้มีเวลา เลยไม่ได้เดินป่า (ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ถ้ามาช่วงเวลาดอกบัวผุดขึ้นก็จะสวยมาก ซึ่งชาวต่างชาตินิยมจะเดินป่ามากกว่าคนไทย)
น้ำตกสวยดี ไม่ต้องเดินไกล
แล้วก็กลับ มาทานอาหารเช้า มื้อสุดท้ายของโปรแกรม
เวลาที่เหลือ ก็สามารถ อาบน้ำ นั่งเล่น เช็คเอ้าท์ 11.30 น. แวะสะพานแขวน ภูเขารูปหัวใจ
และแวะทานอาหารเที่ยง ซื้อของฝาก ส่งสนามบิน ปิดทริป ด้วยความสุข สนุก ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย อิ่มหน่ำ สำราญ กลับมาทำงานเก็บเงินกันต่อ ปีหน้าทริปครอบครัวอลเวงจะไปที่ไหน ยังไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ หลาน 2 คนติดใจจะตามไปด้วย 55 สรุปค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่ากินมื้อสุดท้าย ของฝาก และค่าเดินทางไป-กลับสนามบิน)
ทัวร์ 3 วัน 2 คืน (โปรฯระดมทุน) 3900 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน 1188 บาท รวม 5088 บาท ครั้งหน้ามีระดมทุน บอกอีกนะจะไปถล่ม เฮ้ย อุดหนุนทั้งครอบครัวเลย 555 บาย เจอกันเดือนหน้าดอยผาหมีจ้า
แตงโมเนื้อทราย
วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.14 น.