เมื่อต้นเดือน มีโปรฯ แลกแต้ม ของแอร์เอเชีย ใช้แลกไป 1000 แต้ม ได้ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สุราษฯ แค่คนละ 364 บาท จัดสิคะ รออะไร ถูกกว่าไปรถทัวร์เสียอีก อิ ๆ
ใช้เวลาจองตั๋วเครื่องบิน และจองแพที่พัก (เบอร์ 081-3657423 คุณพิศมัย จนท.อุทยาน) ไม่เกิน 2 ชม. เรียบร้อยรอวันไป หุ หุ เที่ยวหน้าฝนจะเป็นไงหนอ มาดูกันค่ะ
ถึงสนามบิน รถตู้มารับพอดี (โทร.จองก่อนไป 1 วันนะคะ ว่าให้มารับที่สนามบินไปเขื่อน) อะไรจะสบายขนาดนี้ ไม่มีรถก็สามารถไปได้นะคะ ไม่ลำบากเลย (เบอรโทร.จองรถตู้ 077-287059)
นั่งรถประมาณ 1 ชม. นิด ๆ รถมาส่งที่เขื่อน จ่ายค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาทค่ะ
ค่าเรือที่จะเหมาไปแต่ละแพ จะมีราคาตายตัวแล้วค่ะ ราคาสูง-ต่ำ อยู่ที่ระยะทางของแต่ละแพ ส่วนของเรา แน่หล่ะ เลือกที่ถูกที่สุดค่ะ เพราะไป 3 คน ตัวหารน้อย เลยเลือกแพที่ใกล้ และค่าเรือที่ถูกที่สุด อิ ๆ
เรือมาแว้ว ลงเรือกันเลย เหมาลำก็ดีเหมือนกันเนอะ นั่งสบาย ๆ ถ่ายรูปไปสะดวกดีค่ะ
ท้องฟ้า ไม่เป็นใจ เพราะว่าฝนทำท่าจะตก
นั่งโต้ ลมเย็น ไปเพลิน ๆ ประมาณ 45 นาที ถึงแล้วค่ะ แพของเรา
เคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จ ก็ไปที่ห้องพักกันค่ะ เราได้ห้อง 101 ห้องมุมสุด วิวดีเว่อร์ ๆ อ่ะ
เอากระเป๋าวางปุ๊บ ฝนตกปั๊บ เย้ ๆ โชคดีจริง ๆ ค่ะ ที่ไม่ตกตอนที่นั่งเรือมา เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วยสิ
นั่งมองฝนไปเพลิน ๆ ชอบอ่ะ
ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์ เฉพาะค่าย AIS เท่านั้นนะคะ ค่ายอื่นไม่มี ดังนั้นพวกเรา เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โทรศัพท์ ปิดเครื่องเก็บไว้เลย ตลอด 2 วัน 1 คืน ดังนั้นถ้าใครจะมา กรุณาแจ้งคนทางบ้านก่อนถึงแพนะคะ เดี๋ยวจะเป็นห่วงว่าติดต่อไม่ได้ค่ะ
แรก ๆ ก็กระวนกระวายใจ ที่ไม่ได้เล่นโทรศัพท์ อดเล่นเฟส อดเล่นไลน์ แต่สักพัก พอเวลาค่อย ๆ ผ่านไป คุณจะสงบลง และได้อยู่กับตัวเอง คุยกับเพื่อน และนั่งมองวิว ปล่อยให้เวลาเดินช้า ๆ มันรู้สึก สบายอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
อือ ลืมบอกไป ช่วงที่รอเรือที่เขื่อน ให้เตรียมเสบียง น้ำดื่ม ขนม ผลไม้ ไว้เลยนะคะ เพราะที่แพมีขาย แต่อาจไม่ครบ และราคาแพงกว่าด้วย (แต่สอบถามทางแพ ก่อนนะคะ ว่าสามารถนำอาหาร ไปรับประทานได้หรือเปล่าก่อนนะ)
เวลาเที่ยงตรง ก็ถึงเวลาอาหาร ไปทานกันค่ะ
อาหารอร่อย สามารถเติมได้นะคะ แต่เราไม่เติม เพราะ 3 คนก็ทานไม่หมดแล้วค่ะ ทางแพ จะต้อนรับนักท่องเที่ยว จากแพอื่น ๆ ที่มาทานอาหารเที่ยงที่นี่ ดังนั้น ช่วงเที่ยง คนจะเยอะ ดูวุ่นวายสักหน่อย แต่พอทานเสร็จ ก็จากกันไป 555 ความสงบ ก็จะกลับมาอีกครั้งค่ะ
ท้องอิ่ม ไม่มีอะไรทำ เดินถ่ายรูปเล่นดีกว่า
และก็นอน เอาแรง เพราะฝนลงมาอีก อากาศเย็นสบาย ๆ ตื่นอีกทีก็ 4 โมงเย็น เตรียมเล่นน้ำกันนนนน
ตอนเที่ยงไม่ได้ทานข้าว เพราะเมาเรือ 55 ตื่นมาเลยต้องหา อะไรร้อน ๆ ทานสักนิด
อิ่มแล้ว เล่นน้ำได้ ลุย
มีเรือจอดหน้าบ้านเรา เสร็จโจร แฮะ ๆ
ไม้พาย ต้องมัดจำ 500 บาทนะคะ เพราะนักท่องเที่ยวทำหายบ่อยค่ะ
ตอนแรกตั้งใจจะพาย ไปเขาสามเกลอ แต่ว่าไกลไปสำหรับเรา (ไป-กลับ 4 กม.) เลยพายแถว ที่พักแทนค่ะ
เล่นน้ำเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้า ได้เวลา 18.00 น. ทานอาหารเย็นกันค่ะ
มื้อนี้ ขอบอกว่าอร่อยมากกกก เติมได้ไม่อั้น ยกเว้นปลานะจ๊ะ
ทานข้าวเสร็จ ก็เข้าที่พัก ทีวีไม่มี พัดลมไม่ต้อง มีแค่เสียงคลื่นกระทบแพ เหมือนนอนในเปล คอยขับกล่อมเราจนหลับ สบาย ตื่นมาอีกที ก็ 6 โมงเช้า อากาศดีจัง
เสียดาย ที่หน้าแพที่พัก มีภูเขาบัง เลยอดเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลย
ไปชงกาแฟ มาดื่มหน้าห้อง ว้าวว เป็นกาแฟอร่อยที่สุดในโลกเลย
ฟิน ๆ กันไป
และก็ไปทานอาหารเช้ากันค่ะ
อร่อยอีกแล้วอ่ะ ข้าวต้มปลาร้อน ๆ กับผัดหมี่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ทานไป มองวิวไป คงไม่มีอะไรจะสุขได้เท่านี้แล้วค่ะ
หลังอาหารเช้า หลาย ๆ คนก็ทยอยกันกลับบ้าน เว้นแต่เรา เพราะกลับไฟล์ทดึก จึงถ่ายรูปเล่น
และเล่นน้ำกันอีกสักรอบ แถมฝนก็เทลงมาอีก หุ หุ สนุกกันใหญ่เลยทีนี่
สนุกเค้าหล่ะ
เล่นน้ำจนชุ่มปอด ก็ถึงเวลากลับแล้วจ๊ะ ไม่อยากกลับเลย
เรือพาแวะ เขาสามเกลอ เหมือนทริปของเรา 3 คน อิ ๆ
และโทร.เรียกรถตู้มารับที่เขื่อน ไปส่งสนามบิน หาอะไรทานง่าย ๆ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ค่ะ
ค่าใช้จ่าย ไม่รวมของฝาก ค่ะ
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 364 บาท
ค่ารถตู้ไปเขื่อน ไป-กลับ 400 บาท
ค่าที่พัก+อาหาร 3 มื้อ 800 บาท
ค่าเรือ 2000หาร 3 คน 666 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่าผลไม้+ขนม 60 บาท
ค่าอาหารที่สนามบิน+น้ำ 115 บาท
รวม 2445 บาท
แตงโมเนื้อทราย
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.13 น.