ใครๆก็ไปญี่ปุ่นนนนนน ฮัลโลลลล เริ่มต้นปีนี้ด้วยทริปญี่ปุ่นญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอจริงๆ
เส้นทางน้องใหม่จากแอร์เอเชียบินตรงไปยังนาโกย่า
ดอนเมือง - นาโกย่า XJ638 เวลา 02:15 - 09:40
นาโกย่า - ดอนเมือง XJ639 เวลา 10:55 - 15:35
สำหรับภาระกิจครั้งนี้ พวกเราจะไปล่าเนื้อฮิดะ เล่นหิมะ
เดินเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลก( ชิราคาวาโกะ ) และนั่งกระเช้าสองชั้นไปชื่นชมความงามของเจแปนเอลป์
รายละเอียดค่าใช้จ่าย :
ค่าตั๋วไป-กลับ ราคา 11,279 บาท
ค่าที่พัก
คืนที่ 1-2 = Relax Takayama Station Hostel ราคา 1,688 บาท
คืนที่ 3-4 = Unizo Inn Nagoya Sakae ราคา 1,372 บาท
รวม 3,060 บาท
ค่ารถไฟ Nagoya - Takayama = 5,510 เยน
ค่า 3 Days Bus Pass = 2,050 บาท
ค่ารถไฟ Nagoya - Sakae = 200 เยน ค่า 1 Day Pass Subway = 740 เยน
ค่ารถ+ค่ากระเช้า Shinhotaka Ropeway = 5,150 เยน
ค่าประกันการเดินทาง : 177 บาท
ค่าอินเตอร์เน็ต Sim 2 Fly ของ AIS = 299 บาท
หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่ากิน อยากกินอะไร ใครชอบแนวไหน เลือกกินได้ตามอัธยาศัยเลยจ้า
Day 1 เริ่มเดินทางกันวันที่ 19 มกราคม 2019 ไฟลท์ จาก DMK - NGO
เครื่องออกตอน 02:15 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 25 นาที
ซึ่งเวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทยอยู่ 2 ชั่วโมง
เดินทางมาถึงสนามบิน Chubu Centrair International Airport เวลา 09:40 น.(เวลาท้องถิ่น)
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเรียบร้อย
เราก็มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟเพื่อเดินทางเข้าเมืองกันต่อด้วยรถไฟเข้าเมืองเป็นรถไฟเอกชน
ชื่อ Meitutsu ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
การเดินทางจาก Nagoya Station ไปยังเมือง Takayama
สามารถเดินทางได้ 2 วิธี
1. รถบัส ที่ท่ารถ Meitutsu Bus Center การเดินทางโดยรถบัสจะใช้เวลา 165 นาที รถออกทุก 1 ชั่วโมง
2. รถไฟ JR Limited Express Wide View Hida ใช้เวลาประมาณ 151 นาที
การเดินทางครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยรถไฟ JR Limited Express Wide View Hida รถไฟจะจอดที่ชานชาลาหมายเลข 11 ตู้ Non reserved seat เมื่อมาถึง Takayama Station
เราเดินทางกันต่อไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี

คืนนี้พักกันที่ Relax Takayama Station Hostel อยู่ห่างจากสถานีเพียง 200 เมตร
ที่พักเป็นสไตล์โฮลเทล มีทั้งห้องนอนรวมและห้องส่วนตัว
หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็ถึงเวลาอาหารเย็น ร้านอาหารที่นี่ปิดเร็วมาก
มื้อแรกของพวกเราจึงต้องเป็นราเมนร้านคุณลุงใจดี
Day 2 ตื่นเช้ามาพร้อมกับหิมะที่โปรยปราย
วันนี้เราจะเดินทางไปยังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกที่มีอายุมากกว่า 250 ปี
องค์การยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1995 การเดินทางวันนี้
เราเดินทางโดยรถบัส ที่ท่ารถ Nohi Bus ซึ่งอยู่ติดกับ Takayama Station

หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเรียกเต็มๆว่า กัสโซสึคุริโอกิมาฉิ ชิราคาวาโกะ
เป็นบ้านในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าของญี่ปุ่น
จุดเด่นก็คือ บ้านทรงกัสโซมีความชัน 60 องศาคล้ายกับการพนมมือเข้าหากัน
วัสดุในการสร้างบ้านล้วนนำมาจากธรรมชาติ ใช้ต้นหญ้าในการมุงหลังคา
ส่วนตัวบ้านจะไม่มีการตอกตะปู บรรยากาศในหมู่บ้านปกคลุมไปด้วยหิมะ
มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวสามารถไปถ่ายรูปได้

Day 3 วันนี้เราจะเดินทางไปขึ้นกระเช้า 2 ชั้น ชมความงามของเจแปนเอลป์
ซึ่งเป็นกระเช้าที่ไม่เหมือนใครในญี่ปุ่น Shinhotaka Ropeway
แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นกระเช้าชั้นเดียว ขึ้นไป 200 เมตร ใช้เวลา 4 นาที
ถึงสถานี Nabedaira Kogen Station และช่วงที่ 2 จะเป็นกระเช้าสองชั้นแห่งเดียวในญี่ปุ่นไปยังสถานีด้านบน Nishihotakagushi Station เป็นระยะทาง 800 เมตร ใช้เวลา 7 นาที
ที่ระดับความสูง 2,156 เมตร เป็นชั้นดาดฟ้าเปิดโล่ง
สามารถชมวิวได้ 360 องศา ซึ่งวันนี้อุณหภูมิด้านบนอยู่ที่ -15 องศา
การเดินทางวันนี้ เดินทางโดย Nohi Bus มาสถานี Shinhotaka Ropeway ใช้เวลาประมาณ 90 นาที

หลังจากชื่นชมความงามของเจแปนเอลป์ ก็ถึงเวลาเดินทางกลับเข้าตัวเมือง Nagoya
คืนนี้ย้ายมาพักกันที่ย่าน Sakae Unizo Inn Nagoya Sakae ที่พักติดร้านสะดวกซื้อ ใกล้ห้าง Oasis21 เป็นย่านท่องราตรี ผู้คนพลุกพล่าน ร้านอาหารเยอะ ร้านนวดก็เยอะเช่นกัน
มาญี่ปุ่นถ้าไม่ได้กินราเมนข้อสอบ ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่น มื้อเย็นวันนี้เราเลยตรงดิ่งไปยังร้าน Ichiran Ramen หรือ ราเมนข้อสอบนั่นเอง โชคดีมากที่สาขานี้ไม่ต้องรอแถวนาน
ก่อนอื่นเราต้องไปสั่งอาหารผ่านตู้กดที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้าน ใครอยากเพิ่มเส้น เพิ่มหมู เพิ่มไข่ หรือเมนูอื่นๆ สามารถกดสั่งผ่านตู้ได้เลย สั่งเสร็จจะได้ตั๋วจากตู้ หยิบตั๋วแล้วเดินมาที่โต๊ะเพื่อทำข้อสอบ
เราก็มาเริ่มทำข้อสอบกันเลย เมื่อทำข้อสอบเสร็จ กดปุ่มเรียกพนักงานมารับข้อสอบและตั๋วอาหารที่เรากดจากตู้ รอประมาณ 3 นาที เมนูที่สั่งจะมาเสิร์ฟ หากใครต้องการสั่งเพิ่มสามารถสั่งเพิ่มได้เช่นกัน

Day 4 Nagoya Castle ตัวปราสาทถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง
มีรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ เรียกว่า คินชะจิ Kinshachi ซึ่งเป็นเครื่องลางป้องกันอัคคีภัย
ตัวปราสาทมีด้วยกัน 7 ชั้น ภายในปราสาทมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาต่างๆ รอบปราสาทจะเป็นคูเมืองซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาชมดอกซากุระ ในช่วงซากุระบาน
ค่าเข้าชม 500 เยน เวลาทำการ 09:00 - 16:30 น.
การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย Meijo-Line ลงที่สถานี Shiyakusho ทางออกหมายเลข 7

Atsuta Shrine เป็นศาลเจ้าใหญ่รองจากศาลเจ้าอิเสะ คนที่นี่ส่วนใหญ่จะมาทำพิธีแต่งงาน
และเฉลิมฉลองเทศการต่างๆ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ศาลเจ้าแห่งชัยชนะ
หากใครได้มาขอพรจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันนอน
การโดยโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)
จากนั้นให้ทำการ โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
ซึ่งขั้นตอนวิธีการกราบไหว้นี้จะเป็นขั้นตอนของศาลเจ้าเท่านั้น หากกราบไหว้ที่วัด
ก็เพียงแค่พนมมืออธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น
ค่าเข้าชม ฟรี เวลาทำการ 09:00 - 16:30 น.
การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย Meijo-Line ลงที่สถานี Jingu-Nishi

Nagoya Science Museum พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของนาโกย่าที่มีท้องฟ้าจำลองใหญ่ที่สุดในโลก ตัวอาคารด้านนอกออกแบบให้เป็นรูปโลกสีเงิน ภายในมีทั้งหมด 7 ชั้น
ซึ่งประกอบไปด้วยนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์เหมาะสำหรับผู้เข้าชมทุกเพศทุกวัย
ค่าเข้าชม 800 เยน รวมการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง เวลาทำการ 09:30 - 17:00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้าใต้ดินสาย Higashiyama Line ลงที่สถานี Fushimi Station Osu Shopping Street ย่านช้อปปิ้งสตรีทขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 1200 ร้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าโอสึคันนงเป็นหนึ่งในสามของศาลเจ้าบูชาเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดใน ญี่ปุ่นอีกด้วย
ถนนเส้นนี้เปรียบได้กับย่าน Akihabara ในโตเกียว แหล่งละลายทรัพย์สำหรับทุกเพศทุกวัย
Day 5 การเดินทางไปสนามบิน โดย Centrair Limousine Bus ราคา 1200 เยน ขึ้นรถบัสได้ที่ Sakae (Oasis21) ใช้เวลาประมาณ 50-80 นาที รถออกทุกๆ 1 ชั่วโมง


ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/sarannaphataroundtheworld
#sarannaphataroundtheworld
#storyบันทึกไว้เราไปกัน
#mhiieyoksjourney
#thebackpackerstripforkids
#saranphattravel
Mhiieyoksjourney
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 10.07 น.