Begin Again เด็กเลี้ยงหมีผงาดขึ้นมาอีกครั้ง



หลังจากที่ได้งานแล้วจ้าาา

กระทู้แรกๆ แอบแนะนำไว้ว่าใครอยากเที่ยวชิลๆแบบเด็กเลี้ยงหมี ต้องตกงานก่อน

ตอนนี้ไม่แล้วนะ คิคิ ( ไม่ใช่แค่ไม่ตกงาน ไม่ได้เที่ยวด้วยค่ะประเด็น ! )



ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแรงบันดาลใจดีๆ

จากรายการ Hang Over Thailand ที่ทำให้เราอยากจะสัมผัสทะเลใกล้ๆอีกครั้ง

แต่บอกตรงๆว่า ถ้าหยุดยาวไปดำดิ่งลึกเป็นอาทิตย์แบบนั้น จากลากิจ อาจจะได้ลาออกแทน

ทริปนี้เลยได้เป็นแค่ทริปล่องเรือสวยๆผมปลิวแบบใสๆแบบ one day trip ของ Discover Catamaran



พอเลือกทริปเรือได้ ทางเอเจนซี่ก็เสนอที่พักในภูเก็ตให้ ชื่อมีตั่งนั่งนอน


เห้ยย ชื่อได้อยู่นะแก จินตนาการไว้ว่าต้องเป็นที่พักสไตล์ไทยๆ ฮิปๆหน่อย



หลักจากลงตัวเรื่องที่พักและเรือ



คราวนี้มาถึงตั๋วเครื่องบิน จขกท ไปของพี่หางแดง ในราคาไปกลับ 26xx บาท ไม่มีน้ำหนักกระเป๋า

ก็คิดว่าตัวเองเป็นคนง่ายๆ แบกเป้ขึ้นเครื่องลุยๆไป สุดท้ายพังค่ะ สเปรย์กันแดด โฟมล้างหน้า เดินทางไปกับเราไม่ได้

ละนี่ก็เยอะไง เอาชูชีพไปเองกลัวที่เค้ามีให้ไม่เท่ เอาหน้ากากสน๊อคเกิล ตีนกบไปเองจ้าาา

แน่นสิคะ เสื้อผ้าแทบยัดไม่ลง หลังจากผ่านการต่อสู้กับของทั้งหมดมาได้ ก็ถึงเวลาเตรียมเดินทาง

Search หาสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารรอ



สรุป เจอเรื่องน่าตื่นเต้นเข้าไปอีกกกกกก

มีแผ่นดินไหวแถวเกาะสุมาตรา ความรุนแรง 7.9 ริกเตอร์ ประกาศเตือนภัยสึนามิ !!

คือไร๊ ดวงก็ไม่ถูกกับน้ำ ปีนี้ก็กำลังเข้าเบญจเพศ เกิดการถกเถียงกันยกใหญ่เลย

สรุปได้ว่า ไปค่ะ ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว เราจะไม่หันหลังกลับ



ไปค่ะ ลุยย ดอนเมืองใหม่ตัดภาพมาที่วันเดินทาง เพราะตั๋วถูกเราจึงต้องอดทน เด็กเลี้ยงหมีต้องแหวกหนังตาตื่นเช้าที่สุดในชีวิตเวลาตี 4


ล้างหน้าแปรงฟันหอบร่างมาที่สนามบินดอนเมืองอินเตอเนชั่นแนลลล terminal 2 น้องใหม่

เพื่อเดินทางตอน 6 โมงเช้า หากถามว่าเช้ามั้ย น้องตอบเลยว่ามากกกก ตึงเลยค่ะ ไม่ใช่หน้านะคะ สมองค่ะ

หลังจากยืนอัดแน่นในรถกระป๋อง เราก็ได้ขึ้นเครื่องกันซักที



ทักทายคุณยุงบนเครื่องอยู่ 2 3 คำ ฟังประกาศว่าเครื่องกำลังเติมน้ำมัน

เห็นนักท่องเที่ยวประมาณ 101 ชนชาติเดินผ่านเราไป ภาพก็ตัด ตื่นมาอีกทีก็ภูเก็ตแล้วอะ T T



สนามบินที่ร่อนนนลงหาดดดดด ว้าววววววววว

พอตื่นมาก็มีสารถีสุดหล่อมารับที่สนามบิน(แฟนหนูเอง)



ถึงเวลาของอาหารเช้า



ในรูปคือคั่วเป็ดเผ็ดระดับ 5 กับหมูทอด แถมน้ำพริกกะปิโค-รเด็ด ชื่อร้านป้าเลียด


ออกจากสนามบินเลี้ยวขวา วิ่งเลาะซ้ายไปเรื่อยๆ จะอยู่ร้านแรกเลย ปะทังชีวิตไปได้ 1 มื้อ



หลังจากนั้นก็ตามคุณแฟนไปทำงานจนถึงบ่าย ถึงเวลาของข้าวกลางวัน

คราวนี้เป็นคิวของร้านน้ำย้อย แหนะ ไม่ได้พิมพ์ผิด ชื่อน้ำย้อยจริงๆ ร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลย

โดยเฉพาะปลามงที่เค้าราดเครื่องแกงมา เผ็ดหูดับ แต่หยุดไม่ได้



ที่ร้านมีขนมหน้าตาเหมือนข้าวพองเป็นแท่งๆขายด้วยเค้าบอกเป็นขนมพื้นเมือง


ชื่อ บี้ผ้าง ออกเสียงพร้อมกันค่ะ บี้ ผ้าง 55555 แปลกดี ไม่เคยเห็น



กินข้าวจนอิ่มก็ไปทำงานต่อนิดหน่อยละเดินทางไปรับพี่หมีมือถ่ายของเรา แล้วก็ กินข่าาาา

กินกันทั้งวันทริปนี้ คราวนี้เรามากันที่ร้านดัง ปากน้ำซีฟู๊ด

หลังจากผิดหวังจากทริปที่แล้วเพราะมาละเค้าปิดเทศกาลกินเจ !

ร้านนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ชื่อเสียงเค้าบ่งบอกคุณภาพอยู่แล้ว

ราคาก็ไม่แพงมากนะ อาหารอร่อยทุกอย่าง มื้อนี้กินกัน 4 คน อยู่ที่ 12xx คุ้มค่าคุ้มราคา



ขอแนะนำเลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูหมูคั่วเกลือ อร่อยเด็ดดดด



หลังจากกลับจากปากน้ำก็ถึงเวลาเข้าที่พัก



สวัสดีจ้า มีตั่ง


มีมุมให้ถ่ายรูปกันเก๋ๆ เยอะมากค่ะ



มีตั่งนั่งนอน ที่พักตั้งอยู่ใกล้ตัวเมืองภูเก็ต เป็นตึกแถว 2 ห้องจัดแต่งสไตล์ไทยๆ

มีมุมให้ถ่ายรูปฮิปๆ อยู่เหมือนกันนะ บรรยากาศเหมือนบ้านเลย

ใครอยากลองเหล้าพื้นบ้าน ที่นี่ก็มีขายค่ะ ไปจัดเลย ขายกันเป็นไห



ที่พักมีห้องบริการหลายแบบแตกต่างกันไป

มาดูกันที่ห้องของเราก่อนเลยยยย



วันนี้เด็กเลี้ยงหมีได้เข้าพักในห้อง Family ดูดีเวอร์ มี 1 เตียงใหญ่ 2 เตียงเล็ก


ขนาดห้องก็พอดีกับ 4 คน ไม่เดินชนกัน สะอาดสะอ้าน โซนห้องน้ำแบ่งเป็น 2 ห้องชัดเจน



ตื่นเช้ามา ที่นี่เขามีอาหารเช้าไว้ให้เป็นขนมปังปิ้งแยมมมม กับ กาแฟ โอวัลติน

เขาวางไว้พร้อมมีเครื่องปิ้ง บริการตนเอง ทานรองท้องกันนิดหน่อย ก็รีบเก็บของออกจากโรงแรม



อันนี้เป็นภาพเพิ่มเติมของห้องอื่นๆนะคะ


สไตล์โดยรวมทุกห้องจะแนวในรูปเลยค่ะ ไม่แน่ใจเรียกว่าสไตล์ไหนถึงงงงเวลาาาาาาา



วันนี้เราจะไปล่องเรือกันแล้วววว และสำหรับอาหารเช้าจริงๆ เรามีเป้าหมาย คือร้านติ่มซำ ราชรส

รีบขับรถไปด้วยความหิวโหย พอไปถึงน้ำตาเกือบร่วง คนเยอะไรขนาดนี้ T T ละจะได้กินกี่โมง



เลือกๆ มานั่งรอที่โต๊ะ ประมาณ 15 นาทีทุกอย่างก็มาเสริฟ

ร้านนี้ขอแนะนำทอดมันกุ้งงงง มันเด็ดมากจีจี เค้ามีชาร้อนให้ฟรีด้วยนะ ทานเสร็จจ่ายค่าเสียหายไป 880 บาท



เด็ดมากจีจีค่ะ



ถึงเวลาที่เรารอคอย ล่องเรือออกันเถอะ



แค่ที่นั่งรอ ก็มีมุมให้ถ่ายรูปกันเพียบบแล้วค่ะ มาๆ มารับลมทะเล กับแสงแดดดดกันก่อนเลย



เราต้องมาขึ้นเรือกันที่ ท่าเรือกันเอง ระหว่างนั่งรอเค้ามีเครื่องดื่มบริการด้วย

นั่งรอแป๊ปๆก็มีพี่คนสวยมาบรีฟว่าวันนี้เราจะไปไหนกันบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง

ฟังละบับบบแอร๊ย ออกเลยค่ะพี่ ไปเลยๆๆ พร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว



พอเที่ยงกว่าๆ พี่ไกด์ก็มาตามว่าให้เราไปขึ้นรถ ไปลงเรือกันค่ะ

ขึ้นรถสองแถวไปตามทางงงเพื่อขึ้นเรือค่ะ

เรือที่เราไปจะมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นห้องนอน ห้องน้ำ


ขึ้นมาก็จะเป็นห้องรวมไว้นั่งเล่น และมีครัวอยู่ในตัว


ใครอยากจะมโนว่าเป็นกัปตันเค้ามีไม่หวงนะ อย่าไปกดอะไรก็พอ



ชั้นบนสุดจะเป็นเหมือนดาดฟ้าเรือ มีหลังคา ใครอยากชมวิวแบบมุมสูงขึ้นไปโลดดด

ตรงนี้ห้ามเล่นนะคะ กัปตันขับจริงตรงนี้

แต่เด็กเลี้ยงหมีรักธรรมชาติค่ะ เราเกาะอยู่หัวเรือรอน้ำกระเด็นโดนขา


ครีมกันแดดไม่ได้มีผลกับผิวหนังอีกต่อไป

ใครจะนอนหน้าเรือโพสท่าเป็นติช่าเดอะเฟสก็ไม่มีใครว่า



ไหว้วานพี่บนเรือถ่ายรูปได้นะคะ


เรือเราหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ



บนเรือมีนักท่องเที่ยวแค่ประมาณ 20 คน ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้ เป็นการล่องเรือแบบไฮโซโลวบัทเจตสุดๆ



หลังจากย่างตัวเองที่หน้าเรือมาซักพักก็มาถึงจุดชมโลมา

ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เห็นแบบจริงจังขนาดนี้ เกินความคาดหวังมากกก กระโดดเล่นน้ำกันไม่กลัวเรือเลยอะ

(ภาพปลาโลมานี่แคปมาจากวิดีโออีกทีนะคะ)



หลังจากน้องโลมาจากเราไป พี่กัปตันก็พาไปเราจุดดำน้ำของเกาะไม้ท่อน


ต้องใช้คำนี้อีกครั้ง “น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา" ครั้งแรกที่ได้เห็นปลานกแก้วตัวเป็นๆ สวยๆ



หลังจากขึ้นมาพี่ๆสตาฟก็จัดเตรียมของว่างและผลไม้ไว้ให้บนเรือ เครื่องดื่มก็มีให้ไม่อั้น เล่นเอาจุกเลย


มีความอิ่มหนำ แฮมเบอร์เกอร์นี่คนละชิ้นนะฮะ



หลังจากเกาะไม้ท่อน ก็มุ่งหน้าไปที่เกาะราชาใหญ่ ตอนนี้แหละ เวลาของสไลด์เดอร์ และเรือล่องหน


ส่วนใครไม่อยากเล่นเค้าก็มีบริการไปส่งขึ้นเกาะ แต่ !

บอกแล้วว่าเรามาลุย รอไรคะ กระโดดหัวเรือเลยค่ะ ดำผุดดำว่ายเล่นสไลด์เดอร์ไป



สไลดเดอร์


เรือล่องหน


เรือส่งขึ้นเกาะ


บนเกาะที่เราไม่ได้ขึ้น มานึกเสียดายทีหลังนิดหน่อยค่ะ


ซักพักก็มาพายเรือชมปะการัง แต่มันไม่มีปะการังอ๊ะะะะ มีแต่แทนปูนที่รอวันปะการังมาเกาะ


เห็นแล้วก็สะเทือนใจนะ พี่กัปตันบอกว่าสมัยก่อนสวยกว่านี้เยอะ ใครมาก็เหยียบมั่ง เก็บไปมั่ง มันก็หมด

รู้สึกเสียใจที่เราเกิดช้าไป ไม่ได้เห็นความงดงามของอันดามันเหมือนรุ่นพ่อแม่



พอประมาณ 5 โมงเย็น เค้าก็เรียกขึ้นเรือเพื่อมาทานข้าว

วันนี้อาหารเย็นของเราเป็นบุฟเฟ่อาหารไทย คือไม่รู้ว่าหิวหรือไร แต่มัสหมั่นไก่อร่อยมากอะ ช๊อบชอบ

หลังอาหารก็มีขนม ผลไม้ให้เหมือนเดิม กินกันจนเมาเรือ T T



กินอาหารเสร็จเร็ว เรือยังจอดอยู่ก็ ถ่ายรูปสิค่ะ รอไร ถ่ายกันรัวๆ



เรือข้างๆ



จุดหมายต่อไปของเรือลำนี้คือ แหลมพรหมเทพ จุดชมประอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา


ฟินนน จนเหมือนเวลาหยุดเดินจริงๆ



ถ่ายรูปกันรัวๆในขณะที่พระอาทิตย์กำลังค่อยๆลับขอบฟ้า


คนมีแฟนก็โรแมนติกกันไปเนอะ รู้สึกหมั่นไส้เบาๆ



จอดเรือลอยคออยู่ประมาณ 10 นาที พระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลาเราไปทีละนิดๆ


จนจบโชว์ที่ประทับใจที่สุดของวัน ก็ได้เวลาเดินทางกลับไปที่ท่าเรือ



รอรถสองแถวมารับเหมือนเดิมมมม



ทริปจบความหิวโหยไม่มีวันจบ

หลังจากเหนื่อยจากการใช้ร่างไม่นึกถึงสังขารตัวเอง ก็กลับมาอาบน้ำที่ที่พักและออกไปหาอะไรทาน

พี่เจ้าของมีตั่งแนะนำว่า ให้ไปร้านกล้วยน้ำว้า มีทั้งอาหารและขนม เราก็จัดไปค่ะ อย่ารอ

ร้านนี้น่าจะเป็นแหล่วงรวมวัยรุ่นและครอบครัวนะ เพราะส่วนมากจะเป็น คู่รัก หรือไม่ก็ครอบครัว

คือ อาหารราคาดีมากกกกก รสชาติก็ใช้ได้เลย หมดนี่ 800+ กินกันจนต้องรอขอชีวิต อิ่มยาวถึงเช้า



เข้าวันรุ่งขึ้น



เราก็คิดกันว่า ดูพระอาทิตย์ในน้ำมาละ ขอไปอยู่บนบกกันบ้าง

ก็ออกเดินทางไปที่แหลมพรหมเทพกันอีกครั้งในเย็นนี้



แต่ก่อนอื่น อาหารเช้า ดังคำกล่าวที่ว่า อาหารเช้าสำคัญที่สุด

ร้านดังที่ได้จากการเสิชหาข้อมูล โรตีเจ้าฟ้า ร้านเก่าแก่ รสชาติ สมคำร่ำลือนะ

เปิด 6 โมงเช้า-บ่ายโมงครึ่ง คือนี่มารอตั้งแต่ ตี5.45 หกโมงปุปเดินเข้าร้านด้วยความตั้งใจ

ใครมาภูเก็ตก็ต้องมาลองนะ สำหรับเราคือโอเคเลย



กินเสร็จกลับมานอนต่อค่ะ ตื่นอีกทีเวลาเช็คเอ้าออกจากที่พัก เวลาปกติเที่ยงตรง


หิวค่ะ กลับไปกินที่ร้านน้ำย้อย ร้านเดียวกับตอนต้น อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแตงโมฟรี พอบอกคิดเงินเขาก็เอามาเสริฟค่ะ



เวลายังเหลือ คิดๆกันว่าไปไหนก่อนดี ระหว่างรอเวลาดูพระอาทิตย์ สรุปได้ว่า จะไปชมวิวที่สะพานหิน



ไม่รู้เขาก้มๆเงยๆ เก็บอะไรกัน ได้แต่นึกสงสัยไม่กล้าลงไปถาม


เพราะคือ แดดดดดดร้อนนนนมากกกกก สถานที่นี้เหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนแถวนี้นะคะ

มีคนมาปูเสื่อ นั่งๆนอนๆ อาศัยร่มอยู่ใต้ต้นไม้กันเยอะเลย



สมควรแก่เวลา รีบออกมาเพราะกังวลว่าจะหลง แล้วก็หลงจริงๆ เสียเวลาวนไปวนมาอยู่แถวนี้สักพัก ก็ไม่ใช่คนที่นี่อะเนอะ



แหลมพรหมเทพ คนเยอะกว่าที่คิด รู้สึกตรงที่มุงๆตรงนั้นมี โก๊ะตี๋มาถ่ายโฆษณาอะไรสักอย่างด้วยค่ะ



น่าเสียดายที่วันนี้มีเมฆมาบังพระอาทิตย์


แต่ยังคงสวยงาม ท้องฟ้าสีพาสเทลเป็นฉากจบที่สวยงามของทริปนี้จริงๆ



ความฟินทิ้งท้าย...

ต้องบอกว่าการล่องเรือครั้งนี้ของเด็กเลี้ยงหมีคุ้มเกิดคาด
ถึงแม้ว่าแดดจะร้อน ขนาดไหนก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของทะเลไทยลดไปเลยซักนิด
ต้องขอขอบคุณพี่ๆ สตาฟบนเรือนะคะ ที่ดูแลเราเป็นอย่างดี
ขอบคุณพี่กัปตันที่ให้ความรู้เรามากมายเกี่ยวกับเรื่องใต้ทะเล
และอีกหนึ่งที่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ มีตั่งนั่งนอน ที่พักกลางใจเมือง
ใกล้ร้านอาหารดังหลายๆร้าน ราคาก็ย่อมเยา
เหมาะกับนักเดินทางงบจำกัดแบบเด็กเลี้ยงหมีฝุดๆ
พี่เจ้าของก็ใจดีมีข้อมูลร้านอร่อยๆให้เราเยอะแยะมากมายเลย
ขอบคุณนะคะ
.
.
.
เด็กเลี้ยงหมีต้องขอจบการรายงานเพียงเท่านี้
แต่ถ้าไม่มี ปล. คงจิไม่ใช่เรา

ปล. ใครจะดำน้ำแล้วห้าวไม่ใส่ชูชีพแบบเราเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรงเหมือนฝรั่งหุ่น 180
ระวังเป็นตะคริวกันด้วยนะ ที่สำคัญ ยืดดดดดดเส้นก่อนลง ไม่งั้นจะต้องมานอนร้องโอดโอยเหมือนน้อง T T
ปล. ที่ฉีดก้นในห้องน้ำมีตั่งนั่งนอนละมุลมากจริงๆ ฮี่ฮี่
ปล. ครีมกันแดดที่แนะนำคือ Banana เท่านั้นนนน ตลอดกาล สีส้มน้ำเงินตัวเทพ
ปล. เราเช่ารถวันละ 800 บาท คนไทยใช้บัตรประชาชนมัดจำได้เลย ใครสนใจหลังไมค์มาเด้ออ
ปล. ร้านอาหารทุกร้านที่เราไปทาน มีปรากฏอยู่ใน Google Map
และ ปล. สุดท้าย ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณที่ดูรูปครบทุกรูป
ขอบคุณที่แชร์ ทุกการสนับสนุนของท่าน นำมาสู่กำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
.
.
.
สอบถามเพิ่มเติมไปที่เพจ DEKLEANGMHEE ได้เลยค่าาาาา

DEKLEANGMHEE

 วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.18 น.

ความคิดเห็น