สวัสดีนักเดินทางและนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านบันทึกการเดินทางฉบับนี้นะครับ ห่างหายไปนานเลย
ทริปนี้เป็นการออกเดินทางแบบวันเดย์ทริปกับเพื่อนสนิทผู้หญิงคนหนึ่ง มีนามว่า "ฟาง" ปัจจุบันเราอาศัยและทำงานอยู่ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเลย แต่อยู่กันคนละจังหวัด คนละเกาะเลยก็ว่าได้ ฮ่ะๆๆ เพื่อนอยู่โอซาก้า นี่อยู่คากาวะ เกาะชิโคขุ ไกลกันมากกก (รูปคนจะเยอะหน่อย)

ทริปนี้เกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้นัดเจอกันหลายเดือนแล้วและกูเองก็เบื่อที่จะไปเที่ยวโอซาก้าแล้ว บวกกับเพื่อนยังไม่เคยมาจังหวัดOKAYAMA ตอนแรกจะให้เพื่อนมาเที่ยวคากาวะ แต่การเดินทางมาจังหวัดนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัด ต้องนั่งรถบัสมา ซึ่งมันจะใข้เวลาพอสมควร

ดังนั้นเราก็เลยนัดกันว่า "งั้นไปเจอกันคนละครึ่งทางที่จังหวัดOKYAMAละกัน" ความจริงโอคายามะ ใกล้กับที่ผมอยู่มากๆ แต่นั่งรถไฟข้ามสะพานไปก็ถึงแล้ว แต่เป็นรถไฟด่วนปกติ ส่วนเพื่อนก็นั่งรถไฟชิงคันเซ็นมาแบบด่วนพิเศษ ดังนั้นเวลาในการเดินทางก็จะพอๆกันเลย

ก่อนวันเดินทางก็คุยกันว่าไปไหนกันดี ที่ไหนน่าสนใจ อีกทั้งเพื่อนสามารถมาเที่ยวได้แค่วันเดียว ต้องไปกลับในวันเดียว แต่จะไปไหนก็ได้หมด ลุยเขา ลุยป่า ตามใจผมเลยงี้ งบประมาณไม่เกี่ยง อดออมเงิน ประหยัดค่าขนมมาเพื่อการนี้แล้วจัดไปเน้นๆ (ให้มันได้แบบนี้ดิ ไม่เกี่ยงสถานที่ ไม่เกี่ยงงบ ถูกใจเลย)

พอถึงวันเดินทางก็ต้องตื่นกันเช้าทั้ง2คน เพราะนัดกันไว้เช้ามากที่ 8 โมง กะเที่ยวให้หนำใจไปเลยไง หลังจากเตรียมตัวเสร็จก็ปั่นจักรยานไปขึ้นรถไฟ เพื่อไปยังสถานีรถไฟโอคายามะ ซึ่งผมไปถึงก่อนเพื่อน เพราะออกก่อนมัน ต้องไปรอมัน เพราะยังไม่เคยมาก พอไปถึงสถานีรถไฟก็ไลน์บอกเพื่อนว่า มึงออกมาประตูCHUO DEGUCHI นะ ทางออกมันอยู่หน้า 7-11 เลย เพื่อนก็ตอบ โอเค

พอรถไฟชิงคันเซ็นมาถึง ซึ่งผมรอเพื่อนอยู่ตรงทางออกแล้ว ตอนนั้นก็เห็นฟางมันเดินออกมาแล้ว ก็เลยยกมือโบกมือ แต่ แต่ แต่ แต่ มันไม่หันมาทางนี้เลย และเดินตรงไปแบบมั่นใจมากกกกกก และก็ไปออกอีกทาง ซึ่งเป็นทางเข้าออกเชื่อมรถไฟธรรมดา เอ้าออกมาไม่ได้ ต้องไปบอกเจ้าหน้าที่ให้ช่วย ฮ่ะๆๆๆ ป่วงสึส

หลังจากเจอกันก็ทักทายกันตามประสาคนสนิทแบบ ส ถ ๆ ฮ่ะๆๆ อันนี้เพื่อนน่าจะรู้อยู่แล้ว จากนั้นก็เดินไปหาห้องน้ำ เอ้าห้างยังไม่เปิด ยังเข้าไม่ได้ ก้เลยเดินไปเข้าที่ร้านสะดวกซื้อ ระหว่างนั้นเพื่อนก็บอกว่า มึงมีใบขับขี่ญี่ปุ่นนี่ เช่ารถเที่ยวกันไหม เอ่อว่ะ ลืมไปเลย ก็เลยรีบหาร้านเช่ารถทันที โทรไปคุยแล้ว แต่อดเพราะพนักงานบอกว่า "ใบขับขี่ใหม่สามารถเช่าได้หลังจากใบขับขี่ครบ1ปีแล้ว" อดซะงั้น

ก็เลยตัดสินใจว่าจะไป KURASHIKI กัน เป็นเมืองเก่า แต่ยังพอมีเวลาอีกนิดกว่ารถไฟจะออก ก้เลยมาถ่ายรูปกันหน้าสถานีรถไฟสักหน่อย

ระหว่างที่นั่งรถไฟไปKurashiki ก็คุยกันว่าจริงๆอยากไป Fukiya Furusato มากๆ แต่ค่ารถไฟแพงและเดินทางหลายชั่วโมง หนักเอาการอยู่ เพื่อนก็บอกมาว่า ไปกันไหม ไหนๆก็มาแล้ว มีเวลาทั้งวัน ไม่อยากเที่ยวในเมืองเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจไป Fukiya Furusato กัน เนื่องจากนั่งรถไฟสายKurashikiมาก็เลยรต้องไปลงที่คุราชิกิก่อน แล้วจึงเปลี่ยนรถไฟไปอีกสายที่ KURASHIKIเอาอีกที แต่กว่ารถไฟจะมาก็ยังมีเวลาอีกเยอะ งั้นไปหาไรดื่มกัน เข้าไปนั่งดื่มร้านสตาบัคชิวๆ

พอถึงเวลาก็ไปขึ้นรถไฟ สถานีที่จะต้องลงคือ BITCHU KAMOWA STATION แต่ตอนไปถามเจ้าหน้าที่ว่าจะไป BITCHU HIROSE รถไฟสายนี้สามารถใช้บัตรICOCAได้ไหม เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้ ก็เลยแตะบัตรแล้วเดินไปขึ้นรถไฟ จริงๆคือขี้เกียจกดซื้อตั๋วนั่นแหละ ฮ่ะๆๆๆ

พอรถไฟมาก็ขึ้นรถไฟแล้วออกเดินทางกัน นั่งรถไฟไปได้พอประมาณก็ใกล้ถึงสถานีที่จะลงแล้ว พอรถไฟจอดทมี่สถานี BITCHU HIROSE ก็รีบลงเลย เพราะรถไฟจอดไม่นาน แต่ตอนลงมาจากรถไฟก็รู้สึกตะหงิดๆละว่าลงถูกที่ไหมนะ แต่ดูจากแผนที่แล้วก็ไม่น่าผิดนะ พอเดินไปตรงทางออกแล้วดูป้ายสถานีแล้วดูแผนที่อีกที เห้ยยยยยยย ลงผิดสถถถถถถถถถานนนนนนนนี จริงๆคือต้องไปลงสถานีข้างหน้าคือ BITCHU KAMOWA STATION ฉิปหายแล้ววววววว ทำไงดีล่ะทีนี้ กว่ารถไฟขบวนต่อไปจะมาก็อีกชั่วโมงกว่าๆเลยนะ 

และแน่นอนนั่นแปลว่าเราก็จะต้องตกรถเมล์ที่จะเดินทางไปยัง Fukiya Furusato กัน เพราะรถบัสมันจะออกก่อนที่รถไฟเที่ยวถัดไปจะไปถึงประมาณ 20 นาที คือแบบโอ้ยน้ออออ พลาดได้ไงงงงงงง ฮ่ะๆๆๆ เอาวะไหนๆก็พลาดแล้ว ทำไรไม่ได้อยู่ดี นอกจากนั่งรอรถไฟเที่ยวถัดไป งั้นก็มาถ่ายรูปเล่นๆฆ่าเวลาไปก่อนละกัน วันนี้มีนางแบบมาด้วย อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ เป็นนางแบบจำเป็น ฮ่ะๆๆๆๆ

ถ่ายรูปวนไปเรื่อยๆ นั่งรอไปเรื่อยๆ เดินเข้าออกสถานนีวนไปวนมา รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มาอีก จนในที่สุด
รถไฟที่รอคอยก็โผล่มาจอดที่สถานี ไม่รอไรแล้ว ขึ้นรถไฟไปกันเลย นั่งรถไฟไม่ถึง 10นาทีก็ถึงสถานีปลายทาง โถ่วววววว ระยะสถานีคือห่างกันแค่นี้เอง ถ้าไม่ติดว่าต้องลอดผ่านอุโมงนะ เดินมาสถานีแล้วล่ะ

พอมาถึงสถานีKAWAMO ก็เดินออกไปดูว่ามีรถที่พอจะไป FUKIYA FURUSATO ไหม เดินออกมาก็เจอร้านบริการTAXI แต่ร้านไม่เปิดก็เลยลองโทรตามเบอร์ที่ติดไว้ แต่ก็โทรไม่ติด เอาไงต่อล่ะทีนี้ ได้แต่มองหน้าแล้วยิ้มขำ ฮ่ะๆๆ งั้นไปเดินดูรอบๆหน่อยละกันว่าพอจะมีรถอื่นๆอีกไหม

แต่แล้วก็ไม่มีรถที่สามารถพาเราไปยังหมู่บ้านได้เลย ทำไงดีๆ อุตส่าห์มาถึงที่แล้ว ไม่อยากกลับไปทั้งอย่างนี้นะ ไหนๆก็มาแล้วต้องไปให้ได้ ก็เลยคุยกันว่างั้นเราเดินไปตามทางแผนเรื่อยๆก่อนไป พอถึงเวลารถเมล์เรากฌค่อยโบกขึ้นรถบัส สรุปตามนี้ ออกเดินทางกันเลย เดินไปถ่ายรูปไป ชิลๆสบายๆ

ตอนนี้คือเริ่มหิวละ พอเดินเลยสะพานแขวนสีเขียวไปได้ไปได้สักพักก็เห็นร้านขายของชำ เปิดประตูเรียกก็ไม่มีใครขานรับ สงสัยไม่อยู่บ้าน ก็เลยเดินต่อไปเรื่อยๆสักพักก็เห็นลุงกำลังนั่งทำความสะอาดรถอยู่ ก็เลยคุยกันว่าลองเข้าไปถามลุงไหม ไปแกล้งถามเกี่ยวกับการไปหมู่บ้านบนเขา เผื่อเขาจะใจดีอาสาพาไปส่งข้างบน ฮ่ะๆๆ ตอนนั้นก็คือแอบคาดหวังสูงมากถึงมากที่สุดนะ แต่แล้วก็ไม่เป็นดั่งที่คาดหวังไว้ ลุงบอกว่ารถบัสของวันนี้น่าหมดแล้วนะ ไม่มีขึ้นเขาแล้ว เอ้าาาาาา ไหงเป็นงั้นไป แถมลุงก็ไม่อาสาอีก ฮ่ะๆๆ งั้นก็ขอบคุณแล้วเดินออกมาจากบ้านลุง 

แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็เห็นต้นพลับข้างทางกำลังเหลืองสุกน่ากิน ดูแล้วน่าจะไม่มีเจ้าของนะ ดูลาดเลาแล้วไม่มีรถไม่มีคนผ่านมาก็เลยเด็ดมา4-5ลูกได้มั้ง แล้วเอาน้ำดื่มล้าง พอกัดกินคำแรก เห้ยคือ หวาน กรอบ อร่อยมากๆ นึกว่าเพื่อนจะไม่กิน สุดท้ายมันก็กิน ฮ่ะๆๆ ความหิวมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ มีไรก็ต้องกินๆไว้ก่อน

จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านขายของอีกร้าน เดินเข้าไปเลย หิวมาก ซื้อขนมปังกิน แล้วก็ถามลุงว่าพอจะมีเบอร์แท็กซี่ไหม พอดีจะขึ้นไปบนเขา จากนั้นลุงก็เอาเบอร์มาให้ซึง่เป็นเบอร์เดียวกับที่โทรตอนออกจากสถานีรถไฟ ก็เลยบอกลุงว่าโทรแล้วนะ โทรไม่ติด ลุงก็เลยเอามาให้อีกเบอร์ ทีนี้โทรติดก็เลยคุยกับแท็กซี่ ซึ่งเขาคิดราคาที่ 7500เยน ก็เลยตกลงราคานี้ นั่งรอไม่นานแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ขึ้นไปบนเขาที่หมู่บ้าน FUKIYA FURUSATO และแล้วก็ได้ไปสักที ค่าแท็กซี่อาจจะแพงหน่อย แต่เพื่อนบอกว่าไม่เป็นไร ไหนๆก็เก็บเงินมาเพื่อทริปนี้อยู่แล้ว จัดไปเต็มที่ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา

จากนั้นไม่นานก็ถึงปลายทางที่แสนยาวไกล FUKIYA FURUSATO มันเป็นหมู่บ้านอะไร ทำไมถึงต้องอยากมาขนาดนี้ ฮ่ะๆๆ คือเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขา เป็นบ้านญี่ปุ่นทรงโบราณซึ่งปัจจุบันเหมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของโอคายามะเลยล่ะ เห็นรูปครั้งแรกใน Instagram แต่เป็นรูปที่มีหิมะตกช่วงฤดูหนาว รูปคือสวยมาก ทำให้รู้สึกต้องมาให้ได้สักครั้งไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม

เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินจนสุดทางหมู่บ้านแล้วก้เดินวนกลับมาอีกที หมุ่บ้านเล้กๆ ไม่กว้างมาก เดินแป๊บๆก็ทั่วหมู่บ้านแล้ว

วันนี้คนค่อนข้างเยอะเลยเลยนะ เพราะเป็นวันเสาร์ด้วยแหละ เดินไปถ่ายรูปไปก็เริ่มหิวอีกครั้ง ก็เลยไปหาข้าวกิน ภายในร้านเล็กๆคนเยอะอยู่ สั่งอาหารมาคนละเซต อาหาร1เซตคือมีอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด แต่ก็กินกันหมดนะ หิวจัดต้องกินให้หมด

อาหารแต่ละอย่างนี้ทำมาเพื่อคนรักสุขภาพ คนอยากลดน้ำหนักเลยรึเปล่าเนียะ เลี่ยนจริงๆ ฮ่ะๆๆ

หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไม่รู้จะไปไหนต่อละ เดินรอบหมู่บ้านละ งั้นไปรอรถเมล์กลับเลยละกัน ในเมื่อเราพลาดรถบัสขามาแล้ว ขากลับเราต้องไปพลาดนะ พลาดไม่ได้ด้วย ก็เลยเดินไปที่จอดรถเลย เดินไปดูว่าคันต่อไปเป็นคันไหน พอเช็คเรียบร้อยแล้วก็นั่งรอรถเมล์ที่ป้ายรถบัสป้ายแรกใกล้ๆที่จอดรถเลย

พอรอไปได้สักพัก รถเมล์ก็ติดเครื่องและเคลื่อนรถออกมาแล้ว ลุกขึ้นยืนรอเลย ไม่พลาดแล้วแน่นอน แต่พอรถบัสขับออกมาจากที่จอดรถ แทนที่จะต้องเลี้ยวซ้ายมารับคนจากทางเข้าหมู่บ้าน แต่กลับเลี้ยวขวาแล้วอ้อมไปรับคนมาจากหลังหมู่บ้าน เอ้าเห้ยยยยยย รอก่อนนนนน มาทางนี้ ฮ่ะๆๆๆ โอ้ยยยย ขำจ๋น

ก็เลยเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้านอีกที เพื่อไปยังป้ายรถเมล์ท้ายหมู่บ้าน เดินไปได้ครึ่งทางรถเมล์ก็มาถึงแล้ว ก็เลยขึ้นรถเมล์แล้วเดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟ KAWAMO พอไปถึงสถานีรถไฟก็ยังไม่มา ต้องรออีกชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ก็เริ่มเย็นละ 

เดินเล่นรอรถไฟวนไป มีแม่น้ำอยู่ใกล้ๆ กะจะไปแช่น้ำสักหน่อย ลืมไปว่านี่มันฤดูหนาว ฮ่ะๆๆ อีกอย่างเย็นนี้ก็มีนัดกับเพื่อนญี่ปุ่นที่อยู่มนโอคายามะ เป็นเพื่อนที่มาแลกเปลี่ยนสมัยเรียนมหาลัยละ นัดกินข้าวกัน สักพักรถไฟก็มาและเดินทางกลับเข้าเมืองกันเลย

ระหว่างทางช่วงใกล้ๆจะถึงตัวเมือง ก็มีคนขึ้นมาบนรถไฟเรื่อยๆ แต่มี 2 สาวญี่ปุ่นที่ขึ้นมาแล้วเขาเจอกับคนรู้จักเขา ได้ยินเขาคุยกันว่าจะไปโอคายามะ ซึ่งก็คือปลายทางเดียวกัน งั้นเราก็ไม่ต้องสนใจเสียงประกาสหรือป้ายรถไฟละ 2คนนี้ลงเมื่อไหร่เราก็ลงตาม ง่ายๆจบ ง่ายมากจริงๆ เริ่มปวดห้องน้ำละ อีกไม่กี่สถานีก็ถึงละ ทันใดนั้น 2 สาวก็เดินออกจากรถก็คิดว่าถึงปลายทางแล้ว เพราะมองออกไปข้างนอกคือเห็นป้ายโรงพยาบาลโอคายามะ ก็เลยเดินตามออกไปด้วย พอกำลังจะเดินขึ้นบันใด เอ๊ะ ทำไมสถานีแปลกๆวะ ดูชื่อสถานีอีกที อหหหหห ยังไม่ถึงเว้ยยยย ต้องไปลงสถานีต่อไปเว้ยยยย ไม่ใช่ที่นี่ ฮ่ะๆๆ เอาแต่โทษ 2 สาวกันเลยทีนี้ ปวดห้องน้องก็ปวด จนในที่สุดก็นั่งรถไปขบวนถัดไปไปลงโอคายามะ คือวันนี้พลาดทั้งวันเลย พลาดแล้วพลาดอีก ฮ่ะๆๆ งงใจ แตความผิดพลาดมันได้กลายเป็นสีสันจของการเดินทาง ทำให้การเดินทางนั้นสนุกมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นความทรงจำอย่างหนึ่งเลยล่ะ

สำหรับวันเดย์ทริปนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะ ไว้กลับมาเจอกันบันทึกต่อไปนะ ตามล่าหิมะขาวๆ

ล่ามติดเที่ยว

 วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.53 น.

ความคิดเห็น