สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของมลใน Readme ฝากติดตามด้วยค่ะ ^^
วันก่อนได้มีโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าป่าแม่วงก์ ยอดเขาโมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร
จึงอยากแชร์ประสบการณ์เดินป่า มลไปกับเพื่อนๆในกลุ่มที่นัดร่วมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย 555+
พวกเราเป็นทีมกลุ่ม 3C เดินป่าช่วง ระหว่างวันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 62 (4 วัน 3 คืน) มีสมาชิกร่วมทริป 11 คน
ยอดเขาโมโกจู ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หนึ่งในผืนป่าสำคัญฝั่งตะวันตกของประเทศไทย อุทยานแม่วงก์มีเนื้อที่รวม 558,750 ไร่ เป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ เสือโคร่ง ที่มีมากถึง 50 ตัว จึงทำให้อุทยานจัดตั้งเป็นพื้นที่วิจัยเสือโคร่งในปัจจุบัน
Reference: https://www.greenpeace.org/thailand/story/2297/tiger-king-of-forest/
“โมโกจู” มีความหมายว่า เหมือนฝนจะตก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก ด้วยความสูง 1,964 เมตร จึงเป็นยอดเขาที่หลายคนอยากพิชิต
เริ่มต้นเดินทาง ขับรถจากกรุงเทพฯ - กำแพงเพชร
เดินทางออกจากกรุงเทพช่วงเย็น ทำให้ไปถึงอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ดึก พวกเราจึงหาที่พักใกล้เคียง เพื่อเข้าเขตอุทยานช่วงเช้า รีสอร์ทที่เราเข้าพักชื่อว่า “มากบุญ รีสอร์ท” ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร ห้องพักสะอาด ราคาสบายกระเป๋า ป้าน่ารักมากๆ
หากใครไปถึงดึก ก็สามารถเข้าพักที่นี้ก่อนได้
ข้อมูลติดต่อ : มากบุญรีสอร์ท. 21/5 หมู่ 8 ถ.คลองลาน-อุ้มผาง ต.คลองลาน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร โทร. 081 616 1886 ,089 056 5342
วันแรก (09/11/19)
เช้า 8 โมง เจ้าหน้าที่อุทยานนัดรวมตัวเพื่อนำสัมภาระให้ลูกหาบจัดใส่ตะกร้า พร้อมลงชื่อผู้ร่วมทริป กรอกข้อมูลสำคัญต่างๆ
หลังจากนั้น เข้าห้องประชุมเพื่อฟังข้อมูล คำแนะนำการเตรียมตัว ข้อระวังต่างๆ และแนะนำเจ้าหน้าที่ของแต่ละกลุ่มที่จะนำทางและดูแลเราตลอดทริป
หลังจากประชุมเสร็จ ก็ทานข้าวเช้า แล้วไปขึ้นรถคูโบต้าที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ เพื่อนั่งไปยังจุดแคมป์แม่กระสา ระยะทาง 16 กิโมเมตร พี่ๆเจ้าหน้าที่และลูกหาบเตรียมรถ ลุยโลดดดด+
บางช่วงก็ช่วยกันเข็นรถคูโบต้ากัน ผู้ชายก็ได้วอร์มร่างกาย 5555
ผ่าานไป ราว 2 ชั่วโมง (แต่ก่อนต้องเดิน 16 กิโลแรกใช้เวลา 1 วัน) ก็ไปถึงแคมป์แม่กระสา ทานข้าวเที่ยง แบกเป้ ถ่ายรูปรวมสักหน่อย หน้าตายังดีอยู่ อิอิ
แล้วเริ่มเดินเท้าไปแคมป์พักที่แม่เรวา ระยะทาง 4 กิโมเมตร เดินเลาะป่าไผ่ไปเรื่อยๆ เป็นเนิน เดินขึ้นลง เส้นทางไม่โหด ผ่านลำธาร มีสะพานที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้ สะดวกมากๆ ขอบคุณค่ะ ระหว่างทางพบรอยเท้าสัตว์ เช่น หมูป่า กระทิง ป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากๆ
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง เราก็ถึงแคมป์พักแม่เรวา จับจองพื้นที่ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ถามว่าอยากไปน้ำตกแม่เรวาไหม พวกเราตอบรับทันที ไปค่ะ วางกระเป๋า เดินต่อไปเที่ยวน้ำตก ห่างจากแคมป์ 3 กิโลเมตร น้ำใสไหลเย็น นั่งฟังเสียงน้ำ ชมความสวยงามสักพัก แล้วเดินกลับแคมป์แม่เรวา เราจะพักค้างคืนกันที่นี้ มีพื้นที่กางเต้นท์เยอะพอสมควร แคมป์นี้อยู่ติดริมลำธาร น้ำเย็นชื้นใจ สามารถอาบน้ำ ทำอาหารสบาย คืนนี้ราตรีสวัสดิ์
วันที่สอง (10/11/19)
รุ่งเช้า ทำกับข้าว ทานข้าวเช้า เตรียมแพ็คอาหารเที่ยง กรองน้ำดื่ม เก็บของ เก็บเต็นท์ เริ่มออกเดินทาง 7 โมงเช้า ด้วยสัตว์ป่ามีอยู่เยอะ เพื่อให้ไม่เป็นอันตราย เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้า เพื่อไปให้ถึงแคมป์ตีนดอยช่วง 4 โมงเย็น ระยะทาง 8 กิโลเมตร เส้นทางเดินวันที่สอง ชันมาก สลับเส้นทางราบเล็กน้อย มีบางช่วงที่เป็นเนินชันมากจึงมีเชือกให้จับ 2 ช่วง
เดินไปจนถึงคลอง 1 พักทานข้าวเที่ยง ดื่มน้ำ และเติมน้ำจากลำธาร แล้วเริ่มเดินเท้าต่อช่วงบ่าย เส้นทางก็ชัน ชัน ชัน ชันขึ้นเรื่อยๆ เดินมาถึงจุดหนึ่ง มองวิวแล้วหายเหนื่อย เริ่มเห็นทิวเขา ลดเย็น ช่วงนี้ร่างกายเริ่มล้า ขนมปัง ขนมหวาน รีบคว้าเข้าปากทันที มีแรงเดินต่อ ตลอดเส้นทางที่เดินมา เจอทาก 1ตัว หากใครเจอมากกว่านี้ทักบอกกันได้ ตอนนี้เดินมาถึงคลอง 2 แนะนำให้เติมน้ำจากลำธารจุดนี้ หลังจากนี้ จะไม่มีน้ำเติมแล้วเพราะกลุ่มพวกเราจะขึ้นไปนอนแคมป์ตีนดอย เนื่องจากใกล้ยอดโมโกจู สามารถเดินขึ้นไปดูช่วงเย็นและช่วงเช้าได้ 2 รอบ แต่หากกลุ่มไหนร่างกายล้า ก็สามารถพักจุดแคมป์คลอง2 แล้วค่อยเดินขึ้นรุ่งเช้า ได้เช่นกันค่ะ
เดินมาถึงแคมป์ตีนดอยช่วง 5 โมงเย็น ร่างหมดแรง แต่พี่ๆเชียร์ให้ขึ้นยอดทันที เอาว่ะ ไม่ได้มาบ่อยๆ ถึงไหนถึงกัน รีบวางกระเป๋า กางเต๊นท์ เตรียมไฟฉายคาดหัวไปด้วย แล้วรีบเดินขึ้นไปยอดโมโกจู ระยะทางจากแคมป์ถึงยอดห่าง 1 กิโลเมตร อากาศตอนนี้เย็นสบาย ลมแรง เมื่อเดินไปถึงยอด พระอาทิตย์กำลังตก ท้องฟ้าสวยงามมาก ฟ้าเปิดแล้วโว้ยยย ดีใจมากๆ คุ้มค่าที่เดินขึ้นมา ความเหนื่อยล้าหายไปทันที ถ่ายรูปรั่วๆ Mission Completed !!
หลังจากนั้นเดินลงมายังแคมป์ ทำกับข้าวกินกัน จุดไฟให้ความอุ่น สำหรับมลเป็นไข้ จึงทานยาแล้วนอนแต่หัวค่ำ นอนหลับฝันดี
วันที่สาม (11/10/19)
รุ่งเช้า ตี 5 พี่ๆในกลุ่ม เดินขึ้นไปยอดเพื่อดูความสวยงามยอดเขาโมโกจูอีกครั้ง เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากนั้นเดินลงมา ทำกับข้าว ทานข้าวเช้า เตรียมอาหารเที่ยง
พวกเราเดินลงราว 8 โมง วันนี้จะเดินลงหนักๆ เตรียมเท้าและหัวเข่าสั่นได้เลย เดินลงตลอดวัน ผ่านคลอง1 เดินต่อผ่านคลอง2 สำหรับวันนี้เราจะเดินไปให้ถึงแคมป์แม่กะสา ระยะทางร่วม 12 กิโลเมตร แวะที่แคมป์แม่เรวา เพื่อทานข้าว นั่งพัก เติมน้ำ หากใครที่ปวดเท้า สามารถนั่งแช่เท้าในลำธาร ช่วยได้เยอะ
หลังจากนั้น เดินต่ออีก 4 กิโลเมตรไปยังแคมป์แม่กระสา ถึงแคมป์ราว 5 โมงเย็น เตรียมกางเต๊นท์ ทำกับข้าวเย็นทานกัน อาบน้ำในลำธาร สดชื่นมากๆ หลังจากเดินเหน็ดเหนื่อยตลอดวัน ช่วงดึก ก็สังสรรค์ก่อนปิดทริป สนุกสนาน คืนนี้ฝันดี สุขใจ
วันที่สี่ (12/10/19)
เช้านี้ตื่นสายนิดหน่อย อาบน้ำ แปรงฟัน เก็บเต๊นท์ ทำกับข้าว เอาทั้งหมดที่เหลืออยู่ทำให้หมด 555 ทานเสร็จ เก็บของขึ้นรถคูโบต้า เดินทางกลับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ถึงราวๆเที่ยง รับใบเกียรติบัตรผู้พิชิตยอดโมโกจู หลังจากนั้น ทานข้าว แล้วอาบน้ำ แยกย้ายขับรถกลับ เป็นอันจบทริป
ก่อนกลับแวะเที่ยวช่องเย็น แวะถ่ายรูปทิวเขาสวยๆระหว่างทาง ใครมีเวลาเหลือก็แวะเที่ยวก่อนขับกลับกรุงเทพและต่างจังหวัดได้ค่ะ มีป้ายน่ารักอีก1ป้ายที่ห้ามพลาดคือ “โมโกจูน้อย” อยู่ระหว่างทางกลับจากช่องเย็น
ขอบคุณกลุ่ม 3C ทุกคน พี่บอล พี่ไปป์ พี่อิฐ พี่อิก พี่กุ๋ย พี่เอ๊กซ์ พี่ฟากี้ พี่โต ตาล ฟา
ขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ พี่ชาญ และพี่ๆลูกหาบทุกคน ที่ช่วยเหลือพวกเราทุกอย่าง ทริปนี้เต็มอิ่ม ฟ้าเปิด ฝนไม่ตก อากาศดี แทบไม่เจอทาก
ขอบคุณรูปภาพบางส่วน จากพี่ๆในทีมทุกท่าน ^^
คำแนะนำ: ใครแพ้แมลง แนะนำให้ใส่ปลอกแขนหมวก และเตรียมยากันยุง ป่านี้มีตัวคุ้นค่อนข้างเยอะ และ เตรียมฟิตร่างกายมาสักนิด มันช่วยได้มาก
MonLuna
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.20 น.