ปกติเคยเที่ยวอยุธยาแค่ One Day Trip แต่ครั้งนี้อยากลองมาค้างคืนบ้าง เพราะติดใจจังหวัดนี้มาก ๆ บ้านเมืองน่ารัก ของกินอร่อย : )

ติดตามกันได้ที่ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog

จากกรุงเทพขับรถมาไม่นานค่ะ แปปเดียว ที่แรกที่เราแวะคือร้าน บ้านข้าวหนม (Baan-Kao-Nhom) เป็นร้านคาเฟ่แนวขนมไทยที่อยุธยา เห็นรีวิวใน Twitter คนรีวิวเยอะมาก #รีวิวอยุธยา ต้องมีร้านนี้ และส่วนตัวชอบขนมไทยด้วย ก็เลยแวะที่แรก เพราะเค้าบอกว่าถ้ามาช้าคนเยอะ เราเลยมาถึงคนแรกของร้านเลยจ้า

ร้านบ้านข้าวหนม เป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก ที่ร้านไม่มีที่จอดรถนะคะ ต้องจอดฝั่งตรงข้ามเอา เข้ามาในร้านแล้ว ร้านน่ารักมาก เข้ามาถึงพนักงานก็จะถามว่าทานนี้หรือกลับบ้าน เราก็กินที่นี่ก่อน แล้วก็มีเลือกกลับบ้าน ที่ร้านต้องสั่งแล้วจ่ายเงินเลยนะคะ

นํ้าสั่งมาแค่สองแก้ว คือชาเขียวกับชาเย็น สั่งไม่หวานมาก สำหรับนํ้าถ้าใครชอบความเข้มข้นแบบชาเขียว ชาเย็นจริง ๆ น่าจะชอบ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน มันเข้ม ๆ หน่อย แต่ถ้าใครทานเข้มไม่ได้มาก อาจจะสั่งแบบธรรมดาไม่ต้องบอกว่าไม่หวาน เพราะไม่หวานคือไม่หวานจริง ๆ

สำหรับขนมไทยก็มีหลายอย่าง แต่ด้วยความไปตั้งแต่ร้านเปิด บางอย่างก็ยังไม่มาส่ง สำหรับรสชาติส่วนตัวชอบนะ เพราะไม่หวานมาก และวัตถุดิบเค้าถือว่าดีเลย และไม่ใส่สารกันบูด เพราะฉะนั้นมันจะอยู่ได้แค่วันต่อวัน ถ้าจะซื้อไปฝากก็ต้องกินวันนั้นเลย

โดยรวมใครที่ชอบขนมไทย รสชาติไม่หวานมาก นํ้ารสชาติเข้มข้นหน่อย ก็ควรมาโดนค่ะ น่าจะถูกจริต ร้านเล็ก ๆ แต่น่ารัก โทนการตกแต่งสวยดี เหมาะกับการมาอยุธยา มาแล้วดูเข้าบรรยากาศ หรือใครที่จะหาของฝากนอกจากสายไหมอยุธยา ก็มาแวะร้านนี้ได้ไปเป็นของฝาก เพราะมีขนมที่สามารถซื้อฝากได้

ร้าน บ้านข้าวหนม (Baan-Kao-Nhom)

Tel : 097-921-9465
อังคาร-ศุกร์ เปิด 8.00-18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 9.00-19.00 น.

หยุดทุกวันจันทร์
Map : https://goo.gl/maps/219kTotT58TwzanN7


มากันต่อที่ที่สอง คือ วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา วัดนี้ดังมากตอนละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่คนแต่งชุดไทยมาถ่ายรูป ปัจจุบันที่ไปก็ยังมีอยู่ มีร้านเช่าชุดอยู่ตรงข้ามวัดเลย ส่วนตัวอยากมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้มา ครั้งนี้เลยตั้งใจจะมาให้ได้

ค่าเข้า วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา คนไทยเสียค่าเข้า 10฿ นะคะ จำไม่ได้ว่าต่างชาติเท่าไหร่

วันไปแดดแรงมากถึงมากที่สุด ท้องฟ้าถ่ายออกมาย้อนแสงแบบมากมาย ตาแทบจะปิด ใครมาก็อย่าลืมพกร่ม พกหมวกมาให้เรียบร้อยนะคะ

สำหรับประวัติ วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา ส่วนตัวก็ไม่ค่อยรู้เรื่องประวัติมากเท่าไหร่ ก็อาศัยอ่านตามป้าย แต่ละจุดก็จะมีป้ายบอกเรื่องราว นอกจากคนไทยอย่างเรามาเที่ยว เท่าที่สังเกตุคนต่างชาติก็มาเยอะมากเหมือนกันแถมเค้าดูจะสนใจมาก ๆ บางคนนั่งมองอยู่นานมาก เหมือนเค้ากำลังเสพศิลปะ วัฒนธรรม ก็คงเหมือนเวลาเราไปเมืองนอกแล้วก็ทึ่งกับเรื่องราวของบ้านเค้า อารมณ์คงประมาณนั้น

วัดไชยวัฒนาราม จ.อยุธยา
สามารถเข้ามาชมได้ทุกวัน 8.00-18.30 น. คนไทยเสียค่าเข้า 10฿ แต่งกายให้สุภาพด้วยนะคะ
Map : https://goo.gl/maps/eZ5rjszPURdMvMLCA


มาต่อกันที่ที่สาม วัดโลกยสุธาราม อยุธยา ที่วัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ส่วนตัวไหว้อยู่ข้างหน้าแล้วกลับใช้เวลาไม่นาน วัดนี้ไม่เสียค่าเข้านะคะ เป็นอีกวัดที่ชาวต่างชาติเยอะเหมือนกัน

วัดโลกยสุธาราม อยุธยา
เปิด 08.00-16.30 น. ไม่เสียค่าเข้า
Map : https://goo.gl/maps/NSn2NrTcySZfQbBb6


มาต่อกันวัดที่ 3 คือวัดมหาธาตุ อยุธยา แต่ละที่ที่เราไปจะอยู่ไม่ไกลกันนะคะ ส่วนใหญ่ก็ขับรถแปปเดียวถึงไปเที่ยวได้หมดเลย แต่คนไทยอย่างเราอาศัยความอดทนต่อแดดหน่อย เพราะร้อนมาก ในขณะที่ต่างชาติดูชิวมาก ขี่จักรยาน ยังไงขับรถระวังกันด้วยนะคะ มีนํ้าใจต่อกัน สำหรับวัดมหาธาตุ เป็นอีกวัดยอดฮิต เพราะฉะนั้นตอนมาอาจจะหาที่จอดยากหน่อย

วัดมหาธาตุ อยุธยา คนไทยเสียค่าเข้า 10฿ นะคะ วัดนี้ทุกคนจะร้องอ๋อเหมือนพูดว่า วัดที่มีเศียรพระพุทธรูปในต้นไม้ จากที่อ่านมาคาดว่าเศียรพระพุทธรูปน่าจะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุง พอหล่นมาแล้วผ่านไปนานรากไม้ก็ขึ้นปกคลุม ทำให้มีภาพอย่างที่เห็น

จะเรียกว่าเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ก็ว่าได้ ขนาดเรายังตื่นเต้นเลย ฝรั่งแต่ละคนก็ดูตื่นเต้นเหมือนกัน นอกจากนั้นก็มีส่วนสำคัญต่าง ๆ เยอะเหมือนกัน แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมาก ๆ ก็เลยเดินไม่หมดนะคะ เดินแค่ด้านหน้าเท่านั้น

วัดมหาธาตุ อยุธยา คนไทยเสียค่าเข้า 10฿
Map : https://goo.gl/maps/4ak2Atw72Mgpk8tn6


เดินไปเดินมาแวะหลายที่ก็เที่ยงจะบ่ายเลย มาอยุธยาก็อยากกินก๋วยเตี๋ยว ตอนแรกปักหมุดไปก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ดันเลี้ยวผิด เลี้ยวไปก๋วยเตี๋ยวริมนั้ากรุงเก่าอยู่ข้าง ๆ กัน แต่เข้ามาแล้วก็เลยเอาอันนี้เลยแล้วกัน

ร้านนี้ติดริมนํ้านะคะ บรรยากาศก็โอเคประมาณนึง มีขายหลายอย่างทั้งก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ พวกยำก็มี ที่สั่งมาก็จะมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำ มีก๋วยเตี๋ยวเรือ รสชาติโดยรวมก็รสชาติทั่วไปไม่ได้ว๊าวมากมาย แถมแม่ค้าหน้าบูดไปหน่อย และก็ตอนไปคนน้อยมาก แต่ก๋วยเตี๋ยวรอนานมากถ้าใครมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ อยากให้คอมเม้นมาเลยนะคะ มีโอกาสไปอีก ก็อยากลอง


จากนั้นเราก็ไปเช็คอินเข้าที่พักกันค่ะ โรงแรมที่เลือกพักก็คือ Kantary Hotel Ayutthaya ที่เลือกที่นี่เพราะว่าห้องพักเหมาะกับมาเป็นครอบครัว รอบนี้พาแม่กับพี่สาวมาเลยอยากให้นอนสบาย ๆ ห้องกว้าง แต่จริง ๆ จะมากับกลุ่มเพื่อนหรือมากับแฟนก็ได้หมดนะคะ

เช็คอินเสร็จเข้ามาในห้องพักอันนี้เราจองผ่านเว็บโรงแรมมานะคะ จองแบบ One Bedroom Suite นอนได้สองคน และเสียเงินเพิ่มเตียงเสริมเอา

ห้อง One Bedroom Suite จะแบ่งออกเป็น ห้องนั่งเล่น มีโซฟานุ่มมาก นอนได้เหมือนเตียง นี้ขึ้นมาถึงหลับตรงโซฟาเลย มีโต๊ะกินข้าว และเปิดประตูเข้ามาจะเป็นห้องนอน ห้องนํ้าสามารถทะลุได้ ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น และก็จะมีส่วนที่เป็นครัว

ห้องกว้างมาก กว้างกว่าในรูปที่ดูมาในเว็บอีก อุปกรณ์ก็ครบตามมาตรฐานโรงแรม แถมจะเกินด้วยซํ้าในราคาสองสามพัน มีห้องครัวเล็ก ๆ ที่สำคัญมีเครื่องซักผ้าด้วย แต่เราอยู่แค่ 2 วัน ไม่ได้ใช้อะไร ตู้เย็นใหญ่มาก อย่างกับอยู่บ้าน

พอขึ้นมาที่ห้องก็สลบไปตอนไหนไม่รู้ อาจจะเพราะความเพลียแดด และมาเจอแอร์เย็น ๆ ก็เลยหลับไปหนึ่งตื่น ตื่นมาก็ขึ้นไปดูวิวที่ชั้น 16 ที่ส่วนกลาง มีสระว่ายนํ้า มีฟิตเนส มีเลานจ์ให้นั่งกินกาแฟ ขนมด้วย และก็ชั้นนี้ยังมีห้องอบซาวน่าแยกชายหญิง ตอนแรกจะนั่งกินขนมในเลานจ์ แต่แม่บอกเดียวก็ไปกินข้าวแล้ว เลยได้แค่ดูวิวเฉย ๆ ที่นี่ใครจะเข้ามานั่งมากิน หรือเข้าโรงแรม การใช้ส่วนกลางต่าง ๆ ต้องเปิดประตูด้วยระบบคีย์การ์ดทั้งหมดนะคะ ก็ถือว่าโรงแรมมาตรฐานดีเลย ความปลอดภัย

สระว่ายนํ้าชั้น 16 มองเห็นวิวอยุธยาด้วย มองไกล ๆ จะเห็นเจดีย์แต่ไม่แน่ใจวัดอะไร วิวตอนเย็นดีมาก ลมเย็น ใครไม่อยากเล่นก็มีสระให้แช่ ฟิน ๆ นั่งมองวิวไป

ตอนแรกกะจะว่ายนํ้าก่อนและก็ลงไปกินข้าว แต่ปากท้องสำคัญกว่า ก็เลยเลือกที่จะไปกิน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล เพราะที่โรงแรมมีห้องอาหารอยู่ หน้าตาก็ดูน่ากิน ราคาไม่ได้แพงมาก ก็เลยเลือกที่จะกินที่โรงแรมเลย


และด้วยความหิวก็สั่งมาเยอะมาก ที่สั่งก็จะเป็นสไตส์อิตาเลียน ฉีกความเป็นกรุงเก่าไปสักพักหนึ่ง สั่งมาหลายอย่างเหมือนกันจนจำไม่ได้ แต่ส่วนตัวชอบสเต็กกับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า มากที่สุด ไม่เคยกินคาโบนาร่าแล้วรู้สึกอร่อย ปกติกินไม่กี่คำก็ไม่ไหวแล้ว แต่อันนี้คือชอบไม่เลียน กำลังพอดี กินได้หมดจาน และก็สเต็กคือเนื้อนุ่มดีมาก สั่งสองแบบคือ Sirloin Steak และ Pork Chop ดีทั้งสองอันเลย


นอกจากห้องอาหารที่โรงแรมยังมีคาเฟ่ด้วยแต่อยู่ด้านหน้าโรงแรม ชื่อว่า Cafe Kantary (รูปคาเฟ่กินช่วงสายของวันจะกลับนะคะ ไม่ได้กินวันเดียวกัน)


ร้านไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่มาก มีเมนูเยอะมากทั้งนํ้าและก็ขนม ตอนแรกคิดว่าเป็นของโรงแรมไม่น่าจะมีเมนูเยอะ แต่ผิดคาดเลย เยอะและน่ากินมาก


หากไม่ได้นอนที่โรงแรม ก็สามารถแวะมากินได้นะคะ มาเช้าเย็นกลับก็มาแวะได้ คือเป็นคาเฟ่ที่ดีเลย


นํ้าที่สั่งจะมีชาเขียว มีเสาวรส และก็มีกาแฟ เข้มข้นถึงใจทุกแก้ว ไม่แน่ใจว่าอยุธยาน่าจะชอบรสชาติเข้มข้นมาก เพราะร้านแรกก็รสชาติเข้มข้นแบบนี้เลย อร่อยนะแต่ส่วนตัวไม่ใช่คอนํ้ามากก็เลยกินได้นิดหน่อย ยิ่งเข้มข้นไปก็จะกินไม่ค่อยได้ แต่พี่ชอบชาเขียวมากบอกอร่อย


ขนมหวานจะมี Homemade Pancakes Strawberry Crumble และก็ Berry Berry Crepe อร่อยมากทั้ง 2 อันไม่หวาน และไม่เลียนกำลังพอดี และผลไม้สด ๆ ลูกใหญ่ตัดกันฟินมาก อร่อยมากกกก


และไหน ๆ ก็จะเช็คเอาท์ออกเที่ยงแล้ว ตอนนั้นก็เลยกินข้าวที่นี่ไปเลยละกัน เมนูคล้าย ๆ ตอนเย็นที่กินไป เพราะพี่ชอบ แต่ส่วนตัวสายสปาเก็ตตี้และก็ถูกใจอีกแล้ว รอบนี้เป็น Black And White Spaghetti With Seafood ดีงามมากอร่อยมาก เผ็ดกำลังดี และอีกอันที่ชอบคือ Hokkaidad Salad

ขอตัดภาพจากอาหาร หลังจากที่เรากินมื้อจะว่าเย็นหรือบ่ายก็ได้เอามารวมกัน ช่วงตกเย็นจะคํ่าแล้วเราก็ไปเดินย่อยกันต่อที่ ตลาดน้ำกรุงศรี หรือ อยุธยาไนท์มาร์เก็ต ตอนแรกไม่ได้หาข้อมูลมาว่าจะไปเดินตลาดแต่บังเอิญตอนมาโรงแรมขับรถผ่าน และก็เลยถามพนักงาน พนักงานก็ดีมากแนะนำ เลยก็เลยตัดสินใจมาเดิน


ที่ตลาดอยุธยาไนท์มาร์เก็ตบอกเลย ว่าเป็นตลาดที่ชอบมากจะกลับมาอีกแน่นอน เพราะตลาดน่ารัก พ่อค้าแม่ค้าแต่งชุดไทยขายของพูดเพราะ ที่สำคัญมีแต่ของน่ากิน และราคาไม่แพงเลย อยากกินตั้งแต่ร้านแรกจนร้านสุดท้าย


อาจจะถ่ายแต่ละร้านมาให้ไม่ได้นะคะ เพราะว่าเดินเพลินและก็ถ่ายติดคนอื่นด้วยเกรงใจถ้าเอาลง แต่แนะนำเลยว่าให้มาทั้งของคาวของหวาน ทุกอย่าง ขนมโบราณ ของกินโบราณ รับรองว่าฟิน ขอถ่ายบรรยากาศมาให้ดูแทน มีมุมถ่ายรูปด้วย


นอกจากตลาดยังมีให้นั่งเรือแบบขุ่นพี่หมื่นด้วย คนละ 40฿ ได้อารมณ์แบบออเจ้าโรแมนติกมาก


ข้อเสียของตลาดนี้มีอยู่อย่างเดียวคือที่จอดรถหายากหน่อย ถ้ามาก็อาจจะรีบ ๆ มาหน่อยนะคะ แต่นอกนั้นคือดีรับรองไม่ผิดหวังกับตลาดนี้

ตลาดน้ำกรุงศรี หรือ อยุธยาไนท์มาร์เก็ต
เปิดให้เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ 16.00-22.00 น.
Map : https://goo.gl/maps/WU3rFEFELaZr7TXA8

กลับจากตลาด ก็นอนดูละคร เสร็จแล้วแช่นํ้าฟิน ๆ ที่อ่างอาบนํ้าที่โรงแรม และก็หลับไปตอนไหนอีกไม่รู้ เตียงนุ่มดูดวิญญาณมาก ตื่นเช้ามาก็มากินข้าวเช้าที่โรงแรม ไปถึงบอกแค่เลขห้องได้เลยค่ะ


อาหารเช้าที่โรงแรมมีเยอะมาก มีทั้งไทยทั้งเทศ คือเป็นโรงแรมที่เต็มที่กับอาหารมาก ไม่ได้ถ่ายไลน์อาหารมานะคะ เกรงใจแขกคนอื่น ๆ แต่ว่าเยอะจริง กับข้าวที่เป็นอาหารไทยนี้มีเกือบสิบอย่างได้มั้ง แม่บอกอร่อยด้วย ทุกอย่างดูน่ากิน


แต่ที่กินเยอะสุดคงเป็นขนมปัง คือขนมปังเค้าทำดีมากอ่ะ เหมือนร้านคาเฟ่ข้างโรงแรมเลย และอร่อยดี กินหลายชิ้นมาก



จากที่กินข้าวเช้าเสร็จ ก่อนเช็คเอาท์ออกอย่างที่ได้รีวิวไปข้างบนว่าไปนั่งคาเฟ่ต่อ และก็เช็คเอาท์เที่ยงพอดี ถือว่าอยู่โรงแรมคุ้มมาก โดยรวมค่อนข้างประทับใจนะคะ การบริการดี พนักงานดูแลดี ยิ้มแย้ม ส่วนห้องก็กว้าง สะอาด อุปกรณ์ครบ ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป คุ้มค่า และก็ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก ก็เป็นโรงแรมที่แนะนำที่อยุธยาเลย

Kantary Hotel Ayutthaya
Website : https://www.kantarycollection.com
Map : https://goo.gl/maps/nBXEtXPskAnGLXdXA

ก่อนกลับกรุงเทพ แวะไหว้พระที่ วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา จริง ๆ แล้วเคยมาแล้วรอบนึงและชอบ ครั้งนี้เลยตั้งใจว่าจะมาอีก


จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ วัดนี้ก็เป็นอีกวัดที่ถ้ามาอยุธยา ต้องเป็นวัดที่ต้องมาเลย สำหรับวัดใหญ่ชัยมงคลคนไทยจะเยอะกว่าต่างชาติ


ที่วัดประวัติค่อนข้างเยอะเลยนะคะ วัดใหญ่สมชื่อ มีส่วนต่าง ๆ ภายในวัดก็เยอะ แต่ไม่ได้ถ่ายมาเนื่องจากไปรอบสองแล้ว เลยไม่ได้เดินทั่วเหมือนรอบที่แล้ว


ยังไงใครมาอยุธยาก็แนะนำให้มาเลยนะคะ ยิ่งใกล้จะช่วงปีใหม่แล้ว ก็ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยหน่อย

วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา
เปิด 08.30-16.30 น. มีที่จอดรถเยอะพอสมควร ไม่เสียค่าเข้า
Map : https://goo.gl/maps/qEC5Lk1cT7pqxdrB6



สุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพจริง ๆ แวะซื้อสายไหม ของดีอยุธยา เคยซื้อไปแล้วเจ้านี้รอบที่แล้วและติดใจ ต้องเจ้านี้เท่านั้น คือร้าน โรตีครูนุสรา ลืมสายไหมแป้งบาง ๆ แข็ง ๆ ไปได้เลย เพราะร้านนี้คือแป้งหนานุ่มมาก ทำสด ๆ เลย ไม่ใส่สารกันบูด ใครมาอยุธยาและอยากกินสายไหมอร่อย ๆ ต้องร้านนี้เลย

โรตีครูนุสรา
เปิด 9.00-18.30 น.
Map : https://goo.gl/maps/KvQsv9f1dS2246sd9



และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิว 2 วัน 1 คืนอยุธยานะคะ ยังรู้สึกว่าไม่พอ อยากไปอีก มีหลายที่หลายวัดเลย ไว้มีโอกาสรอบหน้าต้องมาอีกแน่ เป็นจังหวัดที่ได้ใจไปเต็ม ๆ เลย : ) ยังไงถ้าชอบรีวิวก็สามารถติดตามกันได้นะคะ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog/ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ หวังว่าจะชอบน๊าาา

Puifaikamon

 วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.03 น.

ความคิดเห็น