.เริ่มที่ทริปสบายๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมากันก่อน ทริปนี้ก็ดูจาก review ต่างๆตามเว็บนี่แหละ สถานที่ไหนคนกำลังฮิตก็ตามไปดูให้รู้แจ้ง ประกอบกับต้องกลับบ้านไปทำธุระที่มืองกาญจน์เลยแวะไปดูสักหน่อย สถานที่เราจะไปนั้นคือ "วังนกแก้วพารค์วิว"


ปีใหม่แล้วไปไหนดีน๊า ติ๊กต๊อก ๆ หาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว บรรยากาศแบบเงียบๆ ชิลๆ คงจะหายาก เลยตัดสินใจเขยิบวันพักผ่อนให้พ้นช่วงปีใหม่ไปสัก 2-3 วัน จะได้เดินทางไป-กลับ สบายๆหน่อย สถานที่บรรยากาศธรรมชาติ ระยะทางไม่ไกลจากเมืองหลวงคงหนีไม่พ้น เมืองกาญจน์ บ้านเราอีกตามเคย ว่าแต่จะไปพักที่ไหนดี หนาวๆแบบนี้จะขึ้นไปสังขละคงจะดีไม่น้อย แต่เวลาเดินทางนี่สิคิดหนัก เพราะมีเวลาแค่คืนเดียว เลยหาที่ใกล้เข้ามาหน่อย อยากไปดูสายน้ำแควน้อยช่วงหน้าหนาวซิจะเป็นยังไง ตัดสินใจหาแพพักริมน้ำแควอีกตามเคย หาไปหามาไปจบที่ รีสอร์ท วังนกแก้วปาร์ควิว

ผมจองห้องพักเป็นห้อง standard raft ซึ่งเป็นแพพักแบบห้องแถวในราคา packet ต่อหัว หัวล่ะ 1,300 บาทรวมอาหารเช้า-เย็น และล่องแพไปเล่นน้ำยังน้ำตกไทรโยคใหญ่ ถ้าวันธรรมดาจะหัวล่ะ 1,200 บาท ช่วงเทศกาลราคานี้ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว การเดินทางไปยังวังนกแก้วพาร์ควิวนี้ ให้เริ่มต้นจากแยกแก่งเสี้ยน ไปตามมทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางไทรโยค-ทองผาภูมิ ระยะทางเพียง 100 กิโลเมตร จากสี่แยกแก่งเสี้ยน เลยอุทยานแห่งชาติไทรโยคมาประมาณ 4 กิโลเมตร มาจนถึงทางเข้าถ้ำดาวดึงส์หลักกิโลเมตรที่ 158 ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 500 เมตร เจอป้าย รีสอร์ท เลี้ยวซ้ายเจอทางลูกรังเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตร ถึงรึสอร์ทวังนกแก้วพาร์ควิว

จุด check in จะอยู่บนฝั่ง มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบบังกาโลบนฝั่ง และแพพักริมน้ำ เวลา check in 14 : 00 check out 11:00 มีกิจกรรมลากแพไปยังน้ำตกไทรโยคใหญ่ 16:00 ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง อาหารเย็น 19 : 00 อาหารเช้า 7:00 เพราะฉะนั้นแล้วเราไม่ควร check in ช้ากว่า 4 โมงเย็นไม่งั้นจะพลาดกิจกรรมล่องแพจากจุด check in จะมีทางแยกซ้ายมือไปยังสระว่ายน้ำ และห้องพักที่อยู่บนฝั่ง หลังจุด check in จะมีห้องอาหาร และทางเดินลงไปยังแพพักซึงค่อนข้างสูงพอสมควร ห้องพักจะมีทั้งปีกซ้ายและขวาขนานไปกับลำน้ำ


ภายในห้องพัก standard raft จะไม่มี TV หรือ Minibar มีให้แค่ แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และ wifi ภายในห้องพัก ห้องน้ำจะแยกระหว่างห้องอาบน้ำ กับห้องส้วม เตียงนอน จะมีทั้งเตียงคู่ และเตียงใหญ่ น่ำดื่ม ฟรี 2 ขวด สภาพภายในห้องซึ่งเป็นไม้มีบางจุดผุพังไปตามกาลเวลาแต่ก็มีการซ่อมแซม อุดรูโหว่ที่เป็นรอยแตกของเนื้อไม้

หลังจากจัดแจงเก็บของและสำรวจที่พักแล้ว ก็รีบออกมาทำกิจกรรมล่องแพไปยังน้ำตกไทรโยคใหญ่ซึ่งอยู่ปลายน้ำ การเดินทางโดยใช้แพลากจะค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร แต่ก็เป็นการชมทิวทัศน์ สองฟากฝั่งลำน้ำที่ยังสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มีรีสอร์ทที่เป็นของชาวบ้านขึ้นอยู่ตามรายทางของลำน้ำพอสมควร


ในที่สุดหลังจากเดินทางมาชั่วโมงนึงก็ถึงน้ำตกไทรโยคใหญ่แล้ว เขาจะลากแพไปให้ใกล้กับตัวน้ำตกมากที่สุดเพื่อที่จะให้ทุกคนได้เล่นน้ำกันบริเวณนั้น ที่นี่เขาจะมีการบริหารจัดการคิวลากแพไปยังตัวน้ำตก แพไหนมาก่อนก็เข้าไปยังบริเวณน้ำตกก่อนและปล่อยให้สัมผัสกับสายน้ำตกกันสักพักใหญ่ แล้วค่อยลากออกไป แพถัดมาก็ต่อคิวรอกันเป็นรอบๆไป


หลักจากเล่นน้ำกันพอสมควรแก่เวลาแล้วก็เดินทางกลับ น้ำที่ไทรโยคนี้น้ำจะเชียวมากควรใส่ชูชีพติดตัวเสมอ โดดน้ำที่หัวแพกว่าจะโผล่ขึ้นมาไหลไปท้ายแพแล้ว และการนั่งชมทิวทัศน์โดยการเอาขาปล่อยลงไปในน้ำในขณะที่แพกำลังวิ่งไม่ควรอย่างยิ่งเพราะความแรงของกระแสน้ำจะดึงเราตกแพไปได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นควรทำตามเจ้าหน้าที่แพอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

กลับมาถึงที่พักประมาณทุ่มนึง รับประทานอาหารเย็นเป็น Buffet อาหารไทยมีกับข้าวหลายอย่างแต่อาหารที่นี่รสชาติจะหนักไปทางหวานสักหน่อยอาหารก็ทั่วๆไปเหมือนตามโรงแรมจำพวกผัดผัก ต้มจืด แกงเผ็ด ยำ และน่องไก่ทอด มีของหวานเป็นผลไม้ ทีห้องอาหารจะมีบริการเครื่องดื่ม อัลกอฮอล ต่างๆไว้บริการราคาก็ค่อนข้างแพงตามปกติ ครัวจะปิดตอน 4 ทุ่ม ทานเสร็จกลับมาถึงห้องนอนเล่นบนเปลญวนหน้าห้องพักสักครู่ไม่ไหว อากาศช่วงกลางคืนจะค่อนข้างหนาว เลยกลับเข้าห้องนอนหลับเป็นตาย

ตอนเช้าถูกปลุกด้วยเสียงข้างห้อง นี่แหละข้อเสียของห้องพักที่เป็นแบบห้องแถว จะมีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ยิ่งถ้าข้างห้องมีสังสรรค์เสียงดังคงไม่ได้นอน แต่เช้านี้ข้างห้องคุยกับเพื่อว่า "เธอมาดูอะไรนี่ยังกับปางอุ๋งเลย" ผมงี้อดใจไม่ไหวต้องลุกมาดูกับเขาบ้าง ภาพที่เห้นตรงหน้าห้องพักเรา มีไอน้ำกำลังระเหยขึ้นมาจากแม่น้ำ แสงสีทองส่องกระทบผิวน้ำสวยงามเกินคำบรรยายเลยทีเดียว จัดแจงคว้ากล้องหามุมถ่ายทันที

หลังจากชื่นชมบรรยากาศยามเช้ากันสักพักอาบน้ำแต่งตัว ก็เก็บของออกจากห้อง มาทานอาหารเช้ากัน อาหารจะเป็น american breakfast ที่คนไทยคุ้นเคยกันดียามเมื่อเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ เหมือนเป็นอาหารหลักของคนไทยไปแล้ว

ก่อน check out แวะไปดูสระว่ายน้ำสักหน่อย บรรยากาศร่มรื่น ท่ามกลางธรรมชาติแต่ไม่ค่อยมีคนเล่นน้ำเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็ตรงไป counter check out ออกเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมพลังชีวิตที่ซึมซับบรรยากาศกันเต็มที่…


-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง ได้ที่ Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว

-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด




























สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว

 วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 15.25 น.

ความคิดเห็น