"ดอยภูนาง" เป็นครั้งแรกที่ทราบว่าในประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติชื่อนี้ (แย่จัง) อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง มีพื้นที่ครอบคลุมอท้องที่ อำเภอเชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ และ อำเภอปง จังหวัดพะเยา มีสภาพป่าแตกต่างกันไป ได้แก่ ป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง อีกทั้งยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกนาปัง น้ำตกธารสวรรค์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์
ทำไมแอดจึงเลือกเดินทางไป "ดอยภูนาง" เนื่องจากระหว่างเดินทางจากจังหวัดเชียงรายกลับกรุงเทพฯตั้งใจว่าจะแวะพักเพื่อชมทะเลหมอกที่ภูลังกา แต่เมื่อเดินทางไปถึง บนภูมีแต่ความเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์เลย อาจเพราะเป็นวันธรรมดา และหากจะชมทะเลหมอกหรือชมพระอาทิตย์ขึ้นจะต้องนั่งโฟว์วิลขึ้นไป จึงตัดสินใจหาสถานที่แห่งใหม่ที่มีความสะดวกกว่านี้ (ภูลังกามาใหม่แน่นอนพร้อมโฟว์วิล) การค้นหาในกูเกิ้ลจึงเริ่มขึ้นณบัดดล และช่างเป็นความโชคดีที่ได้พบสถานที่แห่งนี้ ซึ่งทุกอย่างลงตัวไปหมด ทั้งสถานที่ที่ไม่ไกลจากเส้นทางหลัก โทรไปมีให้บริการกางเต้นท์ แต่อุทยาน และห้องครัวจะปิดทำการ 16.30 น. ซึ่งขณะนั้นก็เวลา 15.00 น. แล้ว จะต้องเร่งทำเวลากันล่ะ ไม่มีเวลาแวะที่ไหน โทรสั่งอาหารที่อุทยานไว้เพื่อ.ความมั่นใจว่าเย็นนี้มีอาหารเย็นทานแน่นอน และพวกเราก็ไปถึงอุทยานประมาณ 16.15 น. ครัวยังไม่ปิด เจ้าหน้าที่ยังไม่กลับ การประสานงานเรื่องที่พัก อาหารการกินก็เรียบร้อยลงตัว และแอดก็เลือกกางเต้นท์ ณ จุดนี้ เป็นจุดที่ใกล้ที่จอดรถ ใกล้ห้องน้ำ ใกล้ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ ใกล้ทางไปน้ำตก ทุกอย่างเพอเฟ็ค
ก่อนอื่นขอตัดพ้อแทนเจ้าหน้าที่อุทยานหน่อยนะคะ ด้วยความแปลกใจว่าปริเมาณนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดน้อยลงแต่ทำไมกระแสการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้ลดน้อยหายไปเยอะมาก อย่างวันนี้ มีเพียงแค่สองเรา ซึ่งหากพลาดไปถือว่าเสียโอกาสในการท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ เงียบ สงบ และสะอาดมากๆ (ขอชมเชยการบริหารจัดการของที่นี่ด้วยใจจริงค่ะ) บางครั้งจำนวนนักท่องเที่ยวก็ช่วยเป็นแรงผลักดันและสร้างกำลังใจให้กับคนทำงานได้เหมือนกัน
ลานกางเต้นท์จุดที่ 1 มีเจ้าตัวแสบมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ (เสียวก้น)
ลานกางเต้นท์จุดที่ 2 มองลงไปเป็นจุดที่ 3 จะอยู่บนเนิน ใกล้จุดชมวิวมากกว่า แต่ห่างไกลออกไป (วันนี้คนน้อยอยู่ใกล้ๆที่ทำการดีกว่า)
ที่พักพร้อม ถึงเวลาอาหารเย็น ง่ายๆแต่สบายท้อง จากร้านอาหารสวัสดิการ
อิ่มท้องก็พร้อมเดินย่อย และสำรวจพื้นที่บริเวณที่ทำการอุทยาน (น้ำตกปิดแล้วรอเล่นน้ำพรุ่งนี้)
เจ้าถิ่นตัวป่วน ที่มาของเขาล่ะ (เจ้าหน้าที่เรียกเจ้า จ๋อย)
ข้อควรปฏิบัติที่ควรปฏิบัติ
ผังบริเวณที่ทำการอุทยาน
จุดชมพระอาทิตย์ตก
หนึ่งเดียวในประเทศไทย ต้นไม้มีขา มหัศจรรย์ต้นสมพง อยู่บริเวณทางเข้าอุทยาน
ต้นสมพงเป็นตันไม้ใหญ่มีลักษณะ 2 ต้นมาบรรจบกันและหลอมรวมเป็นหนึ่งต้น
ป้ายอุทยาน อยู่ใกล้ๆกับต้นสมพง
บรรยากาศยามค่ำ ค่อยข้างจะเงียบ แต่มีความรู้สึกปลอดภัย ค่ำคืนนี้นอนหลับสบายแน่ๆเลย
เช้าวันใหม่ เจ้าถิ่นมารอเรียกอยู่หน้าเต้นท์
ที่นี่ก็มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นนะคะ สวยด้วย ที่สำคัญไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องเดินทางไกล
พระอาทิตย์ส่องแสงแล้ว ก่อนไปเล่นน้ำให้ฉุ่มฉ่ำ ทานมื้อเช้าเบาๆกันก่อน (ครัวเปิด 8โมงเช้า แต่มีกาต้มน้ำ มีแก๊สกระป๋องมากลัวไร ^_^)
เคารพธงชาติกันก่อน เจ้าหน้าที่พร้อมแล้ว
ขอบอกว่าน้ำตกที่นี่สวยมาก น้ำใสเป็นสีฟ้า มีจุดลงเล่นน้ำหลายจุดด้วยกัน
หนาวนี้ที่น้ำตกธารสวรรค์ หนาวมากค่ะ อาบน้ำแต่งตัวเตรียมเดินทางกันต่อค่ะ
ที่ไม่ลืมคืออาหารกล่อง จากร้านอาหารในอุทยาน (อุดหนุนกันไป)
ป้ายทางเข้าอุทยาน (แอดถ่ายตอนกลับ)
ออกจากอุทยาน ผ่านสวนสาธารณะ ซึ่งดูเหมือนกับกำลังปรับปรุงใหม่
วิวสวยงาม
จุดหมายต่อไป วนอุทยานไดโนเสาร์แก่งหลวง ค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท (นำบัตรเข้าอุทยานมาใช้แทนได้)
ภายใน จะมีเศษชิ้นส่วนโครงกระดูก ประวัติความเป็นมา
ขับออกมา จากไดโนเสาร์เชี่ยงม่อน ตรงไปจะเป็นแก่งหลวง
ใกล้จบทริปแล้ว ฝากร้านอาหารอร่อยๆเมืองแพร่กัน
ขับออกมาได้สักผัก ผ่านสวนพุทธานมสด ซึ่งนำผลมาวางขายริมถนน รสชาติอร่อยดี จัดไป 2 ถุงเล็ก 1 ใหญ่ระหว่างเดินทางเข้าจังหวัดแพร่ นึกขึ้นมาได้ว่าการเดินทางขึ้นเหนือครั้งนี้ ยังไม่ได้ชิมรสชาติข้าวซอยเลย ก็เลยเพ่งกูเกิ้ล หาร้านข้าวซอยใกล้ฉัน ร้านนี้ปรากฎขึ้นมาเป็นชื่อแรก อยู่ใกล้กับประตูชัยเมืองแพร่ "ข้าวซอยเจ้เล็ก" มื้อนี้ไม่ได้ชิมเฉพาะข้าวซอย แต่มีเมนูแนะนำ คือขนมจีบรวม หมู กุ้ง ราดหน้าเส้นกรอบ รสชาติดีที้ง 3 เมนู 4 จาน รวม 180 บาท (สบายท้อง สบายกระเป๋า)
อิ่มท้องกันไปตามๆกันนะคะ ฝากติดตามกดไลค์ กดแชร์กันด้วยนะคะ
กำลังทะยอยลงอีกหลายเส้นทางค่ะ ขอบคุณค่ะ
Paikannaka
วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.01 น.