" กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก "

>--- เราเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่อยากมาเยือนจังหวัดกระบี่ เพราะที่นี่คือดินแดนแห่งขุนเขา หาดทราย ชายทะเล กลุ่มเกาะ น้ำตก และโถงถ้ำ ที่สวยงามติดอันดับต้นๆของประเทศไทย ---< 

ซึ่งทุกคนสามารถเดินทางมาเยือนกระบี่ได้ตลอดทั้งปี นอกจากสถานที่ธรรมชาติที่สวยงาม ยังมีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวใต้ที่เราเชื่อว่านั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้กระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยวเสมอมา


                                                                  เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ -> กระบี่กันเลยจ้า

รอบนี้เราเดินทางด้วยเครื่องบินจากดอนเมือง ไปลง หาดใหญ่ เนื่องจากบ้านเราอยู่ที่นั่นเลยถือโอกาสแว๊บกลับบ้านสักหน่อย แล้วขับรถต่อจากหาดใหญ่ไปกระบี่ ยาวไปเลยจ้า

    วิธีการเดินทางอื่นๆจากกทม.-กระบี่

    • เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ-กระบี่                                                                                                                                                      ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที สายการบินที่เดินทางไปยังกระบี่ก็มี Bangkok Airways, Thai Airways, Thai Lion Air, Air Asia และ Nok Air เนื่องจากระยะทางระหว่างกรุงเทพและกระบี่นั้นห่างไกลมาก การเลือกเดินทางโดยเครื่องบินจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด...
    • รถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ-กระบี่                                                                                                                                   ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 12 ชั่วโมง โดยรถโดยสารประจำทางจะออกจากสถานีขนส่งสายใต้ 
    • รถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ-กระบี่
    • รถไฟจากกรุงเทพฯ-กระบี่ 
      สำหรับเราไม่แนะนำเพื่อนๆนะคะ เพราะจังหวัดกระบี่นั้นไม่มีสถานีรถไฟ แต่ถ้าต้อวงการเดินทางโดยรถไฟจะต้องไปขึ้นที่สถานีหัวลำโพงในกรุงเทพฯและลงที่สถานีสุราษฎร์ธานี จากนั้นก็ต่อรถรับส่งไปยังสถานีขนส่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วก็ทำการต่อรถโดยสารประจำทางไปยังจังหวัดกระบี่ โอ้โห!มันยุ่งยากจริงๆนะเพื่อนๆ เก็บเวลาไปดำน้ำดูปะการังกันดีกว่าเนาะ ><

    [ จองโปรแกรมทัวร์ของ บ.บิลเลี่ยนสตาร์ทราเวล จำกัด ] ตอนนั้นเราจองจากงานไทยเที่ยวไทย ราคาคนละ 3,800 บาท 4 วัน 3 คืน รวมที่พัก ,ดำน้ำ, อาหารเที่ยงวันดำน้ำ+City tour โปรแกรมตามนี้เลยจ้า แล้วมาดูกันว่าเราจะได้ไปตามโปรแกรมของทัวร์รึปล่าว ^^


    ไปกันค่ะพี่สุชาติ แต่ๆๆๆๆ ไปไม่ถึงกระบี่สักที เพราะเราแวะตลอดทาง แต่ที่แนะนำก็ " ตลาดสวนไผ่ขวัญใจ "  จังหวัดพัทลุง

      เนื่องจากใกล้เที่ยงพอดี เลยจะแวะหาข้าวกิน เราเลยเลือกแวะที่นี่ และนี่คือทางเข้าค่ะคุณขา ต้นไผ่เรียงรายร่มรื่นมาก เหมาะกับการเดินชิลๆหาอาหารทานไปเรื่อยๆ ที่นี่มีทั้งอาหาร ขนม และของใช้พื้นบ้านที่เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ขายนะคะ หากใครผ่านไปผ่านมา อย่าลืมแวะกันนะรับรองคุณประทับใจแน่นอน ปล.อย่าลืมทานข้าวยำ,ขนมจีนแกงใต้,คั่วกลิ้ง,ขนมปำ กันนะคะ หรอยแรงนิ ><

      เอ้า...อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางกันได้ เราถึงที่พักก็ประมาณ 17.30 น. เนื่องจากที่พักเราอยู่หน้าหาดอ่าวนางพอดี และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวต่างพากันออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ (เราเลือกเดินทาง 13 เมษาเอง 555) 

      ครั้งนี้เราเลือกพักที่ " Aonang Buri Resort "  ขอบอกว่าห้องพักดีมาก ทำเลดีมาก อาหารดีมาก และชอบมาก 555 แต่เสียนิดเดียวเลยจริงๆ คือ ที่จอดรถภายในรีสอร์ทน้อยถึงน้อยมากเลยค่ะ แต่ทุกคนสามารถจอดหน้าที่พักได้นะคะ 

      อันนี้ภายในห้องพักเรานะคะ เราเลือกแบบ Pool View เรามากัน 5 คน คือเราเห็นประตูอยู่ภายในห้องเรากับน้องเลย เอ๊ะ หรือห้องมันทะลุกันได้ เลยจัดการยกโคมไฟออก และเปิดประตูออกมา สรุปว่าาาาาา...ทะลุได้จริงๆทุกคน คืออยู่แต่ในที่พัก เราก็อยู่ได้แล้วอะทุกคน 555

      วิวจากริมระเบียงห้องพักเราค่ะ คือดีมาก คือชอบมาก (ถ้าคนที่เดินออกจกาห้องพักแล้วกระโดดลงสระได้เลยคงฟินมากเลยเนาะ) ลองเลือกห้องพักกันดูนะคะ

      เราลองเสิร์ชหาข้อมูลร้านอาหารแนะนำที่อ่าวนาง ก็ขึ้นร้านนี้มาจ้า " วังทราย ซีฟู้ด " ซึ่งโชคดีที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักเรา และเราสามารถเดินไปได้จ้า

      คืออาหารมาเราก็รับประทานเลยค่ะ ได้ภาพมาเท่านี้ ร้านบริการเราดีนะคะ ถึงคนจะเยอะ แต่พนักงานก็พยามจัดหาที่ให้เรา ซึ่งเรารอไม่นานเลย อาหารก็อร่อย ที่เราแนะนำเลยนะ *หมึกไข่นึ่งมะนาว, ปลาทอดกระเทียมน้ำจิ้มซีฟู้ด, หอยชักตีน และยำไข่แมงดาค่ะ (ตอนนี้พิมพ์ไปน้ำสอไป 555) 


      Morning ค่ะทุกคน เช้านี้อาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหารของรีสอร์ท เพื่อรอทัวร์มารับไปลงทะเลกันนนนนนน

      อาหารเช้าของที่พักคือว้าวมาก มีทุกอย่างเลยทุกคน เติมได้ไม่อั้นด้วยนะคะ ทางทีมงานเรานั้นมีอะไรก็กินมันทุกอย่างเลยจ้า 555

      หลังจากนั้นเราก็มานั่งรอที่ล็อบบี้ ประมาณ 8 โมงกว่าก็มีรถมารับเรา (เรารอนานอยู่นะ รอจนคนอื่นๆไปกันหมดแล้วอะ เราก็คือยังไม่ได้ไป 555) แล้วก็ได้เวลาลงเรือแล้วค่ะ เกือบสิบโมงอะทุกคน คือทะเลก็คงไม่แหวกแล้วมั้งคะเนี่ย... 

      มาถึงแล้วจ้า Unseen Thailand ><  " ทะเลแหวก "  ซึ่งมีที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติเมื่อยามน้ำลด ที่จะพัดพาเอาเม็ดทรายมารวมกัน ณ ที่นี้ และเผยให้เห็นแนวสันทรายยาวเชื่อมต่อได้ระหว่าง 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ คือทุกคนสามารถเดินเล่นไป-มาระหว่างเกาะได้เลยนะ (ปล.ตอนเราไปอะช้าแล้วทะเลเลยไม่แหวก น้ำตาไหลเลยจ้า)

      ได้ถ่ายรูปกับป้ายว่าเราไปมาแล้วจริงๆก็ยังดีอะ 555

      แล้วเราก็ไปต่อกันที่ " เกาะไก่ "  ไปถึงเราไม่สงสัยเลยนะว่าทำไมถึงชื่อเกาะไก่ เหมือนมากทุกคน เหมือนแบบไม่เถียงแล้วจ้า

       ที่เรียกว่าเกาะไก่ก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลม ๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย แต่จุดเด่นของที่นี่คือน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว มองเห็นปลาแหวกว่ายอยู่เต็มไปหมด เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำที่สวยแห่งหนึ่งของทะเลกระบี่เลยทีเดียว

      ก่อนจะแวะทานอาหารเที่ยงก็ดำน้ำกันก่อนเลยจ้า " เกาะทับ "

      เราแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ " หมู่เกาะปอดะ " ➤ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ คือน้ำทะเลสวยมาก สีเขียวมรกตไปจรดสีฟ้าคราม สวยมากจริงๆค่ะ

      หลังจากนั้นเราเดินทางไปต่อที่สุดท้ายในทริปนี้นั่นคือ " หาดถ้ำพระนาง " ➤ เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ และทะเลสวยนะคะ ถึงอาจจะไม่เท่าเกาะปอดะก็ตาม

      หลังจากนั้นเราก็นั่งเรือกลับด้วยความเหนื่อย เมื่อย และล้ามากทุกคน กลับไปนอนพักที่ห้อง และเตรียมตัวออกไปทานข้าวเย็น เราจำชื่อร้านไม่ได้ แต่เราเดินเรียบหาดไปเรื่อยๆไม่ไกลมาก เป็นร้านเล็กๆ แต่อร่อยและราคาไม่แพงเลย


      อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะทุกคน ตื่นมาทานอาหารเช้าที่รีสอร์ทกันเหมือนเดิมนะคะ เมื่อวานเหนื่อยหนักมากจริงๆเลยนอนเร็ว และหิวมาก 555

      โปรแกรมของเราวันนี้คือ City Tour ค่ะ นั่นคือทัวร์สถานที่เที่ยวดังๆในกระบี่ ไปๆๆกันจ้า εїз

       เริ่มต้นกันที่แรกเราไป " น้ำตกร้อน " ตั้งอยู่ใน อำเภอคลองท่อม ใกล้กับสระมรกตนะทุกคน เดินทางสะดวก เพราะมีป้ายบอกทางตลอด ที่นี่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาตินะจ๊ะ และเป็นธารน้ำตกร้อนขนาดเล็ก 

      เรามาช่วงเทศกาลพอดีไปที่ไหนคนเยอะเหมือนได้ถ่ายรูปหมู่เลย อิอิ แต่ที่นี่เหมาะกับเพื่อนๆที่ต้องการมาผ่อนคลายนะ (น้ำร้อนจริงๆนะไม่จกตา)

      นอกจากมากระบี่จะมาเที่ยวทะเลแล้ว มากระบี่ทั้งทีต้องไม่พลาดที่เที่ยวธรรมชาติอย่าง " สระมรกต " ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม มีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น

      ทุกคนกว่าเราจะเดินเข้ามาถึงเหนื่อยมาก ไม่รู้ว่าต้องเดินเข้ามาไกลขนาดนี้ 555

      ระหว่างทางเดินเข้ามาจ้า ดีนะที่ร่มรื่น แต่เหงื่อแตกเอาเรื่องอยู่ และพอเข้าถึงก็ผ่าม !!! ประชากรล้านกว่าชีวิต

      แต่เราแนะนำให้ทุกคนเดินไปทางต้นน้ำของสระมรกตนะคะ อันนี้คือสวยจริง ธรรมชาติสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมา (ภาพไม่ได้แต่งสีนะคะ ของจริง)

      หลังจากนั้นเดินกลับออกมาทานอาหารค่ะ ทางทัวร์จะมีอาหารกลางวันเลี้ยงเรานะคะ ก่อนจะไปต่อกันที่...

      " วัดถ้ำเสือ "  อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านถ้ำเสือ จุดเด่นของที่นี่นอกจากพระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ ที่ต้องขึ้นบันไดสูง 1,260 ขั้น ที่มีวิวเมืองกระบี่สวย ๆ ให้เราได้เห็นกันแล้ว ที่นี่ยังมีเจ้าแม่กวนอิมที่มีความสูงกว่า 5 เมตร ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัดให้ได้สักการะขอพรกันอีกด้วยค่ะ 

      ไปค่ะ ไปจุดพีคกันนั่นคือ บันได 1,260 ขั้น เราคิดว่าเราพอไหวนะ แต่... พอเอาเข้าจริงทุกคนไม่ไหวเลยจ้า คือทางทั้งชัน ทั้งสูง บันไดดสูงบ้างเตี้ยบ้าง หนักหน่วงมาก 

      สารภาพเลยว่าเราขึ้นไปได้แค่ 690 ขั้น พอแล้วขาสั่นแล้วจริงๆ 555 ไม่ได้กลัวความสูงนะ แต่เหนื่อยมากขอถอนตัวจ้า ส่งคนอื่นๆไปเป็นตัวแทนละกัน (◕〝◕)

      ขั้นที่ 1,260 จ้า 

      วิวจากข้างบน น้องเราบอกลมเย็น อากาศดีมาก ในขณะที่ตอนนั้นเราคงเดินลงอย่างปากแห้งอยู่แน่ๆ

      หลังจากนั้นทุกคนก็กลับลงมา ด้วยความ......

      เอิ่ม ให้ภาพมันเล่าเรื่องดีกว่าค่ะ 555 

      แล้วทางทัวร์ก็จะพาเรามาส่งถึงโรงแรมเลยนะคะ เราพักผ่อนกันก่อนจะออกไปหาอาหารเย็นกิน รอบนี้เราเดินไปยัง " Aonang Landmark " เพื่อหาอาหารเย็นทานค่ะ เดินเรียบชหาดอ่าวนางมาได้เลยนะคะ ที่นี่เป็นถนนคนเดินขนาดเล็ก มีทั้งของกิน ของฝาก และของใช้เลยจ้า

      ถึงเวลาพักผ่อนแล้ววว ฝันดีนะทุกคน เจอกันวันพรุ่งนี้จ้า


      วันสุดท้ายที่ กระบี่แล้วทุกคน วันนี้เราตื่นเช้ามารับประทานอาหารเช้าของที่พักเช่นเดิม และเตรียมตัวเดินทางกลับหาดใหญ่ (ทางทัวร์ของบริษัทมีรถรับส่งไปยังสนามบินนะคะ) 

      ก่อนจะกลับเราก็มาแวะ " วัดพระธาตุวชิรมงคล หรือ วัดบางโทง " ตั้งอยู่ในอำเภออ่าวลึก 

      ตอนเรามาถึงที่นี่เราสะดุดตากับความสวยงาม และความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมของ “พระมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ” ที่สร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร


      พระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางวัด มีสีเหลืองทองอร่ามตาชวนดึงดูดใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยจุดเด่นของพระมหาธาตุเจดีย์มีความสูงประมาณ 95 เมตร บริเวณรอบๆ มีการประดับตกแต่งคล้ายคลึงกับมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ประเทศอินเดีย

      ภายในพระมหาธาตุเจดีย์ (ต้องแต่งกายสุภาพนะคะ)

      ทัศนียภาพโดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์

      และมุมถ่ายรูปของอิฉันเองเจ้าค่ะ 

      ด้านขวามือของพระมหาธาตุเจดีย์เหมือนที่นี่จะเป็นวัดเดิมนะคะ ก่อนจะมีการเพิ่มพื้นที่ คือเราจะบอกว่าสถานที่เดิมก็สวยมากๆแล้ว

      ไปกันต่อเลยมะทุกคน มากระบี่ก็ต้องมา " อนุสาวรีย์ปูดำ "  ตั้งอยู่ในตัวเมืองกระบี่ที่ท่าเรือขนาบน้ำ จุดตรงนี้เป็นจุดชมวิวของเมืองกระบี่ เพราะสามารถมองเห็นเขาขนาบน้ำ ภูเขาสองลูกที่ตั้งอย่างโดดเด่นริมแม่น้ำกระบี่ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ด้วย ใกล้ ๆ กับประติมากรรมปูดำ จะมีอนุสาวรีย์นกออก หรือนกอินทรีย์ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองกระบี่ 

      " อนุสาวรีย์นกออก " 


      ส่วนด้านหลังปูดำนั่นคือ " เขาขนาบน้ำ " คือที่นี่ล่องเรือได้นะทุกคน แต่เรามีเวลาไม่มากเพราะต้องเดินทางต่อ เลยไม่ได้ล่องเรือชมบรรยากาศ  ใช้เวลาประมาณล่องเรือเที่ยวประมาณ 20 นาที เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบกับแม่น้ำกระบี่ นอกจากนั่งเรือล่องชมความงามแล้ว เรือจะพาเราแวะที่ถ้ำเขาขนาบน้ำด้วย ถ้ำเขาขนาบน้ำเคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ในสมัยโบราณ และมีการจำลองกระดูกมนุษย์โบราณยักษ์อยู่ภายในถ้ำ


      " ถิ่นหอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะ เพาะปลูกปาล์ม งามหาดทราย ใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี "
      ❊❊❊❊❊ จบทริปกระบี่แล้วทุกคน ครั้งนี้เราพาล่องทะเลใต้ เป็นยังไงกันบ้างคะ ❊❊❊❊❊




      ชีวิตติด_เที่ยว

       วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.42 น.

      ความคิดเห็น