สวัสดีอีกครั้งค่ะ

มาถึงตอนที่ 2 แล้ว

จากคราวก่อน ทริปคิวชูเหนือ ในเวลา2 วันนิดๆ

สำหรับตอนที่ 2 นี้ จะเป็นเรื่องของ สถานที่ต่างๆ ศาลเจ้า และรายละเอียดเล็กๆที่เก็บมาฝากจากญี่ปุ่น


Destination : North Kyushu, Japan

Period : March 21-23, 2016

Equipments : Fujifilm X-E2, XF18-135 and XF 35 f1.4


ตอนที่แล้ว เราพูดถึง Things to see ข้อที่ 3 ไปแล้ว คราวนี้เรามาเริ่มข้อที่ 4 กันเลยนะคะ


Things to see ข้อที่ 4 : สถานที่ อันน่าจดจำ


หลังจากคราวที่แล้ว พาไปชมภาพต่างๆแบบเน้น Subject มาถึงคราวนี้ เริ่มต้นข้อที่ 4 เราจะถอยห่างออกมาเพื่ออมองดูมุมกว้างๆของแต่ละสถานที่ที่เราไปกันค่ะ

ในเวลา 2 วัน ที่ช่างน้อยนิด ประกอบกับการเดินทางในลักษณะอ้อยอิ่ง ไม่เร่งรีบมากนัก ทำให้ 2 วัน ณ คิวชูเหนือ ของเรา ประกอบไปด้วยสถานที่ดังต่อไปนี้


Mojiko Retro Town

เมืองท่า ริมทะเล กับสถาปัตยกรรมตะวันตกแนวเรโทร อากาศดี เป็นเมืองที่เหมาะกับการนั่งชมวิว เดินเล่นรอบๆ หรือหาอะไรทานเพลินๆ ระหว่างนั่งชมวิวอย่าลืมลองชิมเบียร์ Mojiko Retro Beer ที่เรานำเสนอไว้จากกระทู้ก่อนด้วยนะคะ ความชิลล์จะทวีคูณขึ้นอีก 8 เท่า

สถานที่ : Mojiko, Kitakyushu

การเดินทาง : จากสถานี Kokura นั่ง Local train ไปลงสถานี Mojiko ใช้วิธีการเดินเที่ยว หรือเช่าจักรยานปั่นก็สะดวกดีค่ะ หรือใครอยากสบาย ได้อารมณ์เก๊าเก่า ก็ลองสอบถามราคานั่ง Rickshaw รอบเมืองดูนะคะ

มีอะไรน่าสนใจ : เมืองท่า ย้อนยุค สถาปัตยกรรมตะวันตก อากาศดี คึกคัก น่ารัก กุ๊กกิ๊ก


เปิดตัว Mijiko Retro Town ด้วยตึมสีส้มในวันฟ้าใส

ไม่ไกลกันนัก เราจะเจอ Blue Wing เป็นสะพานที่สามารถยกเปิดปิดให้เรือแล่นผ่านไปมาได้ เวลาการยกขึ้นยกลง ก็ตามในภาพเลยค่ะ

สะพานนี้ เหมาะแก่การเดินข้ามอย่างยิ่ง เพราะวิวรอบๆนั้นสวยจับใจค่ะ

เหมือนที่คุณลุงคนนี้กำลังยืนมองอยู่

หนุ่มๆนักเรียน ริมอ่าว

น้องหมาก็ออกมารับความชิลล์กับเขาเหมือนกันน้า

บริเวณรอบๆ จะมีร้านค้าต่างๆ แยกเป็นสัดส่วน ทั้งร้านขายของฝาก ร้านเครื่องดื่ม ขนม และร้านอาหารตั้งซุ้ม ทำกันสดๆแบบนี้


Kitsuki Town

เมืองเก่าเล็กๆแห่งนี้ ถูกขนานนามว่าเป็น Little Kyoto เเห่งคิวชู มีปราสาทติดทะเล มี Cityscape Landscape ที่น่าสนใจ ช่วงสายๆถึงบ่ายแก่ เราจะได้เห็นสาวๆนักท่องเที่ยวเช่าชุดกิโมโน ออกมาเดินเล่นชมเมือง ดูแล้วเข้ากับบรรยากาศเก่าๆมากค่ะ

สถานที่ : Kitsuki , Oita

การเดินทาง : จากสถานี Kokura นั่ง Sonic Nichirin ไปลงสถานี Kitsuki แล้วต่อรถเมล์หน้าสถานีอีกประมาณ 15 นาทีค่ะ (กันความผิดพลาด เราใช้วิธีเอาภาพที่เซพจากอินเตอร์เน็ตให้คนขับดู แล้วพอถึงป้ายคนขับก็จะจอดและบอกให้เราลง อิอิ)

มีอะไรน่าสนใจ : ทางเดินหินอันลาดชัน 2 ฝั่ง โดยมีถนนคั่นกลาง , บ้านซามูไรเก่าหลายหลัง, บ้านคหบดีเก่า, บ้านเมืองน่ารักๆ และสาวๆนักท่องเที่ยวในชุดกิโมโน

Landmark ประจำเมืองนี้

หนุ่มสาวคู่นี้ เดินหยอกเย้ากันตลอดทาง น่ารักเสียจน พาลคิดไปว่า หากอยุธยาบ้านเราอากาศเย็นๆ สัก 15 องศา แล้วมีร้านให้เช่าชุดไทยเดินเล่นรอบวัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วล่ะก็ เราคงได้เห็นหนุ่มสาวหลายคู่ไปเดินออกเดทแบบนี้อยู่บ้างเหมือนกัน

เมืองเล็ก น่ารัก และเต็มไปด้วยดอกไม้แบบนี้ตลอดทั้งเมืองค่ะ


จำประวัติของบ้านหลังนี้ไม่ได้ รู้แต่ว่าวิวตรงหน้าบ้านสวยมากค่ะ

ด้านหน้าจะเห็นวิวทะเลแบบนี้

หันไปด้านซ้าย จะได้วิวเป็นปราสาท Kitsuki




Shiranoeshokubutsu park หรือ Shiranoe Botanic Park

เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับ ที่มีดอกไม้สลับหมุนเวียนกันเบ่งบานในแต่ละฤดูกาล

ในช่วงที่เราไป ซากุระยังไม่บาน แต่แอบมีเซอไพรซ์เล็กๆให้เราได้กระชุ่มกระชวยอยู่บ้างค่ะ จะเป็นอะไรนั้น รอติดตามตอนหน้านะคะ ตอนนี้ขออุบไว้ก่อนน้า

สถานที่ : Shiranoeshokubutsu park, Kitakyushu

การเดินทาง : จากสถานี Kokura นั่ง Local train ไปลงสถานี Mojiko แล้วต่อรถเมล์สาย 41 (ป้ายรถเมล์อยู่หน้าสถานี) เดินเท้าต่ออีก 3 นาที

มีอะไรน่าสนใจ : สวนดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งซากุระ และไม้ดอกไม้ประดับตามฤดูกาล มี trekking เบาๆรอบสวนด้วยค่ะ แต่เดินสบาย ผู้สูงอายุเดินได้ไม่มีปัญหา

มุมกล้องส่องทางไกลตรงนี้ มองไปถึงน่านทะเลข้างหน้าค่ะ

เป็นมุมยอดนิยมของเด็กๆมาก กิ่งก้านที่แผ่คลุมอยู่ใกล้ๆนั้น หากเป็นช่วงซากุระฟูลบลูม มุมนี้คงหวานนุ่มชุ่มชื้นขึ้นกว่านี้หลายเท่าตัว

นอกจากซากุระที่มีหลากหลายสายพันธุ์แล้ว (ในภาพยังมีแต่กิ่ง) ดอกไม้ใบหญ้าอื่นๆ ก็มีให้ชมกันแบบเต็มพื้นที่ค่ะ ดังนั้นสวนนี้จึงเหมาะแก่การมาเยี่ยมชมในทุกๆฤดูกาลจริงๆ



Beppu Beach Sunayu

เมือง Beppu ขึ้นชื่อเรื่องออนเซน และสถานที่ยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว คงหนีไม่พ้น การทัวร์บ่อนรกทั้ง 8 แต่สำหรับคนเวลาน้อยเช่นเรา ที่กำลังมองหาออนเซนเพื่อคลายความเมื่อยล้า หลังจากใช้เท้ามาอย่างหนักหน่วงทั้งวัน เราขอเลือกไปที่นี่ค่ะ “Beppu Beach Sunayu"

สถานที่ : Beppu Beach Sunayu ,Beppu สถานี Beppudaigaku

การเดินทาง : จากสถานี Beppu นั่ง Local train ไปลงสถานี Beppudaigaku แล้วเดินเท้าต่ออีก 2-3 นาที

มีอะไรน่าสนใจ : เป็นสถานที่อบทรายร้อนริมทะเล และข้างๆมีบ่อออนเซนเท้าฟรี แช่เท้าไป ชมวิวทะไป เดินถัดไปหน่อยจะมี park ริมทะเล มีเรือสำเภาลำใหญ่ๆจอดอยู่ (แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปค่ะ เพราะต้องรีบกลับไปขึ้นรถไฟ)

จริงๆแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นที่อบทรายร้อน ตอนที่เราไปใกล้เวลาปิดทำการแล้ว พนักงานกำลังทำการเกลี่ยทรายให้ราบเรียบสวยงาม ท่ามกลางแสงสีทองที่สาดเข้ามากระทบไอร้อนของทราย

ออนเซนเท้า Sea view นี่ต่างหากที่เราสนใจ (สามารถใช้บริการได้ฟรีนะคะ)

ยามแดดร่มลมตกแบบนี้ เราเจอทั้งคู่รักหนุ่มสาว นักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่น ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแช่เท้ากันเป็นระยะ น้ำร้อนจัดแบบนี้ พอได้ลองแช่เท้าดู ปรากฏว่ารู้สึกสบายเท้าขึ้นเยอะเลยทีเดียวค่ะ

คุณลุงคนนี้ เมินวิวทะเลตรงหน้า แล้วเพลินเพลินกับจอเล็กๆสี่เหลี่ยมนั้นแทน

ข้างๆกัน มี Park ริมทะเลชื่อ Shoningahama Park ท่าทางบรรยากาศดีทีเดียว แต่เราแวะเข้าไปดูแค่ทางเข้าก็ต้องรีบเดินกลับสถานีรถไฟ

แสงทองยามเย็น ระหว่างเดินกลับสถานี Beppudaigaku



Fukuoka Castle Ruins

เรามองหา สวนสาธารณะใกล้ๆโรงแรมที่พัก เพื่อเดินเล่น สูดอากาศในตอนเช้า ก่อนที่ช่วงเที่ยงถึงเย็น จะเป็นการอุทิศให้กับการช็อปปิ้ง !

และแล้ว Fukuoka Castle Ruins ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเราในเช้าวันนั้น เพราะอยู่ใกล้ เดินทางสะดวก

สถานที่ : Fukuoka Castle Ruins, Fukuoka

การเดินทาง : นั่ง Fukuoka Subway ไปลงสถานี Ohorikoen หรือนั่งรถเมล์ไปลงป้ายหน้า Park เลยค่ะ(แนะนำวิธีนี้)

เช้านี้พระอาทิตย์ผลุบๆโผล่ๆ เรารอตรงมุมนี้อยู่สักพัก ชาว Fukuoka คนนี้ก็เดินมาเข้ากล้องพอดิบพอดี

23 มีนาคม 2559 ซากุระในสวนแห่งนี้ยังไม่บาน แม้จะมีแต่กิ่งก้านและดอกตูม ก็ไม่ได้ทำให้ต้นซากุระย้อนแสงต้นนี้ สวยงามน้อยลงเลย



Things to see ข้อที่ 5 : ศาลเจ้า


ศาลเจ้า เป็นลิสต์ข้อที่เรานึกถึงตั้งแต่แรก แต่พอดูในแพลนกลับพบว่า ไม่มีรายชื่อของศาลเจ้าใดๆอยู่ในแพลนของเราเลย !!

บังเอิ๊น บังเอิญว่า เช้าวันสุดท้าย ขณะที่กำลังเดินโต๋เต๋ออกจาก Fukuoka Castle Ruins สายตาก็ไปประสบพบเจอเสาโทริอิใหญ่ยักษ์ ตระหง่านอยู่อีกฝั่งถนน เหลือบมองนาฬิกา ยังพอมีเวลา เลยตัดสินใจเดินเข้าไป แล้วศาลเจ้าแห่งนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังค่ะ


Gokoku Shrine

หลังจากเดินผ่านเสาโทริอิเข้ามา สองข้างทางถูกแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ต้นใหญ่เขียวครึ้ม ศาลเจ้าไม่ใหญ่ ไม่เล็กค่ะ เดินสักพักก็ทั่วแล้ว

สถานที่ : Gokoku Shrine, Fukuoka

การเดินทาง : ศาลเจ้าอยู่ใกล้ๆกับ Maizuru Park เดินข้ามถนนมาทางทิศใต้ จะเจอเสาโรริอิใหญ่ยักษ์ตรงทางเข้าค่ะ

เช้าตรู่แบบนี้ ทำให้ศาลเจ้าค่อนข้างสงบ มีคนมาสักการะไม่กี่คน จะเห็นแต่กลุ่มนักเรียนมัธยม และคนทำงาน ใช้ศาลเจ้าเป็นทางผ่าน แล้วลัดเลาะออกสู่ถนนใหญ่ อยู่เนืองๆ




Things to see ข้อที่ 6 : รายละเอียดในความเป็นญี่ปุ่น


หมวดหมู่นี้ พยายามจะรวบรวมสิ่งละอันพันละน้อย ที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่เราไปพบมาค่ะ


เมเปิ้ลสีเขียว

ใบเมเปิ้ลที่เจอในเดือนมีนาคม ยังคงเขียวอยู่ บางต้นเพิ่งแตกใบอ่อน เราถ่ายตอนใบสีเขียวเก็บไว้ เพื่อย้ำเตือนว่า เราจะกลับมาอีกครั้งเพื่อถ่ายเมเปิ้ลในยามที่เป็นสีแดง

กำแพงอิฐ ณ Mojiko Retro Town

ตะกร้าก้อนอิฐ

เจอตระกร้าแบบนี้ วางเรียงรายอยู่รอบๆอ่าว ที่ Mojiko Retro Town ไม่ทราบว่ามีไว้ทำอะไรเหมือนกัน ใครพอจะมีข้อมูลบ้างมั้ยเอ่ย

หญ้าต้นเล็กๆ บนหลังคา

กระบวยตักน้ำ ในสวนแบบญี่ปุ่น

ณ ริม ถนนแห่งหนึ่ง ในเมือง Kitsuki เราพักหย่อนขาลงไปในพงหญ้าและดอกเรพ

หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง

หัวไชเท้าลูกโต ของคุณป้า

จักรยานทรงนี้ คลาสสิคดีนะคะ

ปิดท้ายด้วย ส้มลูกดกต้นนี้ ระหว่างเดินกลับสถานี Kitsuki ค่ะ

ขออนุญาตจบ ตอนที่ 2 จบลงเพียงเท่านี้


ในตอนหน้า เป็นตอนสุดท้าย ที่เราจะมาพร้อมภาพของ บ้านเรือนแบบญี่ปุ่น ทั้งเก่าและใหม่

รวมถึงโบนัสสุดพิเศษที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอ ในการเดินทางไปครั้งนี้ค่ะ จะเป็นอะไรนั้น รอติดตามในตอนหน้าค่ะ

สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

Black Salmon

 วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 12.56 น.

ความคิดเห็น