เธอรักท้องฟ้า เธอรักสายลม เธอรักเเละชื่นชมฝนที่เย็นฉ่ำ
เธอรักภูเขา เธอรักต้นไม้ เธอรักหาดทราย เธอรักทะเล
เธอรักการเเต่งตัว เธอชอบการฟังเพลง เธอรักการร้องบรรเลง เธอรักเสียงดนตรี
เธอรักท่องโลกกว้าง เธอชอบการเดินทาง เธอรักความแตกต่าง เป็นตัวของเธอเอง
เธอรักทุกสิ่ง เธอรักทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคย เธอไม่เคย....
ไม่เคยจะรักฉัน ทั้งๆที่ฉันนั้นรักเธอ ไม่เคยจะมองฉัน ทั้งๆที่ฉันนั้นมองเธอ
ไม่เคยจะสนใจ ว่ามีใครใกล้ใกล้เธอ ทุกครั้งที่ทักทาย สุดท้ายฉันกลายเป็นภาพเบลอ
เธอรักทุกสิ่ง แต่เธอไม่เคยจะรักฉัน...
เริ่มต้นมาก็อยากจะให้ทุกคนเปิดเพลงฟังไปพร้อมกับการอ่านเรื่องราวของเราไปเบาๆ หรือจะฟังสักจบก่อนแล้วค่อยเริ่มอ่านก็ได้ไม่ต้องรีบ ช่วงนี้เรากำลังอินกับเพลง เพราะเราเองมักเพลอแอบชอบคนที่ชอบเดินทางเก่งอยู่บ่อยๆ แอบไถ่IGดูรูปเค้าเที่ยว เสพในสิ่งที่เค้าชอบไม่ว่าจะ ทะเล ท้องฟ้า ภูเขา น้ำตก โดยที่เค้าไม่เคยรู้เลยว่าการเดินทางของเค้ามีเสน่จนทำให้มีคนชอบอยู่~ เราก็เลยอยากลองทำในสิ่งที่เค้าชอบดูบ้าง อยากลองดูว่า เขา เรา ทะเล จะทำให้เค้าหันมามอง มาไถ่ IG เราบ้างรึป่าวหรือปล่อยเป็นภาพเบลอให้จางไป
ทริปนี้เราจะขับรถไปกันเองกับคุณปู่ปาเหลียม ก่อนออกเดินทางเติมพลังให้คุณปู่พร้อมเดินทางไกลกันจุดหมายปลายทางเราจะอยู่กันที่หาดวนกร เพื่อระลึกความหลังกับการไปงานเลี้ยงรุ่นครั้งแรกของพวกเราที่ที่เราคิดว่ามันสุดแสนจะโรแมนติกของการฝึกงานอย่างหนักหน่วงแล้วมานั่งดูดาวริมทะเล เพื่อนได้แฟนกันมานักต่อนักก็บรรยากาศมันอำนวยขนาดนั้น ส่วนเรารู้สึกว่าจะมัวแต่คลุกอยู่ในโรงครัวหาไรกินก็เลยตัวบวมอยู่จนถึงทุกวันนี้
เราจะนอนพักกันที่สถานีฝึกวนศาสตร์หาดวนกรกัน 1 คืน เป็นสถานที่คนไม่มีความหลังก็แนะนำให้มาอ่ะ มันเป็นทะเลที่เงียบสงบ ไม่มีเปลผ้าใบไม่มีแม่ค้ามีแค่ทะเลกับต้นสนที่ถูกแบ่งกันด้วยหาดทรายละเอียด เห็นแล้วอดใจไม่ไหวขอลงเล่นน้ำก่อนละกัน โคตรคิดถึง ส่วนที่พักที่นี้ให้นึกฟิวที่พักตามอุทยาน ประมาณนั้นแหละ ไม่สวยหรูเท่ารีสอร์ทแต่อยู่ได้ไม่ลำบาก สงบส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ
เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยก็รีบเปลี่ยนชุดวิ่งไปเล่นน้ำมาถึงทะเลทั้งทีไม่เล่นน้ำยังไงไหว แถมยังเป็นทะเลที่มีแต่ความทรงจำเก่าๆ ยิ่งเล่นยิ่งคิดถึง แม้เพื่อนจะไม่มาเล่นน้ำกับเราแล้วก็เหอะ
แต่ก็เดินนึกถึงความทรงจำได้สักแปป เราก็มีความทรงจำให้เพิ่มขึ้นมา เพื่อนไม่มาเล่นน้ำกับเราแล้วแต่เพื่อนส่งลูกมานิเราต้องดูแลหลานยังไงหรืออยู่เป็นเพื่อนหลานไปได้เลย มันก็เป็นฟิวที่อบอุ่นไปอีกแบบนะ เป็นพี่เลี้ยงเด็กไป ไม่มีลูกยังไงเราก็จะยังไจะเป็นพี่สาวของลูกเพื่อนต่อไป ถ้าไม่เรียกพี่ ไม่เล่นด้วยนะหนู
กิจกรรมส่วนใหญ่ของเราที่หาดวนกรจะเป็นการเล่นทะเลกับหลานชายคนแรกของรุ่น เพราะเราไปช่วงที่เกาะจานปิดทางอุทยานเลยไม่เปิดให้เราเข้าไปดำน้ำเสียดายสุดๆ พอตอนกลางคืนก็มีปาตี้ปิ้งย่างเล็กๆ พอให้พูดคุยแลกเปลี่ยนอัพเดตชีวิตเพื่อนๆ พอเป็นพิธีนอกจากนั้นก็ภาพตัดจำอะไรไม่ได้ละ เช้ามาก็เก็บของแยกย้ายกันเดินทางกลับแวะเที่ยวตามทางผ่านสักนิดก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ
เราออกจากหาดวนกรตอนสายๆ จะไปนอนที่เขื่อนแก่งกระจานกันสักคืนจะได้เล่นน้ำที่เขื่อนสักนิดแต่เราจะแวะเที่ยวอุทยานเขาสามร้อยยอดไปปีนผาแดง ขึ้นดูจุดชมวิวระกว่าทะเล คลอง เขา เรามาถึงกันเกือบ 4 โมงแล้วขึ้นได้เป็นกลุ่มสุดท้ายผาแดงเป็นเขาหินปูนที่มีความคมแต่งตัวแบบเราเนี๊ยะไม่ปลอดภัยเลย ใครจะมาให้ใส่ขายาวนะเพราะหินมันคมมากและลื่นด้วยเดินยากพอควรแต่ก็ไม่ได้ยากถึงขั้นเดินไม่ได้ให้พกสติและความระมัดระวังด้วย และพกน้ำดื่มขึ้นไปด้วยจะได้จิบระหว่างทางแล้วอย่าไปเผลอทิ้งไว้ละขนขยะลงมาด้วยธรรมชาติจะได้สวยตลอดให้เรามอง ข้อแนะนำ เดินกันไปเงียบๆนะ ช่างสังเกตหน่อยๆที่นี่มีค้างเยอะน้องน่ารักน่าชังแอบมาดูเราเดินขึ้นเขากันด้วย
อ้อเกือบลืม อย่าลืมไปซื้อบัตรเข้าอุทยานก่อนนะตรงจุดนี้จะมีจุดให้เที่ยวหลายจุดแต่เราต้องซื้อบัตรที่จุกบริการที่เดียวแล้วเก็บบัตรไว้โชว์เจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมชมได้ทุกที่
เราใช้เวลาอยู่กับผาแดงเกือบชัวโมงเราลงมาถึงข้างล่างก็เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว จุดเที่ยวอื่นๆยังมีอีกเยอะซึ่งคงต้องอดตามระเบียบเพราะความชิว ช้า สมกับเป็น OnSlowly และต้องรีบขับรถไปแก่งกระจานเพื่อไปพักอีก 1 คืนที่นั้น
แต่เราขับรถผ่านเห็นป้ายว่ามีบริการนั่งเรือชมคลองไม่รู้ว่ายังจะทันเรือรึป่าวลองยืนเก้ๆกังๆทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวมึนๆก็มีคุณลุงเดินเข้ามาถามนั่งเรือหรือจ๊ะหนู ถ้ายังไม่ปิดหนูก็ไปค่ะ รอสัก 10 นาทีนะลุงโทรเรียกเรือให้ กลายเป็นว่าเวลา 5 โมงกว่าๆเป็นเวลาที่ดีที่สุดของการล่องเรือเลยเพราะเราจะไม่ร้อนและได้เห็นพระอาทิตย์ตกกลางทะเลด้วย ค่าบริการจ่ายเพิ่มอีกคนละ 500 บาท ไม่เกิน 10 นาทีเราก็เห็นคุณลุงและเด็กหญิงตัวน้อยมาถึงท่าเรือเตรียมเรือและเรียกเราลงเรือกันก่อนแนะนำตัวด้วยซ้ำ น้องผู้หญิงที่มาด้วยเป็นเด็กนักเรียน ป. 4 ที่จะมาเป็นไกด์จิ๋วให้ความรู้กับเราในการล่องเรือครั้งนี้ น้องพูดจากชัดถ้อยชัดคำวางตัวได้ดีน่ารักเชียว
การได้เจอที่เที่ยวแบบไม่คิดว่าจะได้เจอนิมันเซอไพรมากเลยนะ สวยมากกกกก ตื่นตาตื่นใจกับความงามของธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้าสุดๆ ล่องเรือมาได้ครึ่งทางไกด์จิ๋วให้เราลงมาเดินเล่นทุ่งหญ้า ถ่ายรูปคู่กับผาแดงที่อยู่ข้างหลังเรา
และพาเราไปอยู่บนเกาะแก่งต่างๆ การล่องเรือเราก็จะมักเห็นค่างไต่ตามผาอยู่เรื่อยๆนะต้องหมั่นสังเกตและเงียบๆเอาน้องจะได้ไม่ตกใจเรา
เรานั่งเรือกันเสร็จประมาณ 6 โมง ต้องรีบไปแก่งกระจานต่อแต่อเราถึงที่พักกันเกือบเที่ยงคืนมองไม่เห็นวิวอะไรเลยคืนนี้นอนเราแรงก่อนพรุ่งนี้เช้าลุยต่อ แต่อนิจาเนื่องจากไม่ได้หาข้อมูลหรือเรามาช่วงที่น้ำหลากแก่งกระจานน้ำท่วม!! เที่ยวไหนได้ล่ะแหง่วไปเลย ชุดก็หอบมาแล้วก็ต้องเที่ยวเท่าที่ได้ละนะ เอาวิวหลังที่พักก่อนละกันดูน้ำสิขึ้นมาขนาดนี้แล้วจะลงไปเล่นได้ยังไง
จริงๆตรงนี้จะสามารถเดินลงไปถึงริมด้านล่างได้เลยจะมีโต๊ะให้นั่งเล่นมีห่วงยางให้เล่นวันนี้เราก็ทำได้แค่เอาเท้าแตะๆน้ำละกัน
เล่นได้เท่าที่เล่นได้เนอะเราก็แวะขึ้นไปสะพานไม้ยาวๆที่แก่งกระจานลุ้นดูว่าน้ำจะท่วมสะพาน เค้าจะเปิดให้ถ่ายรูปเล่นรึป่าว ถึงทริปจะไม่เป็นดังใจหวังเราก็ต้องมีความหวัง
ไม่ผิดหวังจร้า แล้วก็แอบคิดว่าถ้าตรงนี้ท่วมข้างล่างจะอยู่กันยังไงเนี๊ยะ สะพายยังพอไหวอยู่นะเห็นสะพานแล้วเป็นลมล้มพับไปเลยจ้า
หลังจากได้เที่ยวเท่าที่ได้แล้วเราก็มุ้งหน้ากลับกัน แต่ไหนๆก็มาแล้วขอแวะอีกสักที่ก่อนเข้า กทม ละกัน เราแวะเมืองขนมหวานขึ้นไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี ชุดมันก็มาให้แล้วอ่ะนะไปวิ่งเล่นให้กระโปรงมันพริ้วๆให้ลิงมันไล่จับชายกระโปรงเล่นดีกว่า
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 92 เมตร เดิมเรียกว่า เขาสมนหรือเขาคีรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสําหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาเพชรนิสัย ศรีสวัสดิ์ปลัดเมือง เพชรบุรีเป็นนายงานก่อสร้างจนสําเร็จเรียบร้อยเมื่อปีพ.ศ.2403 ทรงพระราชทานนามว่า พระนครคีรี แต่ชาวเมือง เพชรเรียกกันติดปากว่า เขาวัง ใครจะเดินขึ้นก็ได้หรือไม่ไหวจะเดินก็มีรถรางไฟฟ้าให้เราขึ้นเหมือนกันค่าตั๋วแค่ 70 บาท ขึ้นลง ลงให้ทันละกันเนอะลงไม่ทันเดินกลับไปที่จอดรถอย่างไกลอ้อมเขาได้เลย
ซึ่งข้างในเค้าจะเปิดให้เราเข้าเยี่ยมชมได้เห็นของโบราณและการจัดตกแต่งต่างๆแต่ไม่ให้ถ่ายรูปนะ อยากเห็นต้องไปดูเอง ส่วนรอบๆบริเวณสามารถถ่ายรูปเล่นได้ตามปกติระวังลิงหน่อยละกัน น้องชอบแย่งน้ำหวาน
เดินไปเดินมา แอบเหนือยสุดๆจนเค้าปิดวังให้ลงพร้อมกับสายฝน อย่างที่คิดรถรางที่เราขึ้นมาเค้าปิดแล้วจ้า เราต้องเดินลง แล้วต้องเดินริมถนนอ้อมเขาวงที่เราขึ้นมาเกือบ 500 เมตรได้ เดินไกลเราไม่กลัวอยุ่แล้วแต่ดูสภาพชุดเราสิมันเหมาะกับการเดินริมถนนไหม!!! โคตรเขินไหนจะต้องวิ่งหนีลิงอีกน้อ
งชอบสงสัยในความพริ้วของกระโปรงเราน้องชอบจับขอสัมผัสได้มั้ยจ๊ะ เราก็กลัวน้องจะงับน่องขาอันแน่นๆของเรา สภาพยับเยินมากจ้ากว่าจะกลับถึงรถ
เธอดูความพยายามที่เราอยากจะพรีเซ้นให้เธอหันมามองเราบ้าง เมตตาเราบ้าง เขา-เรา-ทะเล เราขนชุดไปถ่ายรูปขนาดนี้ ลืมทะเล ลืมเขา มามองเราบ้างเหอะ เราเหนือย แล้ววิ่งหนีลิง
Onslowly
วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.19 น.