"เพราะเด็กควรสนุกกับการเล่น"
80 % ของความเป็นตัวตนเรา ณ ปัจจุบันมาจากพื้นฐานชีวิตในวัยเด็กกันทั้งนั้น บางคนโตขึ้นมาเที่ยวสุดหยุดไม่อยู่รักการเรียนรู้ชอบการเจอโลกกว้าง บางคนก็เตรียมตัวสร้างครอบครัวเก็บเงินเก็บทองแต่งงาน มีลูก มีบ้าน รถ เรือ เครื่องบิน หรือบางคนเอ็นจอยกับการทำงานแล้วพักผ่อนทำสวนหลังบ้าน นั่งดูซีรีย์ อ่านหนังสือเล่มโปรด เลี้ยงแมว ให้อาหารหมา คุยกับนก มองฟ้า มองน้ำ มองเธอ~ ก็สุดจะแล้วแต่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็คงมีช่วงวัยเด็กที่สุดจะสนุกกับการเล่นกับเพื่อนข้างบ้าน กับของเล่นชิ้นโปรด ที่หวนคิดถึงก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
วันนี้เราไม่ได้จะมาชวนทุกคนย้อนความหลังให้คิดถึงวัยเด็กแต่อยากจะชวนทุกคนที่มีลูกเล็กเด็กแดงไปเล่นของเล่นที่ทำจากไม้กัน ใช่!!! ของเล่นที่ทำจากไม้ที่แค่ฟังก็รู้สึกไม่อยากเล่นเท่าไหรและไม่น่าปลอดภัยซะด้วย แต่ลองได้เล่นซะก่อนแล้วคุณจะเพลินไม่แพ้เด็กเลย เกริ่นกันมายาววันก่อนเราเดินไปเจอป้ายหน้าตาแปลกๆ เขียนว่า Forest of play Museum ในกลางเมืองตั้งอยู่ที่ ซอยสาธร 10 เข้าทางปากซอยมาไม่ถึงร้อยเมตรอยู่ตรงซ้ายมือตรงข้ามกับคาเฟ่สายสุขภาพ Not Just Another Cup แค่ฟังชื่อก็แปลกๆ ป่าอะไรจะมาอยู่กลางเมือง แถมเป็นป่าของเล่นซะด้วย
ป่าของเล่นนี้ปลูกโดย Plan Toy ผู้ผลิตของเล่นไม้รายใหญ่ที่เปลี่ยนจากไม้ยางต้นโตมาเป็นของเล่นให้เด็กๆ ที่เปิดให้เด็กๆสามารถเข้ามาเล่นของเล่นกับเพื่อนๆคนอื่นๆในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนการเลี้ยงดูลูกกับครอบครัวอื่นๆ ได้เห็นการเล่นของลูกพัฒนาการการเข้าสังคมและการแก้ไขปัญหาของเด็กๆโดยที่ผู้ใหญ่ยืนมองอยู่ห่างๆ ช่วงที่เราเข้าไปเราจะเจอต่างชาติเยอะกว่าคนไทยมาก เราก็แอบสงสัยเป็นเพราะเราไม่มีเด็กในครอบครัวเลยไม่รู้จักของเล่นพวกนี้หรือเปล่า แต่ทำไมต่างชาติเค้ามาเที่ยวบ้านเรา แต่ยอมที่จะจัดโปรแกรมการเดินทางของเค้าให้ลูกมาเล่นในนี้ แสดงว่าของเล่นไม้สัญชาติไทยแบรนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ ในฐานะคนยังไม่มีลูกจะเข้าไปจะเข้าไปเองก็ไม่ลูกจะแอบเอาเด็กที่ไหนไปลองเล่น ทีแรกก็ทำเป็นเดินเนียนๆเหมือนจะซื้อของเล่นไปฝากเด็กๆ แต่จริงๆแล้วคืออยากเล่น
ข้างล่างของตึกจะเป็น Shop แสดงสินค้าและไทม์ไลน์ความเป็นมาของบริษัท ที่ให้เราได้ลองหยิบลองจับ เห้ย สนุกอ่ะ เพลินสุดเราเดินหยิบเดินจับเกือบทุกชิ้นของเล่นแต่ละชิ้นมันเสริมจิตนาการมากไม่มีผิดมีถูกไม่มีขอบเขตข้อจำกัด แถมยังไม่มีมุมมีเหลียมที่เราคิดว่ามันจะมากับงานไม้ ของเล่นทุกชิ้นลบมุมลบคมหมด และที่สำคัญสีที่เค้าใช้ปลอดสารด้วยไม่เป็นอันตรายต่อเด็กๆ
อยากเป็นหมอฟันก็มีให้เล่น
เค้กวันเกิดก็มี แถมมีเทียนด้วยนะ
ซับซ้อนขึ้นหน่อยก็จะเป็นฟันเฟือง เหมาะกับเด็ก 2 ขวบขึ้นไป แต่เราก็เล่นได้
ของเล่นเวลาอาบน้ำก็มี เซอร์ไพรมาก ของเล่นไม้ลงน้ำได้ด้วยเราก็กลัวแบบจะขึ้นรามั้ย?
และนี้ คือของเล่นที่เราชอบที่สุด ทะแด้ม~
กล้องน้อยกลอยใจเราไม่รู้ว่าเค้าเรียกอะไรน่ะ แต่เจ้ากล้องตัวนี้ตรงกลมๆที่เหมือนเลนส์จะหมุนได้แล้วเวลาเราใช้ตาส่องเข้าไปเราก็จะเห็นภาพในรูปแบบต่างๆกันไปตามที่เราหมุน สนุกดี เราสนุกจนพนักงานบอกว่าชั้นสองจะเป็นป่าของเล่น สามารถขึ้นไปดูได้นะคะ แล้วรอบหน้าพาน้องมาเล่นได้เลยไม่มีค่าบริการ เรายิ้มเขินเล็กน้อย และขอบคุณค่ะ ขึ้นไปละน้า~ เล่นข้างล่างยังสนุกขนาดนี้ขึ้นไปข้างบนจะขนาดไหน
แม้แต่บันไดก็ยังมีจุดเล็กๆไว้ให้เด็กๆนับขั้นเวลาขึ้นไปด้วย แค่ขึ้นบันไดยังมีอะไรให้เล่นสนุกเลย
ตามปกติแล้วถ้าใครจะพาน้องมาเล่นจะต้องลงทะเบียนที่ชั้นล่างก่อนแล้วเดินบันไดขึ้นมาชั้นสอง ถอดรองเท่าให้เรียบร้อย และงดเว้นน้องๆที่ไม่สบายเข้าไปเล่น ไม่นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป น้องเล็กๆที่ยังเข้าห้องน้ำเองไม่ได้สามารถใส่ผ้าอ้อมได้ และที่สำคัญผู้ปกครองต้องไม่ละสายตาจากบุตรหลานของท่านด้วยนะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กๆขณะเล่น อ้ออีกอย่างที่ลืมไม่ได้เลยก่อนเข้าไปล้างมือกันให้สะอาดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก่อนเข้านะคะเพื่อความสะอาดของเด็กๆที่มีโอกาสจะเกิดโรคได้
พร้อมแล้วก็ไปเล่นกันค่ะ
เริ่มจากสายหวานก่อนเลยไม่รู้ว่าถ้าเป็นเด็กจริงๆเค้าจะเล่นยังไง แต่เจ้าตัวนี้สามารถฝึกสามาธิเด็กๆได้ดีแน่นอนกับการร้อยลูกปัดไม้เข้าเชือกหรือเสาเล็กๆ หรือจะเรียนรู้การแยกสีออก เล่นได้หลายแบบตามอิสระและจิตนาการน้องๆได้เลยค่ะ
โซนต่อมาเป็นโซนเอ๊ะอ๋อ? ((เราตั้งเองนะ ไม่รู้เค้าเรียกอะไร)) จะเป็นกล่องๆให้น้องได้เอาตาส่องดูเอามือล้วงจับ ตื่นเต้นดีเหมือนกัน เราเองไม่กล้าล้วงไม่ใช้กลัวไม่กล้าจับน่ะ แต่กลัวทำของน้องพังมือใหญ่ไปหน่อย
ส่วนเจ้าขอนลอยไม้นี้จะเป็นของเล่นที่เราลากแล้วจะมีเสียงที่เกิดจากการกระทบกันของไม้ ลากกันเป็นแก๊งก้จะเจี๊ยวจ้าวหน่อยแต่ก็เพราะดี มองแล้วน่ารักสดใส
อาณาจักรแลนแอนเฮาท์ของเล่นนับร้อยชิ้นมาเรียงต่อเป็นชุมชน ถนนเส้นทางการจราจรที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้เล่นโซนนี้น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆเลย
อีกของเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยเราเรียกว่า พาผึ้งกลับบ้าน (เราตั้งให้อีกแล้ว) หรือ Beehives (ชื่อจริงเค้า) ที่น้องๆจะต้องใช้ที่คีบเพื่อคีบตัวผึ้งเข้าใส่รัง ซึ่งที่คีบเนี๊ยะก็จะได้ฟิวเหมือนฝึกใช้ตะเกียบ โดยการเล่นแบบนี้เนี๊ยะ เป็นการฝึกใช้กล้ามเนื้อนิ้วจากตอนเด็กเล็กๆจะใช้กล้ามเนื้ออุ้งมือในการจับ นิก็เปลี่ยนมาจากการใช้นิ้วซึ่งจากการเฝ้าดูน้องเล่นเราจะเห็นน้องมีการจับคู่สีด้วย เช่น ผึ้งสีเหลืองบ้านสีเหลือง ผึ้งม่วงบ้านม่วง เป็นการแยกแยะ คัดเลือกไปอีกแบบ
และนอกยังมีของเล่นอีกมามายหลายมุมให้เด็กๆเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสริมสร้างทักษะที่เหมาะกับวัยเค้าไม่รู้จบ ขนาดเราเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ๆยังดูเพลิน แอบสังเกตแอบลุ้นไปกับน้องๆ ใครมีโอกาสได้พาลูกเล็กเด็กแดงของตัวเองเข้าไปแถวนี้ก็ลองพาน้องไปเล่นดูนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย รับรองน้องต้องสนุกเพลิดเพลินแน่ๆ ไปแอบสังเกตการเล่นของน้องๆบ้านตัวเองกันค่ะ ว่าเค้าจะเป็นยังไงเมื่อเราเปล่อยให้เค้าอยู่กับของเล่นที่เล่นได้ล้ายร้อยจิตนาการ โดยไม่มีเงื่อนไขถูกผิด และมีเราคอยดูอยูู่ห่างๆ คอยระวังเวลาเค้าปีนป่ายเพราะมีหลายจุดเหมือนกันที่ให้น้องๆสามารถปีนเล่นได้และมีอุโมงบ้านให้มุดเข้าออกด้วย เป็นเด็กตัวจิ๋วนิมันน่าสนุกจริงๆ
ตามมุมตามขอบี่สุ่มเสี่ยงอันตรายเค้าจะมีฟองน้ำนิ่มๆกันไว้ป้ากันน้องๆวิ่งชนค่ะ
Onslowly
วันพฤหัสที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.30 น.