หากเพื่อนๆกำลังมองหามื้ออาหาร สไตล์ Chef’s table อยู่ละก็ แนะนำที่ Table X ค่ะ
เพราะคุ้มค่าในเรื่องของราคา ประสบการณ์ที่ได้รับ และความเป็นเลิศในเรื่องวัตถุดิบและรสชาติ
วันนี้ได้มาลิ้มรสชาติอาหารสุด "เฉียบ" จากเชฟมือฉมัง ที่คร่ำหวอดในวงการเชฟเทเบิ้ลกว่า 20 ปี
ซึ่งถือได้ว่าเป็น Chef's Table คนแรกของไทย ก็ว่าได้ เชฟท่านนี้คือ
“เชฟหมู เฉียบวุฒิ คุปศิริกุล”
Table X เป็นร้านสไตล์ Chef’s table ที่เชฟจะนำวัตถุดิบตามฤดูกาล
รังสรรค์เป็นจานเลิศรสมาเสิร์ฟตรงหน้าเรา ซึ่งเราจะได้เห็นทุกขั้นตอนในการปรุงจนมาเป็นจานอร่อย
ทั้ง รูป กลิ่น เสียง และรส เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทานอาหารได้ดีจริงๆ
ที่ตั้งร้าน : Table X
Piyavan tower-1 ซอย พหลโยธิน 7
ลง BTS อารีย์ (ฝั่งซอยเลขคี่น้า)จะเห็นมีทางเดินทะลุตัดมาตึก Piyavan เลยค่ะ
เป็นร้านเล็กๆ ห้องกระจก ด้านนอกตกแต่งโทนสีดำเรียบหรู
หรือถ้าใครนำรถมาเข้ามาจอดที่อาคารได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/tablexari/
จองล่วงหน้าเท่านั้นค่า รับเป็นกรุ๊ปตั้งแต่ 6-10 ท่าน ร้านเปิด 18:00 น.
ใช้เวลาในการรับประทานอาหารประมาณ 3 ช.ม.ครึ่ง
ความโดดเด่น ของ TABLE X มีหลายอย่าง ซึ่งควรค่าแก่การมาลอง ข้อแรกคือ
"วัตถุดิบหรูหรา" ที่เชฟเป็นคนคัดสรรกับมือ หลายๆอย่างมาจากแหล่งที่ดีที่สุดของวัตถุดิบนั้นๆ
เช่น ฟัวการ์ส และเห็ดทรัฟเฟิล จาก ฝรั่งเศส
"ชื่อเสียงเชฟ" เชฟหมูมีชื่อเสียงในวงการมากว่า 20 ปี
ในการเป็นเชฟส่วนตัวให้นักธุรกิจชื่อดัง เซเลปฯ หลายๆท่าน
และทำอาหารถวายพระบรมวงศานุวงศ์มาอย่างยาวนานค่ะ
"ราคา" ดีงามมมม เป็น chef’s Table ที่ทำให้กระเป๋าไม่ฉีกเกินไป
ตก 3,000 / ท่าน รวมไวน์ด้วยนะจ๊ะ
แถมยังบอกเคล็ดลับในการรินไวน์ และทำอาหารอีกต่างหาก 3 พัน เกินคุ้มจ้า
เชฟหมูเป็นกันเองน่ารักมากมาย
เชฟหมูแนะนำการเลือกไวน์ เทคนิคและวิธีการรินไวน์
อาหารมีทั้งหมด 8 คอร์ส พร้อมไวน์
-Baked escargot cafe paris butter
-Aburi izanuki salmon Hokkaido ikura
-Cappuccino Truffle with Fresh slice Truffle
-Smoked duck breast with balsamic dressing
-Seared Foie gras with Poached Pear
-Capellini botteca do tonno
-Baked US snow fish saffron truffle sauté vegetables
-varlrna gianduja truffle icecream
เริ่มต้นก็สนุกแล้ว เชฟสอนวิธีเปิดไวน์ รินไวน์ และเสิร์ฟให้พวกเรากับมือเลยค่ะ
ซึ่งตัว complimentary drink เป็นแชมเปญ รสหอมหวานทานง่าย ส่วนไวน์แดงรสสัมผัสดีค่ะ เข้ากับอาหารที่นำมาเสิร์ฟ จานแรกคือ
Baked escargot cafe paris butter
หอยทากฝรั่งเศส cook กับ ไวน์แดง อบเนยกระเทียม เชฟใช้เนยพรีเมี่ยม “คาเฟ่เดอปารีส” อบกับหอยเสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมขนมปังกรอบทานคู่กันคือลงตัว
Aburi izanuki salmon Hokkaido ikura
แซลม่อนจากฮอกไกโด sear บนกระทะแค่รอบนอกพอสุก และหนังกรอบ เนื้อมีความฉ่ำหวาน
เสิร์ฟกับไข่ปลาแซลม่อน ice plant กรอบๆ เค็มเล็กๆ เสริมกลิ่นอายทะเล ซอสมายองวาซาบิ
หรูหราด้วยสเปรย์ทองคำ จะทานแยกหรือทานรวมกันคืออร่อยได้รสชาติทุกส่วน
Cappuccino Truffle with Fresh slice Truffle
ครีมซุปที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นและรสของ “เห็ดทรัฟเฟิล” แถมเชฟยังสไลซ์ทรัฟเฟิล
เพิ่มลงในจานแบบไม่หวง ทุกอณูของจานคือทรัฟเฟิล ฟินเฟร่ออออ
Smoked duck breast with balsamic dressing
อกเป็ดรมควันที่เชฟบรรจงทอดอย่างพิถีพิถัน หนังกรอบเนื้อฉ่ำหอม เสิร์ฟกับสลัดผักสดกรอบ และมะม่วงสุก บัลซามิกหมัก 8 ปีผสมทรัฟเฟิลและ น้ำมันมะกอกกลิ่นส้ม ทานแล้วสดชื่น
Seared Foie gras with Poached Pear
ตับห่านชั้นดีจากฝรั่งเศสชิ้นโต sear ในกระทะจนหอม ผิวนอกกรอบเนื้อในนุ่มละลายในปาก
ทานคู่กับ poached pear Cabernet Sauvignon สีแดงสวย ให้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน
ตัดรสกับ foie gras ได้ดีทีเดียว
Capellini botteca do tonno
เส้นพาสต้าขนาดเล็กต้มความสุกแบบ al dente ผัดกับน้ำมันฟัวการ์ส แก้มหมู โรยไข่ปลา
และ Lobster salt จานนี้คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของวัตถุดิบแต่ละชนิดเลยล่ะ
Baked US snow fish saffron truffle sauté vegetables
สำหรับคนไม่ทานเนื้อ เชฟได้เตรียมปลาไว้ให้ค่ะ เป็นปลาหิมะ US ชิ้นโต sear ในกระทะกับน้ำมันฟัวการ์ส พร้อมซอสแซฟฟรอน+ทรัฟเฟิล ทานคู่กับมันม่วงและผัก เนื้อปลาเด้งๆเข้ากับซอสและเครื่องเคียง
varlrna gianduja truffle icecream
ไอศกรีมเห็ดทรัฟเฟิลสุดครีมมี่รสละมุนหวานน้อย รสทรัฟเฟิลมาเต็มคำ มีความ gold ของสเปรย์ทองคำ
วาววับบนไอศครีม ทานกับชอคโกแลตพรีเมี่ยมอย่าง varlrna & crispy pearls
เพิ่ม texture ให้จานนี้สมบูรณ์แบบสุดๆ จานนี้อร่อยมาก ให้ทานอีก 2 จานก็ยังไหว
เป็นมื้อที่ประทับใจจริงๆ สมกับที่เป็น Chef's Table คนแรกในไทย ต้องมาลองซักครั้งค่า
ขาตะเกียบ
วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 15.00 น.