นานทีปีหนได้ดำน้ำ เห็นวันหยุดเป็นไม่ได้ รีบชวนกันแบบกระทันกัน
ใครๆก็บอกทะเลพม่าสวย ต้องไปสักครั้งแล้วจะติดใจ
ตอนแรกบอกเลยว่าไม่เชื่อ แต่พอได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองแล้วบอกเลยว่า ฉันต้องกลับมาอีก
ระนอง เมืองรองแค่ทางผ่าน แต่ถ้าได้ลองแวะพักจะรู้ว่ามีเสน่ห์ไม่เบา
ทริปนี้ขับรถจากกรุงเทพ ไประนอง ใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง แน่นอนว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนจะถึงที่หมายปลายทาง ก็แวะกินข้าวกันที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต้องเรียกว่าเป็นร้านข้าวแกงระดับตำนาน อยู่มานานคู่เมืองเพชรเลยทีเดียว ใครจะเดินทางไปชะอำ หัวหิน ปราณบุรี อย่างน้อยๆต้องมีแวะกันบ้างละ เวลาผ่านมาไม่รู้กี่ปี ทุกเมนูยังอร่อยเหมือนเดิม และที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลย แถมตอนนี้ยังมีขนม ร้านค้าต่างๆให้ซื้อเสบียงตุนก่อนจะเดินทางต่อสู่ภาคใต้
บรรยากาศร้านกว้างขวาง มีโต๊ะเยอะมาก แต่ถ้ามาช่วงพีคๆรถทัวร์ลงหรือช่วงเวลาคนทานข้าวนี่บอกเลย ต้องรอเป็นเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว มาดูที่ตู้ข้าวแกง กับข้าวทำใหม่ๆร้อนๆมีให้เลือกเยอะมาก
กับข้าว 4 อย่าง ข้าวเปล่า 3 จาน น้ำ ขนม ทานกัน 4 คน ถือว่าถูกมากแค่ 300 กว่าบาท
เติมพลังยามเช้ากันเรียบร้อยก็ได้เลยขับรถต่อ แน่นอนว่ากว่าจะขับผ่านจ.ประจวบฯ ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรเลย แต่ถนนดี ขับเพลินๆ เราก็ถึงแยกชุมพร-ระนอง มุ่งหน้าสู่ทับหลี ย่านซาลาเปาทับหลีชื่อดัง แต่บอกเลยว่า ร้านเยอะมากทั้งสองข้างทาง สุดท้ายเรามาหยุดที่ร้านเจ๊ต๋อย บ้านทับหลี
ในบรรดาร้านทั้งหมดที่ขับผ่านมา ร้านนี้ดูดีมาก เป็นร้านกาแฟ อาหารตามสั่ง และด้านหน้ามีซาลาเปาทับหลีขายอยู่ด้วย ใครที่ขับรถเพลินๆหลุดแยกชุมพร - ระนองมาแล้วหิว แนะนำให้แวะร้านนี้เลย ไม่ผิดหวัง
ข้าวผัดจานใหญ่มาก ที่เห็นนี่แค่ 50 บาทเองนะ แต่อิ่มจุกหนักมาก ส่วนจานอื่นๆไม่ทันได้ถ่ายไว้ 5555
เอาเป็นว่าจานใหญ่แบบ ไม่ต้องสั่งคนละจานก็ได้มั้ง มันเยอะมากจริงๆ
ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองระนอง ก็ซื้อซาลาเปา ขนมจีบเอาไปกินระหว่างทาง :)
จากทับหลี ขับรถต่อมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ถึงตัวเมืองระนองกันแล้ว วันนี้เราเลือกพักกันที่
A Day Inn Ranong ซึ่งตั้งอยู่ถนนเรืองราษฏร์ หรือตรงกับตลาดถนนคนเดินนั้นเอง ตกเย็นไม่ต้องไปไหนเลย เดินออกจากที่พักปุ๊บ เจอของกินปั๊บ
ที่พักเป็นแบบโฮสเทล ทำออกมาได้คลีน สวยมากๆ เจ้าของก็น่ารักมากๆด้วย
ห้องที่นี่มีทั้งหมด 4 แบบ ด้วยกัน
- ห้องนอนรวม มีทั้งหมด 3 ห้อง ห้องละ 8 เตียง เป็นเตียง 2 ชั้น ใช้ห้องน้ำรวม ราคา 360 บาท /คน
ถ้าพักมากกว่า 2 คน ราคาคนละ 330 บาท/ คน และถ้ามามากกว่า 5 คนต้องการเหมาห้อง ก็สามารถสอบถามกับทางที่พักได้ หากเป็นช่วงเทศกาลจะไม่สามารถเหมาห้องพักรวมได้
- ห้องเตียงควีน พักได้ 2 คน ใช้ห้องน้ำรวม ราคา 670 บาท
- ห้องเตียงควีน พักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 820 บาท
- ห้องดีลักส์ พักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 920 บาท
ซึ่งมาครั้งนี้ เราเลือกนอนห้องนอนรวม เหมาห้องไปเลย
ห้องค่อนข้างกว้าง มีตู้เล็กสำหรับเก็บของส่วนตัว มีกระเป๋าผ้าสำหรับใส่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปห้องน้ำและปลั๊กข้างๆเตียง ไม่ต้องแย่งกัน
มาดูห้องน้ำรวมกันบ้าง มีการแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือ ด้านในห้องอาบน้ำมีแชมพู สบู่ เครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีโต๊ะ ทีวีที่เปิดดู Netfix ได้ ครัวเล็กๆ เหมือนอยู่บ้านตัวเอง เคาเตอร์บาร์นั่งเล่น และชา กาแฟ โอวันติน เครื่องดื่มน้ำดิ่มไว้บริการอยู่ตรง
ตอนเช้ามีบริการปาท่องโก้ ขนมท้องถิ่น ผลไม้เบาๆให้ตรงจุดนี้ หรือจะซื้อของมาทำกินในครัวเองก็ได้ ด้วยความเป็นโฮทเทล อุปกรณ์ต่างๆสามารถใช้ได้ แต่ต้องล้างทำความสะอาดคืนด้วยนะจ๊ะ
ช่วงที่มาเป็นเทศกาลตรุษจีนพอดี งานถนนคนเดินจากปกติที่มีแค่เฉพาะวันเสาร์ รอบนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีมาก เพราะได้เดินตะลอนกินให้หน่ำใจไปเลย มองซ้ายมองขวาหน้าที่พักคือของเต็มไปหมด
ปะ ลุยยยยยยย
ถนนคนเดินไม่ใช่สั้นๆนะจ้า ยาวไปอีก 2-3 บล็อคเลย เอาเป็นว่าเยอะมากๆ
ของกินเพียบ ราคาถูก ของใช้ ของมือสองละลานตาไปหมด
ขนมจีนเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราเห็นเยอะมาก แนะนำให้ลอง
เดินช้อปเสร็จก้อวนกลับนั่งกินต่อที่โรงแรม ไม่อิ่มก็เดินออกมากินใหม่ได้อีก 5555 เหมือนมีโรงอาหารขนาดใหญ่อยู่หน้าที่พัก ฟินหนักมาก ถูกใจสายกินแบบเราเป็นที่สุด
เดินกินจนมืด ได้เวลาเข้าที่พักนอนเอาแรง พรุ่งนี้เราจะไปดำน้ำกัน ทริปดำน้ำจะซื้อกับที่พักก็ได้ ทางที่พักมีโปรโมชั่นราคาพิเศษของ Love Andaman ด้วย แต่ครั้งนี้ เราเลือกจองผ่านทางเว็บ
ภายในเว็บจะมีบริการทัวร์ดำน้ำมากมายหลายจังหวัดให้เลือกพร้อมโปรโมชั่นอีกเพียบ บริการรถรับ - ส่ง จากสนามบิน บริการรถเช่า ค้นหาและจองง่าย สะดวกสุดๆ
หลังจากที่จองเรียบร้อย ทางทีมงานจะติดต่อกลับมาเพื่อยินยันการจอง โอนเงิน และขอสำเนาบัตรประชาชนเพื่อไปทำเอกสารผ่านแดน เป็นอันเสร็จ รอเที่ยวได้เลย เราเลือกแบบให้รถมารับที่โรงแรม รถตู้จะมารับหน้าที่พัก 7:00 โดยประมาณ รถจะวนรับและไปส่งใกล้ๆกับท่าเรือ ซึ่งก่อนจะไปผ่านแดนที่ประภาคารและลงเรือ ทางเลิฟก็เตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้ด้วย ละลานตามากๆ
หลังจากที่อิ่มอร่อยเติมพลังยามเช้ากันเรียบร้อย ทางไกด์ก็จะเรียกรวมเพื่ออธิบายกฏต่างๆบนเกาะและชี้แจ้งก่อนเดินทาง
ได้เวลาเดินทาง ไปดำน้ำกันนนน
รถจะมาส่งที่ประภาคาร รับเอกสารผ่านแดน และลงเรือ
นั่งเรือมาไม่ถึง 5 นาทีดีก็ข้ามมาถึงเกาะสองของพม่า ถ้ามีชาวต่างชาติอาจจะต้องใช้เวลานิดนึงเพราะต้องส่งให้ทำเอกสาร E-Visa แต่ครั้งนี้สบาย มารับไกด์ท้องถิ่นแล้วไปต่อกันได้เลย
เราใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 1.40 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึง Boulder Island หรือหลายๆคนรู้จักกันดีในนาม 'เกาะนาคินโย' ฮูเล่~~~~ น้ำทะเลสวยมากกกกก
ก่อนจะเริ่มดำน้ำ ก็เดินทัวร์ไฮไลท์ถ่ายรูปเล่นกันหน่อย เกาะนาคินโย เป็นเกาะที่สวยที่สุดแห่งท้องทะเลพม่า หาดทรายก็ขาวแถมเนียนนุ่มอีกต่างหาก ไปหาน้องฮิปโปกันเลย ใช้เวลาเดินข้ามเขาเบาๆประมาณ 10-15 นาที
โชคดีมากที่วันนี้ฟ้าเปิด น้ำทะเลกับท้องฟ้าคือสวยมาก บวกกับแนวหิน สามารถเดินเล่นถ่ายรูปได้เลยชิวๆ
ที่นี่มีวิวให้ถ่ายรูปเพลินมากจากๆ ไม่ว่าจะเดิมไปทางไหน
หาดทรายขาวสะอาดและสวยมาก ธรรมชาติสมบูรณ์สุดๆทั้งบนบกและในน้ำ
เดินถ่ายรูปเพลินหนักมาก มากจนไกด์ต้องเดินมาตาม พี่มากินข้าวเถอะ เด๋วไม่มีแรงดำน้ำนะ 5555+
เมนูอาหารเที่ยงเพียบทั้งอาหารคาว ของหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม ขนม ซีฟู้ด จัดเต็มมาก ... ทานเรียบร้อยก็อย่าลืมนำขยะไปทิ้งในที่ๆจัดไว้ละ เอาอะไรไปกินก็อย่าลืมเก็บขยะกลับมาด้วย ธรรมชาติสวยๆแบบนี้จะได้อยู่กับเราไปอีกนานๆ
กินอิ่มเดินย่อยเรียบร้อย ได้เวลาดำน้ำกัน ไกด์จะเรียกขึ้นเรือเพื่อออกไปตรงแนวปะการัง เพราะวันนี้คลื่นแรง จะว่ายออกไปตรงนั้นก็ไม่น่าไหว วันนี้น้ำแอบขุ่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้การดำน้ำหมดสนุกเลย มันฟินมากๆ
มองลงไปก็ยังใสพอที่จะเห็นปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายเต็มไปหมด ปะการังสมอง ปะการังเขากวางอีกเพียบ มีแตกยอดอ่อนด้วย ได้เจอน้องนีโม่ด้วย เป็นครั้งที่เราสามารถ FreeDive มุดลงไปเพื่อถ่ายรูปและดูปลา ปะการังใกล้ได้แบบนี้
ดำผุด ดำว่ายประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง ก็ได้เวลาเดินทางกลับ เต็มอิ่มเลยทริปนี้ ต้องได้กลับมาอีกแน่ๆ กลับมาถึงฝั่งไทยก็มีภาพที่ระลึกสวยๆจากทาง Love Andaman ด้วย ใครยังไม่เคยไป ขอบอกเลย ต้องไปสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักทะเลที่นี่ แต่ทริปของเรายังไม่จบแค่นี้ ขับรถมาตั้งไกล จะหยุดแค่นี้ได้ยังไง
หลังจากข้ามกลับมาถึงไทย รถตู้ส่งที่พักเรียบร้อยก็กลับเข้าที่พักอาบน้ำ และออกมาหาอะไรกินมือเย็นกันต่อ วันแรกเราเดินตะลอนกินทั่วตลาดไปแล้ว แต่ไปสะดุดตาอยู่ร้านนึง ชือร้านอาหารพื้นเมือง J&T
เจ้าของที่พักแนะนำเลยว่าถ้าไม่อยากไปไหนไกล อยากกินอาหารท้องถิ่นให้มาร้านนี้ ซึ่งงงง แค่ข้ามถนนมาก็ถือแล้ว สบายมากเว่อ ด้านในร้านคนนั่งกันแน่นเอียด เราสั่งอาหารเลยระหว่างรอ เจ้าของร้านเดินออกมาต้อนรับ แนะนำอาหารเป็นกันเองมากๆ ร้านสามารถรับได้ประมาณ 10-12 โต๊ะ
เมนูอาหารหลายอย่างน่าสนใจมาก ร้านเปิด 10.30 – 21.00น และนี่คือเมนูที่เราสั่งมา
- ยาวเย คล้ายๆสลัดแต่อาจะเปรี้ยว หวานหน่อยๆ
- ยำกาหยู (ยำเม็ดมะม่วงหินมะพาน)
- ปลาทูน้ำพริกกะปิ อันนี้เด็ด ใครมากคนสั่ง
- ซุนเปี๊ยะ อันนี้เป็นเมนูแนะนำเลย
- ใบเหลียงผัดไข่
- ต้มยำกุ้งสูตรระนอง (ทางร้านว่าแบบนั้น รสชาติกลม ไม่จัดมาก)
ปิดท้ายด้วยของหวาน กับไอติมกะทิหน้ากุ้ง สะดุ้งเย็น ที่สั่งนี่เพราะชื่อเลยนะ 555
ไอติมกะทิเป็น Homemade สูตรโบราณ ไม่ได้มีแค่หน้าเดียวนะ ยังมี ไอติมหน้าหวาน น่ารักน่ากิน , ไอติมหน้าปลา ลาทะเลไปอยู่เย็น (นี่ชื่อเมนูจริงๆไม่ได้โม้) อร่อยด้วย กินคาวแล้วอย่าพึ่งไปไหนตบหวานต่อเลย
จบไปอีกหนึ่งวันฟินๆก่อนจะขับรถกลับกรุงเทพในเช้าวันต่อมา ได้เวลากลับกรุงเผชิญฝุ่นและลุยงานเก็บเงินมาหนีเที่ยวใหม่ 5555
ก่อนเช็คเอาท์ ก็ขอพี่ๆที่โรงแรมถ่ายรูปเก็บไว้ ประทับใจมาก ดูแลดี น่ารัก ที่พักสะอาด
ใครมาระนอง แวะมาพักที่นี่ได้ หรือทักมาสอบถามข้อมูลได้ทาง https://www.facebook.com/adayinnranong.fanpage/
จากที่พัก เราขับรถมาฝากท้องที่ร้านระนองโอชา ร้านติ๋มซำ บ๊ะกุ๊ดเต๋มีชื่อของเมืองระนอง
เติมพลังยามเช้าเรียบร้อยมาแวะที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน นั่งแช่เท้าเบาๆ
จากบ่อน้ำร้อน ขับรถเข้ามาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาเจอกับแกรนด์แคยอนระนอง
ปลาเยอะมาก ด้านหน้ามีร้านขายอาหารปลาของชาวบ้านอยู่ด้าน ตอนที่ไปคือไม่มีคนเลย เดินถ่ายรูปรัวๆ
ก่อนจะมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ใกล้ๆกันก็มีหาดส้มแป้นหรืออ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น
บรรยากาศวันนั้นร้อนหนักมาก แต่ก้อวิ่งเล่นถ่ายรูปกัน
กระโดดกันลืมอายุไปเลย
บริเวณรอบๆอ่างเก็บน้ำต้นไม้เยอะมากๆ
เป็นอันจบทริป 3 วัน 2 คืน แบบไหม้เกรียมอย่างสมบูรณ์ ขับรถดิ่งกลับกรุงเทพไปลุยงานกันต่อ เป็นทริปกระชับ กระทันหัน ที่ฟินมาก ต้องขอบคุณลุงและสองป้าที่บ้าบอมากับน้อง
แถมยังชวนไปทริปใหม่ดำน้ำเดือนเมษายนนี้ด้วย แต่จะไปไหนนั้น ต่อรอติดตามกันนะครัช
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ในการจัดทริปไม่มากก็น้อย
ฝากติดตาม MooBurinGoAround ด้วยนะคะ ^^
MooBurinGoAround
วันพฤหัสที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 23.43 น.