ทริปนี้เกิดแรงมาจากการดูโทรทัศน์รายการหนึ่งมีพิธีกรในดวงใจคือเรย์ แมค เขาพาไปลุยเกาะขามที่จังหวัดตราด คือทันทีที่เห็นก็ประทับใจเกาะนี้สุดๆ และคิดว่าคงต้องแพลนทริปให้เป็นหนึ่งใน buckage lists แล้วล่ะ แล้ววันที่ประจวบเหมาะก็ถึง ล้อหมุนแต่เช้ามุ่งหน้าไปอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด พอถึงแล้วก็ต้องหาที่ฝากรถกันล่ะค่ะเพราะตรงท่าเรือที่ข้ามไปเกาะหมากไม่ให้เอารถข้ามไป แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไปหาที่ไหนยังไง เพราะพอเลี้ยวเข้าท่าเรือก็มีคนมานำเหนอกันเยอะแยะหลายเจ้า ก็เลือกเอาที่ถูกชะตาแล้วกัน(ฮ่าๆๆ) ราคาค่าฝากก็ 100 บาทจ๊ะ ฝากรถแล้วก็มานั่งรอรอบเรือ อ่อค่าเรือข้ามฟากไปกลับ 900 บาทค่ะ จองได้ทั้งกับทางรีสอร์ทที่จะไปพักหรือจองเองก็ได้ราคาเท่ากัน เรือที่ข้ามเป็นสปีดโบ้ทใช้เวลา 50 นาทีก็ถึงเกาะหมากแล้ว
แปลกๆ เนาะฝันอยากไปเกาะขามแต่กลับข้ามไปเกาะหมาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะที่เกาะขามเขาเป็นเกาะส่วนตัวไม่มีที่พัก ถ้าจะไปเกาะขามก็ต้องพักที่เกาะหมากก่อนนะจ๊ะ จะว่าที่เกาะขามเขาก็มีรีสอร์ทอยู่นะ(เอ๊ะ! ยังไงเดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มี ฮ่าๆ) มันเป็นรีสอร์ทที่เหมือนสร้างไม่เสร็จซักทีเห็นมาหลายปีหลายชาติแล้วก็ยังอยู่เท่าเดิม แต่ถ้าน่าจะที่พักที่สวยงามเฟอร์เฟคเลยล่ะ
พอได้เวลาขึ้นเรือแล้วก็ลงไปเลย ทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือเขาก็จะให้ใส่ชูชีพและมีเจ้าท่ามาตรวจสอบและถ่ายรูปอีกที(ไม่ใช่ถ่ายทีละคนนาจา ถ่ายเป็นภาพรวมจ๊ะ) นั่งให้ลมทะเลตีหน้าเล่นๆ ชมทะเลงามๆ 50 นาทีก็ถึงแล้วจ้า ท่าเรือที่เกาะก็จะประมาณในรูปนี้
ขึ้นจากเรือก็จะมีรถของรีสอร์ทมารอรับอยู่แล้ว นั่งไปประมาณสิบกว่านาทีก็ถึงรีสอร์ท เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินเล่น เราพักที่ชินนาม่อนรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่มีวิวสวย น้ำใส และขึ้นชื่อมากเรื่องสะพานที่มีวิวงาม หลายคนบอกว่ามันเป็นสะพานสู่ฝัน อันนี้ก็เห็นด้วย เพียงแต่เราเสียความรู้สึกกับผู้จัดการของที่รีสอร์ทนี้ที่จัดการอะไรไม่ได้เรื่องซักอย่างทำเอาเราเกือบตกเรือ มันก็เลยทำให้ความประทับใจในตัวสะพานดร๊อปลงไปหน่อย แต่ถ้าใครจะไปแนะนำให้พักที่อื่นแล้วเช่ามอร์เตอร์ไซด์ขับมาเที่ยวที่นี่ก็ได้ รับรองว่ามันเป็นสะพานสู่ฝันจริงๆ
เช้าวันถัดมาก็ถึงวันที่จะได้ข้ามไปเกาะขามเกาะ buckage list ของเราซะที จริงๆ เกาะขามกับเกาะหมากอยู่ห่างกันไม่มากเรียกได้ว่าเป็นเกาะพี่เกาะน้องกันถึงเกาะหมากก็เหมือนถึงเกาะขาม บางคนก็เลือกที่จะเช่าคายัคแล้วพายไปแต่คนที่แข็งแรงอย่างเราเลือกที่จะนั่งเรือข้ามดีกว่า (ฮ่าๆๆๆ) ค่าเรือไปกลับก็ตกคนละ 300 บาท ราคานี้รวมค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะแล้ว แถมเขาให้คูปองไปแลกขนมกับน้ำได้อย่างละอันด้วยนา
นั่งเรือไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงเกาะขามแล้ว การข้ามมาเกาะนี้เราสามารถอยู่ได้จนเรือรอบสุดท้ายเวลา 16.30 น. ก็ได้นะจ๊ะ และเราเองก็อยู่จนถึงรอบสุดท้ายเหมือนกัน เกาะนี้ประทับใจตั้งแต่ทรายที่ขาวและนุ่มละเอียดมาก น้ำเป็นสีฟ้าใส น้ำใสชนิดที่เห็นปลา เห็นปู และเห็นประการังที่อยู่ใต้นำ้กันเลยที่เดียว คนมาที่นี้ส่วนมากก็มีตั้งแต่เอาหนังสือมาอ่าน ดำน้ำปะการังน้ำตื้น พายเรือที่ท้องเรือเป็นกระจกเพื่อดูความงามใต้ท้องทะเล ส่วนเราเลือกเดินถ่ายรูป เล่นทราย และเดินสำรวจเกาะ สำรวจถึงขั้นขึ้นไปดูตัวรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จ อ่อลืมบอกว่าที่นี่ไม่มีร้านอาหารนะจ๊ะใครจะมาก็กินข้าวกินปลาให้เรียบร้อยหรือไม่ก็ห่อมากินที่นี่ได้ เขามีเครื่องดื่มขาย
เช้าวันสุดท้ายวันที่เกือบตกเรือทั้งๆ ที่เราเตรียมตัวพร้อมตั้งนานแล้วแต่ที่โรงแรมไม่มีรถไปส่ง พวกเขาเองรู้รอบเรือของเราอยู่แล้วแต่ให้เอารถไปใช้อย่างอื่นซะงั้น ระหว่างรอรถก็ถ่ายรูปกันไปก่อน ก่อนที่จะกลับมาคุยกับผู้จัดการที่ไม่จัดการอะไรเลย ขนาดขอใบกำกับภาษีให้เวลาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงก็ไม่ทำให้ สุดท้ายต้องขอขับมอเตอร์ไซด์ของทางโรงแรมมาที่ท่าเรือเองเพราะมันไม่มีวี่แววของรถของทางโรงแรมเลย ขืนรอต่อไปเป็นได้ตกเรือแน่นอน จริงๆ ไม่อยากให้ความสวยงามที่เราประทับใจมากๆ มาจบทริปด้วยเหตุการณ์แบบนี้เลย
Titi goaround
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.10 น.