PART 3: กระทู้นี้เป็นพาร์ทของเมือง ST.PETERSBURG (NOV 14-17 , 2018)
***ภาคจบทริป***
ps. สรุปค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ Part นี้ท้ายโพสเลยนะคะ
————————————————————————————
Nov14 , 2018
วันนี้เป็นวันเเรกที่เรามาถึงเมือง St.petersburg จาก Murmansk กว่าจะรับกระเป๋าก็เกือบห้าทุ่มแล้วค่ะ
เนื่องจากที่เราอ่านๆมาทำให้รู้ว่าเมืองนี้ขโมยเยอะมากกกกก ช่วงก่อนมาก็มีความกังวล พอมาถึงพวก เราจึงได้ยกระดับการป้องกันตัวเพิ่มขึ้นอีกขั้น โดยเราเห็นพ้องต้องกันว่าเมืองนี้ถ้าเป็นไปได้เราจะเลี่ยง Metro แล้วนั่ง Taxi แทน
Taxi ที่พวกเราใช้หลักๆเลยก็คือ Uber จะมีใช้ Gett อยู่บ้างแต่ไม่เยอะค่ะ เราแนะนำให้เรียกผ่านทางนี้เพราะจะมีราคากำหนดตายตัวอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องราคาเราว่าพอๆกับ Taxi ที่ไทยนะ ไม่แพงมาก พอหารกันราคาก็รับได้อยู่ค่ะ อาจจะแพงกว่า Metro นิดหน่อยแต่แลกกับความสบายใจ พวกเรายอมค่ะ แต่ถ้าออกไปนอกเมืองหน่อยที่ไปพระราชวังต่างๆก็ใช้รถสาธารณะของเค้าเลย สะดวก และ เดินทางง่าย
กลับเข้าเรื่องวันเเรกเลยนะคะหลังจากรับกระเป๋าเราก็ไม่รอช้าเปิดapp uberเเล้วเรียกไปโรงเเรมเราเลยค่ะ
ระหว่างทางเราก็ชื่นชมกับเมืองเค้า เราว่าเมืองนี้มีความโรแมนติกมากๆอาจจะเพราะการแต่งไฟส้ม บวกกับตึกที่เมืองนี้เนี่ยจะออกเป็นยุโรปเลย ไม่เหมือน Moscow หรือMurmansk ที่เราไปมาเลย เรียกได้ว่า 3 เมือง 3 สไตล์ก็ว่าได้
มาถึงโรงแรมที่เราเลือกพักตลอดการอยู่ที่ St.Petersburg ก็คือ "Galunov Hotel"
โรงแรมนี้คือดีมากกกกกกกกก เราแนะนำเลย หลังจากหาข้อมูลเรื่องที่พักมาพอสมควร ก็มาแพ้ที่โรงแรมนี้เนื่องจากทางโรงแรมเค้ามีไอศกรีม อาหารว่าง และเครื่องดื่มบริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมงจ้าาา ดีในดีไปอีก ในส่วนของห้องพักเราจองเป็นห้อง standard ขนาดของห้องก็จะไม่กว้างมาก แต่ความสะดวก สบายก็ยังคงครบเครื่อง ทีเด็ดของโรงเเรมนี้ที่มีแต่แขกพูดถึง นั่นก็คือ มีเพลงทั้งในห้องนอนและห้องน้ำเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะธุระหนัก หรือเบา ก็จะมีเพลงช่วยเพิ่มความสุนทรี
Nov15 , 2018 ( Smolny Cathedral - Catherine Palace- Hermitage)
เนื่องจากวันนี้เราแพลนกันว่าจะไปพระราชวัง Catherine แต่เนื่องจากพระราชวังจะเปิดให้เข้าตั้งแต่ตอนเที่ยงเป็นต้นไป เราเลยหาที่เที่ยวกันที่ไม่ไกลจากโรงแรมเราก่อนไปพระราชวังตอนบ่ายๆ เเละตกงกันว่า Smolny น่าจะเหมาะที่สุด
: Smolny Cathedral :
เป็นสำนักชีเก่า มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับของ เอลิซาเบธ พระราชธิดาของปีเตอร์มหาราช หลังจากพระนางถูกปฏิเสธสิทธิการขึ้นครองราชต่อจากพระราชบิดา พระนางถูกไล่ให้ไปบวชเป็นแม่ชีจึงได้สร้างสถานที่แห่งนี้เป็นสำนักชี ทำให้เราคิดได้ว่าการจะมาซึ่งความยิ่งใหญ่นั้นบางครั้งเบื้องหลังเค้าต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง....... อาคารแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ฟรันเชสโก บาร์โตโลเมโอ รัสเตรลลี สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่สวยงาม
พอมาถึงก็เข้าประตูไปทางด้านขวามือเดินตรงไปอีกไม่ไกลเราก็จะเจอประตูทางเข้าเพื่อเข้าไปชมโบสถ์นี้ โดยการเข้าชมจะไม่เสียค่าเข้าชมแต่ถ้าต้องการขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากข้างบนนั้นจะต้องเสียค่าเข้าเพิ่มนะคะ วิวจากข้างบนก็จะมองเห็นวิวเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กและแม่น้ำเนวาที่ไหลผ่านเมืองแห่งนี้ด้วย
หลังจากดื่มด่ำกับโบสถ์สักพัก เราก็เรียก Uber เพื่อเตรียมตัวไป
:Catherine Palace:
การเดินทาง: ไปลงที่ Metro Moskovskaya และเดินต่อไปขึ้นรถมินิบัสหลังรูปปั้น เลนิน
สายที่ขึ้นได้ได้แก่ สาย K-342 หรือ K-545 ลงสถานี Leont'evskaya
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
จองได้ตามลิ้งค์ http://tkt.tzar.ru/en/#id=1
เนื่องจาก Catherine Palace นี้จะจำกัดคนเข้าในแต่ละวัน เราเลยจองผ่านทางออนไลน์ล่วงหน้ามาก่อนโดยเข้าชมเป็น Catherine Palace historic interiors ห้องที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเข้าชมพระราชวัง คือ ห้อมอำพัน หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าอำพันคืออะไร
อำพัน คือ ยางไม้ที่ไหลออกมานอกลำต้นแล้วรวมตัวแข็งเป็นก้อนจนกลายเป็นหิน มีสีเหลืองใสเป็นเงา ซึ่งหายากและมีราคาแพงมหาศาล
ถ้าคนที่เคยดูหนังเรื่อง Jurassic park อาจจะพอคุ้นๆอยู่บ้าง เพราะมันก็คืออำพันเดียวกันกับที่ประดับบนหัวไม้เท้าของดอกเตอร์ซึ่งมียุงอยู่ภายในอำพัน ห้องนี้หลังจากที่ผ่านการสร้างครั้งแรกแล้ว ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ก็ถูกประเทศเยอรมันบุกและ ก็ได้ถูกอำพันก็หายสาบสูญไป ห้องอำพันปัจจุบันนี้นั่นเป็นห้องที่สร้างโดยได้รับเงินจากบริษัทของเยอรมันเป็นจำนวนเงิน 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐกันเลยทีเดียว
ความรู้สึกตอนเราเข้าไปในห้องนี้รู้สึกตะลึงกับความสวยงาม และละเอียดปราณีตของงานแต่ละชิ้นของเค้ามากๆ เรียกได้ว่าแค่เข้าไปเห็นห้องเดียวก็คุ้มยิ่งกว่ากับการมาเที่ยว Catherine Palace แล้ว
ภายในห้องอำพันไม่สามารถถ่ายรูปได้นะคะแต่สามารถถ่ายจากห้องข้างๆเข้าไปข้างในได้
เมื่อเดินชมความงามของราชวังกันพอสมควรแล้วเราก็นั่งรถบัสกลับไปในเมืองเพื่อเดินเล่นเก็บบรรยากาศแถว Hermitage กัน เนื่องจากเวลาเราค่อนข้างน้อยเราจึงไม่ได้เข้าชมภายใน hermitage เลยคุยกันไว้ว่าสงสัยต้องมาซ้ำอีกรอบแล้ว5555
หลังจากเดินเล่นอยู่สักพักก็ได้เวลาทานอาหารเย็นกัน
ร้าน Teplo เป็นร้านอาหารเล็กๆ อบอุ่นๆ ที่เราเตรียมหามาตั้งแต่เริ่มทำทริปแล้ว และตั้งใจว่าร้านนี้เราต้องโดน!
ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจาก St.isaac cathedral ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที พอเราเดินไปถึงร้านไม่ผิดคลาดเลยค่ะ คนแน่นเต็มร้านเลย โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนท้องถิ่นที่จะมาทานร้านนี้ อาหารที่นี่ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยนะคะ แนะนำๆ สมกับที่ซ้อมเดินใน google map มานาน ผ่านค่ะผ่าน
Nov16 , 2018 ( Peterhof palace - St.isaac cathedral - Nevsky prospekt - Church of the Savior on Spilled Blood )
Peterhof Palace
การเดินทาง: ขึ้นรถบัสหน้าสถานี Avtovo สายที่นั่งได้มีหลายสายเลยค่ะ 200 210 K-224K K-242A ลงที่สถานี
Pravlenskaya St. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
Peterhof Palace เป็นพระราชวังของปีเตอร์มหาราชซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก พระราชวังสีเหลืองประดับด้วยสีทอง รวมถึงรูปปั้นสีทองทำให้พระราชวังดูโอ่อ่า สวยงาม สมฐานะ ในส่วนไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่น้ำพุในสวนอันยิ่งใหญ่ ถ้ามาฤดูร้อนจะได้เห็นโซนน้ำพุสวยงามซึ่งจะมีน้ำพุ่งสูงพุ่งขึ้นมาด้วยซึ่งต้องเสียค่าเข้าชมโซนสวนอีกทีนึงค่ะ แต่เนื่องจากช่วงที่เราไปนั้นเป็นเดือนพฤศจิกายนส่วนของน้ำพุจึงไม่ทำงานเราจึงเดินมาถ่ายรูปกับบริเวณน้ำพุได้ฟรี! ;) อ้อแล้วที่ขาดไม่ได้ของการมาเยือน peterhof palace คือ เป็นรูปปั้นแซมซันกำลังแหวกปากสิงโตอยู่ รูปปั้นนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1735 เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีแห่งชัยชนะของกองทัพรัสเซียเหนือสวีเดนค่ะ แซมซัน หมายถึงรัสเซีย ส่วนสิงโตก็หมายถึงสวีเดน
หลังจากเดินชมภายในพระราชวังและภายนอกเรียบร้อยเเล้วเราก็นั่งรถกลับมาเพื่อไปต่อกันที่
St.isaac cathedral
เป็นวิหารออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้นๆในโลก ตั้งชื่อตามนักบุญไอแซคแห่งดัลเมเชีย ผู้เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช ภายนอกว่าอล้งการแล้วพอเดินเข้าไปข้างในถึงกับร้องว้าวววววววว! อะไรจะโหดเบอร์นี้ สร้างได้ยิ่งใหญ่เเละสวยงามมาก ทั้งรูปปั้นตรงประตู ภาพต่างๆที่ประดับอยู่บนผนังซึ่งทำด้วยโมเสส และเสาหินสีต่างๆที่เป็นของหายาก โดยเสาหินมาลาไคท์คือต้นสีเขียว ส่วนเสาหินลาพิส ลาซูลีคือต้นสีน้ำเงินอมม่วง ภายในวิหารยังคงมีการประกอบพิธีกรรมกันอยู่นะคะ ช่วงจังหวะที่เราเข้าไปมีโอกาสได้เห็นพอดี
เดินชมในวิหารนี้ เรียกได้ว่าลืมเวลาไปเลยทีเดียว เนื่องจากดื่มด่ำไปกับสถาปัตยกรรมสุดอลังการของเค้า ยอมรับจริงๆเรื่องความยิ่งใหญ่ของพี่รัสเซีย
จากนั้นเราก็มาเดินเล่นชิวๆกันที่ Nevsky prospekt และไม่ลืมที่จะไปเก็บภาพที่ โบสถ์หยดเลือดก่อนที่เราจะไปกินที่ร้าน City grill และกลับไปเปลี่ยนชุด พักผ่อนที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัวกลับไทย
Bye Bye RUSSIA ........ we will miss you <3
ค่าใช้จ่ายในทริปนี้ 8 วัน 6 คืน 3 เมือง
- ค่าตั๋วเครื่องบิน 5 flight รวม : 20,200 บาท
เที่ยวบินระหว่างประเทศ
BKK-SVO , LED-SVO-BKK ประมาณ 15000 บาท
เที่ยวบินภายในประเทศ
SVO-MMK, MMK- LED ประมาณ 5200 บาท
- ค่าทัวร์ Murmansk 2 วัน 2 คืน : ประมาณ 7500 บาท
- ค่าโรงแรม 6 คืน : ประมาณ 6000 บาท( GOLDEN RING - PEARL OF MURMANSK- GALUNOV )
- ค่าเข้าชมพระราชวังต่างๆ + ค่าเดินทาง : ประมาณ 2300 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งทริป 36,000 บาท (ไม่รวมค่าอาหารแต่ละมื้อ)
————-
ฝากไลค์และแชร์แบ่งปันคนอื่นกันด้วยนะคะ ได้เห็นคนติดตามและชื่นชอบ เราก็สุขใจที่ได้แบ่งปันกันต่อเรื่อยๆค่ะ พวกเรามีงานประจำที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ได้เที่ยวเป็นอาชีพ รูปอาจไม่สวยเพอร์เฟ็ค ข้อความอาจไม่โดนใจ ช้าบ้างไรบ้าง แต่เราตั้งใจทำเพราะเราอยากแบ่งปันเรื่องราวและความทรงจำที่ทั้งดีและไม่ดี ลงในพื้นที่แห่งนี้ เท่านี้ค่ะที่อยากบอก 😉😊
Facebook Page : โตแล้วเที่ยวเองได้ " https://www.facebook.com/Roam.Da.World/ "
โตแล้วเที่ยวเองได้ RDW journey
วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 18.01 น.