PART 2: กระทู้นี้เป็นพาร์ทของเมือง MURMANSK (NOV 12-14, 2018)
ต่อจาก PART#1 Moscow นะคะ
————-
ฝากไลค์และแชร์แบ่งปันคนอื่นกันด้วยนะคะ ได้เห็นคนติดตามและชื่นชอบ เราก็สุขใจที่ได้แบ่งปันกันต่อเรื่อยๆค่ะ พวกเรามีงานประจำที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ได้เที่ยวเป็นอาชีพ รูปอาจไม่สวยเพอร์เฟ็ค ข้อความอาจไม่โดนใจ ช้าบ้างไรบ้าง แต่เราตั้งใจทำเพราะเราอยากแบ่งปันเรื่องราวและความทรงจำที่ทั้งดีและไม่ดี ลงในพื้นที่แห่งนี้ เท่านี้ค่ะที่อยากบอก 😉😊
Facebook Page : โตแล้วเที่ยวเองได้
" https://www.facebook.com/Roam.Da.World/ "
ครั้งหนึ่งในชีวิต......กับแสงเหนือที่ Murmansk, Russia 🇷🇺🇷🇺🇷🇺
ถ้าพูดถึงครั้งหนึ่งในชีวิตนั้น เราอยากจะทำอะไร?
ประโยคที่ว่า " YOU ONLY LIVE ONCE " นี่เป็นประโยคที่เราใช้เตือนสติตัวเองบ่อยมาก เพราะชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เหมือนท่อนนึงในเพลง The night ของ Avicii :
"That's when I decided when I die, I want to be remembered for the life I live, not the money I make."
เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้เราทำอะไรได้ ที่มีความสุข โดยที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น เราก็จะทำ!
และแน่นอนที่สุดหนึ่งในความฝันของเราก็คือการได้เห็นแสงเหนือกับตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งก็เป็นที่มาของทริปนี้........
เนื่องจากเมือง Murmansk เป็นเมืองที่เดินทางเองค่อนข้างลำบากเ ราจึงจำเป็นต้องมีไกด์
เราก็เริ่มหาข้อมูล คิดแพลน และ คุยกับไกด์จากบริษัทดังๆ 3-4 เจ้าด้วยกันสุดท้ายเราก็ทำการดีลกับ Murmansk English Guide เป็น Private tour
แพลนของเราคือ
คืนแรก.. เราออกเดินทางเพื่อล่าแสงเหนือก่อนเลยค่ะ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ เพราะไม่อยากรอแม้แต่วันเดียว 🤣🤣
______________
วันที่สอง.. เราเดินทางไป Teriberka Arctic Ocean แล้วกลับมาทานข้าวให้อิ่มหนำแบบว่าอย่าให้หมดแรงก่อนการล่าเป็นอันขาดนะคะ เพราะเรามาเพื่อสิ่งนี้ ก่อนออกไปล่าแสงก็อย่าลืม!!! พกดวงพวกโชคเอาติดตัวไปด้วยนะคะ อันนี้สำคัญมากกกกกก 😆😆
______________
วันที่สาม.. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอยู่ที่ Murmansk พวกเราเดินทางไป Husky farm และ Saami village จากนั้นเตรียมขึ้นเครื่องรอบดึกไป st.petersburg กันต่อ
โดยทริปนี้เรามีเวลาอยู่ที่ Murmansk ด้วยกัน 2 วัน 2 คืน(NOV 12-14, 2018) นั่นหมายความว่าเราล่าแสงเหนืออยู่ 2 คืนด้วยกันซึ่งน้อยมาก อย่างที่รู้ๆกันว่าแสงเหนือเนี่ยเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยว่าจะเห็นรึเปล่ารู้แต่ช่วงเวลาซึ่งก็คือตุลาคม-มีนาคม
เมื่อรู้อย่างงี้แล้วเราก็ไม่รอช้าก่อนนอนทุกคืนก็ภาวนาว่า”ขอให้ความดีที่ลูกทำมาทั้งหมดขอให้ลูกเห็นแสงเหนือด้วยเถ้ออออ สาธุ! ”🙏🙏🙏
NOV 12 ,2018 (Aurora Hunting)
ถึงสนามบิน Murmansk .....
สนามบิน Murmansk เป็นสนามบินเล็กที่มีสายพานแค่สายพานเดียวเองค่ะ เล็กน่ามาก พอรับกระเป๋าเสร็จก็ออกเจอกับไกด์ของเราและกลับไปเก็บของที่ที่พัก ระหว่างอยู่ที่ Murmansk พักเป็น Apartment ชื่อ Pearl Of Murmansk ถึงภายนอกอาจจะดูเก่าหน่อยแต่ในภายห้องก็ถือว่าใช้ได้เลย ทีสำคัญคือมีครัวด้วย
และแล้วคืนที่รอคอยเเรกมาถึง......ระหว่างอยู่บนรถกลับที่พักเราก็ถามไกด์ว่าคืนนี้เรามีโอกาสเห็นแสงเหนือกันมั๊ย ไกด์ก็ตอบแบบไม่คิดมากเลยจ้าาา ว่าน่าจะยากเพราะวันนี้ฟ้าค่อนข้างปิด10วันมานี่ไม่เห็นเลยสักวัน แต่เค้าจะพยายามให้ดีที่สุด 😢 แค่ได้ฟังก็ใจห่อเหี่ยวไปแวปนึงแต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเห้ยเราอาจจะดวงดีก็ได้ พอถึงเวลา4ทุ่มไกด์ก็มารับเราที่หน้าที่พักพร้อมกับบอกว่า เรารีบออกกันเถอะเห็นเค้าว่าฟ้าโปร่งทางตอนเหนือเท่านั้นแหละ ความหนาวเย็นทั้งหมดก็หายไปตื่นเต้นมากกกกกกก กรี้ดดดดดด
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงไกด์ก็มีท่าทีเปลี่ยนมองซ้ายทีขวาทีแล้วก็ทำเสียงตื่นเต้นจากนั้นเค้าก็หันมาคุยกะพวกเราว่าเราเจอแสงแล้วลงไปดูกัน ทุกคนตื่นเต้นมากแต่พอก้าวเท้าลงไปถึงพื้นครบสองข้างเท่านั้นแหละไกด์ก็บอกเราเปลี่ยนที่ดูกันดีกว่าเนื่องจากตรงนั้นค่อนข้างอันตรายข้างหน้าเนี่ยมี best spot อยู่ขับต่อไปอีก5นาทีก็ถึง best spot ของฮีพอลงมาจากรถเท่านั้นแหละ โอ้โหวววววววว คือแสงเหนือสวยมากกกก พร้อมกับดาวที่เยอะมาก ที่เค้าบอกว่าอลังการดาวล้านดวงเนี่ยของจริงเลย เข้าใจแล้วค่าาา🤩🤩🤩🤩🤩ดูไปสักพักอยู่ดีก็มีดาวตกตกลงมาอีก โอ้โห!!!!!! ความโชคดีในโชคดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง ไกด์ถึงกับบอกว่าพวกคุณโชคดีจริงๆ
ถ่ายรูปกับแสงเหนือพร้อมกรี๊ดกร๊าดกันสักพักใหญ่ๆก็คุยกะไกด์ว่าเมื่อไหร่เราถึงจะเห็นแสงสีแดงกะเเสงเหนือเต้นหรอ(เริ่มมีความโลภ5555)ไกด์ก็บอกเดือนนึงนี่เห็นแค่ครั้ง2ครั้งเองนะ ให้เตรียมตัวกลับกันดีกว่าเดี๋ยวเค้าไปบอกคนขับรถให้มารับใกล้ๆ พอเค้าเดินไปได้3ก้าวเท่านั้นไกด์ก็กรีดร้องว่า Look Look Look!!!! พอมองไปบนฟ้าเท่านั้นแหละโอ้โหแสงเหนือเต้นแบบเต้นไปเต้นมาทั่วท้องฟ้าระเบิดแล้วระเบิดอีกแสงเหนือสีแดงก็มาด้วยจ้าาาาาาา ความรู้สึกตอนนั้นคือบรรยายไม่ถูกกเลยจริงๆมันสวยมากกกก แบบมากกกๆๆๆ มันดูมีชีวิต ดาวก็เต็มท้องฟ้าถึงกะต้องถามตัวเองเบาๆในใจว่าเห้ยยยนี่เราอยู่นอกโลกปะเนี่ยทุกคนตะโกนกันกันแบบโว้วววววว โว้ววววววกันดังสนั่น เราว่าของจริงที่เห็นนี่สวยกว่าในรูปนะ สีอาจจะไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ความอลังนี่ที่สุดของที่สุด พูดได้เลยว่ามันเป็น The best moment in my life เลยก็ว่าได้
Tips: ระหว่างทางไปล่าแสงเหนือพี่ๆพวกเราได้สวดคาถาชินบัญชร โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรมรังสี) 🙏
*ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมรับฟังนะคะ
NOV 13 ,2018 (Teriberka & Arctic Ocean - Aurora Hunting)
Teriberka village เป็นเมืองที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองของ Murmansk ประมาณ 130 Km ซึ่งใช้เวลา 3 ชม.กว่าด้วยรถยนต์ ระหว่างทางวิวข้างทางนี่เรียกได้ว่าเป็นวิวที่แปลกตามากสำหรับเรา คือจะเป็นภูเขาที่มีน้ำแข็งปกคลุมสลับกับธารน้ำซึ่งกลายเป็นน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว
จุดนี้เพลง let it go let it go ก็ก้องอยู่ในหัววนไปพร้อมกับมโนว่าตัวเองป็นเอลซ่า 👱🏼♀️👸🏻❄️
ไกด์ของเราก็มีจอดข้างทางเพื่อถ่ายรูปเก็บบรรยากาศหิมะรอบๆ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเข้าไปอยู่ในช่องแช่แข็งตู้เย็น แล้วไกด์ก็พาพวกเราไปชิมเบอร์รี่แถบขั้วโลกด้วยจ้า วิธีกินก็ง่ายมากเด็ดจากต้นบนพื้นแล้วจับเข้าปากได้เลย 😋😋
แวบแรกที่เราเห็นนี่นึกถึงเบอร์รี่พิษในหนัง the hunger games เลยจ้าาาา มันมีความคล้าย5555 ไกด์คงเห็นท่าเงอะๆงะๆ แบบใจนึงก็อยากลอง อีกใจก็กลัว คิดไปต่างๆนาๆว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้นี่ไหมว้าาา จนพี่แกต้องมาบอกว่ากินได้จริงๆพร้อมกับชิมให้ดู พวกเราเลยกล้าลอง รสชาติของเบอร์รี่ก็จะออกเปรี้ยวนิดๆ ส่วนตัวเราว่าไม่แย่นะ
แล้วเราก็เดินทางต่อไปที่ teriberka village ไกด์เล่าให้ฟังว่าที่หมู่บ้านนี่เนี่ยแต่ก่อนอู้ฟู่รุ่งเรืองมากนะ ทำพวกอุตสาหกรรมประมงแต่ตอนหลังมาหมู่บ้านนี้ก็ไม่สามารถสู้กับบริษัทใหญ่ๆได้ เลยออกจะเป็นเมืองร้างๆหน่อย แต่เรามองว่าก็เท่ไปอีกแบบ
วันนี้เราพกกล่องข้าวน้อยกันมาเป็นมื้อกลางวัน เมนูกลางวัน คือ ข้าวผัดรวมมิตร ใส่ปลาแซลมอน ไข่ ไส้กรอก แฮม หอมใหญ่ ต้นหอม
ปรุงรสด้วยผงรสดี และผงน้ำมันหอย ผัดโดยฝีมือเพื่อนเราเอง ก็จะจัดเต็มกันประมาณนี้ค่ะ
...จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปที่ Arctic Ocean ไกด์ก็พูดว่าเนี่ยเรากำลังจะถึง
The end of the road
The end of the land and
The end of the world !!!
แค่ได้ฟังกันเท่านั้นแหละพวกเราก็ร้อง ว้าววววววว!! ออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
อะไรจะอยู่ยิ่งใหญ่เบอร์นั้น หลังจากนั้นพอถึงแล้วรถต้องจอดและพวกเราก็เดินต่อกันเพื่อจะได้ไปถึง The end of the land ที่แท้ทรู
จากนั้นก็ไปต่อกันแบบไม่รอช้าที่น้ำตกซึ่งไหลลงไปสู่มหาสมุทร Arctic เนื่องจากช่วงที่เราไปนั้นพระอาทิตย์ตก เวลา 2:47 pm จ้าเลยต้องรีบทำเวลาสักนิด
พอกลับมาจาก Teriberka เราก็มาเติมพลังกัน ก่อนออกล่าแสงเหนือ
ร้านดีคือดีงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ให้ดาวไปเลยร้อยดวง เเนะนำๆๆค่ะ
ขาปู คัมชัตกา ก็จะประมาณนี้ เนื้อนี่ หวาน เด้งสู้ฟันมาก
พอได้กินก็หน้าตาก็จะมีความสุขประมาณนี้ค่ะ
ตามมาด้วย ปลา Halibut จานนี้คือชอบมาก mash potato ก็ดีงาม
จานนี้ new york steak พอกินแล้วถึงกับตีเพื่อนข้างๆเลยคือปริ่มมาก ฮือออ อร่อยยยย เราสั่งแบบ medium rare
จานนี้ BBQ pork rips เด็ดๆๆๆๆๆ
salmon จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เอ้าาาาาชนนนนนน!
ในส่วนของค่าเสียหายมื้อนี้สำหรับ 6 คน คือดีมากกกก คือมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
คืนนี้ฝนตก เราเริ่มถอดใจนึกว่าจะไม่เห็นกันซะแล้วแต่ด้วยความเก่งกาจของไกด์ก็พาเรามาเจอแสงเหนือคืนที่ 2 จนได้
NOV 14 ,2018 (Husky Farm - Saami village)
วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่ Murmansk กัน ก่อนจะบินต่อไปยัง St.petersburg
โปรเเกรมแรกของวันนี้คือไป Husky Farm จะได้เห็นว่า Husky ที่แท้ทรูนั้นจะเหมือนบ้านเรารึเปล่า
พอเราไปถึงจะมีคนดูแลฟาร์มมารับเรา ทักทายและพาไปชมฮัสกี้ และสุนัขพันธุ์ต่างๆ รวมถึงหมาจิ้งจอกก็มีด้วยนะ
ในความรู้สึกของเราหมาจิ้งจอกต้องน่ากลัวมากแต่ความคิดของเราก็เปลี่ยนไปตั้งแต่คืนก่อนที่เรานั่งรถออกไปล่าแสงเหนือกัน ไกด์เราก็จอดรถข้างทางที่สองข้างเป็นป่าแล้วบอกว่า คืนนี้เราอาจจะไม่เห็นแสงเหนืองั้นเรามารอเตรียมให้อาหารสุนัขจิ้งจอกกันดีกว่า ให้เตรียมเเครกเกอร์ แล้วถ้าเห็นตาสัตว์โผล่มาไม่ต้องตกใจ นั้นคือสุนัขจิ้งจอกกกก คุณพระ!!!!! นี่เราหูฝาดไปรึเปล่า สุนัขจิ้งจอกนะคู๊ณ ไม่ใช่ปอม แต่สรุปแล้วคืนนั้นเราเจอเเสงเหนือแทนหมาจิ้งจอกค่ะ เย้!
ก่อนจะกลับที่ฟาร์มกำลังจะซ้อมฮัสกี้ลากเลื่อน พวกเราเลยโชคดีมีโอกาสได้เห็นความแข็งแรงของฮัสกี้กันโดยทางฟาร์มเค้าจะเลือกตัวที่เป็นผู้นำคือตัวที่ฉลาดแล้วสามารถคุมตัวอื่นๆได้อยู่หน้าสุด เพื่อเป็นหัวเเรงในการลาก หมาแต่ละตัวที่เค้าคัดมานั้นตื่นตัวมากๆในการจะวิ่ง พอฟังสัญญาณจากครูฝึกว่าให้วิ่งได้ก็วิ่งกันจนล้อฟรีเลยทีเดียว
ต่อกันที่ Saami Village เป็นชนเผ่าที่กระจายอยู่ตามแถบสแกนดิเนเวียแต่จนมาถึงตอนนี้ก็แทบจะไม่มีแล้ว ที่เราไปก็เป็นประมาณ open air museum ซะมากกว่าโดยมีคน Saami ทำหน้าที่เป็นไกด์ให้เราระหว่างอยู่ที่นั่นแต่ไกด์ของเราก็จะทำหน้าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษให้เราฟังอีกที
จากนั้นเราก็แวะทานข้าวเย็นก่อนขึ้นเครื่องต่อไป St.petersburg รอบสองทุ่มกว่า
และก็ไม่ลืมที่จะมาส่ง postcard กลับที่ไทย
ติดตามตอนต่อไป.........
PART 3 : ST.PETERSBURG -----> https://pantip.com/topic/38367507
โตแล้วเที่ยวเองได้ RDW journey
วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 18.22 น.