หลาย ๆ คน ก็คงอยากจะมีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ตามล่าแสงเหนือสักครั้งในชีวิต ตัวเราเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น แม้จะเคยอยู่ประเทศที่มีแสงเหนือแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปล่าแสงเหนือเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งก็เลยเกิดทริปตามล่าหาแสงเหนือเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากไปแบบใช้เงินมากมาย เพราะมันจะผิด concept การเที่ยวของเรา ดังนั้นรัสเซียจึงเป็นจุดหมายในการเดินทางไปล่าแสงเหนือ "มูร์มันสค์" จึงเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่จะล่าแสงเหนือ และมอสโกเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวเพื่อให้คุ้มกับการเดินทางไปรัสเซียทั้งที สรุปเที่ยวสองเมืองกับเงินไม่เกิน 40k จ้า (ไม่รวมของฝากและช๊อปปิ้งนะคะ)
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป (เดินทางในช่วง High Season, วันหยุดยาวปีใหม่ค่ะ)
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ BKK to Moscow โดยสายการบิน Aeroflot บินตรง 10 ชั่วโมง สายการบินประจำชาติรัสเซีย ถือว่าโอเค ได้มาในราคา 20,127 บาท สำหรับการจองตั๋วจะต้องใจเย็น ๆ นะคะ เช็คราคาเรื่อย ๆ ผ่านทางเวบจองออนไลน์หลาย ๆ เวบ แล้วราคาจะลงในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ให้รีบจองเลยค่ะ เพราะปกติราคาจะอยูที่ 25,000 - 30,000 บาท จ้า
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Moscow-MMK เนื่องจากมูร์มันสค์ อยู่ห่างจากมอสโกโดยการบินไปประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ทำให้ต้องบินต่อเครื่องภายในประเทศคะ โดยหากจะให้สะดวกก็ควรจะบินสายการบินเดียวกันคือ Aeroflot แต่ระวังเรื่อง terminal นิดนึงนะคะ เพราะสนามบินมีหลาย terminal มาก ๆ จ้า อาจจะไปผิดเหมือนเราได้นะเออ ได้มาในราคา 4,745 บาท
- ค่าโรงแรมที่มูร์มันสค์ สำหรับ 3 คืน คนละ 3,000 บาท (คืนละ 2,000x3) เรานอนที่โรงแรม Boutique Hotel Renaissance สำหรับใครที่อยากนอนหรู ๆ กว่านี้ก็สามารถจองโรงแรมอื่น ๆ ได้จ้า แต่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะว่าอยู่ในเมือง และราคาไม่แพงมาก สบายกระเป๋า มีอาหารเช้าให้ทานจนอิ่ม จากโรงแรมสามารถนั่ง taxi ไปห้างได้ในราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปร้านอาหารชื่อดังที่ใคร ๆ ที่มามูร์มันสค์ก็ต้องไปทาน อย่าง Tundra Grill & Bar
- ค่าโรงแรมที่มอสโก เราพักที่ Courtyard by Marriott Moscow Paveletskaya Hotel สำหรับ 2 คืน คนละ 2,500 บาท (คืนละ 2,500x2) โรงแรมนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากจะเดินทางเข้ามอสโกด้วยรถไฟ หรือว่าเดินทางไปต่างเมืองต่อด้วยรถไฟ เพราะว่าสามารถเดินเพียง 5 นาทีไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (metro) และรถไฟไปสนามบิน ไปเมืองต่าง ๆ ได้ สะดวกสำหรับการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองมอสโกด้วย ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้วจ้า
- ค่า package tour ที่มูร์มันสค์ พร้อมรับ-ส่งโรงแรม คนละ 6,500 บาท โดยในราคานี้รวมทั้งหมด 3 โปรแกรม ได้แก่ ล่าแสงเหนือหนึ่งคืน (เขาจะเลือกคืนที่มีเปอร์เซ็นต์เห็นสุดให้เรา) ทัวร์ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ พร้อมนั่งหมาลากเลื่อน และทัวร์หมู่บ้านชนเผ่าโบราณ และนั่งกวางลากเลื่อน นับว่าคุ้มสุด ๆ คะ เพราะว่าแต่ละที่เดินทางไกล ๆ ทั้งนั้นเลย
- ค่า taxi รับส่งสนามบินจาก SVO (สนามบินที่มอสโก) ไปโรงแรมในมอสโก คนละ 1,000 บาท โดยจองผ่าน booking.com ได้เลยค่ะ เขาจะลิงค์ไปที่ ride away สะดวกมาก ๆ แนะนำเลยค่ะ บริการดี มีการอัพเดตรายละเอียดผ่านอีเมล์ตลอดค่ะ แม้ว่าพูดภาษารัสเซียกับคนขับไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหาคะ
- ค่า taxi ในการเดินทางภายในมูร์มันสค์และค่า metro ที่มอสโก ประมาณคนละ 500 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ต่าง ๆ ที่มอสโก ประมาณคนละ 1,000 บาท
- ค่าอาหาร 2 มื้อ จำนวน 5 วัน ประมาณคนละ 3,000 บาท อาหารที่นี้ไม่แพงมาก มื้อหนึ่ง ๆ ก็ประมาณ 200 - 300 บาท หากวันไหนกินหรูก็คนละ 500 บาท
รวมทั้งหมดประมาณคนละ 39,872 บาท
แต่ควรเตรียมเงินไปแบบเหลือ ๆ ดีกว่า เพราะว่าไปถึงแล้ว จะอดใจช๊อปปิ้งไม่ได้ เพราะของที่รัสเซีย โดยเฉพาะไปช่วงเทศกาลนับว่าราคาถูกมาก ๆ สำหรับใครชอบแบรนด์ยุโรป ก็สามารถไปหาซื้อกันได้ที่รัสเซียกันหลายแบรนด์เลยทีเดียว ราคาจับต้องได้จ้า
*สำหรับอุปกรณ์กันหนาวสำหรับคนที่จะไปช่วงฤดูหนาวอย่างเรา แนะนำว่าให้เตรียมไปแต่น้อย ส่วนที่เหลือสามารถไปหาซื้อได้ที่ห้างที่มูร์มันสค์ ราคากับคุณภาพมันช่างสวนทางกันจริง ๆ คือ คุณภาพดีมาก ๆ แต่ราคาย่อมเยาจริง ๆ อย่างรองเท้าบูทดี ๆ เริ่มจาก 500 - 1000 บาท ได้เลย แบรนด์ดัง ๆ ก็คู่ละ 2,000 บาท เองอย่างโคลัมเบีย ก็สองพันกว่า ๆ ก็มี เสื้อกันหนาวยิ่งถูก แนะนำเลยคะว่า หากไม่มีไม่ต้องกังวลไปเลยที่ห้าง Murmansk Mall Shopping and entertainment center นั่งแท๊กซี่ไปได้เลยจ้า
การเดินทางในรัสเซีย
-taxi แนะนำให้โหลด application ของ yandex มาสำหรับเรียก จะมีบอกราคาเรียบร้อยเลยว่าเท่าไหร่ แต่สำหรับการเดินทางที่ มอสโกแนะนำ metro เพราะว่าสะดวกกว่า เพราะรถค่อนข้างติด
-metro ที่มอสโก ราคาเริ่มต้นประมาณ 27 บาท (คิดเป็นเงินบาท) ต่อเที่ยว จะลงที่ไหนก็คิดราคานี้ เพราะฉะนั้นคำนวณสถานที่จะไปให้ดี ๆ แล้วก็ซื้อเป็นเที่ยว ๆ ไป สามารถซื้อที่ตู้ หรือ กับคนก็ได้ สะดวกมาก ๆ
ทัวร์ล่าแสงเหนือ แสงเหนือคืออะไรเกิดจากอะไร เราจะไม่ขอเขียนอธิบายอะไรมาก ณ จุด ๆ นี้ เพราะทุกคนคงสามารถหาข้อมูลได้เองอยู่แล้ว แต่แสงเหนือที่มูร์มันสค์ดีอย่างไร เพราะมันอยู่ที่รัสเซีย ซึ่งคนไทยเข้ารัสเซียไม่ต้องขอวีซ่าจ้า ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าการเดินทางไปประเทศอื่น ๆ จ้า สำหรับทัวร์เราจองกับไกด์ท้องถิ่นผ่านทางเฟสบุ๊ค การจองไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าแต่อย่างใด แค่ส่งตั๋วเครื่องบินว่าเรามีจะบินไปจริง ๆ ก็พอ แล้วเงินค่อยจ่ายตอนไปเจอกับเขาได้เลยคะ เราจองที่ Aurora-Transfer Murmansk จ้า ติดต่อไปทางเพจเฟสบุ๊คได้คะ โดยเราสามารถเลือกเป็นจำนวนคืนที่เราจะไปได้ เช่นเราอยูที่นั่นสามคืน จะไปดูแสงเหนือหนึ่งคืน หรือสองคืน ก็บอกไปได้ เขาจะเลือกวันที่ฟ้าเปิดที่สุดแล้วจะแจ้งเราอีกครั้ง เมื่อเราไปถึงที่นั่นคะ
ทัวร์ฮัสกี้ฟาร์ม หนึ่งในโปรแกรมทัวร์ยอดฮิตที่หากใครไปที่นี้ต้องไปเยี่ยมชม โดยที่นี้ไม่ได้ถ่ายรูปมามาก เพราะเราหนาวมาก ๆ วันนั้นอากาศ -18 จ้า โปรแกรมประมาณเกือบสองชั่วโมง จะมีการพาไปชมน้องหมาฮัสกี้ต่าง ๆ แล้วก็ปิดท้ายด้วยนั่งหมาลากเลื่อนจ้า เป็นประสบการณ์ที่ดีจริง ๆ สนุกสุด ๆ ไปเลยกับกิจกรรมนี้
ทัวร์หมู่บ้านชนเผาโบราณ Saaimi Village เอาจริง ๆ ก็ไม่ใช่หมู่บ้านที่เขาอยู่จริง ๆ แต่เหมือนการจำลองขึ้นมากกว่า แต่หากไม่คิดอะไรมากมันก็พอได้อยู่ เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง และมีการอธิบายถึงความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน แค่นั่งรถไปจากตัวเมืองก็คุ้มแล้วเพราะไกลมาก ๆ ทางไปก็เป็นป่าตลอดทาง อยู่ลึกมาก ๆ มีการเล่นกีฬาชักกะเย่อ เต๊ะฟุตบอลของเขาและปิดท้ายด้วยการนั่งกวางลากเลื่อน ทีแรกนึกว่ากวางจะลากช้า ๆ ที่ไหนได้เร็วเหมือนกัน
ที่เมืองมูร์มันสค์ ยังมีทัวร์และกิจกรรมอีกมากมาย แต่เนื่องจากเรามีเวลาไม่มาก จึงเลือกเอาแค่กิจกรรมหลัก ๆ หากใครวางแผนจะไปหลาย ๆ วันก็สามารถสอบถามจากทางไกด์ได้เพิ่มเติมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้หากใครชอบเล่นสกี ในฤดูที่เขาเปิดให้เล่นสกี ก็มีลานสกีด้วยนะคะ
ตะลุยมอสโกต่อกันไปเลย
สำหรับมอสโก ใคร ๆ ก็คงจะนึกถึงรูปโบสถ์ที่หลากสีสวยงาม ทุกคนที่มาก็จะต้องไม่พลาดต้องไปเยือน Red Square/ St Basil's Catherdral และ Grand Kremlin Palace และห้างที่เก่าแก่อย่าง GUM shopping mall
การเดินทาง: Metro ที่สามารถลงได้จะมี 2 สถานีด้วยกัน สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ สถานี Ohodniy ryad และ Teatral'naya แต่สถานีหลังจะเดินใกล้กว่าอันแรก แต่ถ้าจะไปพระราชวังเครมลินให้ไปลงสถานี Alexandovsky แต่หากพักที่โรงแรมที่เราพักอยู่ ก็นั่งเพียงสองสถานีเท่านั้น ง่ายต่อการเดินทางมา Red Square เป็นอย่างมาก
การชมภายนอกไม่ต้องเสียเงิน ฟรี สามารถเดินชมได้ ถ่ายรูปได้ หากเข้าด้านในจะต้องเสียค่าเข้าชม โดยหากอยากจะประหยัดสามารถซื้อตั๋วไปล่วงหน้าได้จากเวบไซต์ แต่เราไม่ได้ซื้อไปล่วงหน้า เพราะไม่แน่ใจว่า จะเปิดไหมเนื่องจากเราไปในช่วงปีใหม่ สำหรับ St Basil's Catherdral นั้นวันที่ 31 ธันวาคม ปิดไม่ได้เปิดให้เข้าชม เพราะบริเวณดังกล่าวจะเป็นสถานที่จัดงาน count down ที่จะมีการจุดพลุ แต่เราไปก่อนหนึ่งวันคือวันที่ 30 ธันวาคม ทำให้ไม่ได้พลาดเข้าชมภายในโบสถ์ที่สวยงาม เพียงแต่พื้นที่ในโบสถ์ส่วนมากไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ สำหรับ Grand Kremlin Palace วันที่ 31 ธันวาคมยังเปิดให้เข้าชม เช่นเดียวกันภายในอาคารไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นเราจะมีเฉพาะภาพบริเวณด้านนอกเท่านั้น
นอกจากนี้บริเวณ Red Square ยังมีห้างเก่าแก่ที่มีความสวยงามอีกคือ GUM Shopping mall ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน
"ภายในห้าง GUM"
สถานีรถไฟใต้ดินก็เที่ยวได้
หลาย ๆ คนเมื่อไปเยือนมอสโกก็จะมีทริปเที่ยวชมสถานีรถไฟใต้ดิน เพราะแต่ละสถานีของที่นี้มีความสวยงามมาก ๆ แต่เราไม่ได้ไปหลายแห่ง ไปเฉพาะที่อยู่ไม่ไกลมากจาก Red Square เท่านั้น
สำหรับขาช๊อปปิ้ง ก็สามารถเดินไปช๊อปต่อได้ไม่ไกล กับห้างใต้ดิน ที่มีแบรนด์ของยุโรป และอเมริกา ในราคาที่เราจับต้องได้ (เพราะที่ห้าง GUM จับต้องไม่ได้เลย 55+) โดยห้างนี้มีชื่อว่า Okhotny Ryad Shopping Center โดยอยู่ใกล้ ๆ กับสถานี Okhotny Ryad เราใช้เวลาครึ่งวันที่นี้ เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่ แทบทุกร้านลดแบบสุด ๆ นอกจากนี้หากหิว ก็สามารถทานอาหารได้เลยที่ food center ราคาก็ย่อมเยาเช่นกัน โดยห้างนี้เป็นห้างใต้ดินแต่มีสามชั้นจ้า
หลังจากได้ทั้งดูสิ่งสวยงามจากธรรมชาติ ดูสิ่งปลูกสร้างจากผลงานมนุษย์ และศิลปะต่าง ๆ รวมทั้งช๊อปปิ้งแล้ว นับว่าจุดหมายปลายทางอย่างประเทศรัสเซียก็ดีทีเดียวสำหรับคนที่อยากออกเดินทางท่องโลกให้ไกลอีกนิด โดยไม่ต้องขอวีซ่า และไม่ต้องกังวลว่าภาษาจะเป็นอุปสรรคแต่อย่างไร เพราะว่าคนที่นี้ก็ไม่พูดภาษาอังกฤษจ้า 555+ ขอแค่เตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาให้พร้อม การท่องเที่ยวของเราก็จะไม่สะดุดแต่อย่างไร และจะพบว่าบนโลกใบนี้ ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่น่าไปเยือน และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เดอะ Traveller
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.54 น.