การไล่ตามความฝัน เป็นเรื่องที่ดีมากๆนะ ทำให้เรามีแรง มีความพยายาม มีความตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ เพื่อทำตามความฝัน การท่องเที่ยวก็เช่นกัน ทริปนี้ เราจะไปล่าฝัน 3 อย่างค่ะ ตื่นเต้นมากๆ เราเชื่อว่า 3 อย่างนี้เป็นฝันของหลายๆ คน บางคนอาจจะ 1 อย่างบ้าง 2 อย่างบ้าง หรือ 3 อย่างแบบเราเลย นั่นก็คือ แสงเหนือ ทะเลสาบน้ำแข็งไบคาล และ รถไฟทรานไซบีเรียน และทั้งหมดนี้อยู่ที่ประเทศรัสเซียนี่เอง คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าด้วย อยู่ได้ 30 วันจ้า
ประเทศรัสเซีย อยู่ในทวีปเอเชียนะคะ เพราะแผ่นดินส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย แต่พื้นที่ที่เป็นเมืองใหญ่ และประชากรจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Moscow หรือ Saint Petersburg อยู่ฝั่งที่ติดกับยุโรป เลยอาจจะทำให้เข้าใจว่าเป็นยุโรป เพราะหน้าตาคนรัสเซียก็ไม่เอเชียซะด้วยสิ
ปล. ข้อมูล มีนาคม 2568 ค่าเงิน 1 รูเบิล ประมาณ 0.4 บาท

ไปเดือนไหนดี
ด้วยความที่เราอยากเก็บทั้ง 3 ฝัน มาดูกันว่าเราควรไปเดือนไหนดี
- รถไฟทรานไซบีเรียน เริ่มต้นจากเมือง Vladivostok ด้านตะวันออกของรัสเซีย ไปสิ้นสุดที่เมือง Moscow ด้านตะวันตกของรัสเซีย ระยะทางทั้งหมด 9,289 กิโลเมตร ซึ่งรูทนี้จะไปเดือนไหนก็ได้ แค่จะได้วิวที่แตกต่างกัน ฤดูหนาวก็สวยแบบนึง ฤดูร้อนก็สวยอีกแบบนึง
- แสงเหนือ ต้องไปดูที่เมือง Murmansk ติดกับประเทศนอร์เวย์ และฟินแลนด์ โดยจากเมืองนี้ สามารถขับรถไปนอร์เวย์เพียง 3 ชั่วโมง และฟินแลนด์เพียง 4 ชั่วโมง ฤดูกาลของการดูแสงเหนือ คือ เดือน ตุลาคม - เมษายน เท่านั้น เพราะฟ้าต้องมืด ถึงจะเห็นแสงเหนือได้
- ทะเลสาบน้ำแข็งไบคาล ที่เมือง Irkutsk เพราะจะเป็นเมืองที่ไปทะเลสาบได้ใกล้ และสะดวกที่สุด ต้องไปเดือน กุมภาพันธ์ - กลางเดือนมีนาคม เท่านั้นค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็ง รถสามารถวิ่งบนทะเลสาบได้เลย ซึ่งมหัศจรรย์มาก และ 1 ปีมีเพียงครั้งเดียว
ดังนั้น เมื่อเราอยากไปทั้ง 3 อย่าง ทริปนี้เราเลยต้องไปช่วงกุมภาพันธ์ - กลางเดือนมีนาคม ก็จะสามารถเก็บ dream lists ได้ทั้งหมด ซึ่งจุดที่หนาวที่สุดของทริป คือ ทะเลสาบไบคาล ก็คิดดูสิ หนาวจนน้ำสามารถแข็งตัวเป็นน้ำแข็งได้ และไม่ละลาย ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์หนาวมากๆๆๆ เกินไปค่ะ ที่ทะเลสาบติดลบ 30 เลยทีเดียว เราเลยไปต้นเดือนมีนาคม อุณหภูมิ เหลือประมาณ -16 องศาเซลเซียส ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ก็ยังหนาวมากอยู่ดีสำหรับชาวเมืองร้อนแบบคนไทย
แพลนของเราไปทั้งหมด 4 เมืองด้วยกัน เริ่มต้นจากเมือง Irkutsk ซึ่งเป็นประตูสู่ไบคาลนั่นเอง ต่อด้วยการนั่งรถไฟทรานไซบีเรียน จากเมือง Irkutsk ไปสุดสายที่เมือง Moscow แล้วบินในประเทศไปล่าแสงเหนือที่เมือง Murmansk จากนั้น บินในประเทศต่อไปเมือง Saint Petersburg และบินกลับไทย ใช้เวลาทั้งหมด 19 วันค่ะ ชิวๆ สบายๆ มาก

เราแพลนทริปทั้งหมดเสร็จ ว่าต้องไปกี่วัน ก็เริ่มซื้อตั๋วเครื่องบินกันเลย โดยซื้อตั๋วไปกลับระหว่างประเทศไว้ก่อน ถ้าวันไหนแพง จะได้ขยับวันหน้าหลังได้ เราบินไปลง Irkutsk และบินกลับจาก Saint Petersburg ดังนั้น ซื้อแยกทีละขาค่ะ ซึ่งแน่นอนราคาตั๋วจะค่อนข้างสูงกว่าซื้อไปกลับเมืองเดียวกัน เราเลยเลือกสายการบินจีน ที่ต้อง transit ที่ประเทศจีน แต่ก็ได้ราคาถูกกว่าบินตรงครึ่งนึงเลย
จากนั้นก็ซื้อตั๋วรถไฟ เปิดให้ซื้อได้ล่วงหน้า 3 เดือน เราสามารถเข้าไปเช็คเวลา และที่นั่งในเว็บ Agent ได้ค่ะ https://www.russianrailways.com แต่เราซื้อตรงกับการรถไฟรัสเซีย ราคาจะถูกกว่าผ่าน Agent เกือบครึ่งเลยทีเดียว แต่ต้องให้คนที่รัสเซียทำให้นะ (จะมีน้องๆ นักศึกษาไทยที่ไปเรียนที่รัสเซีย รับจองให้อยู่ค่ะ หรือแอดมินเฟสบุคเพจเที่ยวรัสเซียก็ได้)
ตั๋วเครื่องบินในประเทศ ขาไป Murmansk เรานั่งสายการบิน S7 ซึ่งมีใน Trip เลยจองเอง แต่ตอนบินออกจาก Murmansk เป็น Aeroflot สามารถเข้าไปดูไฟล์ทในเว็บของ Aeroflot ได้ แต่ต้องให้คนที่รัสเซียชำระเงินให้ค่ะ
- ติดต่อน้องแมงปอ นักเรียนไทยที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Whatsapp : +79669246395
- ติดต่อแอดมินเพจเที่ยวรัสเซีย Whatsapp : +66967403766
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปรัสเซีย
1. ที่รัสเซีย ยังไม่รับบัตรเครดิต Visa Master ที่ไม่ได้ออกโดยประเทศรัสเซีย ดังนั้น เราต้องใช้เงินสดเท่านั้น
2. โหลดแอพต่างๆ ของรัสเซียไว้
- Yandex Map แอพนี้ คือ ดีมาก บอกรายละเอียดการเดินทางทั้งหมดว่าต้องนั่งรถเมล์สายไหน Metro สายไหน ลงตรงไหน ละเอียดมาก ไม่หลงแน่นอน
- Yandex Metro เป็นสถานีรถไฟใต้ดินทุกเมืองของรัสเซียค่ะ โหลดมาแล้วก็เลือกว่าต้องการดูเมืองไหน
- Yandex Go เป็นแอพเรียกแท๊กซี่ ราคาที่จ่ายเท่าในแอพเลย ต้องโหลดและลงทะเบียนไปตั้งแต่อยู่ไทยนะคะ ใช้เบอร์โทรศัทพ์ไทยลงทะเบียนได้ จ่ายด้วยเงินสด ไปถึงก็ใช้เรียกแท๊กซี่ได้เลย
- Yandex Translate อันนี้เป็นของรัสเซียโดยตรง แต่จะใช้แอพอื่นก็ได้แหละ แต่ที่แน่ๆ คนรัสเซียไม่พูดอังกฤษค่ะ และเมนูต่างๆ ก็เป็นภาษารัสเซียทั้งหมด แอพแปลภาษา คือ สำคัญมาก
- Zenhotels ไว้จองโรงแรมที่รัสเซีย ซึ่งเป็นแอพ Agent คล้ายๆ Agoda ดังนั้น ตัดบัตรเครดิตปกติได้ค่ะ แต่ให้เลือกเป็นสกุลเงินดอลลาร์นะ (จะมีบางโรงแรมที่ให้จ่ายเงินสดตอนเช็คอิน)
- Whatsapp จะแชทคุยกับคนรัสเซีย ต้อง whatsapp เท่านั้น
- VPN ถ้าเราใช้ซิมรัสเซีย หรือ wifi ต้องต่อ vpn ด้วย ถึงจะเล่น Facebook, Instagram, Tiktok ได้นะ
3. อุณหภูมิค่อนข้างแตกต่างกันในแต่ละเมือง และอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมนะคะ ทริปนี้ เราเจอตั้งแต่ ติดลบ 16 องศา จนถึง 10 องศาเซลเซียส
4. ซิมการ์ด เราใช้ซิมรัสเซียค่ะ จะบอกว่า ถ้าไปเอง ไม่ได้ไปทัวร์ ใช้ซิมรัสเซียเถอะ ดีมาก เช่น การต่อ wifi บางที่ ต้องใช้เบอร์รัสเซียยืนยัน otp ด้วย ตอนนั่งรถบัสจากทะเลสาบไบคาลเข้าเมือง คนขับรถจะมารับ โทรมาถามว่าเราพร้อมรึยัง ก็โทรเข้าเบอร์รัสเซีย และอีกหลายๆ อย่าง ที่ request เบอร์รัสเซีย และราคาไม่แพงเลย เราซื้อไป 18 วัน 30GB ใช้ไม่หมดอีกต่างหาก ประมาณ 800 บาท ถูกกว่าโรมมิ่งแน่นอน
พร้อมแล้ว เราไปเที่ยวกันเถอะ
Day 1 : Bangkok (BKK) - Irkutsk (IKT)
วันแรกของเรา คือ วันเดินทาง แวะ transit ที่ปักกิ่ง กระเป๋าเช็คทรูไปที่ Irkutsk เลย ตอนแรกจะออกไปเที่ยว แต่รถไฟเข้าเมืองปักกิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งกลับอีก 1 ชั่วโมง สรุปจะเหลือเวลาเที่ยวได้แป๊บเดียว เราเลยเปลี่ยนใจ นั่งๆ นอนๆ ดูซีรีย์ที่โหลดมาใน iPad กิน และเล่นมือถือไป ใช้ wifi ที่สนามบินได้ค่ะ
และแล้ว 21.00 เราก็ไปถึงสนามบิน Irkutsk International Airport (IKT) อากาศหนาวติดลบก็มาต้อนรับเราเลย พร้อมไอหนาวที่ออกปาก ผ่าน ตม. เสร็จ 22.00 เราก้ได้ใช้บริการ Yandex Go เรียกแท๊กซี่มารับค่ะ แค่ประมาณ 15 นาทีก็เข้าเมืองแล้ว ราคาแค่ 260 รูเบิล คิดเป็นเงินไทย แค่ 104 บาทเท่านั้นเอง
ที่พักของเราชื่อ Rolling Stones Hostel เป็น Hostel อยู่ชั้น 2 ซึ่งที่นี่มีทั้งแบบห้องส่วนตัว และห้อง dorm แต่เรานอนห้องส่วนตัวค่ะ แชร์ห้องน้ำ แต่มีหลายห้องอยู่ ไม่เคยต้องมีปัญหาแย่งห้องน้ำเลย และมีครัวให้ด้วย และ Wifi ที่นี่ต้องกรอกเบอร์รัสเซียนะคะ ถ้าไม่ได้ใช้เบอร์รัสเซีย ก็อดใช้ Wifi จ้า
ที่นี่มีไดร์เป่าผมให้ใช้จ้า มีเครื่องซักผ้าอบผ้า ครั้งละ 350 รูเบิล (ใส่ได้ 6 กก.) ถ้าฝากกระเป๋า คิด 200 รูเบิล/ใบ/วันค่ะ
พิกัดที่พัก : Rolling Stones Irkutsk, Sukhe-Batora Street, 17
https://yandex.com/maps/-/CHr6...





Day 2 : Irkutsk
แพลนวันนี้สบายๆ ค่ะ เพราะเราเผื่อไว้ถ้าหาก flight ดีเลย์ หรือ แคนเซิล จะได้ไม่กระทบกับวันเที่ยว ดังนั้นวันนี้เราจะไปหาซื้ออุปกรณ์กันหนาวเพิ่ม (ถุงมือ ถุงเท้า) และเดินเล่นชมเมืองกัน เราเดินกันไปที่ Central Market ซึ่งจากที่พัก สามารถเดินไปได้เลย พวกอุปกรณ์กันหนาว เช่น ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก มีขายมากมายแบบเป็นแผงตลาดนัดเลยค่ะ แต่ถ้าพวกเสื้อโค้ท รองเท้า จะต้องเข้าไปในร้านนะ
ซึ่งตรงนั้นก็จะมีตลาดสด indoor ใหญ่ๆ ค่ะ ขายของเยอะมาก เราเลยไปซื้อปลาแซลมอนสด เนื้อ ผักต่างๆ ไปทำอาหารเที่ยง และอาหารเย็นกันดีกว่า อิอิ
พิกัดตลาด : Tsentralny Irkutsk, Chekhov street, 22
https://yandex.com/maps/org/ts...




กลับมาทำอาหารทานเสร็จ เราออกไปเดินชมเมือง Irkutsk
Barb Sculpture
"เสือคาบปลา" Landmark สำคัญของเมือง Irkutsk สะท้อนถึงพลัง ความกล้าหาญ และความแข็งแกร่งในการเอาชนะสภาพอากาศของภูมิภาคไซบีเรีย แต่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรน้ำซึ่งเป็นแหล่งที่มาของปลา เช่น แม่น้ำแองการา และทะเลสาบไบคาลนั่นเอง


130 Kvartal
แหล่งร้านอาหาร ผับ บาร์ของเมืองนี้ อยู่ติดๆ กับ Barb Sculpture ซึ่งเราก็กินไอศครีมกันค่ะ ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ โอ๊ย ฟิน อิอิ


Holy Cross Cathedral
อยู่ตรงข้ามกับ Barb Sculpture เลย

Yakov Pokhabov และ Sobor Bogoyavlensky
อนุสาวรีย์ผู้ก่อตั้งเมือง Irkutsk และโบสถ์ใกล้ๆ



Tourist Sculpture
รูปปั้นนักท่องเที่ยวแบคแพค เอ๊ะ เหมือนเลย

Day 3 : Irkustk - Olkhon Island (Lake Baikal)
วันนี้เราจะเดินทางไปทะเลสาบไบคาลบนเกาะ Olkhon ค่ะ เช็คเอาท์แต่เช้า แล้วเดินไปขึ้นรถมินิบัสที่ Central Market ซึ่งเราเดินมาสำรวจตั้งแต่เมื่อวาน และซื้อตั๋วไว้เรียบร้อยแล้ว หากใครไม่สะดวกไปซื้อตั๋ว ลองทัก Whatsapp ไปนะคะ ตามรูปที่ถ่ายมาให้เลย
พิกัดจุดขึ้นรถ : автокасса Ольхон-Экспресс Irkutsk, Timiryazev street, 26/9
https://yandex.com/maps/org/av...


นี่คือ ตู้ขายตั๋วรถมินิบัส และจุดขึ้นรถค่ะ โดยขาไปเกาะ Olkhon มีรอบเดียว คือ 9.30 (ให้มาถึงประมาณ 9.00) โดยเราต้องแจ้งที่พัก รถจะไปส่งที่หน้าที่พักให้เลย
ส่วนขากลับจากเกาะ รถจะไปรับที่ที่พักค่ะ มี 2 รอบ คือ 9.30 และ 13.00
ค่าตั๋วรถบัส ขาละ 2,000 รูเบิล/คน และถ้าหากมีกระเป๋าใบใหญ่ ใบละ 200 รูเบิล
รูปร่างหน้าตาตั๋วขาไปค่ะ ส่วนขากลับจ่ายกับคนขับได้เลย


มาที่ตู้ขายตั๋ว ยื่นตั๋วที่ซื้อไว้ให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะแจ้งทะเบียนรถให้ค่ะ ว่าให้ขึ้นคันไหน และแล้วก็พร้อมเดินทางไปเกาะ Olkhon แล้วจ้า
การเดินทางไปเกาะ ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง รวมแวะจอดให้ทานอาหารกลางวัน และนี่ค่ะ ร้านอาหารที่รถจอดแวะ ใครอยากทานอะไร ซื้อเองนะคะ เป็นแบบข้าวแกง ชี้ๆ ตักๆ จ่ายเงิน หรือใครจะเตรียมอาหารมาทานเองก็ได้นะ


ตลอดทาง เราก็จะเห็นวิวขาวโพลน หิมะตลอดทาง จนกระทั่งถึงแม่น้ำ ถ้าเรามาฤดูที่น้ำยังไม่เป็นน้ำแข็ง จะต้องลงเรือข้าม และไปขึ้นรถต่ออีกฝั่งนึง แต่เดือนนี้น้ำเป็นน้ำแข็ง รถมินิบัสก็วิ่งลงไปบนน้ำได้เลย


ประมาณบ่าย 3 รถก็มาส่งที่ที่พักค่ะ เราพักที่หมู่บ้าน Khuzhir ซึ่งเป็นหมู่บ้านยอดฮิตบนเกาะ Olkhon ซึ่งเราพัก Guesthouse เจ้าของใจดีมาก เป็นห้องส่วนตัว ห้องน้ำในตัว และมีครัวให้ใช้ด้วย







มาถึงมีขนมต้อนรับ เป็นคุ้กกี้ ชา ขนมปัง เราสามารถหยิบทานได้ทั้งวันเลยนะคะ และเจ้าของที่พักน่ารักมาก คงคิดว่าเราหิว ทำอาหารให้ทานด้วย พวกเบคอน ชีส เราเลยไปซื้อไวน์มาดื่มคู่ อิอิ

กำลังจะออกจากที่พัก เพื่อเดินไปจ่ายค่าทัวร์ และ supermarket หิมะก็ตกลงมาพอดี



การเที่ยวทะเลสาบไบคาลบนเกาะ Olkhon จะต้องเผื่อเวลาไว้ 2 วันเต็มๆ สำหรับเที่ยวนะคะ คือ ฝั่งเกาะเหนือ และเกาะใต้ และใช้เวลาเดินทางมา 1 วัน เวลาเดินทางกลับอีก 1 วัน ดังนั้นต้องมี 4 วัน 3 คืน บนเกาะ Olkhon
ซึ่งทริปที่ไบคาล ตอนแรกเราจะใช้ local guide แบบ private แล้วเราให้เค้าช่วยแนะนำที่พักให้ แต่จ่ายตรงกับเจ้าของนะคะ เราเลยไม่มีเบอร์ติดต่อเจ้าของ Guesthouse นี้ แต่บังเอิญว่าไกด์ป่วย หายไม่ทัน เราเลยใช้ Join Tour ค่ะ ซึ่งไกด์ก็รับผิดชอบช่วยติดต่อ Join Tour ไว้ให้ เราก็เดินไปจ่ายค่าทัวร์ที่ Nikita Homestead (สำหรับใครที่อยากใช้ Join Tour สามารถติดต่อที่นี่ได้ Whatsapp +79148957865 และพักที่นี่ก็ได้เช่นกัน ที่นี่เค้าเป็น homestay ค่ะ)
ราคา Join Tour เกาะเหนือ 2,850 รูเบิล/คน ค่าเข้า Park 800 รูเบิล/คน
ราคา Join Tour เกาะใต้ 2,850 รูเบิล/คน ค่าเข้า Park 500 รูเบิล/คน
หลังจากชำระค่าทัวร์เสร็จ ก็ไปเดินเล่น Shaman Rock เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของหมู่บ้าน Khuzhir โขดหินใหญ่ๆ ท่ามกลางทะเลสาบน้ำแข็ง ซึ่งหลายๆ คน นิยมมาตอนพระอาทิตย์ตกค่ะ แต่กว่าพระอาทิตย์จะตก ก็จะหนาวอีก มืดอีก เรารีบถ่ายรูปแล้วไปจิบไวน์ในที่พักอุ่นๆ ดีกว่า




เสาที่ผูกผ้าสีๆ คือ SERGE สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน ในตำนานเล่าว่า เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านใช้ตัดสินคดีความ โดยการนำผู้ถูกกล่าวหามาตรึงผูกไว้กับเสาให้ทนกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บเป็นเวลา 1 คืน หากสามารถอยู่รอดผ่านคืนนั้นไปได้ ก็จะถือว่าไม่มีความผิด
ในหมู่บ้านนี้มี Supermarket 2 แห่งเท่านั้นค่ะ ตามพิกัดนี้เลย เราเดินไปซื้ออาหารมาทำเองทุกวัน เพราะร้านอาหารหายาก ไหนๆ ก็มีครัว ทำเองดีกว่า
พิกัด Supermarket : Лидер posyolok Khuzhir, Baykalskaya ulitsa, 45
https://yandex.com/maps/org/20...
พิกัด Supermarket : Хороший posyolok Khuzhir, Baykalskaya ulitsa, 54В
https://yandex.com/maps/org/kh...


Day 4 : Lake Baikal (North)
คนขับรถมารับตอน 10.00 ค่ะ และพาไปเที่ยวยังจุดไฮไลท์ต่างๆ คือ สวย สวยมากๆ ฝั่งเกาะเหนือจะเป็นสไตล์หินงอกหินย้อยนะคะ เหมือนเป็นเจ้าหญิงเอลซ่ามากๆ ใครสะดวกจะแบกชุดเอลซ่ามาก็ได้นะ Let it Go ไปเลยค่ะ







อาหารเที่ยงเป็นซุปปลาร้อนๆ กับวิสกี้ค่ะ ซึ่งคนขับรถจะเป็นคนทำ และโต๊ะอาหารของเราก็ถูกเนรมิตขึ้นมาบนทะเลสาบนั่นเอง มันช่างเป็นอาหารเที่ยงที่เห็นวิวน้ำแข็งแบบ 360 องศาไปเลยจ้า



หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปกันต่อ ซึ่งที่นี่สวยแตกต่างจากหินงอกหินย้อย เป็นทะเลสาบโล่งๆ และน้ำแข็งใสมาก



สำหรับห้องน้ำบนทะเลสาบ เป็นห้องน้ำสี่เหลี่ยมสีๆ แบบนี้เลย แต่ด้านในคือเป็นแบบนั่งยอง และถุงพลาสติกรองไว้ มีทุกร่องรอยของทุกคนค่ะ ^^" เข้าได้นะ กลิ่นไม่รุนแรง แต่อย่าก้มลงไปมองจ้า

ข้อดีของการเที่ยวแบบ Join Tour ก็คือ เราได้เพื่อนต่างชาติเพิ่มมาด้วยค่ะ ชาวรัสเซียจากเมือง Saint Petersburg

หลังจากเที่ยวทั้งวัน รถจะมาส่งประมาณ 16.00 ค่ะ ซึ่งเราก้ไปเดิน Supermarket อีกแล้ว และเดินหาร้าน Souvenir ซื้อของที่ระลึกค่ะ เห็นจอกวิสกี้ของคนขับ ชอบ น่ารัก ต้องซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกสักหน่อย

Day 5 : Lake Baikal (South)
คนขับรถมารับตอน 10.00 เช่นเดิม วันนี้จะไปทางใต้ของเกาะกัน ช่วงแรกจะมีความเป็นหินงอกหินย้อยอยู่บ้าง




หลังจากนั้น จุดไฮไลท์ของตอนใต้ คือ Bubble Ice ฟองก๊าซมีเทนที่เกาะตัวเป็นชั้นในน้ำแข็ง และรอยร้าวของน้ำแข็งที่มีลวดลายสวยงาม




และจุดไฮไลท์ที่เป็น Landmark ของทะเลสาบไบคาลค่ะ พลาดไม่ได้เลย




อาหารวันนี้ก็เป็นซุป กับวิสกี้เช่นเดิมค่ะ และรถก็กลับมาส่งประมาณ 16.00 เหมือนเดิม เป็นอันจบทริปทะเลสาบไบคาล เราก็กลับมาทำอาหาร จิบไวน์วนไปค่ะ บรรยากาศดีเหมาะกับการจิบไวน์เบาๆ ในที่พักอุ่นๆ มาก


Day 6 : Olkhon Island - Irkutsk
วันนี้เราเลือกเดินทางกลับเมือง Irkutsk รอบ 13.00 ดังนั้น ตอนเช้าเราก็ยังมีเวลาชิวๆ จนเช็คเอาท์เที่ยง มาดูอาหารแต่ละเช้าของเราดีกว่า



เวลาเกือบๆ บ่ายโมง คนขับรถมินิบัสก็โทรมาถามว่าเราพร้อมรึยัง แล้วก็มารับหน้าที่พักเลย จ่ายเงินกับคนขับเลยค่ะ

ขากลับ คนขับก็จะจอดแวะให้ทานอาหารร้านเดิม แล้วก็มาถึง Central Market ตอนประมาณทุ่มกว่า เพราะรถติด ซึ่งก็ไม่ซีเรียสอะไร เพราะวันนี้เรามีโปรแกรมขึ้นรถไฟไปเมือง Moscow ตอน ตี 3.32 ค่ะ มีเวลาเหลือเฟือเลย มาถึงก็ซื้อเบอร์เกอร์ทาน แล้วเราก็นั่งรถรางไปสถานีรถไฟ Irkutsk กัน ซึ่งป้ายรถราง อยู่ตรง Central Market นั่นแหละ เดินจากจุดรถมินิบัสไปนิดนึง (ตรงข้ามกับป้ายในรูปนะคะ) ค่ารถราง จ่ายเงินสดตอนจะลงจากรถได้เลย คนละ 35 รูเบิล
พิกัดจุดขึ้นรถรางไปสถานีรถไฟ : Центральный рынок Irkutsk, Timiryazev street
https://yandex.com/maps/org/ts...
พิกัดสถานีรถไฟ Irkutsk Passazhirsky : Zheleznodorozhnaya stantsiya Irkutsk-Passazhirsky Irkutsk, Privokzalnaya ploshchad
https://yandex.com/maps/org/zh...

แล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟ Irkutsk เรียบร้อย สถานีรถไฟด้านนอก คือ สวยนะ ดูคลาสสิคดี รถรางจะจอดฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ ซึ่งตรงนั้นจะมี Supermarket เล็กๆ สามารถเติมเสบียงได้นะคะ พวกบะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง ไส้กรอก ขนมอะไรพวกนี้ ตุนไปเลยจ้า เพราะของบนรถไฟ และระหว่างสถานีที่แวะ ราคาสูงกว่าประมาณ 2-4 เท่าเลย แต่น้ำเปล่าไม่ต้องซื้อนะ เราซื้อไป 2 ขวด สรุปไม่ได้ดื่มเลยจ้า หนักเปล่าๆ

พอเข้ามาในสถานี ก็จะมีการตรวจกระเป๋า แล้วก็ไปนั่งรอได้เลย ยังไม่มีการตรวจตั๋วใดๆ นะคะ เรามาถึงตั้งแต่ 20.26 แต่รถไฟเราขบวนที่ 1 Vladivostok - Moscow ซึ่งรถไฟจะมาถึง 2.52 และออกจากสถานีเวลา 3.32 ค่ะ

โซนที่นั่งรอจะเป็นชั้น 2 ส่วนชานชาลารถไฟ ไปชั้น -1 จ้า มีที่ชาร์จแบตนะ มี wifi ด้วย แฟนเรานั่งดูถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสบายเลย ^^


Day 7 - 9 : Trans-Siberian Train

ในส่วนของรถไฟทรานไซบีเรีย เขียนไว้ที่บล็อคนี้นะคะ ไปตามอ่านกันได้เลย >> https://th.readme.me/p/75222/e...
Day 10 : Trans-Siberian Train - Moscow
เวลา 11.10 รถไฟก็มาจอดที่สถานี Yoroslavskiy Station ในที่สุดเราก็มาถึง Moscow กันแล้ว


เดินออกจากสถานีรถไฟปุ๊บ เราก็จะเห็นสถานีรถไฟใต้ดิน Komsomolskaya ทันที เราจะนั่ง Metro ไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมกัน

ตั๋วรถไฟใต้ดิน หรือ Metro ที่มอสโคว์ จะมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ขอพูด 3 แบบบนในรูปค่ะ เพราะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว
- รายเที่ยว เที่ยวละ 75 รูเบิล
- เหมา 1 วัน (24 ชั่วโมง) 365 รูเบิล
- เหมา 3 วัน (72 ชั่วโมง) 700 รูเบิล


ไม่นานนัก เราก็ถึงที่พักค่ะ Weekend Inn ซึ่งใกล้กับสถานี Novokuznetskaya ซึ่งเดินได้ประมาณ 2 นาที ที่นี่เราพักแบบเป็นอพาร์ทเม้นท์ อยู่ชั้น 5 มีลิฟท์ ห้องใหญ่ทีเดียว ห้องน้ำรวม มีครัว แต่ไม่มีตู้เย็นนะคะ
พิกัดที่พัก : Weekend Inn Moscow, Pyatnitskaya Street, 10с1
https://yandex.com/maps/-/CHr6...

วางกระเป๋าแล้ว เราก็ไปทานอาหารค่ะ ตอนนี้อยากอะไรเผ็ดๆ แซ่บๆ มาก หลังจากกินแต่อาหารสำเร็จรูป และปลาตากแห้งเย็นๆ บนรถไฟมาหลายวัน ^^ โลเคชั่นที่พักดีมาก มีร้านอาหาร supermarket ผับบาร์เยอะมาก เดินได้หมดเลย เราเลยเลือกทานอาหารจีนที่อยู่ตรงข้ามที่พัก มื้อนี้ 1,280 รูเบิล



หลังจากนั้น ได้เวลาเช็คอินพอดี อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยออกไปเดินเล่นค่ะ กว่าจะได้ออกก็บ่าย 3 แล้ว วันนี้เราเลือกไป Tourist Attraction ที่โด่งดัง นั่นคือ ย่าน Red Square ซึ่งสามารถเดินจากที่พักไปได้เลย




ประมาณ 15 นาที เราก็เดินมาถึง Red Square ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย เพราะวันนี้อากาศอยู่ๆ ก็อุ่นขึ้นซะงั้น จากที่จริงๆ ช่วงนี้ คือ ต้องประมาณ 0 - 3 องศาเซลเซียส แต่วันนี้กลายเป็น 10 องศาค่ะ เลยเดินแบบชิวๆ เลย
ซึ่งย่านนี้ ก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น
- Saint Basil's Cathedral โบสถ์หัวหอม
- Moscow Kremlin พระราชวังเครมลิน
- State Historical Museum พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
- Gum ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ มีชื่อเสียง และใหญ่ที่สุดในมอสโคว์ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1895
Travelholic
วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 20.52 น.