ubtwf6wmzkd4

ทริปปีนังนี้เราตัดสินใจไปคนเดียวด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย ต่างจากการไปกับเพื่อนกับแฟนหรือครอบครัว แถมยังได้เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ เรื่องแปลกๆ ทำเอาคัลเจอร์ช็อคกันสมควรตั้งแต่ต้นทริปเลย การเดินทางก็จะใช้เวลาหน่อยด้วยการ นั่งรถไฟไปปีนัง เหนื่อยหน่อยแต่สนุกมากๆ มันส์พะยะค่ะ มาเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง


ฝากเพจไว้ในอ้อมใจด้วยนา


FB : https://www.facebook.com/wishustravel/

Website : wishustravel.com


Day 1 นั่งรถไฟไปปีนัง

หลังจากลงเครื่องตอนเวลาประมาณเที่ยง ด้วยความที่อยากเดินทางด้วยรถไฟก็หาข้อมูลจาก Pantip ว่ามันมีรถไฟออกจากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ตอนบ่ายโมง ถ้าจะนั่งรถสองแถวหรือรถตู้ไปสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ตอนนี้ไม่น่าทัน เลยจำเป็นต้องนั่งแท็กซี่ไปแทน ค่าเสียหาย 250 จ้าาา เอาตั้งแต่หัวทริปเลยวุ้ย แต่ก็เอาน่ะไม่อยากตกรถไฟ

or5iqls0xx5g


พอมาถึงสถานีรถไฟก็รีบเดินไปซื้อตั๋วรถไฟเลยปรากฎว่าาาาาาา รถไฟมีรอบบ่ายสองโมงงง หน่านิ้!!!! ฮาาาาาาาาา นั่งแท็กซี่มาทำไมวะตั้ง 250 บาท ไหนใครรีวิวไว้นะมันน่านัก แต่จริงๆแล้วต้องโทษตัวเองนะครับแทนที่จะไปเช็คกับเว็บการรถไฟแทน ไหนก็ทิ้งลิงค์ไว้ให้เลยเผื่อใครจะใช้เช็คกัน > เช็คเวลารถไฟ < เลือก ชุมทางหาดใหญ่ นะ

1vdp24zdw217
gqb3hfnfvfab
q03mdhlfjden
t9szt860i90k

ได้ตั๋วแล้วก็รอสิครับมาก่อนตั้งชั่วโมงนึงเผลอนานกว่าด้วยกิตติศัพท์รถไฟไทย ระหว่างรอก็ไปหาไรกินแล้วก็กลับมานั่งรอบนรถไฟตามที่นั่งของตัวเองด้วยความเห่อ ซึ่งโคตรร้อน คนก็เริ่มทยอยขึ้นมากันแล้วซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนไทย แล้วก็ไม่ใช้ภาษาอังกฤษด้วย เริ่มรู้สึกอยู่ต่างประเทศตั้งแต่บนรถไฟเลย แล้วก็มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเว้ยย เราหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา พอเวลา 14.00น. ปุ้บรถไฟก็เคลื่อนตัวทันที เราถึงกับต้องอุทานในใจว่าเชี่ยยยยยย ตรงเวลาสึด (ย้ำว่าในใจ) อยากจะก้มลงกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ขอโทษการรถไฟไทยที่สบประมาท พร้อมยกนิ้วโป้งให้ สุดยอดมากครับบบบ

w92qkvd5zrj5

นั่งรถไฟมาประมาณ 1ชั่วโมงก็มาถึงด่านปาดังเบซาร์ รถไฟจะจอดที่ฝั่งไทยก่อนให้เรารอไปลงที่ด่านฝั่งปาดังเบซาร์นะครับ
ตรงนี้เราขอแนะนำให้ทุกคนเตรียมตัวลงให้พร้อมเลยถ้าไม่อยากต่อคิวยาวเหยียดพอรถไฟหยุดแล้วให้รีบเดินเข้าประตู ตม.เลย
เพื่อความรวดเร็ว เรามัวแต่เอ้อระเหยต้องต่อคิวอยู่นานเลย

2z5x7kdjyfem

ในการ นั่งรถไฟไปปีนัง พอผ่านด่าน ตม. มาก็เดินขึ้นชั้นสองไปซื้อตัวรถไฟไปบัตเตอร์เวิร์ท 11.4 ริงกิต (1 ริงกิต = ประมาณ 7 บาทนิดๆ ณ ตอนที่เราไป)

แล้วก็ลงไปที่ชานชลาซึ่งก็เดินงงอยู่พอสมควรก่อน กลัวตกรถไฟ 5555 ไม่แน่ใจแนะนำให้ถามร้านขายน้ำดูนะ

รถไฟมีทุกชั่วโมงไม่ต้องกลัวตก นั่งรอได้พักนึงคนก็เริ่มออกมาจาก ตม. คนค่อนข้างเยอะเลยน่าจะเป็นเพราะว่าตรงกับรถไฟที่มาจากหาดใหญ่ด้วยแหละ

พอรถไฟมาถึงสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น!!! 

พอประตูรถไฟเปิดทุกคนก็วิ่งกันอย่างบ้าคลั่งใครเข้าไปถึงที่นั่งก่อนก็เริ่มจองที่ด้วยการกางแขนขาพร้อมกับเรียกเพื่อน ญาติ พ่อแม่พี่น้องให้รีบมานั่ง ให้นึกถึงหนัง Train to Busan ความรู้สึกนั้นเลย ในระหว่างที่เราเข้ามาในตัวรถไปและพยายามหาที่นั่งเพราะกว่าจะถึงบัตเตอร์เวิร์ทใช้เวลา 2ชม. พอสั่งสติได้เท่านั้นแหละ เต็มหมดทุกที่!! แม่แต่พระสงฆ์ยังต้องยืน ได้แต่คิดในใจ อะไรวะเนี่ย เข้ามาเลเซียก็เจอคัลเจอร์ช็อคไปแล้วหนึ่ง

ภาพตอนนั้นก็จะไม่มีนะครับ ช็อคอยู่ ฮาาาาาาาาา

h8r02fpb4062
bh76xmlv2qwz
46yjfw5b8o3d

ระหว่างที่เรายืนอยู่นั้น ข้างๆที่เป็นกลุ่มพระสงฆ์ก็เริ่มสนทนากันเป็นภาษาไทย เราก็เลยเข้าร่วมสนทนาด้วยเพราะว่าต้องยืนอีกนาน เดี๋ยวเบื่อ พระก็เล่าให้ฟังว่าคนที่นี่ค่อนข้างมีความเท่าเทียมกันนะ เป็นพระก็ไม่ใช่ว่าจะมีสิทธิพิเศษถึงจะดูไม่เป็นระเบียบไปบ้างก็เถอะ คุยไปคุยมาก็ เอ้าคนบ้านเดียวกันอีกยาวเลยทีนี้ ถามไถ่สัพเพเหระ พระองค์อื่นก็เข้ามาคุย ได้ความรู้เพิ่มอีกว่ามีชาวสยามที่ยังอยู่ในมาเลเซียหลังจากยกดินแดนไปให้กับอังกฤษและยังอยู่กันถึงปัจจุบัน แถมยังมีเทศนาธรรมกันบนรถไฟอีกด้วย สาธุ 

พอพระท่านลงไปเราก็ถึงจะได้นั่งแต่ก็ปาไปชั่วโมงกว่าแล้ว

พอถึงบัตเตอร์เวิร์ทแล้ว (ยังไม่ถึงอีกหรอฟะ) ก็ต้องเดินไปต่อเรือเฟอรี่เพื่อข้ามไปยังเกาะปีนังต่อ ใกล้ถึงล้าววว

เดินไปตามทาง ตามป้ายเรือเฟอรี่ไปแล้วขึ้นชั้นสองแล้วเดินต่ออีกนิดก็จะถึงท่าเรือเฟอรี่แล้ว

z1t9uexvl1dx
lm1zn5raiax8
axh2u6ytelki

ถึงแล้วก็ซื้อตั๋วเรือเฟอรี่เพียง 1.2 ริงกิตเท่านั้นและขากลับก็ขึ้นกลับได้ฟรีเลยไม่ต้องจ่ายอีก มีทุกครึ่งชม.

appukuv7pu11
uo7yht121fc6

ตั๋วเรือเฟอรี่ใช้คิวอาร์โค้ดสแกนเพื่อผ่านประตู

0jqd9qxn4pq7
5z4uj0p12imz

พอข้ามมาถึงฝั่งเกาะปีนังแล้ว เราก็เอากระเป๋าเก็บเข้าที่พักก่อน ซึ่งที่พักเราอยู่ใกล้กับท่าเรือเลยค่อนข้างเดินทางสะดวกอยู่ใกล้ ที่พักชื่อ Container Hotel Penang ไปไหนมาไหนง่ายมากหน้าที่พักก็คือป้ายรถเมล์ มีสตรีทอาร์ตอยู่ตรงข้ามอีก สบายยย
เข้าไปจองได้ที่นี่เลย >> คลิก

0l9rq8k0r0wx


อันนี้ถ่ายตอนเช้าของอีกวันนะ ตอนมาถึงเหนื่อยมากไม่สนจะถ่ายล้าว

dkbgz9oyn6yt
f808cbxmpn3c
syz1g13fjkcx
wxmx7x79xjr9
gmkl94q0drt7
kjgrb140ap9t
zc0ek62et74z


เก็บข้าวเก็บของเข้าล็อคเกอร์เสร็จก็ออกเลย หาไรกิน หิววว การเดินทางก็จะนั่งรถเมล์ก็ได้ ดีกว่าบ้านเรามาก หรือจะใช้ Grab Taxi ก็ได้แต่เราเน้นสะดวกเลยไป Grab ง่ายมากๆ ต่อไปที่ที่เราไปกินคือ Gurney Drive Hawker Centre แหล่งสตรีทฟู้ดที่ทุกคนต้องมากัน มีอาหารหลากหลายให้กินจนจุกๆไปเลย

k9u094q51z0z
syyoki5ft9ct
zrmccws12oc2
n033k5jii7iu

ROJAK PASEMBUR เป็นของทอดหลายๆอย่าง เอามาสับๆใส่แตงกวางแล้วท็อปด้วยซอสหวานบวกเผ็ดนิดๆ อันนี้สำหรับเราหวานไปหน่อย

4qy7lkoyptpd
ocrtbk8uqwpa

พี่คนขายคนนี้ลีลาสับแกไม่ธรรมดาบอกเลย เปิดเพลงไปสับไป พร้อมกับร้อง โล้จักๆ บันเทิงดี

rj5r7jxquoax

LOK LOK สตรีทฟู้ดขึ้นชื่ออีกอย่างของมาเลเซียเป็นของเสียบไม้ วีธีกินคือเอามาลวกในหม้อข้างๆ แล้วราดซอสกินได้เลย คิดราคาเป็นไม้ๆไป

pprvia6kr7xk
kjwc84pm0j99
dk4ht0ium42m
cjkc3wc1san7
g3jnso3pk21k


หลังจากกินเสร็จก็แวะเดินห้างข้างคือ Gurney Plaza แปปนึงแล้วกลับที่พักนอนด้วย Grab Taxi เหมือนเดิม วันแรกเหนื่อยมากเดินทางทั้งวันเลย ใครอยากเที่ยวสบายๆแนะนำนั่งเครื่องเลยนะ แต่ถ้าใครอยากเจอประสบการณ์ซอมบี้ 5555 ประสบการณ์ใหม่ๆ ผายมือมาตามฉันเลย

Day 2

วันที่สองเรามีแผนจะไป Penang Hill ตอนสายๆโดยจะแวะวัด Kek Lok Si ก่อน โดยอย่างแรกที่จะเริ่มคือ กินข้าวครับ

ที่ดูไว้เมื่อคืนคือร้าน Toh Soon Cafe เป็นร้านอาหารเช้าเจ้าดังที่มีคิวยาวพอสมควร ขายพวก Kaya Toast, ไข่ลวก, กาแฟ พวกนี้ เราเดินออกจากที่พักชมเมืองไปเรื่อยๆแปปเดียวก็ถึงแล้ว

ตอนไปถึงก็มีคนยืนรอต่อคิวออกมานอกร้านแล้ว รอไปสักพัก พี่ที่นั่งโต๊ะแรกก็เรียกเราไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยได้คุยกันพี่แกเป็นชาวฟิลิปปินแฟนเป็นชาวมาเลเซียมาเที่ยวกันสองคน ก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน บ้านเค้ามีอะไรบ้านเรามีอะไรสนุกดีครับ

เรารู้สึกว่าการมาคนเดียวคนเค้าจะอยากช่วยเหลือเรายังไงไม่รู้แล้วก็เป็นมิตรด้วย ซึ่งดีนะเป็นเสน่ห์อย่างนึงเลย

madxx526cy3s
ed7vvr0ky17d
yjpymoey185g

อากาศเริ่มร้อนไปหาอะไรเย็นๆกินต่อกัน ร้านลอดช่อง Teochew Chendul เจ้าเก่า คนเยอะเหมียนเดิมเจ้าดังๆเนี่ย

รสชาติไม่หวานเหมือนของไทยเลย ก็แปลกๆดี 3.2 ริงกิต มาลองกันนะ

1rqvq3j0m0x8
v3gjfqc28iuu

กินเสร็จเรียก Grab ไปวัด Kek Lok Si หรือวัดเต่าเลย เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พอมาถึงก็เดินดูบริเวณด้านล่างก่อนซื้อตั๋วขึ้นลิฟขึ้น 8 ริงกิต ไปข้างบนที่มี เจดีย์ เจ้าแม่กวนอิมไรประมาณนี้ ปกติไม่เข้าวัดเข้ามา เลยเน้นดูความสวยงามเอา

ตอนซื้อตั๋วลิฟขึ้นเราซื้อขึ้นรอบเดียว กะเดินลงเอา บอกเลยเหนื่อยนะครับ ใครขี้เกียจซื้อขึ้นลงเลยอาจจะต่อคิวหน่อยแต่ไม่เหนื่อย

2ogmwiphwtui
1q5l0jo12g24
s83h6n3d7okv
b2dk0p5p9ej5
vby95fdh0di4
0bpe8ycb355s
yh1jhqzck6w6
x04gtmsislgl

หลังจากลงมาด้วยความเหนื่อยหอบเหงื่อท่วมเพราะอยากประหยัดไม่ยอมซื้อตั๋วลง ต้องนั่งพักแปปนึง ตอนขามาพี่ Grab แนะนำว่าให้ลองไปกิน Laksa ร้านที่อยู่ใกล้วัด พี่แกย้ำเลยต้องมากินให้ได้นะเป็นเจ้าที่ดังที่สุดในปีนังแล้ว โอเคครับพี่

พอถึงร้านก็สั่งเสร็จเรียบร้อย อาหารมาตักเข้าปากอื้อหืออ อันนี้คือถูกปากที่สุดละตั้งแต่มาถึงปีนัง เส้นคล้ายขนมจีนนุ่มๆ รสชาติน้ำซุปออกเปรี้ยวหน่อย แล้วก็มีเนื้อปลาอยู่ อร่อยเลยแหละ ร้านชื่อ Pasar Air Itam Laksa แนะนำๆ

9kso9sp42d1c
q2sv3aq36k10

กินเสร็จก็ได้เวลาไป Penang Hill แล้ว เราไปยืนรอรถเมล์ที่ป้ายขึ้นสาย 204 จะไปลงสุดสายที่ Penang Hill พอดีแล้วก็มีเรื่องประทับใจด้วย พอเราขึ้นไปแล้วจะต้องหยอดเหรียญลงในช่องเก็บเงินแล้วเราไม่มีเหรียญเลยมีแต่แบงค์ใหญ่แล้วเค้าก็ไม่ทอนให้ด้วย พอดีมีคุณตาคนนึงยื่นเหรียญให้เราเอาไปหยอดแล้วโบกมือประมาณว่าเอาไปเถอะไม่เป็นไรหลานเอ้ย โอวววเรารีบขอบคุณเป็นการใหญ่ คุณตาใจดีมากๆ

พอมาถึง Penang Hill ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น (อีกแล้วหรอวะ) คนเป็นล้านเลยครับ โคตรเยอะ เยอะแบบต้องรอ 3 ชม. อะถึงจะได้ขึ้นไป ถึงกับถอดใจยอมกลับก็ได้ฟะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ใครจะมาแนะนำให้มาเช้าเลยนะถ้าไม่อยากเจอมวลมหาประชาชน

หลังจากนั้นเลยเปลี่ยนแผนไปเดินดูงานศิลปะที่ Hin Bus depot แทน

gc8ke9zwet6f
z5euifpswdzs
s75nhlewe0xv
3gpudeoba61i
idzcyz43f9jq
3fhn3u6ve05x
bzvzs48tv6iv
v6scr44q2kie
toqrf09b3su8
9lr4pm6wmch5

พอดูเสร็จแล้ว ระหว่างเดินกลับที่พักก็มีผ่านงานสตรีทอาร์ตหลายชิ้นอยู่ ก่อนจะเดินไม่ไหวเรียก Grab กลับไปอาบน้ำ พักผ่อนค่อยออกมากินข้าวตอนค่ำๆ

5q8kb9r9vjj7
q1rkx80z9h18
j5lloctl46w0

เผลอหลับไปแปปนึงตื่นขึ้นมาก็เริ่มหิว เลยเดินออกไปหาอะไรกินใกล้ๆละกัน Chulia Night Hawker Stalls เป็นสตรีทฟู้ดอีกที่นึงที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักเรา ร้านจะอยู่ข้างทางมีอาหารคล้ายๆ Gurney Drive

กินเสร็จแล้วยังไม่อิ่มเลยแวะกินอาหารมังสวิรัติ อินเดียอีกเห็นใน Tripadvisor ขึ้นมาต้นๆเลยลองดู ปรากฎว่ากินไม่ลงครับมาเป็นเช็ตเลยราคาไม่แพงนะ แต่บางอันนี่กินไม่ไหวจริงๆ 5555 เสร็จแล้วก็กลับที่พักนอนหลับเป็นตายเตรียมตัวตื่นแต่เช้าตรู่ไป Penang Hill กัน

ruml6p4k7b7y
3kuumczsvpir
ayrah5vvls3r
6q679kss6qd6
ccmt9k4xwjwe
gbcrjpbu61go

Day 3

วันนี้ตื่นเช้าตรู่เลย อาบน้ำเสร็จ 7โมงเรียก Grab ไป Penang Hill ประมาณ 20นาที – 30นาที ก็ถึงแล้ว 13 ริงกิต

พอถึงก็เข้าไปซื้อบัตร ไม่มีคิวเลยสบายๆ ค่าเสียหาย 30 ริงกิต แล้วก็เดินเข้าไปรอขึ้นรถราง ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ขึ้นมาถึง

wp3piwsbolm3
93008sgqelui
hb2f02w1qcf9
na4gpfh53usx
qfryy9b9fq6i

อากาศข้างบนจะเย็นๆ สบายๆ เห็นวิวเมืองปีนังทั้งหมดเลย มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ พร้อมมาหาไรกินที่นี่ได้เลย กินไปนั่งดูวิวไปเพลิน กินเสร็จก็เดินชมบริเวณรอบๆ ระหว่างรอ The Habitat Penang Hill เปิด

wzbtogzivao5
u2ig95xi9yvb
g8bkzkfv04au
qcvq4oba2cvd
cpozl83yed41

มีคล้องกุญแจแบบเกาหลีด้วยสำหรับคนมาเป็นคู่

7vgspffg3opk
clspnzhuompo
s7ae4tczqj10
7kq6pmq3zlgy

The Habitat Penang Hill จะเปิดเวลา 9โมงเช้า

67d24gyhvism
qhwtozhaor9e
h0l902uj3tvh

ตั๋วราคา 55 ริงกิต ราคาก็แอบสูงนิดนึงแต่รับรองได้เข้าไปสูดอากาศบริสุทธิ์กับดูวิวสวยๆก็คุ้มแล้ว เดินสบายๆระยะทางไม่ไกล

ตั๋วเข้าอันนี้ให้เก็บไว้ดีๆนะต้องใช้แสกนตอนออกด้วย

ogi3rzjfqnm2
ghi83gqn422q
4uid5fmtg86q
f6qf7fdra5h1
oux7oyv99vod
ynu8rzseaw4l

ด้วยความที่เข้ามาคนแรกๆ ข้างในคนก็จะไม่เยอะมาก เดินไปสักพักก็ได้อยู่คนเดียวท่ามกลางธรรมชาติ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกสัญญาณมือถือก็ไม่ค่อยมีเหมือนได้ดีท็อกซ์ไปด้วยในตัว

เดินมาอีกพักนึงก็เจอแลนด์มาร์คของเรา Skywalk 360องศา

dry1r0d7vvdv
yduec9t6hfwv
tyca4yfalx3v
hq8kmr925f1y
n6nxy0soalrr
284rlg29khq5
ff9rj0by5nvz
3zv7ywwoexfe
gc8k7syu4a3z

เดินชมวิวถ่ายรูปจนหนำใจแล้วเราก็ต้องเดินต่อไป

oqozkqgcxkdk
i8i95jfhpim9
sx7awiuhh93n
2t1ui9w117pr
1uz6by1xrj41
ehqxbnwunli4

พอถึงทางออกก็จะมีรถกอล์ฟคอยไปส่งเราที่ลานตรงร้านอาหาร

ที่นี่มีพิพิธภันฑ์กล้องด้วยนะไม่แน่ใจว่าใช่อันเดียวกับที่เคยอยู่ในเมืองรึเปล่าเพราะที่นั่นปิดไปแล้ว ที่นี่ค่าเข้า 15 ริงกิต

bog0n2qzq3td
tmfd9r0z2b6a
yb7tqvpl0wse
lagobx9stxb9
usvrvlxhjqux
cb8qmj3lq0qs
lo9ksynnio4e
diiug2eua0ts

พอดูเสร็จแล้วก็ถึงเวลาต้องลงแล้วล่ะ คนก็เริ่มเยอะขึ้นมากเดินกันพลุกพล่าน ตอนลงรถลางก็ต้องต่อแถวอยู่แปปนึงแต่ก็ไม่นานมาก

พอลงมาถึงข้างล่างทำนั้นแหละคนเป็นล้านเหมือนเมื่อวานที่เรามาตอนบ่ายเลย ดังนั้นใครจะมาที่นี่แนะนำเลยว่าให้มาเช้าถึงเช้ามาก เพราะนอกจากจะไม่มีคนแล้วยังได้เห็นท้องฟ้ายามเช้า อากาศสดชื่นอีกด้วย

3i96fvw3lueb
kgn5l1pryy9p

หลังจากฝ่าคนออกมาแล้วก็เรียกพี่ Grab ให้มารับเพื่อจะไปหาอะไรกินต่อที่ร้านบะหมี่แบบจีนชื่อร้าน 218 Hainan Lor Mee

และแล้วเหตุการณ์คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น (อีกแล้วหรอวะ) จริงๆก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะบิ้วไปงั้นแหละ พี่ Grab มาถึงปรากฎว่าเป็นคนอินเดียนั่งไปก็ชวนคุยไปมนุษย์สัมพันธ์ดี แล้วอยู่ก็พูดขึ้นมาว่าไปกินกาแฟฟรีมั้ยมีร้านเปิดใหม่ มีช็อคโกแลต ชา ฟรีด้วยนะ เราก็เอ้ยมีแจกกาแฟฟรีงี้ด้วยหรอวะ และด้วยความหิวก็ปฏิเสธไปอยากไปร้านข้าวไวๆแล้ว

พี่แกก็ขยั้นขยออยู่นั้นแหละ แปปเดียวเอง ย้ำแล้วย้ำอีกว่าฟรีเราก็ว่าไม่ๆพูดไปว่าเพื่อนรออยู่ พี่แกก็โอเคนั่งไปพอถึงแยกนึง พี่อินเดียก็พูดขึ้นมาอะไรบางอย่างซึ่งเราคิดว่าถามว่าไปทางนี้ใช่มั้ย ก็บอกใช่ โอเคๆประมาณนี้ (หลังจากนี้ขออนุญาตเรียกว่ามัน 5555) มันพาไปร้านของฝากเว้ยยย เราก็บอกไม่ๆไปร้านอาหารเลย มันบอกแปปเดียวๆไม่เกินสิบนาทีแล้วเปิดประตูลงไปเลย เราก็เลยต้องจำใจลงไป

เดินเข้าไปในร้านก็เป็นร้านของฝากขายของประมาณมาซุปไก่สกัดที่มาจากประเทศไทย พนักงานต้อนรับก็เดินมาพูดคุยแล้วความ Where you come from? อยากจะตะโกนออกไปว่ากูคนไทยโว้ยยย ก็เอานู่นนี่มาให้ชิม บอกไม่เอาก็ยัดใส่มืออีก ชิมเสร็จเราก็ไปล่ะไม่อยู่แล้ว เดินออกมาเจอไอ้แกร็บมันยืนเซ็นรับค่าคอมฯอยู่ นี่โมโหละสึด เลยเดินไปเรียกบอกจะไปร้านนั้นเดี๋ยวนี้ พอขึ้นรถมันยังจะถามอีกว่าไปอีกร้านมั้ยมีขนมฟรี นี่หน้าบูดละอาการน่าจะออกอย่างเห็นได้ชัด ไอ้คุณพี่แกร็บเลยบอก โอเคๆถ้าไม่ติดต้องรักษาภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยนะ ขนมพ่องงงงงง

d21uv1egqqyh

ในที่สุดก็มาถึงร้านสักทีเสียเวลาชิบ ร้านนี้อยู่ข้างทางเลยหาไม่ยากเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแบบจีนไห่หนานน้ำจะเหนียวนิดๆคล้ายๆรานดหน้า เข้าไปแล้วเราสั่งแบบ Original มาเจ้าของร้านก็บริการดีแนะนำให้ด้วยว่าถ้าเป็นแบบดั้งเดิมจะใส่ทั้งเส้นหมี่เหลืองแหละหมี่ขาว บางคนเค้าจะไม่ชอบผสมกันพร้อมแนะนำวิธีการปรุงให้ด้วย เจอแบบนี้ก็หายเซงจากไอ้คุณพี่แกร็บไปเลย แล้วก็มีกาแฟโบราณด้วยอร่อยดีเหมือนกัน ไปลองกันได้

ksrvbntfp0l9
2cq1c0phkyjt

อิ่มหนำแล้วก็ไปหาที่พักผ่อนละไปกันต่อที่ Gurney Paragon โดยจุดมุ่งหมายคือร้านหนังสือ Bookxcess เห็นในไอจีมีถ่ายรูปสวยดี ที่นี่มีหนังสือดีๆ เยอะมาก ใครชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษต้องชอบมากแน่ๆ ปกสวยๆทั้งนั้น ซื้อมาตั้งโชว์ก็เท่แล้ว 5555 ที่สำคัญราคาโคตรถูกมากกกกก เราได้หนังสือภาพมา 200กว่าบาท ถ้าซื้อที่ไทยนี่ราคาขึ้น 1,000 นะครับ

i42fy6t69tck
xv1kp7718ekg
kc4k3ninq6bg
wk47q6rkri97
auv0m212qrog

หนังดูหนังสืออยู่สักพักนึง เดินไป Gurney Plaza ที่เราแวะมาตอนวันแรก ได้ยูนิโคล U มา 140 บาทเองถูกมาก เห็นเค้าว่ารองเท้าที่นี่ถูกด้วยนะแต่เรากไม่รู้ราคาหรอก อิอิ เดินฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ เพราะคืนนี้มีแผนว่าจะไป Penang Avatar Secret Garden เป็นสวนที่มีไฟประดับประดาต้นไม้งี้ หาข้อมูลมาสวยดี

3k7v72xjby3u
nqk9dj9q5rgk
d73myk9ay55p
28l7o4wwdvqq
3htx0xhxukqq
qv7yr2dltg4s
iiqqx5nhoo7o
m8qfljui1zqa
cn6kapxe7kov

เราว่ามันก็สวยดีนะแต่ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น ฟิลเหมือนงานวัดคนเยอะมาก ไม่รู้ว่าเป็นวันหยุดของเค้ารึเปล่าไปไหนคนก็เยอะ อันนี้ใช้มือถือถ่ายด้วยเพราะกล้องที่ยืมเพื่อนไปนั้นถ่ายกลางคืนไม่รอดเลย 5555 โทษกล้องไว้ก่อนวุ้ย

หลังจากเสร็จก็โบกพี่ Grab กลับเลยไม่ไหวแล้ว วันนี้หนักหน่วงมาก

Day 4

วันนี้เป็นวันสุดท้ายขอเดินชิลๆ ชมเมือง ดูสตรีทอาร์ตละกันเดินออกมาหน้าที่พักก็เจอ 2-3 ชิ้นแล้ว แล้วก็เดินต่อไปอีกนิดที่หมู่บ้านชาวประมง Chew Jetty

t8bi40g9i0f4

อันนี้อยู่ตรงข้ามที่พักเลย

j54wlyetp4hw
xwtl2hfx3jgn
bjgw9tmwr3dd
g7u8iqrww4re
fcfaod8pnkr7

ขนมเปี๊ยะกับทาร์ตไข่ร้าน MING XIANG TAI PASTRY SHOP เจ้าเก่าอร่อยสมคำล่ำลือ

ssmkfrjy66jd
ij17h1p7i6vb
bgbo5yayo9r1
432n7k2twzpx
9wa6rc03rj1b
a8vb5q8mwrkt
453641525o8c
76il6mtv61yo
jrlv38s74kf2

วันนี้มีแผนว่าจะไปเดินดูพวก มัสยิด วัดต่างแล้วก็พิพิธภัณฑ์ด้วย ระหว่างรอทั้งหมดนั้นเปิดเลยหาร้านกาแฟนั่งเลยก่อน หาดูแล้วเจอร้าน Bean Sprout อยู่ตรงข้ามวัดเจ้าแม่กวนอิม ชั้นสองเป็นลูกกรงเห็นวิวดูไรเพลินๆไปด้วย

9kd5qqvhjbxj
gacgfhep34gy
xenbb58v7u5e
yf89ys9ql0ld

นั่งพัก จิบกาแฟให้หายเหนื่อยแล้วก็เดินลงไปที่วัดเจ้าแม่กวนอิม วัดนี้เป็นวัดจีนวัดแรกในปีนังเลยสร้างโดยชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่

มีเรื่องแปลกและต่างจากบ้านเราอย่างหนึ่งคือตอนแรกที่เราเดินเข้าไปจะเห็นคนนั่งอยู่ในบริเวณวัดเพียบเลย เราก็นึกว่าคนมาทำบุญกันอะไรงี้ อยู่ๆก็มีเสียงคนเรียกอะไรสักอย่างคนเหล่านั้นก็รีบวิ่งไปเข้าคิวต่อแถวกันใหญ่ ถึงได้รู้ว่าคนเหล่านั้นน่าจะเป็นคนยากจนหรือคนไร้บ้านที่มารอคนมาบริจาคอาหารอยู่นั่นเอง

07g29ryaynf6
8l4sfuxcpomq
gr072wr5msxv
niojvh1zluvt
ezkewiciknym

เดินชมเมืองไปเรื่อยระหว่างทางก็จะเจอ วัดฮินดู มัสยิดต่างๆ เมืองนี้ค่อนข้างมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเลย

jdpwbmmvdy7z
x33dgvzujzop

มัสยิด Kapitan Keling Mosque สร้างโดยกลุ่มคนมุสลิมกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากที่ปีนังตั้งแต่ประมาณปี 1800 นู่นและยังใช้ทำพิธีทางศาสนาอยู่

758jxmcft90g
zzqf7uv01ns1

ล่าสตรีตอาร์ตต่อ ไป ลุยย

yopxnea916wy
92qtxcten32f
thxtiqjo311q
j3ll8lbtxdm2
h8v3em9rs5fo
lcagtpb75eme
bv3g17lorjtu
xuxyysbncfd0
9h70llfd81cq
z2gubk2tn139

PENANG STATE MUSEUM AND ART GALLERY ปิดจ้า ใครจะมาเช็กกันก่อนนะ

ต่อไปเราจะไป Pinang Peranakan Museum ก็คือคฤหาสน์เปรานากัน เป็นคฤหาสน์ของตระกูลเก่าแก่ ข้างในมีของสะสมโบราณเป็นพันชิ้นเลย ที่นี่เค้าจะมีไกด์พาชมด้วยมีเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนเป็นรอบๆ ค่าเข้า 20 ริงกิต

mkxcfigqgc0r
ebq0nflnbxh8
l4930v2szcnl
ejfdjpn43kjg
7oyl8d6vvqt0
pys6piwxuk5z
yyoh96pap7ui

ไปกันต่อเลย จุดหมายต่อไปคือ The Blue Mansion ที่นี่ก็เป็นคฤหาสน์เก่าแก่อีกที่นึงแต่จะโรงแรมด้วยในตัว ซึ่งมีดีเทลในการสร้างระดับ 10 ทุกอย่างมีความหมายแทบทั้งสิ้น ได้รับรางวัล 1ใน10 แมนชั่นของโลกด้วย และที่สำคัญซึ่งเรามาเพราะเหตุนี้เลยคือเป็นฉากในการถ่ายทำหนังเรื่อง Crazy Rich Asian ด้วย 555 ไม่ได้เกี่ยวกับความสวยงามเล้ย

ที่นี้จะเปิดเป็นรอบๆ วันละสามรอบ จะมีพี่ไกด์คอยเล่าเรื่องของเจ้าของให้ฟังสนุกมาก ค่าเข้า 17 ริงกิต

xd5ptllhv8d4
1bufh673c8za
rgqflfukffdc
ev46kyw1ywup
uw5j8tiqvehv
3wmitjwiiqbe
w1i26ya922si
qu3fqh6edrdb
hgfzp6wwscp6
tpfq5bv4n1ge

หลังจากเดินชมจนทั่วแล้ว เราก็เดินไปดูสตรีทอาร์ตต่ออีกนิดก่อนค่อยไปหาอะไรกินเป็นมื้อสุดท้ายของทริปนี้

zpyl11dcmc15
taojges39kom
6rtyadcb3tni

ร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดียที่เราเล็งไว้ตั้งแต่วันแรกละ แต่คนเยอะทุกวันเลยเดินผ่านไปหลายรอบกว่าจะได้กินก็มื้อสุดท้ายของทริปเลย อาหารที่นี่มีหลายอย่าง เราเลือกเป็นเซ็ตไก่ย่างกับแป้งนานมา รสชาติดีเลยอร่อยจนต้องสั่งข้าวกับไก่ย่างมาเพิ่มอีก

แนะนำให้มาไม่ตรงกับมื้อกลางวันหรือมือเย็นเพราะคนจะเยอะ 2อย่างนี้กับน้ำ 28 ริงกิต

egtx5llmw82w
jr6e3r8n84fb

ขากลับเราก็กลับทางเดิมไรแบบไม่รีบ เพราะเราไปค้างหาดใหญ่คืนนึงก่อนกลับ แต่รอบนี้จากด่านปาดังเบซาร์เราต่อวินมอไซผ่านด่านตม.เป็นช่องตม.สำหรับมอเตอร์ไซค์เลย ไปคิวรถตู้เข้าหาดใหญ่แทน

จบแล้ววววว ทริปนี้เป็นการมาเที่ยวคนเดียวจริงๆเป็นครั้งแรกของเรา ถามว่าเหงามั้ยก็เหงานะวันที่3-4 มีรู้สึกว่าอยากกลับบ้านละ 5555 แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยนะ ได้เจออะไรใหม่ๆเยอะอยู่ ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้แย่งกันขึ้นรถไฟ ไม่ใช่!! นั่นแหละ เจอคัลเจอร์ที่แตกต่างกัน เจอน้ำใจของผู้คนที่อยากช่วยเราทั้งที่ไม่รู้จักกันแถมยังคุยกันไม่รู้เรื่องอีก ฟีลกู้ดมาก

เรื่องการ นั่งรถไฟไปปีนัง เราว่าน่าลองนะ มันส์ๆเลยถ้าไม่รีบ ได้เห็นอะไรเยอะมากจริงๆ แต่ถ้าอยากใช้เวลาเที่ยวให้มากขึ้นเดินทางสบายๆผายมือไปสนามบินเลยสบายกว่าเยอะมาก

มาสรุปค่าใช้จ่ายกัน

ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ หาดใหญ่ 2,000

ที่พัก คืน 1,100

ค่าเดินทาง 1,100

ค่ากิน 1,200

ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ 1,100

รวม 6,500 บาท

ค่าใช้จ่ายนี้เป็นของเราเองนะ ปัดมากลมๆ จะมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน

เจอกันใหม่ทริปหน้า ขอให้ทุกคนได้เที่ยวนะ

อุปกรณ์

กล้องยืมเพื่อน Olympus omd-em10 mk1 + m.zuiko 17mm f1.8

Huawei p20

ฝากอีกทีเน้อ

FB : https://www.facebook.com/wishustravel/

ความคิดเห็น