ทริปบ้า ๆ
ทริปนี้เกิดขึ้นจากคิดเล่น ๆ ว่าในช่วงปิดเทอมจะนั่งรถไฟสายใต้ไปเรื่อย ๆ
จากอุบลฯ กรุงเทพฯ ไปจนถึงหาดใหญ่ แวะหัวหิน ชุมพร ข้ามไปเกาะเต่า เกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ บินไปเชียงใหม่ และบินกลับอุบลฯ
แต่ด้วยเหตุผลด้านงบประมาณและเวลาจึงตัดเกาะเต่าและเกาะพะงันออก ทีนี้พอเช็คราคาตั๋วเครื่องบินจากหาดใหญ่ไปเชียงใหม่แพงกว่า สุราษฎร์ไปเชียงใหม่ จึงตัดปลายทางหาดใหญ่ออกเช่นเดียวกัน
// อีกนิดนึงพอตัดเกาะต่าง ๆ ออกแล้ว แผนใหม่คือไปนอนโฮมสเตย์ บามหมึก ที่อ.สวี จ.ชุมพร แต่เนื่องด้วยพวกเราจองช้าเกินไป แผนจึงเป็นอันยกเลิกไป สรุปแผนการเดินทางคือ อุบลฯ กรุงเทพฯ หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ เชียงใหม่ 7 วัน 7 คืน ด้วยงบประมาณ 6,000 บาท
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจ Facebook ได้นะครับ https://www.facebook.com/Khunjaos-Backpacker-537827246272283/
วิดีโอนี้เป็นภาพจาก Live Photos ใน iPhone นำมาต่อ ๆ กัน เป็นคลิปที่รวมภาพเกือบทุกภาพของทริปนี้!
บันทึกการเดินทาง
20 ต.ค. 60
เดินทางอุบลฯ - กรุงเทพฯ
18.00 น. พอดีพี่จะไปธุระในเมืองเลยขอติดรถไปสถานีรถไฟ แต่เดินทางไปได้แค่ 20 กิโลเมตร รถเกิดอุบัติเหตุตกหลุมอย่างรุนแรง ล้อหน้าแตก! โทรหาร้านแถวนั้นก็ปิดเกือบหมด จึงโทรให้พี่อีกคนมาเปลี่ยนยางให้รอนานเลยทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
20.00 น. ถึงสถานีรถไฟ รถไฟออก 20.30 น. ตรงเวลาเป๊ะ เกือบไม่ทัน ๕๕๕ ค่าตั๋วรถไฟชั้น 3 คนละ 205 บาท เดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง
ซื้อข้าวและน้ำบนรถไฟ 40 + 15 = 55 บาท
21 ต.ค. 60
เดินทาง กรุงเทพฯ - หัวหิน
08.00 น. ถึงสถานีรถไฟกรุงเทพฯ และอาบน้ำแต่งตัวที่สถานี ค่าอาบน้ำคนละ 10 บาท
และทานข้าวเช้าที่สถานีรถไฟ ค่าเสียหายคนละ 50 บาท
09.20 น. ออกเดินทางกรุงเทพฯ - หัวหิน ด้วยรถไฟฟรี ขบวน 261 อยากจะบอกว่าเดินทาง 4 ชั่วโมง พวกเราได้ยืนตลอดเป็นเวลา เกือบ ๆ 4 ชั่วโมงจนถึงสถานีชะอำกว่าจะได้นั่ง พระเจ้า! พอได้นั่งก็หลับทันที เหนื่อยมาก รู้สึกตัวอีกทีถึงสถานีรถไฟหัวหินแล้ว
แผนที่หัวหินคือ ชมเมืองหัวหินรอรถไฟไปชุมพรในเวลา 22.34 น.
จากนั้นก็หาอะไรทาน และนั่งรถสองแถวไปลงที่เขาตะเกียบ เดินขึ้นเขาตะเกียบไปชมวิว และไหว้พระ
จากนั้นมาถ่ายรูปชิว ๆ ชิค ๆ ที่ร้าน Skoop Beach Cafe'
และนั่งรถสองแถวมาเดินเล่นที่ห้าง HuaHin Market Village
จากนั้นเดินเลียบชายทะเลหาดหัวหิน ไปยังถนนคนเดินหัวหิน
พวกเราหาอะไรทานที่ร้าน Friend House ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ ค่าเสียหายคนละ 280 บาท และอาบน้ำที่สถานีรถไฟ 10 บาท
จากนั้น เวลา 22.34 น. นั่งรถไฟจากหัวหินไปชุมพร รถไฟชั้น 3 ราคาคนละ 99 บาท
22 ต.ค. 60
04.00 น. ถึงสถานีรถไฟชุมพร และหาทานข้าวเช้าแถว ๆ สถานี เป็นโจ๊กกับโอวัลติน
06.30 น. พวกเราจองโรงแรมผ่าน Agoda และมีคูปองส่วนลด 150 บาท พักที่โรงแรมสุริวงศ์ ราคาหลังหักส่วนลดห้องละ 234 บาท ก็นอนพักผ่อนอย่างสบายใจ หลังจาก 2 คืนที่ผ่านมานอนแต่บนรถไฟ ๕๕๕
12.00 น. หาออกเดินเล่นในเมืองชุมพร เจอร้านเทียนชัย ข้าวหน้าเป็ดอร่อยสุดยอดมากกกกก
จากนั้นนั่งรถสองแถวจากตัวเมืองชุมพรไปที่หาดทุ่งวัวแล่น ราคาคนละ 30 บาท
หาดนี้น้ำใสน่าเล่นมาก แต่เสียดายพวกเราไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน ได้แต่ถ่ายรูป ชมวิว
จากนั้นก็เดินถ่ายรูปเล่น ไปเจอน้อง ๆ กลุ่มหนึ่งก็เลยบอกว่าจะถ่ายรูปให้ ใครรู้จักน้อง ๆ เด็ก ๆ กลุ่มนี้แชร์ภาพให้เขาได้เลยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นก็มานั่งชิว ๆ ดื่มน้ำเย็น ๆ ปลาหมึกย่าง ริมหาด รอรถสองแถวกลับตัวเมืองชุมพร
แต่รอนานมากกกกก ตั้งแต่บ่ายสามกว่า ๆ จนถึงรถเที่ยวสุดท้าย ห้าโมงเย็น!!!
สะตอระหว่างนั่งสองแถวกลับชุมพร
ตอนกลางคืนมานั่งกินข้าว ฟังเพลงเบา ๆ ที่ร้าน De Rust Bar ใกล้ ๆ กับ โรงแรม ค่าเสียหายคนละ 360 บาท
23 ต.ค. 60
06.00 น. นั่งจิบกาแฟก่อนเช็คเอ้าท์
06.30 น. นั่งรถไฟจากชุมพรไปสุราษฎร์ รถไฟฟรีขบวน 445
เหนียวไก่ 10 บาท
แต่! พอถึงสถานีคลองขนาน อ.หลังสวน จ.ชุมพร หัวรถไฟเสีย ต้องรอเปลี่ยนหัวจักรกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้จากกำหนดเราจะถึงสุราษฎร์ 09.43 น. แต่เราถึงสุราษฎร์ในเวลา 12.30 น.
จากนั้นเราก็ถามน้องใจดี 2 คน ที่นั่งรถไฟมาด้วยกันถึงการเดินทางเข้าสุราษฎร์ น้องก็แนะนำและพาขึ้นรถบัส ต้องขอบคุณน้องทั้งสองคนมากครับ
รถบัสไปสุดสายที่ตลาดเกษตร พวกเราก็ลงรถและต่อรถตุ๊ก ๆ ไปที่โรงแรม
น้องสองคนข้างหน้าที่พาเราไปขึ้นรถบัส
รถตุ๊ก ๆ จากตลาดเกษตรไปโรงแรมคนละ 40 บาท
พวกเราพักที่โรงแรม Cheaper Room จองผ่าน Agoda ห้องละ 314 บาท
จากนั้นก็นอนพักผ่อน และเดินเล่นในเมืองสุราษฎร์หาร้านกาแฟชิค ๆ
จากนั้นก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์กับที่พักราคาคันละ 150 บาทต่อวัน ไปถ่ายรูปเล่นที่เซ็นทรัลสุราษฎร์ เพราะถามเจ้าของโรงแรมเขาบอกว่าสุราษฎร์ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากจะไปเกาะ ก็เลยได้ไปเดินเล่นที่เซ็นทรัล
จากนั้นก็แวะมากินบุฟเฟต์อาหารทะเลย ราคาคนละ 398 บาท
เป็นคนที่ไม่ชอบอาหารทะเล แต่เห็นในเพจเขาบอกว่าบุฟเฟต์รวมเบียร์ผมก็เลยตัดสินใจไป แต่พอไปถึงไม่ได้รวมเบียร์นะจ๊ะ
ถือว่าคุ้มสำหรับคนที่ชอบอาหารทะเล แต่สำหรับผมกินได้แค่ปลา กับปลาหมึก ๕๕๕
และขับรถไปชมวิวแม่น้ำตาปี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
24 ต.ค. 60
ตอนเช้าเช็คเอ้าท์ จิบกาแฟรอรถตุ๊ก ๆ มารับ
เราได้ติดต่อคุณลุงรถตุ๊ก ๆ เพื่อไปส่งที่สนามบินจากที่พักในราคา 300 บาท
การเดินทางไปสนามบินมีรถบัสบริษัทพันทิพย์ขึ้นที่ตลาดเกษตร รถออกเที่ยวแรกตี 5 ราคาคนละ 100 บาท
แท็กซี่โรงแรมติดต่อให้ราคาเหมาเที่ยวละ 350 บาท
แต่พวกเราขึ้นตุ๊ก ๆ นัดให้คุณลุงมารับ 07.00 น. ที่หน้าโรงแรม ขับรถ 40 นาทีถึงสนามบิน ลุงขับเร็วได้ใจมาก ๕๕๕
ใครแวะไปสุราษฎร์ติดต่อคุณลุงตุ๊ก ๆ ได้ที่เบอร์นี้นะครับ 082-8273273
09.20 น. ออกเดินทางจากสุราษฎร์ไปเชียงใหม่เจ้า
เครื่องออกก่อนกำหนดประมาณ 10 - 15 นาที กัปตันขับเร็วมากก ตามกำหนดจะถึงเชียงใหม่เวลา 11.20 น. แต่เราถึงเชียงใหม่เวลา 10.43 น.
อาหารบนเครื่อง คือ ความจริงผมได้ตั้งใจจะสั่งหรอกนะ ลองกดเล่น ๆ ในเว็บ และกดจองไปนึกว่ามันจะยกเลิกให้ถ้าไม่จ่ายเงิน แต่! ถ้าไม่จ่ายเงินเขาบอกว่าเช็คอินไม่ได้ก็เลยต้องจ่ายไปค่าเสียหายอาหารชุดละ 100 บาท
พอถึงสนามบินพวกเราเลือกการเดินทางคือแว๊นมอเตอร์ไซค์
เดินออกมาทางออก จะเห็นลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ ก็จะเจอร้าน Bikky ที่เรามาเชียงใหม่ต้องเช่าร้านนี้ประจำ
ราคาถูกสุดรถเกียร์ธรรมดา คันละ 200 บาทต่อวัน มีค่าเอารถที่สนามบิน 50 บาท และ คืนรถที่สนามบินอีก 50 บาท เราเช่า 3 วัน (3x200) + (50+50) = 700 บาท
จากนั้นก็ขับมาที่พัก พวกเราเลือกห้องพักที่ถูกที่สุดจองผ่าน Agoda ล่วงหน้าเพียง 1 คืน จองที่ SDT Home เป็นเกสต์เฮ้าส์ ราคาคนละ 100 บาท ถือว่าดีมาก ๆ เลย นะครับ ผมชอบบรรยากาศ โฮมสเตย์ เกสต์เฮ้าส์มากกว่าโรงแรมทั่วไป เพราะมันเป็นกันเองดูอบอุ่นดี
ห้องพักเป็นห้องส่วนตัวห้องละ 2 คน พัดลม มีห้องอาบน้ำในตัว แต่ห้องส้วมต้องใช้ร่วมกัน
แนะนำสำหรับใครที่ชอบถูก ๆ ไม่เน้นหรูหรา เน้นบ้านเกสต์เฮ้าส์ SDT Home
มีที่นั่ง ศาลา มีกล้วยให้กินเหมือนอยู่บ้านเลย
13.00 น. เดินทางไปดอยสุเทพ แวะพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พอไปถึงฝนตกพอดี ยืนหลบฝนอยู่นาน
จากนั้นมุ่งหน้าไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ค่าเข้าคนละ 20 บาท
คือตอนที่ไปฝนตกเสร็จใหม่ ๆ หมอกเยอะมากก อากาศเย็นและสวยมาก ๆ
ใครที่ได้ขึ้นดอยสุเทพ ต้องไม่พลาดพระตำหนักภูพิงค์ ที่ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากกกก
จุดชมวิว
อ่างเก็บน้ำ
ที่ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากกก
จากนั้นขับรถต่อไปยังบ้านม้งดอยปุย
สตรอว์เบอร์รี่แก้วละ 50 บาท
และเดินไปยังสวนดอกไม้ สวนน้ำตกดอยปุย ค่าเข้าคนละ 10 บาท
จากนั้นมานั่งชิว ๆ ร้านกาแฟ ม้ง คอฟฟี่ บรรยากาศดีมาก
และกลับตัวเมืองเชียงใหม่ อาบน้ำ
จากนั้นมีเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่พาไปกินข้าว ที่กาดหน้ามช. วันนี้เรากินสเต็กกัน
ฝนก็ตกหนักมาก รอจนฝนหยุดค่อยได้ไปต่อ
จากนั้นเพื่อนพาไปนั่งชิว ๆ บรรยากาศตอนกลางคืนที่ร้าน Good View ริมแม่น้ำปิง บรรยากาศ กู๊ดวิวสมชื่อ
เพื่อนบอกว่าใครมาไม่ได้มาร้านนี้ถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่ ๕๕๕ มื้อนี้หมดไป 700 บาท
จากนั้นกลับมาที่ห้องพัก ซดเบียร์ไปอีกคนละขวด ๕๕๕
25 ต.ค. 60
เห็นเพื่อนในเฟซแชร์โพสต์รับบริจาคให้เด็กกำพร้า วัดดอนจั่น จึงหาเสื้อผ้าและหนังสือเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบริจาค แบกขึ้นรถไฟไปถึงสุราษฎร์แล้วมาบริจาคที่เชียงใหม่
จากนั้นมุ่งหน้าไปที่เชียงดาว แผนคือนอนเชียงดาว
เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท ค่ารถมอเตอร์ไซค์คันละ 20 บาท
พอขึ้นไปเพื่อนบอกว่ามันไม่ว๊าวเท่าไหร่ จึงเปลี่ยนแผนไม่นอนเชียงดาว แบกกระเป๋ากลับไปนอนที่ตัวเมืองเชียงใหม่
บรรยากาศเชียงดาวววว
ภาพจากกล้องใหญ่
ระหว่างทางแวะถ้ำเชียงดาว ค่าเข้าคนละ 20 บาท แต่เข้าไปได้แค่ครึ่งทางเพราะน้ำท่วมในถ้ำ
น้ำท่วมทางเดินไปต่อ ต้องเดินย้อนกลับ
ซื้อหวยครั้งแรกในชีวิต ซึ่งหารกันกับเพื่อน สาธุ ๆ
จากนั้นแวะกินข้าวที่ร้านข้าวเส้น
บรรยากาศร้านตกแต่งได้สวยงาม น่านั่งมาก
ข้าวซอยอร่อยมากกก
จากนั้นระหว่างทางกลับเชียงใหม่ แวะสวนสนข้างทาง
ถึงเชียงใหม่ 18.30 น. คืนนี้พวกเราจองที่พักแบบโฮสเทล นอนรวม ที่ Me U Hostel ราคาห้องแอร์คนละ 120 บาท จองผ่าน Agoda แต่ถ้าวอร์คอิน ราคาคนละ 130 บาท
ปกติถ้าไปคนเดียวผมจะชอบนอนโฮสเทล หรือเกสต์เฮ้าส์ หนึ่งแหละมันถูก สองได้เพื่อนใหม่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
ที่ห้องพักมีฝรั่งเข้ามาทักทาย ผมก็เซย์ไฮไป ถาม ๆ ไปถาม ๆ มาเขามาจากเยอรมัน ถ้าผมฟังไม่ผิดนะ เขามาเที่ยวแบบไปเรื่อย ๆ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฯลฯ เรื่อย ๆ เป็นเวลา 1 ปี โอ้โหวว อิจฉามากกก อายุแค่ 25 ปี แต่ลืมถามชื่อซะงั้น เขาก็ถามผมว่าเป็นคนที่ไหน ผมก็บอกว่าเป็นคนไทย
จ.อุบลฯ เขาไม่รู้ และเขาก็เอาโทรศัพท์มาให้ผมเปิดแผนที่จังหวัดให้เขาดู
บริเวณห้องพัก แอร์เย็นมากกกก
ที่พักคืนนี้นอนด้วยกัน 5 คน ชาย 4 หญิง 1
คนไทย 2 ต่างชาติ 3
จากนั้นเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่ก็พาไปกินหม่าล่าร้านที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ร้านหม่าล่าสี่แยก
หม่าล่า มาจากภาษาจีนคือ เผ็ดชา
26 ต.ค. 60
เช็คเอ้าท์ออกจาก Me U Hostel และเข้าที่พักใหม่ Junior Guesthouse
พวกเราจองผ่าน Agoda แต่เกิดปัญหานิดหน่อย คือจองปุ๊บแล้วเข้าที่พักปั๊บ ระบบมันยังไม่ได้ยืนยัน ต้องรออีกสักพักหนึ่ง และยังเช็คอินเข้าที่พักไม่ได้ เลยฝากกระเป๋าไว้กับที่พัก
จากนั้นพวกเราไปกินข้าวกันที่เมญ่า ร้านหลายร้านปิดเนื่องในวันนี้เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.9
จากนั้นแผนก็คือไปแม่กำปอง โดยการแว๊นมอเตอร์ไซค์ไป
เปิด Google Maps แต่ถนนเมืองเชียงใหม่หลายเลน สับสนมากก เลยหลงไปอีกทาง
จะกลับรถก็กลับไม่เป็นไปลงทางลอดซะงั้น ๕๕๕
ระหว่างทางไปแม่กำปองฝนตกหนักมากกก ผมเป็นคนขับรถเปียกหมดสิครับ
14.45 น. ถึงหมู่บ้านแม่กำปอง
ว่าจะไปนั่งร้านกาแฟฮ่อมดอย แต่คนเต็มก็เลย หาถ่ายรูปหมู่บ้านแม่กำปอง
หลาย ๆ ร้านก็ปิดเช่นเดียวกัน
หมู่บ้านแม่กำปอง
มีร้านหนึ่งแจกกล้วยปิ้งฟรี ขอบคุณด้วยนะครับ อร่อยมากก
เนื้อย่าง ขีดละ 35 บาท
จากนั้นมานั่งชิว ๆ ที่ร้าน เปิ้ลกะตั๋ว
กาแฟ ชาเขียว แก้วละ 75 บาท
แล้วพบกันใหม่ หมู่บ้านแม่กำปอง
และแว๊นมอเตอร์ไซค์กลับตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงเชียงใหม่ประมาณ 17.45 น.
อาบน้ำพักผ่อนที่พักจูเนียร์ เกสต์เฮ้าส์
พวกเราขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต และมีรถรับส่งฟรี ไปงาน น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย งานถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่
แต่พวกเราหลงทาง คือชิดซ้ายมันจะมีทางเลี้ยวไปเซ็นทรัลแอร์พอร์ต แต่พวกเราขึ้นสะพาน อ้าว! ไปไหนน้อทีนี้ ขับหาที่กลับรถไปกลับกว่า 5 กิโลเมตร ๕๕๕
มีแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์
อาหารฟรี
Forever in Our Hearts
In remembrance of His Majesty
King Bhumibol Adulyadej.
27 ต.ค. 60
ตื่นเช้า ๆ ว่าจะมาชมวิวเมืองเชียงใหม่ที่ดาดฟ้า แต่ฝนตก เลยมานั่งกินอาหารเช้าที่ชั้นล่างของเกสต์เฮ้าส์
10.00 น. เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ขับมอเตอร์ไซค์มาคืนที่สนามบิน
12.05 น. เครื่องบินเทคออฟ มุ่งหน้าสู่อุบลราชธานี
จบทริป!
ค่าใช้จ่าย!!!
เรามีกฎว่าซื้ออะไรก็หารหมด เช่น ผมซื้อสตรอว์เบอร์รี่เพื่อนกินแค่คำสองคำก็หาร , เพื่อนซื้อกุ้งเผาผมไม่กินกุ้งผมก็ต้องหาร ๕๕๕
20 ต.ค. 60
- รถไฟอุบลฯ - กรุงเทพฯ 205
- ข้าวน้ำบนรถไฟ 55/2 = 27.50
21 ต.ค. 60
- ของใช้ 100/2 = 50
- อาบน้ำ 10
- ข้าวเช้า 40
- รถไฟกรุงเทพฯ - หัวหิน ฟรี
- ฝากของที่สถานีรถไฟหัวหิน 20/2 = 10
- ข้าวเที่ยง 75
- สองแถวไปเขาตะเกียบ 10
- สองแถวกลับเข้าหัวหิน 10
- ตั๋วรถไฟหัวหิน - ชุมพร 99
- อาหารเย็น เครื่องดื่ม 560/2 = 280
- ของใช้ 78.50
22 ต.ค. 60
- โจ๊กโอวัลติน 30
- ห้องน้ำ 3
- โรงแรมชุมพร 234/2 = 117
- ผงซักฟอก 5
- ข้าวหน้าเป็ด 40
- สองแถวไปหาดทุ่งวัวแล่น 30
- ปลาหมึก 50/2 = 25
- น้ำสไปร์ท 40/2 = 20
- สองแถวกลับชุมพร 30
- อาหารเย็น เครื่องดื่ม 720/2 = 360
23 ต.ค. 60
- รถไฟชุมพร - สุราษฎร์ ฟรี
- เหนียวไก่ 10
- รถบัสเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ 15
- สามล้อไปโรงแรม 80/2 = 40
- โรงแรมสุราษฎร์ 314/2 = 157
- เช่ามอเตอร์ไซค์ 150/2 = 75
- ชาเขียว 20
- บุฟเฟต์ทะเล 398
24 ต.ค. 60
- ตุ๊ก ๆ ไปสนามบิน 300/2 = 150
- เครื่องบิน สุราษฎร์ - เชียงใหม่ 620.40
- อาหารบนเครื่อง 100
- เช่ามอเตอร์ไซค์เชียงใหม่ 3 วัน 700/2 = 350
- ที่พัก SDT Home 99.50
- เติมน้ำมัน 71/2 = 35.50
- ค่าเข้าพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ 20
- ค่าเข้าสวนดอกไม้ดอยปุย 10
- สตรอว์เบอร์รี่ 50/2 = 25
- ชาเขียว 40/2 = 20
- อาหารเย็น สเต็ก 207/2 = 103.50
- เครื่องดื่ม Good View 700/2 = 350
- เครื่องดื่ม SDT Home 150/2 = 75
25 ต.ค. 60
- เติมน้ำมัน 50/2 = 25
- ค่าเข้าเชียงดาว 20
- ค่าเข้ารถมอเตอร์ไซค์ 20/2 = 10
- ค่าเข้าถ้ำเชียงดาว 20
- ลอตเตอร์รี่ 300/2 = 150
- ข้าวซอย 110/2 = 55
- โฮสเทล Me U 120
- หม่าล่า 50
- ของใช้ 66/2 = 33
26 ต.ค. 60
- ข้าวเช้า 50
- น้ำผลไม้ปั่น 35
- เติมน้ำมัน 50/2 = 25
- เนื้อย่าง 70/2 = 35
- กาแฟ ชาเขียว 150/2 = 75
- ห้องพักจูเนียร์เกสเฮ้าส์ 250/2 = 125
27 ต.ค. 60
- เครื่องบิน เชียงใหม่ - อุบลฯ 620.40
- แพนเค้ก 55
- ลูกชิ้น 15
- ค่ารถกลับบ้าน 75
รวมต่อคน 5,822.30 บาท !!!
Khunjao Backpacker
วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.04 น.