โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา ดอยม่อนเงาะ ไร่ชาลุงเดช อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่เจ้าา #gowithmia #ไปกับเมีย

โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และยังเป็นที่ตั้งของดอยม่อนเงาะอีกด้วย

เราสองคนเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับผ่านกาดสวนแก้ว เลี้ยวขวาตรงห้างเมญ่าเข้าสู่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกข่วงสิงห์เพื่อมุ่งสู่แม่ริม ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ขับตรงมาเรื่อยๆสักพักนึงจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายแยกที่จะไปอำเภอปาย แม่ฮองสอน เพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 ขับตรงมาเรื่อยๆหลังจากนั้นให้เลี้ยวขวาสู่ถนนชนบทหมายเลข 3052 เส้นทางจะเป็นถนนสองเลนขับสวนกัน ชันและคดเคี้ยวเล็กน้อย สรุปใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้นเอง สามารถใช้ Google map นำทางมาได้เลย จุดหมายปลายทางอยู่ที่โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา

ก่อนเดินทางเราได้หาข้อมูลและโทรสอบถามข้อมูลเพื่อจองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว ใครสนใจติดต่อเบอร์ได้ที่ 087-183-6415

นี่คือที่พักของเราในวันนี้ ที่นี่เป็นชุมชนและมีโฮมสเตย์ประมาณ 5-6 หลัง ชาวบ้านที่นี่ดูแลกันเองและหมุนเวียนกันรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเข้าพัก

มีระเบียงข้างหลังกว้างมาก เหมาะสำหรับการนั่งชิวกินบรรยากาศมากๆ ค่าเข้าพักราคาคนละ 450 บาท รวมอาหารสองมื้อ เช้าและเย็น

เช้าวันรุ่งขึ้นต้องนั่งรถกระบะ 4x4 ของชาวบ้านเพื่อขึ้นไปจุดชมวิวดอยม่อนเงาะ ค่ารถ 700 บาท จริงๆก็สามารถขับรถขึ้นมาเองได้ แต่ความเห็นส่วนตัวรถเก๋งไม่ได้แนะนำ เพราะทางค่อนข้างชัน ถ้าใครสนใจจะมาลองโทรสอบถามพี่ๆเค้าตามเบอร์ที่ให้ไว้ข้างบนอีกทีเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องครับ รถมารับเราที่หน้าบ้านตอน 6 โมงเช้า ใช้เวลาขับขึ้นไปถึงประมาณ 40 นาที ข้างบนมีลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำ ให้ด้วยนะ เผื่อใครสนใจมานอนกางเต็นท์ชิวๆกินลมชมวิวกับบรรยากาศที่เงียบสงบ

ถึงแล้วดอยม่อนเงาะ

เราสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้จากตรงนี้ด้วย

จุดชมวิวตรงนี้คือจุดลานกางเต็นท์และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร เพื่อไปยังจุดสูงสุดของดอยม่อนเงาะ

ถึงแล้วดอยม่อนเงาะ คุณลุงที่พาเดินขึ้นมาบอกว่าจริงๆแล้วม่อนเงาะเพี้ยนมาจากคำว่าโม่งโง๊ะ ซึ่งในภาษาม้งแปลว่าแม่ เพราะผาที่นี่มีสามผาเรียงกันเป็น ผาแม่ ผาพ่อ ผาลูก แต่ที่เด่นและสวยที่สุดคือผาแม่

เสียดายที่ไม่ได้เจอทะเลหมอกเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนอากาศแห้งและหนาวมากๆๆ นอกจากนี้คุณลุงยังเล่าให้ฟังอีกว่า ที่นี่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมๆกับม่อนแจ่ม แต่สิ่งที่แตกต่างจากม่อนแจ่มคือความเงียบสงบ และยังคงมีความเป็นวิถีชาวบ้านอยู่นั้นเอง

หลังจากที่เรากลับลงมาถึงที่พักแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าเดินทางกลับ แต่ก่อนที่จะกลับเข้าเมือง เราขอแวะไร่ชาลุงเดชซึ่งอยู่ใกล้กันเพียงแค่ไม่กี่กิโลเท่านั้นเอง

ซึบซับบรรยากาศอีกสักเล็กน้อยก่อนเดินทางกลับ