การที่เราจะวางแผนการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง เราต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น จุดหมายปลายทางที่เราจะไป ช่วงเวลาที่เราจะไป วิธีการเดินทาง และงบประมาณที่เราตั้งไว้ ทริปนี้เราจะไปเที่ยวสามประเทศเล็ก ที่เรียกรวมกันว่าเบเนลักซ์ ซึ่งประกอบไปด้วย เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมบวกส์ เราเดินทางกันแค่สองคน และการเดินทางในสามประเทศนี้ก็สะดวกมากโดยรถไฟและรถสาธารณะ ทริปนี้เราเน้นความยืดหยุ่นเป็นหลัก เราวางแผนคร่าว ๆ ไว้ว่าเราจะไปไหนบ้าง แล้วปรับเปลี่ยนเมื่อไปถึง เพราะช่วงเวลาที่เราไปคือฤดูหนาวอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันฟ้าไม่สวย บางวันฝนตก เราเช็คพยากรณ์อากาศวันต่อวัน ปรับเปลี่ยนสถานที่ที่เราจะไปวันต่อวัน ถ้าฝนตกอากาศไม่ดีเราก็ไม่ไป เลือกไปที่อื่นแทน เราเน้นเที่ยวแบบไม่กดดันตัวเอง ทริปนี้เราใช้พาสหลาย ๆ แบบ โดยการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย แบบไหนเหมาะกับเรา แต่สำหรับคนที่ต้องการประหยัดไม่จำเป็นต้องซื้อพาสก็ได้แต่ใช้วิธีการจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า สำหรับการเดินทางข้ามประเทศ แต่ข้อเสียคือ จะปรับเปลี่ยนวัน หรือเวลาไม่ได้ 


พาสแรกที่เราใช้ในทริปนี้คือ Eurail Pass – Benelux 4 วัน โดยเราซื้อจากเอเย่นต์ในกรุงเทพฯ เราจะไม่พูดถึงราคาเพราะแต่ละช่วง มีโปรโมชั่นต่างกัน 

จบทริปแล้วส่ง Travel Diary กลับไปทางไปรษณีย์ พับกลับไปเป็นซองที่เขาให้มาเลย ถ้าส่งในยุโรปก็ไม่ต้องติดสแตมป์ค่ะ แล้วเขาจะส่งของที่ละลึกกลับมาให้ เราได้เป็นถุงผ้า 2 ใบ (พาสสำหรับ 2 คน)

Eurail Pass สำหรับ Benelux ซึ่งจะจัดอยู่ในหมวด Eurail One Country Pass 

- ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนการเดินทางในแต่ละวัน

- ไม่จำเป็นต้องเดินทางติดกันทั้ง 4 วัน

- มีอายุ 1 เดือน นับตั้งแต่วันเปิดใช้

- เรายังไม่ต้องเขียนอะไรก่อนเปิดใช้ การเปิดใช้ก็ไปที่ช่องขายตั๋วในสถานีรถไฟ และให้พนักงานประทับตรา และลงวันที่เปิดใช้ ทั้งสองหน้าของตั๋ว (แผ่นที่1 จะเป็นตั๋ว และ แผ่นที่สอง เป็น Control Voucher) เจ้าหน้าที่จะแนะนำว่าจะต้องเขียนอย่างไร ใช้อย่างไร

- เวลาที่เราจะเดินทางไปไหน ให้เขียนรายละเอียดลงในตั๋ว ใน Travel Diary นายตรวจจะมาตรวจและประทับตรา ในแต่ละช่องใน Control Area ยื่นพาสให้นายตรวจพร้อมพาสปอร์ต

- ห้ามใช้ดินสอเขียน ให้ใช้ปากกาดำ หรือน้ำเงินเท่านั้น

- ห้ามเขียนผิด ห้ามลบ หรือแก้ไข

- ถ้าจะใช้บริการ รถไฟความเร็วสูง เช่น Thalys จาก อัมสเตอร์ดัม ไป บรัสเซลล์ จะต้องมีค่าสำรองที่นั่ง  

- ถ้าจะใช้ขึ้นรถไฟในเนเธอร์แลนด์ ให้สแกน บาร์โค้ด ที่อยู่บนซอง Euro Rail Pass กับเครื่องสแกนเพื่อเข้า / ออก ชานชลา เพื่อ ในเนเธอร์แลนด์ จะต้อง check-in / check-out

- รถไฟ Inter City Brussels จากอัมสเตอร์ดัม ไป บรัสเซลส์ ไม่ต้องสำรองที่นั่ง สามารถเลือกที่นั่งได้เลย

ตั๋วที่ได้มาจะมี 2 ใบ เป็นตั๋ว 1 ใบ เป็น control voucher และ travel diary

control voucher 1 ใบ จะมีชื่อ นามสกุล หมายเลขพาสปอร์ต อยู่บนนั้น จะมีลายละเอียดว่าใช้ได้กี่วัน กี่คน ไปไหนได้บ้าง (ของเราคือ Benelux ผู้ใหญ่ 2 คน ใช้ได้ 4 วัน ใน 1 เดือน แบบไม่ต้องใช้ติดกัน)

 Travel Diary ที่ต้องเขียนก่อนขึ้นรถไฟค่ะ ต้องตั้งใจเขียนมากค่ะ กลัวผิด วันที่ที่เดินทาง เดินทางจากเมืองไหน ไปเมืองไหน

ทริปนี้เราเดินทางไปกลับจากสนามบินอัมสเตอร์ดัมค่ะ โดยเริ่มเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมก่อน ช่วงวันแรก ๆ เราจะยังไม่ใช้ Eurail Pass แต่จะใช้พาสที่ซื้อในอัมสเตอร์ดัม

เราเริ่มใช้ยูเรล พาส เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม ไป บรัสเซลส์ ที่เบลเยี่ยม เราเลือกจะพักที่บรัสเซลส์เป็นหลัก และเดินทางโดยรถไฟจากบัสเซลส์ ไปเมืองอื่น ๆ

วันที่ 1 ของการใช้พาส เราเดินทางจาก Amsterdam ไป Brussels กับรถไฟ Inter City เลือกเวลาเดินทางโดยที่สะดวก ไม่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าค่ะ

วันที่ 2 ของการใช้พาส เราใช้เดินทางจากบรัสเซล ไป Ghents และ Bruges สองเมืองนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่ถ้ามีเวลามาก เที่ยวเมืองละวันก็ได้ค่ะ หรือบางคนเลือกที่จะพักที่เมืองนี้ แต่เราขี้เกียจลากกระเป๋า พื้นถนนในยุโรปส่วนมากเป็นหิน ลากยากค่ะ

วันที่ 3 ของการใช้พาส เราเดินทางจาก Brussels ไป Luxembourg

วันที่ 4 ของการใช้พาส เดินนทางจาก Brussels กลับไปที่ Amsterdam 

Pass ที่ 2 ใน เบลเยี่ยม ที่เราซื้อคือ Rail pass 10 journeys  ราคาตอนนี้คือ 83 ยูโร สำหรับรถไฟชั้นสองเราพักในบรัสเซลล์ 5 คืน ใช้เดินทางได้ 10 เที่ยว ใช้ได้ทั้งสองคน ไปไหนก็ได้ ทั่วประเทศ ซึ่งเราเดินทางกัน 2 คน ก็คนละ 5 เที่ยว เราสามารถซื้อได้ตามตู้ขายตั๋ว (ใช้บัตรเครดิต) หรือ ซื้อที่ช่องขายตั๋วในสถานี เราต้องลงรายการก่อนที่จะขึ้นรถไฟ โดยมีช่องให้เขียน วัน / เวลา / สถานีต้นทาง / สถานีปลายทาง

ถ้าหากเราเดินทางสองคน ก็เขียนสองบรรทัด ต่อเที่ยว

จาก Brussels to เมือง Diant เมืองนี้รถไฟวันละไม่กี่รอบ ต้องเลือกเวลาดี ๆ ค่ะ จะได้ไม่ต้องรอนาน

Louven เมืองนี้เป็นเมืองมหาวิทยาลัย เป็นเมืองที่น่าเดินเล่นอีกเมืองหนึ่งของเบลเยียม 

เราไปเที่ยวในเดือน มกราคม ซึ่งเป็นฤดูหนาว นักท่องเที่ยวในแต่ละเมืองจะมีให้เห็นน้อยมาก รถไฟแต่ละขบวนก็มีที่นั่งสบาย ๆ ไม่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า หรือไม่ต้องแย่งที่นั่งกับใคร

การขึ้นลงรถไฟ ในอัมสเตอร์ดัมและ เบลเยี่ยม ต้องคอยระวังเวลาจะขึ้นลง เพราะช่องว่างระหว่างชานชลาและโบกี้ ค่อนข้างห่าง และบางขบวนจะมีบันไดทำให้การยกกระเป๋าขึ้นลง ค่อนข้างลำบาก ขบวน intercity จะมีที่ว่างกระเป๋าค่อนข้างน้อย ส่วนมากจะอยู่กลางโบกี้ เก้าอี้จะหมุนสลับด้านไม่ได้ บางขบวนจะมีตู้ที่ห้ามใช้เสียง อีกอย่างที่ต้องระวังเป็นพิเศษในเบลเยี่ยมคือมิจฉาชีพ มาในหลาย ๆ รูปแบบ แต่เกือบทุกขบวนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขึ้นมาเดินตรวจ
ถ้าอยากถ่ายรูปแบบไม่มีคน แนะนำให้ตื่นเช้าค่ะ ออกมาเดินเล่นประมาณ 8 โมง หน้าหนาวจะยังมืด ๆ อยู่ 

The Grand Place เช้า ๆ จะยังเปิดไฟอยู่ ถ่ายรูปได้ถึงประมาณ 9 โมง คนเริ่มเดินทางไปทำงาน

Antwerp ไม่ค่อยม่นักท่องเที่ยวช่วงนี้ เดินเล่นได้สบาย ๆ 

ในเบลเยียม ทางเข้าชานชลา หรือเข้าในสถานี จะไม่มีช่องสแกนตั๋ว หรือประตูกั้น สามารถเดินเข้าไปในสถานีหรือแต่ละชานชลาได้เลย จะมีการตรวจโดยการใช้พนักงานตรวจบัตรโดยสารบนรถไฟ เราคิดว่าพนักงานตรวจน่าจะประจำอยู่บนขบวนนั้น ๆ เพราะเห็นพนักงานคนเดิมเดินไปเดินมา เพื่อขอตรวจตั๋ว แต่ถ้าเขาจำได้ว่าตรวจตั๋วเราแล้ว ก็จะไม่มาถามหาตั๋วอีก 

ในช่วงที่เราไป รถไฟ ในเบลเยียม ออกไม่ค่อยตรงเวลานัก เราต้องคอยดูเวลาจากจอใหญ่ในสถานี เทียบบนจอบนชานชลา ก่อนที่จะขึ้นรถไฟ เพราะบางครั้งรถไฟ ขบวนที่เราจะขึ้นเวลาจะขยับออกไปเรื่อย ๆ และรถไฟขบวนอื่นจะเข้ามาแทนที่ชานชลานั้น

หลังจากห้าคืนที่เบลเยี่ยม เราก็กลับไปที่อัมสเตอร์ดัมกัน

การเดินทางในอัมสเตอร์ดัม, เมืองรอบ ๆ และ ทั้งประเทศเนเธอแลนด์ มีหลายพาสให้เลือก ตามความเหมาะสม เช่นจำนวนวัน พื้นที่ที่ต้องการไปเที่ยว

1. Amsterdam Travel Ticket มีแบบ 1-day (€ 17), 2-day (€ 22,50) และ 3-day (€ 28)
สามารถใช้เดินทางด้วย รถไฟ ชั้น 2 รถราง, รถบัส, เมโทร เน้นสำหรับคนที่เที่ยวแค่ในตัวเมิองอัมสเตอร์ดัม และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในเมือง เมื่อซื้อตั๋วจะมีแผนที่มาให้ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

ใช้เดินทางได้ใน อัมสเตอร์ดัม จากสนามบินและสถานีต่าง ๆ ดังนี้ Amsterdam: Amstel, Bijlmer Arena, Central Station, Holendrecht, Lelylaan, Muiderpoort, RAI, Sciencepark, Sloterdijk, Zuid, Duivendrecht.

2. Amsterdam & Region Travel Ticket 

  • 1 day - €19.50 
  • 2 days - €28.00
  • 3 days - €36.50

สามารถใช้เดินทางด้วย รถไฟ รถราง, รถบัส, เมโทร, ได้ใน อัมสเตอร์ดัมและ รอบ ๆ เช่น : Duivendrecht, Schiphol Amsterdam Airport, Halfweg-Zwanenburg, Haarlem, Haarlem Spaarnwoude, Overveen, Zandvoort aan Zee, Zaandam, Zaandam Kogerveld, Purmerend Weidevenne, Purmerend, Zaandijk Zaanse Schans

3. Holland Travel Ticket: สามารถใช้เดินทางด้วย รถไฟ (ยกเว้น Thalys) รถราง, รถบัส, เมโทร ทั่วประเทศเนเธอแลนด์ 

  1. นอกช่วงเวลาเร่งด่วย หรือ off-peak Holland Travel Ticket ราคา €42  วันจันทร์ถึงศุกร์ ก่อน 06:30 น. หรือหลัง 09:00 น. เป็นต้นไป วันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ เดินทางได้ทั้งวัน
  2. Holland Travel Ticket ราคา €62 ใช้เดินทางได้ทุกวันตลอดทั้งวัน

การโดยสารรถไฟ หรือ รถสาธารณะ ในประเทศ เนเธอแลนด์ จะต้องมีการ check-in และ check-out ทุกครั้ง โดยการสแกนบัตรโดยสาร ก่อนขึ้นรถไฟและลงจากรถไฟทุกครั้ง บัตรโดยสารรายวัน จะใช้ได้ในวันที่เช็คอิน จนถึงเวลาตี 4 ของวันถัดไป เช่นตั๋ว 1 วันก็จะใช้ได้ตั้งแต่เวลาที่เปิดใช้ จนถึง ตี 4 ของวันรุ่งขึ้น

เครื่องสแกน ในสถานีรถไฟในบางสถานี จะไม่มีที่กั้น เปิด/ปิด เราก็แค่สแกนเพื่อตั๋ว

เครื่องสแกน ในสถานีรถไฟในบางสถานี ก็จะมีที่กั้น เปิด/ปิด ก่อนเข้าไปในบริเวณชานชลา

ในอัมสเตอร์ดัมเราใช้พาสแบบที่ สอง คือ Amsterdam & Region Travel Ticket 2 วัน


เราพักที่ใกล้ ๆ กับ สถานี Amsterdam Sloderdijk ซึ่งสะดวกมากในการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เราตั้งใจจะไป 1 สถานี หรือ 5 นาที จากสถานี Amsterdam Centraal และ 10 นาที จาก สนามบิน ซึ่งถือว่าสะดวกมาก ๆ และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับที่พักในเมืองอัมสเตอร์ดัม

เราโชคดีที่ไปในช่วงที่มีงาน National Tulip Day ซึ่งจัดขึ้นทุกปี ในวันเสาร์ ที่ 3 ของเดือนมกราคม ที่ Dam Square เราต้องไปต่อแถวเพื่อเข้าไปในงานรอไม่นานมากนัก ทางเข้าจะมีแจกถุงสำหรับใส่ทิวลิป จะให้เก็บได้คนละ 10 ดอก ไม่จำกัดเวลาว่าจะอยู่ในนั้นนานแค่ไหน แต่ส่วนมากแล้วก็จะเดินเล่นถ่ายรูปก่อน แล้วก็ค่อยเลือกสีที่เราชอบจริง ๆ แล้วค่อยเก็บ พนักงานก็จะนำดอกทิวลิปล็อตใหม่มาเติมอยู่เรื่อย ๆ 



Haarlem เมืองเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที จากสถานี Amsterdam Sloderdijk 

Zaanse Schans มาแต่เช้าจะสวยมากค่ะ มารอพระอาทิตย์ขึ้น ลงที่สถานี Zaandijk Zaanse Schans เราไปที่ Zaanse Schans ในตอนเช้าสองวันเลย เพราะวันแรกที่ไปถึงฟ้าไม่ค่อยสวย

ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาอัมสเตอร์ดัมคือการไปเดินเล่น โดยเฉพาะแถว Red light district แต่ห้ามถ่ายรูปน้อง ที่อยู่ในตู้นะ

มาที่อัมสเตอร์ดัมถ้าไม่ได้ถ่ายรูปจักรยาน กับคลอง ก็ถือว่ายังขาดอะไรไปนะ

Yuva Kanta

 วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 19.23 น.

ความคิดเห็น