สวัสดีทุกท่านครับ กลับมาพบกับการรีวิวอาหารกับผม นาย "ภรรยาหา สามีใช้" อีกแล้วนะครับ สำหรับครั้งนี้ผมจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับห้องอาหาร rooftop ที่มีวิวสวยๆ และบรรยากาศดีมากๆ อย่าง Cielo sky bar and restaurant ครับ ถ้าใครไม่เชื่อลองดูภาพพาโนรามาที่ผมถ่ายมาจากบริเวณห้องอาหารแห่งนี้ดูครับ นอกจากจะเห็นวิวเมืองแล้ว ยังเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยมากเลยใช่มั้ยครับ ^^
ก่อนจะเข้าสู่ของการรีวิวอาหาร ผมขอเล่าก่อนนิดนึงนะครับว่า ถึงรีวิวครั้งนี้จะเป็น SR แต่เนื้อหาและความตรงไปตรงมาในการเขียนของผมก็ยังเหมือนเดิมนะครับ เพราะนี่คือ 1 ในเงื่อนไขที่ผมแจ้งไว้ว่าผมจะขออนุญาตเขียนรีวิวตามจริง ตามที่ผมได้ไปพบมา และจะส่งให้อ่านก่อน หากไม่พอใจทำได้เพียงแค่ห้ามผมเผยแพร่ แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อความในส่วนของรสขาติอาหารและการบริการได้นะครับ ดังนั้นทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านรีวิวนี้น่าจะสบายใจในการอ่านมากขึ้นครับ แล้วก็ในการรีวิวครั้งนี้ผมยังต้องใช้เงินส่วนตัวของตัวเองไปบางส่วนด้วยครับ ดังนั้นรับรองได้เลยว่าผมเขียนอย่างตรงไปตรงมาแน่นอนครับ ^^
Cielo sky bar and restaurant เป็นหนึ่งในร้านอาหารจำนวน 50 ร้านที่เข้าร่วมโครงการ Bangkok restaurant week 2016 กับทาง Wongnai ครับ โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่รวบรวมร้านอาหารที่มีชื่อเสียงใน กทม. จำนวนมาก มาจัดอาหารชุดพิเศษในราคาพิเศษให้กับผู้ที่สนใจ โดยกำหนดราคาให้ทุกคนจำได้ง่ายๆ ก็คือ ราคา 499 บาท/คน สำหรับ Set อาหารมื้อกลางวัน และ ราคา 699 บาท/คน สำหรับ Set อาหารมื้อเย็น
โดยในอาหาร 1 Set นั้น จะประกอบไปด้วย 3 อย่าง คือ Appetizer, Main course และ Dessert ครับ ซึ่งหลังจากที่ผมได้ไปด้อมๆ มองๆ ดูรายชื่อแต่ละร้านแล้วก็พบว่ามีแต่ร้านที่มีชื่อเสียง และหลายๆ ร้านก็เป็นร้านที่ผมแอบอยากลองกินมานานมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปลองซักทีเพราะใจพร้อมแต่กระเป๋าตังค์มันดันไม่พร้อมด้วยครับ T____T
ผมลองเอารายชื่อร้านบางส่วนมาให้ดูกันนะครับ ใครสนใจแบบเต็มๆ ลองไปหาข้อมูลเพิ่มดูนะครับว่ามีร้านที่เราอยากกินหรือเปล่า เท่าที่ผมดูนอกจากจะมีร้านอาหารชื่อดังๆ แล้ว ยังมีความหลากหลายของประเภทอาหารเยอะมากด้วยทั้งอาหารญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, อิตาลี, แฮมเบอร์เกอร์ หรือไม่ก็เป็นพวกห้องอาหารที่มีชื่อในโรงแรม 5 ดาวครับ เรียกได้ว่ามีให้เลือกเยอะพอควรเลยครับ
เมื่อเราดูข้อมูลคร่าวๆ แล้ว หากเราสนใจรายละเอียดว่าในราคาที่เราจ่ายไปนั้นจะได้ทานอะไรบ้างเราก็กดไปที่ชื่อร้านนั้นเลยครับ อย่างเช่น ในภาพนี้ผมกดไปที่ Set อาหารกลางวันของ ห้องอาหาร Man Ho โรงแรม JW Marriot ก็จะมีรายละเอียดขึ้นมาตามนี้ครับว่า Appetizer ของเค้ามีอะไรบ้าง, Main Course มีอะไรบ้าง และ Dessert มีอะไรบ้าง โดยเราจะสามารถเลือกได้ประเภทละ 1 เมนูนะครับ (การเลือกเมนูอาหารนั้น เราไปเลือกวันที่เราไปกินเลยนะครับ ยังไม่ต้องเลือกตอนนี้)
สำหรับคนที่มี code ราคาพิเศษ หรือจะใช้สิทธิ์ส่วนลดอะไรก็ดูที่ด้านล่างขวาได้เลยครับ อ้อ….มีเรื่องนึงที่สำคัญมากก็คือ ราคาที่บอกไว้ว่า 499 บาทสำหรับมื้อกลางวัน และ 699 บาทสำหรับมื้อเย็นนั้น เป็นราคาที่ยังไม่ net นะครับ มันจะมี Vat และ Service Charge อีก ดังนั้นราคาจริงๆ ที่เราจะต้องจ่ายก็คือ 587.32 บาท/คน สำหรับมื้อกลางวัน และ 822.72 บาท/คน สำหรับมื้อเย็นครับ
ตัวผมเองหลังจากใช้เวลาคิดหนักอยู่ราวๆ 2-3 ชั่วโมงว่าจะไปทานร้านไหนดี เพราะหลายๆ ร้านมันน่าสนใจมาก จากเดิมที่ไม่ไปกินซักทีเพราะติดเรื่องราคา แต่พอลดราคาลงมาในระดับนี้มันก็อยากจะไปลองซะทุกร้านเลย และในที่สุดหลังจากที่ผมได้ผ่านการคิดหนักมาอย่างยาวนาน ผมก็เลยตัดสินใจเลือกร้าน Cielo sky bar and restaurant และทั้งหมดนั้นก็เป็นที่มาของกระทู้นี้นี่เองครับ…….ฮา ที่มาจะยาวไปไหน
เมื่อผมเลือกร้าน ซื้อคูปอง จัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมาผมก็โทรไปจองที่นั่งล่วงหน้าครับ เพราะวันที่ผมจะไปนั้นเป็นวันอาทิตย์ เลยแอบกลัวว่ามันจะเต็มมากๆ - -“
วันที่รับประทาน : อาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2559
เวลา : 17.00 น. – 20.15 น.
จำนวน : 2 คน
เมื่อถึงวัน ผมก็ออกเดินทางไปยัง W District พระโขนง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Cielo ครับ โดยร้าน Cielo นั้นจะอยู่บนชั้น 46 ของ Sky walk condominium ใน W District โดยมีเวลาเปิดทำการคือ 17.00-24.00 น. ครับ
สำหรับคนที่ไม่เคยไป W District มาก่อน ผมแนะนำให้สังเกตรูปปั้น 2 ตัวในภาพนี้ครับ จะอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนงเลยครับ น่าจะหาไม่ยากครับ
และเนื่องจากผมไปถึงเร็วมาก คือไปถึงราวๆ 17.10 น. เท่านั้น แดดจึงยังค่อนข้างแรงอยู่ ทางพนักงานจึงแนะนำให้ผมนั่งเล่นในบริเวณร่มๆ ก่อนครับ ผมก็เลยใช้โอกาสนี้ในการเดินสำรวจและถ่ายรูปเล่นซะเลย
ห้องอาหาร Cielo นี้ จะมีแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วน Indoor และ Outdoor โดยแขกส่วนมากที่มาใช้บริการนั้นมักเลือกนั่งบริเวณ Outdoor เป็นหลัก และในหลายๆ วันก็มีคนมาใช้บริการค่อนข้างเยอะจนอาจจะถึงขั้นเต็มได้ อย่างวันที่ผมไปนั้นก็มีโต๊ะ outdoor เหลือเพียงแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น เมื่อมีชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ราวๆ 20 คน กลุ่มนึงมาใช้บริการ ก็ไม่สามารถนั่งได้หมด สุดท้ายกลุ้มนั้นจึงต้องยืนรอโต๊ะว่างซะนานเลยครับ
ผมให้ดูภาพในโซน indoor ก่อนแล้วกันนะครับ หน้าตาจะประมาณนี้ครับ จะมีทั้งแบบเป็นโซฟา แล้วก็เป็นเก้าอี้นั่งครับ ในโซน indoor นี้ แทบทุกโต๊ะจะมองไม่เห็นวิวสวยๆ เลยนะครับ นี่ก็เลยเป็นสาเหตุว่าทำไมไม่ค่อยมีคนนั่งข้างในครับ ^^
สำหรับโต๊ะที่ติดกับรั้วกระจกนั้น ถือว่ามีความปลอดภัยและแข็งแรงดีครับ ความสูงของแนวรั้วถือว่าสูงมากทีเดียว สูงจนทำให้คนเตี้ยๆ อย่างผมเวลาอยากจะถ่ายรูปต้องเขย่งนิดๆ ถึงจะสามารถเอากล้องวางไว้บนแนวรั้วได้ครับ
อ้อ…….สำหรับทุกที่นั่งในโซน outdoor นั้น หากเป็นวันที่ฝนตก จะไม่สามารถนั่งได้เลยนะครับ ทุกคน ทุกโต๊ะจะต้องย้ายไปนั่งในโซน indoor ทั้งหมดครับ เพราะทางห้องอาหารไม่มีหลังคาสำหรับโซน outdoor เลยครับ
หลังจากที่ผมนั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็แจ้งพนักงานไปว่าจะใช้คูปองของ wongnai ทางพนักงานจึงได้ขอดูคูปองใน application และทำการ Stamp void การใช้สิทธิ์ครับ โดยหลังจากที่พนักงานประทับตรา Stamp ลงไปซักพัก จะมี code ขึ้นมา เราอย่ารีบปิดนะครับ เพราะทางร้านต้องจด code นี้ไว้ด้วยครับ
เมื่อพนักงานจด code นี้เสร็จแล้วก็นำเมนูอาหารที่เข้าร่วมโครงการนี้มาให้เราเลือกครับ โดยแต่ะคนสามารถเลือกได้ประเภทละ 1 รายการครับ
Set ของ ผม
Appetizer : Beet salmon carpaccio, Roasted beet root, Honey mustard
Main course : Grilled Kurobuta Pork Chop (พอร์คชอปหมูคุโรบูตะย่าง)
Dessert : Ricotta cheese
Set ของ ภรรยา
Appetizer : Duo Tiger prawn, Tiger prawn, Bacon bits, Melon Caviar, Orange
Main course : Pan-Seared Norwegian Salmon (แซลมอนสเต๊กกับมันฝรั่งบด)
Dessert : Frozen Chocolate mousse
ในเมนูที่ทางร้านเอามาให้เราเลือก จะมีราคาเต็มๆ กำกับไว้ด้วยครับ ซึ่งราคาเต็มๆ แต่ละจานก็แอบสูงอยู่พอควรครับ อ้อ…..สำหรับการใช้คูปองของ wongani นี้ 1 คูปองจะสามารถใช้ได้สำหรับการสั่งเพียง 1 ที่เท่านั้นนะครับ เช่น ถ้าคุณมา 2 คน ก็ต้องซื้อคูปองมา 2 ใบนะครับ และเมื่อพนักงาน Stamp การใช้สิทธิ์ใน application ของเราแล้ว จะมีการแจ้งเตือนผ่าน e-mail และ sms ของเบอร์มือถือที่เราลงทะเบียนไว้ด้วยนะครับ ตรงนี้ถือว่าดีและเป็น security ที่ดีอย่างนึงเลยครับ
อีกเรื่องก็คือ ใน Set นี้จะไม่มีเครื่องดื่มให้นะครับ เราต้องสั่งเพิ่มต่างหาก ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าห้องอาหารอื่นจะมีน้ำบริการฟรีหรือเปล่า แต่สำหรับที่ Ceilo นั้นเราต้องสั่งเพิ่มเอง โดยประเภทของน้ำก็มีให้เลือกตามตรฐานbar ทั่วไป ราคาของน้ำปั่น, cocktail , mocktail ก็ตามมาตรฐาน rooftop bar แบบนี้ครับ แก้วละ 200-300 บาท ผมสั่ง “ลิ้นจี่สมูตตี้" มา ส่วนภรรยาผมเธอสั่ง cocktail “ไหมไทย" ครับ รอไม่ถึง 5 นาทีพนักงานก็นำมาเสิร์ฟครับ รสชาติทั้ง 2 แก้วตามก็ปกติครับ ไม่รู้จะเขียนยังไงดี @_@
จานแรกก็คือ Beet salmon carpaccio, Roasted beet root, Honey mustard หรือแซลมอนดิบหมักด้วยเครื่องปรุงนั่นเองครับ จานนี้เสิร์ฟพร้อมกับบีทรูท และฮันนี่ มัสตาร์ด การจัดจานจัดมาได้สวยงาม และรสชาติปรุงออกมาได้ดีเลยครับ ตัวแซลมอนดิบอร่อยมากครับ กินแป๊บๆ หมดจานแล้วครับ
กุ้งตัวแรกมี Bacon bits ทอดกรอบโรยมา ส่วนกุ้งอีกตัวคลุกข้าวพองทอด เรียกได้ว่าหน้าตาแปลกประหลาดทั้ง 2 คู่เลยครับ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และในจานยังมีสาคูเมล่อน, ขนมปัง และสมเช้งมาด้วยครับ และเนื่องจากจานนี้ผมเห็นว่ามันสวยมากกกกกก ก็เลยขอโพสต์หลายรูปหน่อยนะครับ
พูดก็พูดเถอะผมว่าบรรยากาศแบบนี้ ใครที่พาสาวมาขอเป็นแฟน หรือพาแฟนมาแล้วขอแต่งงาน มันต้อง Say yes อย่างแน่นอนครับ
รสชาติจานนี้ถือว่าดี แต่ไม่ได้ดีมากมายอะไรนะครับ ถือว่าตามมาตรฐานราคาและร้านเสต๊กเกรดพรีเมี่ยมครับ แต่มันฝรั่งบดนี่แปลกมากเคลือบอะไรมาไม่รู้ครับสีเขียวๆ กรอบๆ แปลกลิ้นดีครับ
สำหรับวิวรอบๆ ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว ไฟในเมืองตามตึกต่างๆ ก็เริ่มเปิดขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเป็นวันธรรมดาไฟตามตึกและถนนหนทางน่าจะสว่างไสวและสวยงามกว่านี้ครับ
จานแรกของของหวานคือ “ริคอตต้า ชีส" นะครับ ในจานจะมีไอครีมราสเบอรี่ด้วย รสชาติอร่อย ถูกปากดีครับ
สำหรับจานนี้ภรรยาผมเธอบอกรสชาติโอเคครับ สอบผ่านครับ
เรื่องที่ 1 : Bangkok restaurant week 2016
โดยคร่าวๆ ผมมองว่านี่เป็นหนึ่งในแคมเปญที่ดีของเหล่านักชิมนะครับ เพราะร้านแต่ร้าน หรือห้องอาหารแต่ละที่ที่มาเข้าร่วมโครงการนั้นถือว่ามีชื่อเสียง ชื่อชั้นกันพอควรเลยครับ โดยเฉพาะคนอย่างผมที่มีร้านหมายอยู่ในใจแล้วว่าอยากจะทานอะไร แต่ที่ผ่านมาไม่ยอมไปกินเพราะแพง แคมเปญนี้ทำให้ผมสามารถไปกินได้ง่ายขึ้นครับ แต่ในเรื่องของการใช้งานผมว่ามันยังมีความยุ่งยากอยู่บ้างที่ต้อง Show application, Stamp การใช้ รวมทั้งยังต้องกรอกเอกสารที่ห้องอาหารอีก หากสามารถทำให้การใช้งานง่ายขึ้น เช่น ใช้แค่มือถือแจ้ง code อย่างเดียวโดยไม่ต้องผ่าน application อาจจะดีกว่านี้ครับ ส่วนอีกเรื่องก็คืออยากให้ราคาที่ประชาสัมพันธ์ในปีหน้าเป็นราคาที่ net แล้วเลยครับ เช่น 555 บาท/คน สำหรับมื้อกลางวัน 799 บาท/คน สำหรับมื้อเย็น อะไรแบบนี้ครับ คนซื้อจะได้เข้าใจง่ายๆ ทราบราคาชัดๆ ไม่ต้องไปเจอเรื่องบวก Vat บวก Service charge อีก แล้วก็จะทำให้งงๆ แล้วรู้สึกไม่ดีครับ
เรื่องที่ 2 : Cielo sky bar and restaurant สำหรับเรื่องนี้ผมขอแยกเป็นหัวข้อย่อยๆ ตามนี้นะครับ
รสชาติอาหาร : โดยรวมๆ รสชาติอาหารทั้ง 6 จาน ถือว่าดี สอบผ่านครับ มีบางจานที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ บางจานที่เหนือกว่าเกณฑ์ เหนือความคาดหมาย การจัดจานมาสวยงามทุกจาน ทำให้เมื่อเห็นแล้วอยากถ่ายรูป อยากกินขึ้นมาเลยครับ ส่วนเครื่องดื่มทั้ง 2 แก้ว จัดว่าปกติตามมาตรฐานบาร์ทั่วไป คงเพราะผมสั่งเมนูที่เป็นพื้นฐานด้วยครับก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าว้าวอะไรครับ
ความหลากหลายของอาหาร : เนื่องจากครั้งนี้ผมทานตาม Set ที่ทางร้านมีให้เลือก ก็เลยให้ความเห็นมากไม่ได้ว่ามีความหลากหลายของเมนูอาหารแค่ไหน แต่สำหรับเมนูเครื่องดื่มถือว่ามีความหลากหลายพอควรครับ ด้วยความที่แต่เดิมทางร้านเน้นการทำเป็น bar มากกว่า Restaurant ด้วยครับ เท่าที่ผมได้ยินพนักงานของร้านคุยกับโต๊ะข้างๆ ผม ก็ได้ใจความประมาณนี้แหละครับ ว่าทาง Cielo พึ่งจะเริ่มทำในส่วนของ Restaurant ยังไม่ได้มีการโปรโมตหรือ Grand opening จริงจังเลย
ความสะอาดของร้าน : สะอาด ดูดี ไม่มีอะไรติดขัดในหัวข้อนี้ครับ
การบริการของพนักงาน : เรื่องนี้ผมเจอทั้งที่ประทับใจและไม่ประทับใจครับ โดยในภาพรวมการบริการนั้นถือว่าพนักงานดูแลดี เทคแคร์ดีมาก ตั้งแต่การเลื่อนเก้าอี้, ปูผ้ากันเปื้อนให้ รวมทั้งการใช้ภาษาและคำพูดต่างๆ แต่ส่วนที่ไม่ประทับใจก็มีอยู่ 2-3 เรื่อง ทั้งเรื่องที่ไม่แม่นในโปรโมชั่นของร้าน, การเสิร์ฟของหวานโดยที่ยังไม่ได้แจ้ง และเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องการบริการจัดการกับกรุ๊ปชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่ไม่ได้จองไว้ และมีโต๊ะไม่เพียงพอ ทำให้คนกลุ่มดังกล่าวมาจับกลุ่มคุยกันวุ่นวายแถวโต๊ะที่ผมนั่งเป็นเวลานานมาก จริงๆ แล้วทางร้านควรจะมีการแยกหรือแบ่งเขตให้ชัดเจนกว่านี้ครับ นอกจากนี้เรื่องของระเบียบการแต่งกายที่มีป้ายกำกับไว้ก็ไม่ได้มีการเข้มงวดอะไรด้วย มีหลายคนมากที่ใส่กางเกงขาสั้นมา ซึ่งถ้าทาง Cielo จะอนุโลมแบบนี้ก็ไม่ควรจะมีป้ายกำกับไว้นะครับ มันทำให้ร้านขาดความน่าเชื่อถือครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : W district นั้น เป็นสถานที่ที่เดินทางสะดวกพอควร เพราะอยู่ใกล้กับ BTS พระโขนงมาก เรียกได้ว่าเดินยังไม่ทันเหงื่อออกก็ถึงแล้วครับ ส่วนคนที่ขับรถมาก็หาได้ง่ายเนื่องจากทางเข้าติดอยู่กับถนนสุขุมวิท ไม่ต้องเข้าซอยอะไรเลยครับ ส่วนเรื่องที่จอดรถถึงแม้ช่องทางการจราจรในตึกจอดรถจะแคบไปหน่อยแต่มีพื้นที่จอดเหลือเฟือครับ
ความคุ้มค่า : ถ้าดูราคาอาหารตามเมนู ต้องบอกว่าราคาแต่ละเมนูถือว่าแอบสูงไปหน่อยครับ แต่ส่วนหนึ่งคงเพราะราคาดังกล่าวมีการรวมค่าวิว ค่าสถานที่เข้าไปแล้วด้วยครับ เพราะต้องยอมรับว่าในเขตบริเวณใกล้ๆ กันนี้ ห้องอาหาร Cielo sky bar and restaurant น่าจะเป็นห้องอาหารที่มีวิวสวยงามติดอันดับต้นๆ ได้เลยครับ หลายคนอาจจะคิดว่าแค่วิวชั้น 46 เองจะสวยอะไร แต่ด้วยความสูงขนาดนี้แหละครับที่กำลังพอดี ไม่เห็นตึกอื่นๆ เตี้ยไป หรือเล็กไปจนดูไม่ออกว่ามันคืออะไร และการที่ตอนนี้ไม่มีตึกสูงอื่นๆ บังวิวทิวทัศน์ของ Cielo เลย ทำให้เราสามารถเห็นภาพพาโนรามาของเมือง แม่น้ำเจ้าพระยา และพระอาทิตย์ที่กำลังตกได้อย่างสวยงาม แบบชนิดที่เรียกว่าโรแมนติคมากครับ ส่วนคนที่ซื้อคูปองของ Bangkok restaurant week มาในราคา 822.72 บาท/คน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ก็น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้ความคุ้มค่าในมือนั้นเพิ่มมากขึ้นครับ
สรุป : Cielo sky bar and restaurant เป็นร้าน rooftop ใจกลางเมืองอีกร้านนึงที่มีบรรยากาศดีมาก เปิดเพลงเพราะ วิวสวย พนักงานมารยาทดี และมีคุณภาพของอาหารในเกณฑ์ที่ดี อาจจะมีข้อติเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับพนักงานบ้าง, ราคาอาหารสูงไปนิดบ้างเมื่อมองแค่ค่าอาหารอย่างเดียวไม่คิดค่าวิว แต่ถ้าเกิดคุณมีแฟนซักคน หรือกำลังจีบใครอยู่ และคุณรู้สึกเบื่อๆ ตึกใบหยก อยากจะโรแมนติคแต่ไม่อยากจะเหมือนใคร แนะนำเลยครับว่าที่นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีครับ ส่วนคูปองของ Bangkok restaurant week นั้น ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการประหยัดเงิน ทั้งคนที่จะพาแฟนไปกินข้าว ทั้งขาชิมที่งบประมาณจำกัด หรือครอบครับใหญ่ๆ ที่มีสมาชิกหลายคนครับ ใครที่สนใจก็ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับ รู้สึกว่าเค้าจะขายคูปองถึงแค่ 15 พ.ค. นี้เท่านั้นนะครับ ส่วนคนที่ซื้อคูปองแล้วสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พ.ค. ครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ครับ หากขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ และการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ และหากใครชอบการรีวิวของผม สามารถไปติดตามหรือแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการกิน ไม่ตก ไม่หล่นเวลาเข้าร้านอาหารนะครับ
ภรรยาหา สามีใช้
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.59 น.